“บังเอิญจริงๆ!” หยางกวนเฟิงพูด
ฆาตกรจากคดีในเขตเหอกับในหมู่บ้านกลับเป็นคนคนเดียวกัน แถมยังเปิดเผยแสดงตัวให้พวกเขาได้รับรู้ในลักษณะนี้เสียด้วย
“ทั้งสองคนพักผ่อนให้มากผมยังมีเรื่องต้องกลับไปจัดการต่อ” เหล่าหลิวพูด
“ครับ ผมคงต้องรบกวนทางคุณแล้ว”
“เราเป็นเพื่อนกันมันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก”
เหล่าหลิวออกไปจากห้อง
ทันทีที่เขาออกไป ชายหนุ่มก็ถามขึ้นมาว่า “หัวหน้า เรื่องนี้มันจะไม่บังเอิญเกินไปหน่อยเหรอครับ?”
ใช่ บังเอิญมากเลยล่ะ!” หยางกวนเฟิงจุดบุหรี่สูบ
“แต่เราก็ตรวจสอบเรื่องนี้ไม่ได้!” เขามองออกไปด้านนอก แววตาหลังควันบุหรี่ดูลึกล่า
สถานการณ์ได้คลี่คลายหมดแล้ว หลักฐานทุกอย่างชี้ไปที่เมี่ยวชิงชานเขาคือผู้ต้องสงสัยคนสําคัญที่ก่อเหตุฆาตกรรมทั้งในหมู่บ้านและเขตเหอหลักฐานทั้งฐานทั้งหมดชี้ไปที่เขาแต่เจ้าตัวกลับหลบหนีไปกลัวว่าจะได้รับโทษเขาจึงยังไม่ถูกสอบปากคําจากเจ้าหน้าที่ตํารวจ
“หัวหน้า แล้วพวกเราจะทํายังไงกันต่อดีครับ?”
“พวกเรายังจะทําอะไรได้อีกล่ะ?รักษาตัวให้หายแล้วก็ออกไปจากที่นี่!”หยางกวนเฟิงตอบ
ถึงพวกเขาจะอยู่ต่อ เขาก็คิดว่าคงไม่ได้อะไรขึ้นมา
ห่างออกไปหลายร้อยไมล์ ภายในร้านน้ำชาที่เขตเหอ
“ลงเสวี่ย ดูเหมือนหลายวันมานี้น้ำหนักของลุงจะลดลงไปเยอะเลยนะครับ”กั่วเจิ้งเหอในชาให้เสวี่ยซินหยวนที่นั่งตรงข้ามเขา
“ขอบคุณครับ คุณชาย”
“ผมบอกลุงไปตั้งกี่ครั้งแล้วครับ ว่าอย่าเรียกผมแบบนั้น เรียกแบบนั้นแล้วผมรู้สึกแปลกและอึดอัดนะครับ!”
“ตอนนี้ก็มีแค่เราอยู่กันสองคนนี่ครับ” เสวี่ยซินหยวนพูดด้วยรอยยิ้มเมื่อจิบชาเข้าไปอีกหนึ่ง
“ผมไปที่หมู่บ้านนั้นมาแล้วนะครับ!”
“อะไรนะครับ?” กั่วเจิ้งเหอตกใจ
“หมู่บ้านนั้นลึกลับกว่าที่ผมคิดไว้มาก พอเข้าไปแล้วผมก็เกือบจะออกมาจากที่นั่นไม่ได้”เสวี่ยซินหยวนพูด
“แล้วลุงได้รับบาดเจ็บรึเปล่าครับ?”
