นิยาย Elixir Supplier 882 พลังฉีมีประโยชน์อะไร?
มันเป็นป้ายไม้ขนาดเล็กแต่ดูงดงาม
ด้านหนึ่งเป็นรูปภูเขา ส่วนอีกด้านสลักคําว่า “ยา” ลงไป
“มันมีไว้เพื่ออะไรเหรอ?” เจี่ยจื้อจายถามด้วยความสงสัย
“เมื่อมีป้ายไม้ชิ้นนี้เชียนเชิงจะทําการรักษาคนคนหนึ่งให้นายอย่างสุดความสามารถ”จงหลิวชวนพูด
“ว้าว วิเศษไปเลย!”เจียจื้อจายถอนหายใจ
“ถ้าดูจากความสามารถของเชียนเชิงแล้ว เขาต้องสามารถรักษาได้ทุกโรคอยู่แล้วใช่ไหม?”
“ฉันไม่รู้ว่าความสามารถในการรักษาของเชียนเชิงเป็นยังไง แต่ความสามารถด้านกังฟูของเขาแทบไร้ขีดจํากัดเลยก็ว่าได้”จงหลิวชวนพูด
“ศิษย์พี่เคยใช้ป้ายรึยัง?” เจี้ยจื้อจายถาม
ด้วยสถานะของพวกเขา หากพวกเขาได้รับบาดเจ็บหรือป่วย หวังเย้าคงรักษาพวกเขาอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว
“ฮาฮา…ที่นายไม่รู้ก็คือป้ายนี้ยังมีประโยชน์อีกอย่างหนึ่งด้วย” จงหลิวชวนพูด
“มันคืออะไรเหรอ?”
“ถ้าห้อยป้ายนี้ไว้กับตัว จะทําให้นายปลอดภัยจากแมลงนับร้อยชนิดเลยล่ะ”“แมลงนับร้อยชนิด? ศิษย์พี่หมายความว่าป้ายนี้ขับไล่แมลงมีพิษได้ด้วยงั้นเหรอ?”
“ใช่ฉันเคยลองมาแล้ว” จงหลิวชวนพูด“มันได้ผลจริงๆทั้งแมลงวัน,ยุง,และแมลงอีกหลายชนิดที่อยู่รอบตัวฉัน
“ไม่ต้องใช้ยาจุดกันยุงหรือกางมุ่งตอนหน้าร้อนคงเป็นอะไรที่ดีมาก” เจี้ยจื้อจายพูด
“หรือฉันจะไปขอให้เขียนเชิงทําให้พวกเราสองคนด้วยดี? ภรรยาคิดว่ายังไง?”
“นายกลัวยุงกัดเหรอ?”
ภายในบ้านของหวังเจ๋อเชิง
โพละ!
หวังยี่หลงกําลังผ่าฟันอยู่ที่ลานบ้าน
เมื่อได้ยินเสียงผ่าฟื้นภรรยาของหวังเจ๋อเชิงก็รีบร้อนออกไปดูนอกบ้าน “พ่อกําลังทําอะไรอยู่เหรอ?”
“กองฟืนมันวางอยู่ตรงนี้ได้หลายวันแล้ว”ชายชราพูดพร้อมกับขยับไหล่ “เจ๋อเชิงยุ่งทั้งเช้าจนถึงค่ำเธอก็ต้องดูแลลูกและทําอาหาร จะให้มาผ่าฟื้นก็คงไม่มีเวลาสองวันมานี้พ่อรู้สึกอึดอัดไม่มีอะไรให้ทําอยู่พอดีก็เลยอยากออกแรงผ่าฟื้นสักหน่อยน่ะ”
เขาไม่ได้ทํางานมาได้สักพักแล้ว ไหล่ของเขาจึงปวดจากการออกแรง
ฉันแก่แล้วจริงๆ
“พ่อไม่ต้องทําหรอก” ลูกสะใภ้ของเขารีบพูด “พ่อกลับเข้าไปพักในบ้านเถอะอีกเดี๋ยวฉันจะมา ทําเอง”
เธอเป็นห่วงสภาพร่างกายของชายชราอย่างมากเขาไม่สามารถทํางานหนักได้เขาจําเป็นต้องรักษาร่างกายและได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดเพื่อให้เขามีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น”
“พ่อไม่เหนื่อยเลย” ชายชรายิ้มแล้วพูด
“พ่อไม่ต้องทําเรื่องพวกนี้หรอก พ่อกลับเข้าไปนั่งดื่มชาในบ้านเถอะ”
สุดท้าย เขาก็ต้านทานอาการรบเร้าจากลูกสะใภ้ไม่ได้ชายชราจึงต้องวางขวานและกลับเข้าไปนั่งดื่มชาอยู่ภายในบ้านเขาเดินไปพร้อมกับนวดไหล่ไปด้วย
“พ่อรู้สึกไม่สบายเหรอ?”