“บาดเจ็บเล็กๆน้อยๆเท่านั้นครับ ไม่ได้เป็นอะไรมาก”
“อย่าเพิ่งวางใจอะไรง่ายๆนะครับ” กั่วเจิ้งเหอพูด “หมู่บ้านนั้นเชี่ยวชาญทั้งเรื่องพิษและแมลงถึงผมจะไม่เคยเห็นมาก่อนแต่ผมคิดว่ามันต้องร้ายกาจมากแน่ๆ”
“ไม่เป็นไรครับ แล้วผมก็มีวิธีการของผมอยู่” เสวียซินหยวนพูด “ผมได้ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมาแล้วทุกอย่างปกติดีไม่มีปัญหาอะไรในร่างกายของผมเลยครับ”
เขาได้เข้าไปในหุบเขาพันโอสถและพบเจอกับอันตราย การเดินทางไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เขาพูดออกไปเมื่อเข้าไปแล้วเขาก็เกือบจะออกมาไม่ได้หุบเขาพันโอสถลึกลับเกินกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มากที่ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้พิษและอาวุธเย็นมากกว่าหนึ่งคนถ้าเขาไม่พกอาวุธติดตัวตลอดเวลาเขาคงยังติดอยู่ในนั้นไม่ไปไหนเมื่อคิดย้อนกลับไปในตอนนั้นเขาก็ยังรู้สึกกลัวอยู่เล็กน้อย
“ต่อไปอย่าทําอะไรแบบนี้อีกนะครับ” กั่วเจิ้งเหอพูด เขากังวลเรื่องของเสวี่ยซินหยวนเพราะเขามีคนให้ใช้งานอยู่ไม่มากมีแค่เสวี่ยซินหยวนเท่านั้นที่สามารถช่วยเรื่องพวกนี้ได้
“ผมเพิ่งได้ข่าวมาว่า ฆาตกรของคดีนี้ถูกพบแล้วนะครับ เป็นคนในหุบเขาพันโอสถจริงๆ”
“แล้วจับเขาได้ไหมครับ?” เสวี่ยซินหยวนรีบถาม
กั่วเจิ้งเหอเอนหลังพิงพนักเก้าอี้และพูดว่า “จับเขาไม่ได้ครับ เขาหนีเข้าไปในภูเขาผู้กองหยางกับลูกน้องของเขาก็ถูกพิษด้วย พวกเขายังต้องรักษาตัวอยู่ที่นั่นไปก่อน
ความจริงเขาไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะถูกจับได้หรือไม่ สิ่งที่เขาต้องการก็คือผลลัพธ์ที่ทําให้ทุกคนพึงพอใจได้เท่านั้น คนตายก็ตายไปแล้ว ฆาตกรก็คือชายที่ชื่อว่าเดี๋ยวชิงชานเขาคือคนจากหุบเขาพันโอสถที่เต็มไปด้วยความลี้ลับเท่านั้นก็พอแล้ว
เขาต้องอธิบายเรื่องนี้กับเบื้องบนและชาวบ้าน ส่วนเรื่องที่จะสามารถจับตัวฆาตกรได้หรือไม่นั่นไม่ใช่เรื่องที่เขาใส่ใจหรือต้องรับผิดชอบเพราะมันเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตํารวจ
“บังเอิญจริงๆ” เสวี่ยซินหยวนพูด
“บังเอิญ?”
“ใช่ครับ หยางกวนเฟิงกับคนอื่นไขคดีได้ หลังจากที่พวกเขาไปที่นั่นได้แค่สองวัน”เสวี่ยซินหยวนพูด“มันเป็นเพราะเขามีฝีมือ หรือเป็นเพราะหุบเขาพันโอสถแค่หาแพะรับบาปที่สามารถพาตัวกลับมาหลังจากที่พายุพัดผ่านไปแล้วกันแน่?เขาจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมได้อีกครั้งเพราะถึงยังไงที่นั่นก็แทบไม่มีคนนอกเข้าไปอยู่แล้ว”
“ลุงหมายความว่า เป็นไปได้มากว่าจะเป็นเพียงฉากหนึ่งที่พวกเขาสร้างขึ้นมารวมทั้งเรื่องการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นที่นั่นด้วยใช่ไหมครับ?”
“การฆาตกรรม?” เสวี่ยซินหยวนตกตะลึงอีกครั้ง
กั่วเจิ้งเหอบอกเล่าข้อมูลที่เขาได้รู้มา
“ยิ่งผมฟัง ก็ยิ่งเหมือนว่ามันเป็นการเตรียมการล่วงหน้าของพวกเขายังไงยังงั้น”เสวี่ยซินหยวนพูดขึ้นมาหลังจากที่เขาวิเคราะห์แล้ว“หาแพะมาคนหนึ่งจัดการหยางกวนเฟิงให้พ้นทางเขายังถูกพิษที่อาจทิ้งผลข้างเคียงไว้นับได้ว่าเป็นการเตือนคนนอกไปในตัว”
“พอลุงพูดขึ้นมาแบบนี้แล้ว คนในหุบเขาถือว่ากล้ามากเลยนะครับ” กั่วเจิ้งเหอพูด
“พวกเป็นแบบนั้นจริงๆครับ แล้วพวกเขาก็ไม่ได้ปลีกตัวจากโลกภายนอกอย่างที่ลือกันบางคนที่อยู่ในตัวจังหวัดมีการติดต่อกับพวกเขาอย่างสม่ำเสมอแล้วแต่ละคนก็ยังมีตําแหน่งสูงๆกันทั้งนั้น ครั้งนี้ถือได้ว่าหยางกวนเฟิงต้องเจอกับอุปสรรคในการสืบสวนหลายอย่างเลยล่ะครับ”
เฮ้อ!