“เปล่า ก็แค่ไม่ได้ทํางานมานานแล้ว ไหล่ก็เลยยกของหนักไม่ค่อยไหวแต่ไม่เป็นอะไรหรอก”
“เฮ้อ ดีแล้วค่ะ” ลูกสะใภ้ของเขาโล่งอก เธอกลัวว่าการผ่าฟันจะทําให้พ่อสามีของเธอเจ็บป่วย
ได้
ในที่สุดเขาก็อาการดีขึ้นเธอจึงไม่อยากให้เกิดเรื่องอะไรตามมาอีก
ฮววว!
ชายชราหาวและขยับตัวเล็กน้อย
“อม ออกแรงบ้างก็ดีเหมือนกัน”ชายชราพูดกับตัวเอง“พอเจ่อเชิงกลับมาฉันจะบอกเขาว่าจะทําแบบนี้ตลอดไปไม่ได้ฉันต้องได้ออกแรงบ้าง”
ภายในบ้านของเจียจื้อจาย
ฮูววว!
เจียจื้อจายชกแผ่นอิฐที่ซ้อนกันอยู่ด้วยฝ่ามือเดียว
ย่ะ! ฮ้ว!
“นายกําลังทําอะไรอยู่เหรอ?” หูเหมยถาม
“ฉันกําลังฝึกกําลังภายในอยู่!”
“กําลังภายใน?”หูเหมยถาม
“เธอไม่รู้จักกําลังภายในเหรอ?”
“แล้วนายมีกําลังภายในเหรอ?”
“ไม่มี”
“แล้วนายฝึกกําลังภายในแบบไหนอยู่?” หูเหมยหัวเราะ
“ฉันก็ฝึกพลังฉีอยู่น่ะสิ”
“พลังช่วยให้นายชกอิฐได้ด้วยมือเดียวเหรอ? นายแน่ใจนะ?” หูเหมยถาม “ฉันรู้ว่ามันต้องเป็นงานหนักมากแน่ดูจากความคิดของนายทําไมนายไม่ใช้พลังฉีแล้วทุบหินด้วยหน้าอกไปเลยล่ะ?”
“นั่นมันความเสี่ยงสูงเกินไป”“นายเพิ่งสงบใจไปได้แค่ไม่กี่วันแล้วทําไมถึงได้ตั้งเป้าหมายไว้สูงขนาดนั้นล่ะ?”
“ก็การนั่งสมาธิกับบ่มเพาะพลังฉีมันน่าเบื่อฉันก็เลยอยากหาอะไรมาทําให้ตัวเองผ่อนคลายลงบ้าง”เลี้ยจื้อจายพูดสภาพจิตใจของเขาถูกขัดเกลาไปบ้างแล้วแต่ที่ทําอยู่ตอนนี้เขาก็แค่นึกสนุกเท่านั้น
“ที่รัก เธอคิดว่าพลังฉีมีประโยชน์อะไรเหรอ?”
“แล้วฉันจะไปรู้ได้ยังไง?ถ้าอยากรู้เรื่องนี้นายก็ต้องไปถามเชียนเชิงหรือไม่ก็ศิษย์”หูเหมยตอบ
“ทักษะของเชียนเชิงสูงเกินไปฉันตามเขาไม่ทันแน่ฉันเคยถามศิษย์พี่ดูแล้วเขากําลังพยายามตามเชียนเชิงให้ทันอยู่”เจี่ยจื้อจายพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไปหาศิษย์ของนาย แล้วก็นั่งดื่มชาอยู่ที่นั่นซะ”
เมื่อเจียจื้อจายไปถึงที่บ้านของจงหลิวชวนเขาก็พบว่าอีกฝ่ายก่าลังผ่าฟันด้วยขวานบินด้ามหนึ่งอยู่ขวานที่สมควรถูกทิ้งไปได้แล้วกลับยังถูกใช้ผ่าพื้นด้วยมือที่เต็มไปด้วยพละกําลังของอีกฝ่ายไม่ว่าฟื้นจะหนาแค่ไหนขวานด้ามนั้นก็สามารถผ่าลงไปได้อย่างง่ายดาย
“ศิษย์พี่ยุ่งอยู่เหรอ?”
“มีเรื่องอะไร?” จงหลิวชวนเงยหน้าขึ้นมาถามด้วยรอยยิ้ม
“ฉันมีเรื่องบางอย่างอยากคุยกับศิษย์พี่สักหน่อยแต่ศิษย์พี่ยุ่งอยู่ก็ทํางานในมือต่อไปเถอะฉันว่าการผ่าฟื้นของศิษย์ดูเพลินอยู่เหมือนกันนะ!”นี่ไม่ใช่แค่คําชมขวานที่ถูกแกว่งไกวอยู่ในมือของเขานั้นน่าดูชมมาก
“ฮาฮา…” จงหลิวชวนหยุดผ่าพื้น เขาเดินเข้าไปในบ้านและชงชาสําหรับพวกเขาสองคน
“นายจะดื่มชาไหม?”
“ขอบคุณ ศิษย์พี่”
“แล้วนายมาหาที่นี่มีเรื่องอะไรเหรอ?”
“พลังที่ฉันบ่มเพาะอยู่ตอนนี้มันมีประโยชน์อะไรเหรอ?” เจี้ยจื้อจายถาม
“หา พลังฉี?” จงหลิวชวนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “นายกําลังพูดถึงกําลังภายในเหรอ?” “ใช่ฉันหมายถึงกําลังภายใน
“ฮาฮา มันวิเศษมากเลยล่ะ” จงหลิวชวนดวงตาเป็นประกาย
“ฉันฝึกอยู่เป็นประจํา แต่ฉันกลับมีกําลังภายในอยู่น้อยนิด มันเป็นเหมือนหยดน้ำในมหาสมุทรแต่น้ำเพียงหยดเดียวนี้กลับทําให้ฉันเต็มไปด้วยพละกําลังฉันเคยลองดูแล้วถึงไม่ได้นอนมาสองวันก็จะไม่เป็นอะไรเลย”
เจี่ยจื้อจายคิดอยู่ครู่หนึ่ง “อม พูดให้เข้าใจง่ายก็คือ มันทําให้ความทนทานของเราเพิ่มขึ้นสินะ?”
“ใช่ นายจะมองแบบนั้นก็ได้” เจี้ยจื้อจายตอบหลังจากจิบชาไปแล้ว
“นอกจากนี้ยังมีอะไรอีกไหม?”
“อย่างอื่นเหรอ?” จงหลิวชวนคิด
“มา พวกเรามาประมือกัน”เขาเหยียดแขน
“ศิษย์พี่หมายความว่ายังไง?”
“งัดข้อยังไงล่ะ”
“หา? อ่อ ใครที่แพ้ต้องเลี้ยงข้าวอีกฝ่ายนะ”
“ได้” จงหลิวชวนยิ้มแล้วพูด
“เริ่มได้”
เจียจื้อจายใส่แรงเต็มที่ตั้งแต่เริ่มต้น แต่แขนของจงหลิวชวนกลับยังนิ่งอยู่กับที่
เกิดอะไรขึ้น?