กั่วเจิ้งเหอลูบถ้วยชาที่ทําออกมาอย่างประณีตเบาๆ
“ผมไม่คิดเลยว่า จะมีสถานที่ที่พิเศษและมีอิทธิพลอยู่ในยูนนานใต้แห่งนี้ด้วยลงเสวี่ยคิดว่าพวกเขาจะออกมาอีกไหมครับ?”
“เรื่องนี้มันพูดยากครับแต่ผมคิดว่าคงยังไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นในเร็วๆนี้มันอันตรายสําหรับพวกเขามากเกินไปพวกเขาคงจะระวังตัวมากขึ้น”
“แล้วทําไมพวกเขาถึงต้องฆ่า 16 คนนั้นด้วยล่ะครับ?”กั่วเจิ้งเหอถาม“มันเป็นแค่การทดลองจริงๆเหรอ?มันดูบ้าคลั่งและไร้หัวใจเกินไปหน่อยรึเปล่าครับ?”
“เรื่องนั้นผมไม่มั่นใจนักแต่ผมจะลองสืบดูต่อครับ”
“ดี เราคงต้องสืบต่อ ภายใต้กฎหมาย ในยูนนานใต้ไม่ควรปล่อยให้มีสถานที่ที่มีอิทธิพลแบบนอนอยู่”กั่วเจิ้งเหอพูด“สืบหาทุกเรื่องเกี่ยวกับคนมีตําแหน่งที่มีการติดต่อกับพวกเขาและพวกเขาต้องการจะทําอะไร”
“ครับ คุณชาย”
“ระวังตัวด้วยนะครับ”
“ครับ”
ภายในหุบเขาพันโอสถ
“อาจารย์”
“พวกเขาฟื้นแล้วเหรอ?”
“ครับ พวกเขาฟื้นแล้ว และไม่เป็นอะไรมาก”
“แล้วเรื่องของชิงชานล่ะ?”
“เรายังไม่พบตัวเขาครับ”
“เขาทําเรื่องพวกนั้นจริงเหรอ?”
“จริงครับ”
“ปัญหาคงอยู่ที่จิตใจของเด็กคนนั้นที่ยังสงบลงไม่ได้ใ” บนใบหน้าของเมี่ยวซีเหอไร้ความรู้สึก
“เข้าไปบอกกับคนในหุบเขา บอกพวกเขาว่าพยายามเลี่ยงการทําร้ายเขายังไงเขาก็เป็นสายเลือดเดียวที่ยังเหลืออยู่ของอดีตผู้นํา”
“ครับ อาจารย์”
ภายในบ้านไม้หลังหนึ่ง หยางกวนเฟังและลูกน้องของเขาได้พักรักษาตัวหนึ่งวันเต็มและรู้สึกว่าพวกเขาเกือบหายดีแล้ว
วันต่อมา พวกเขาไปหาเมี่ยวซีเหอเพื่อบอกลาแล้วจึงจากไป
“ผมแนะนําให้พวกคุณพักผ่อนต่ออีกสักหน่อยนะครับ” เมียวชิงเฟิงพูด “พิษในร่างกายของพวกคุณยังไม่หมด และยังเหลือส่วนหนึ่งอยู่ในร่างกายถึงมันจะไม่ส่งผลเสียร้ายแรงแต่จะเป็นการดีกว่าถ้าสามารถขับพิษออกไปได้จนหมด”
“มันต้องใช้เวลานานแค่ไหนครับ?”