เจี้ยจื้อจายยันกลับไปใบหน้าของเขาเริ่มแดงจากการออกแรงมาก แต่จงหลิวชวนก็ยังไม่ขยับแม้แต่น้อยเขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กําลังงัดข้อแต่เขากําลังงัดเสาไฟฟ้าออกจากพื้นดินอยู่มากกว่า
“ฉันจะเริ่มออกแรงแล้วนะ”หลังจากพูดเสร็จ จงหลิวชวนก็เริ่มเพิ่มแรงเข้าไปเจี้ยจื้อจายรับรู้ได้ถึงแรงที่อีกฝ่ายส่งออกมาเขาแพ้อย่างราบคาบ
“โถ่! ศิษย์พี่จะแรงเยอะเกินไปแล้ว!”
“นายจะลองสองมือเลยก็ได้นะ” “ได้จริงเหรอ?” เจียจื้อจายถาม “จริงสิ” “มาเลย!คืนนี้ฉันเลี้ยงเอง มาดื่มที่บ้านฉันนะ”
“นายยังคิดจะดื่มอยู่อีกเหรอ?”
“เริ่มได้ไม้มาเลย!”
เจียจื้อจายใช้ทั้งสองมือ แต่แขนของจงหลิวชวนก็ยังคงนิ่งอยู่กับที่
“มันเกิดอะไรขึ้น?”
“อืม ตาฉันแล้ว มา
เขาส่งแรงเข้าไปแล้วเลี้ยจื้อจายก็พ่ายแพ้ไปอย่างง่ายดายอีกครั้ง
นี่…นี่…
“มันเป็นเพราะพลังฉีเหรอ?”
“ใช่ มันเป็นเพราะพลังฉี”
เจี่ยจื้อจายนั่งนิ่งไปพักหนึ่ง“ยังมีอะไรอีกไหม?” “การได้ยินของฉันชัดมากขึ้นมองเห็นได้ไกลขึ้นและรับรู้สิ่งรอบตัวได้ดีขึ้น”
“ประสาทสัมผัสทั้งห้าของศิษย์พี่ดีขึ้นอย่างนั้นเหรอ?”
“ถูกต้อง”
“เอ่อ ศิษย์พี่ ฉันไม่มีอะไรจะถามแล้ว แต่ช่วยบอกมาที่เดียวเลยได้ไหม?”
“ไม่มีออะไรให้บอกอีกแล้ว”
“ไม่มีเลยเหรอ?”
“เท่านี้ยังไม่พออีกเหรอ?” จงหลิวชวนถามด้วยรอยยิ้ม
“เอ่อ ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น” เจี้ยจื้อจายโบกมือ
“ศิษย์น้อง นายรับรู้ถึงพลังฉีได้ แต่ในตัวของนายไม่ได้มีกําลังภายในอยู่เลย”จงหลิวชวนพูด“แล้วนายถามเรื่องพวกนี้ไปทําไมเหรอ?”
“ฉันแค่อยากรู้เพื่อให้มีแรงผลักดันมากขึ้นอีกหน่อยน่ะสิ”
จงหลิวชวนยิ้ม“การที่นายอยากรู้มากขึ้นก็ถือเป็นเรื่องดี”
“ศิษย์พี่รู้ระดับของเชียนเชิงไหม?”
“อืม…ฉันไม่รู้ แต่เชียนเชิงสามารถปลดปล่อยพลังออกมาเพื่อสื่อสารกับฟ้าดินได้”
“สื่อสารกับฟ้าดิน?” เจียจื้อจายเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า “มันเป็นยังไงเหรอ?หรือเขาจะทําอะไรก็ได้ที่อยากทํา?”
นายต้องอดทนฝึกไปก่อน ทําไปตามขั้นตอนของมัน”
“เอ่อ ขอโทษที่รบกวนศิษย์พี่”
“ไม่เป็นไร ดื่มชาสักหน่อยสิ”
“ขอบคุณ” เจียจื้อจายนั่งอยู่ที่บ้านของจงหลิวชวนเป็นเวลานาน “เย็นนี้มากินข้าวที่บ้านฉันดีไหม?”“ไม่ได้หรอกฉันแค่พูดเล่นเท่านั้นนายไม่ต้องคิดเป็นจริงเป็นจังหรอก”
“ศิษย์พี่ต้องมาสิ!”
“ไม่จําเป็นหรอก”
“ศิษย์พี่อย่าปฏิเสธฉันเลย ถ้าศิษย์พี่ไม่มาฉันจะโกรธแล้วนะ!”