“ประมาณหนึ่งอาทิตย์ครับ”
“ผมคงทําไม่ได้ เรายังมีงานต้องทําอยู่ เราไม่สามารถรอได้นานขนาดนั้น”
“เอาแบบนี้ดีไหมครับ รอสักเดี่ยว ผมจะไปบอกผู้นําให้แล้วดูว่าเขาพอจะหาวิธีที่ดีกว่านี้ได้ไหม
“ขอบคุณครับ”
“ยินดีครับ” หลังจากที่เชี่ยวชิงเฟิงไปได้ไม่นาน เมี่ยวซีเหอก็มาหาพวกเขาพร้อมกับหม้อดินเผา
“นี่เป็นยาแก้พิษครับ” เมี่ยวซีเหอพูด “พวกคุณดื่มมันตอนนี้และเอาที่เหลือกลับไปด้วยดื่มให้หมดภายในสองวันหลังจากนั้นพิษในร่างกายของพวกคุณก็จะหมดไป”
ตัวยามีรสขมและกลืนยาก ทั้งสองต่างขมวดคิ้วมั่นในตอนที่ดื่มเข้าไป
“ขอบคุณครับ
“พวกคุณได้รับบาดเจ็บในหมู่บ้านของเรา แล้วยังเป็นคนของเราเองที่ทําร้ายพวกคุณในฐานะผู้นําของหมู่บ้านผมต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่อยู่แล้วครับ”เมี่ยวซีเหอพูด
“ถ้ามีเรื่องอะไรที่เราสามารถช่วยได้ในอนาคต เชิญมาหาเราได้เลยนะครับเรายินดีต้อนรับเสมอ”
“ขอบคุณครับ” หยางกวนเพิ่งพูด
พวกเขาปฏิเสธการจัดงานเลี้ยงส่งของเมี่ยวซีเหอ พวกเขาเดินทางออกจากหมู่บ้านโดยมีเมี่ยวซึ่งเพิ่งติดตามมาด้วย
“ส่งพวกเราเท่านี้ก็พอครับ” หยางกวนเฟิงพูด
“ไม่ได้หรอกครับ ผมต้องไปส่งพวกคุณให้ถึงเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุด ผมกลัวว่าชิงชานอาจจะอยู่แถวนี้ก็ได้”เมี่ยวชิงเฟิงพูด
“ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องรบกวนคุณแล้ว” หยางกวนเพิ่งคิดตามและรู้สึกว่าที่เขาพูดมาก็ถูกเพราะชายคนนั้นเชี่ยวชาญเรื่องการใช้พิษทั้งสองไม่กลัวอาชญากรทั่วไปแต่อาชญากรที่มีทักษะพิเศษทั้งยังจัดการได้ยากแบบนี้ถ้าหากไม่เจอตัวและจัดการด้วยไรเฟิลหรือธนูให้ได้ในทันทีก็เป็นเรื่องยากมากที่จะจัดการกับพวกเขา
เมี่ยวชิงเฟิงเดินทางไปกับพวกเขาจนถึงหมู่บ้านที่ใกล้ที่สุด ก่อนจะขอตัวกลับ
“ขอบคุณนะครับขากลับก็ระวังตัวด้วย”
“ไม่มีปัญหาครับ ผมพอจะรู้ความสามารถและวิธีการของเขาอยู่บ้างแล้วผมยังพกยาของผู้นําติดตัวมาด้วยพวกคุณดูแลตัวเองด้วยนะครับ”
“ลาก่อนครับ”
เมี่ยวชิงเฟิงบอกลาคนทั้งสองและหายกลับเข้าไปในป่า
“พวกเราไปกันเลยไหม?”
“เฮ้อ พอคิดดูแล้ว หลายวันในหุบเขาพันโอสถมีแต่เรื่องน่าตื่นเต้น ทั้งยังมีสีสันมากเลยนะครับ” ชายหนุ่มพูด “มันให้ความรู้สึกเหมือนว่าพวกเรากําลังทําหนังกันอยู่ยังไงยังงั้นผมว่าถ้ากลับไปแล้วเอาเรื่องนี้ไปเขียนเป็นนิยายดูก็น่าจะมีคนอ่านอยู่ใช่ไหมครับ?”
หยางกวนเฟิงไม่พูดตอบ เขาทําเพียงสูบบุหรี่เงียบๆ
“หัวหน้ากาลังคิดอะไรอยู่เหรอครับ?”
“ผมก่าลังคิดเรื่องเยี่ยวชิงเฟิง, เมี่ยวชิงชาน, เมี่ยวซีเหอ, แล้วก็หุบเขาพันโอสถ”
“เลิกคิดได้แล้วครับ ไม่ใช่ว่าคดีจบไปแล้วเหรอ?”
“จบเหรอ?” หยางกวนเพิ่งถาม
“ตราบใดที่ยังจับคนไม่ได้ มันก็ยังไม่ถือว่าจบหรอกนะ เป็นได้แค่คดีที่ยังไม่คลี่คลายเท่านั้น”
เขายังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”