909 เหล้าดี อาหารอร่อย บรรยากาศรื่นเริง
“จนถึงตอนนี้พวกเราอยู่ที่นี่โดยไม่มีปัญหาอะไร”หยางกวนเฟิงพูด“แต่หลังจากกลับออกไปเราอาจมีอาการปวดหัว,ปวดท้อง,ท้องเสีย,คันตามผิวหนัง,หรือมีแผลพุพองก็ได้เฮ้อเราอาจจะไม่แข็งตัวอีกแล้วก็ได้คิดให้ดีดีล่ะ”
“มันวิเศษขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“คุณไม่ได้เจอกับตัวเองคุณก็เลยไม่รู้ผมไม่อยากเจอเรื่องแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สองหรอกนะ!”หยางกวนเฟิงยังมีความกลัวฝังใจจากการถูกพิษครั้งก่อนมันเป็นความเจ็บปวดร้อนแผดเผาซึ่ง
ต่างจากอาการไข้หวัดทั่วไป
“พอคุณพูดออกมาแบบนี้ผมก็เริ่มกลัวขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“เฮ้อผมพอจะเข้าใจว่าคนที่เรียนแพทย์เรียนไปเพื่อรักษาโรคและช่วยคนแต่คนที่ศึกษาเรื่องพิษและแมลงพิษมีจุด
ประสงค์ไปเพื่ออะไรกัน?”
“ผมเคยคิดและสืบดูแล้ว”หยางกวนเฟิงพูด“ข้อแรกมันถูกส่งต่อมาจากบรรพบุรุษของพวกเขาข้อสองพิษและแมลงพิษถือได้ว่าเป็นยารักษาชนิดหนึ่งจุดประสงค์แรกเริ่มในการศึกษาของ
พวกเขาคงมีเพื่อรักษาโรคและช่วยชีวิตคน แต่พวกเขาคงค้นพบวิธีการใช้งานแบบอื่นขึ้นมาได้ซึ่งก็คือการสังหารและป้องกันศัตรู ถึงที่นี่จะอยู่ห่างไกลแต่ในสมัยก่อนมีสงครามและโจรอยู่ชุกชุม และมันก็มีไว้เพื่อสิ่งเหล่านั้น”
“ก่อนจะมาที่นี่คุณทําการบ้านมาเยอะเหมือนกันนะ”หลู่ซิ่วเฟิงพูด
“แน่นอนผมไปที่ห้องสมุดเพื่อค้นเรื่องนี้โดยเฉพาะมีบันทึกบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาแต่พวกมันเป็นแค่ตํานานและข่าวลือเท่านั้นพูดกันว่าบรรพบุรุษของพวกเขาเป็นลูกศิษย์ของราชาโอสถซุนซือเดี่ยว”
นะ!”
“ราชาโอสถ?”หลู่ซิ่วเฟิงถาม“คุณพูดเรื่องอะไร?นั่นมันสมัยราชวงศ์ถังที่นานเป็นพันปีเลย
“ใช่ แต่หุบเขาพันโอสถได้ถูกบันทึกเอาไว้ตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิงแล้ว”
“อืมมม ถ้าเป็นสมัยราชวงศ์หมิงก็แสดงว่าหุบเขามีประวัติศาสตร์เป็นร้อยๆปีเลยน่ะสิ”“ถูกแล้วล่ะที่นี่คือหมู่บ้านที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ”หยางกวนเฟิงพูด“ที่ตั้งของพวกเขาอยู่ในพื้นที่ห่างไกล สงครามใหญ่จึงมาไม่ถึงที่นี่พวกเขาติดต่อกับโลกภายนอกน้อยมากทําให้สามารถถ่ายทอดความรู้สู่รุ่นลูกรุ่นหลานได้
“โอ้โห ที่นี่มีความลับอยู่ไม่น้อยเลย!”
“ผมยังพบข้อมูลที่เขียนเอาไว้ว่าที่นี่มีคนที่อายุมากกว่า200ปีอยู่ด้วย”หยางกวนเฟิงพูด“200ปี?”หลู่ซิ่วเฟิงตกตะลึง“นี่มันบ้าอะไรกัน!นั่นยังเรียกว่าคนได้อีกเหรอ?นั่นมันสัตว์ประหลาดแล้ว!”
“ไม่ใช่เสมอไปหรอก” หยางกวนเฟิงพูด “ว่ากันว่าจางซานเฟิงแห่งเขาบู๊ตึ๊งก็มีอายุมากกว่า 250 ปีและสําเร็จเป็นเซียน”
“จางซานเฟิงเป็นใครกัน เขาเป็นนักพรตเต๋าเหรอ?”
“เรื่องนี้ก็เป็นข่าวลือเหมือนกันจากการสํารวจสํามะโนครัวครั้งสุดท้ายในตอนนั้นมีคนในหุบเขาอย่างน้อย 20 คนที่มีอายุมากกว่า 100 ปีจํานวนประชากรในหุบเขามีกันอยู่แค่ 200 คนเท่านั้นและนั่นถือเป็นอัตราส่วนที่สูงมาก”
“อายุยืน,เชี่ยวชาญเรื่องการรักษา,เชี่ยวชาญเรื่องยาพิษ, เชี่ยวชาญเรื่องแมลงพิษ,…เฮ้อแมลงพิษมันเป็นยังไงกันแน่?”หลู่ซิ่วเฟิงถาม
“บอกตามตรงฉันไม่เคยเห็นพวกมันและก็ไม่อยากเห็นด้วย”
ในตอนที่พวกเขากําลังคุยกันอยู่นั้น ก็มีคนมาเคาะประตู
“เชิญเข้ามาได้ครับ”
เยี่ยวชิงเฟิงเดินเข้ามาในห้อง
“ทั้งสองท่าน งานเลี้ยงพร้อมแล้วจะไปกันเลยไหมครับ?”
“ครับไปกันเลยผมต้องลองชิมอาหารอร่อยๆและเหล้าของที่นี่ดูสักครั้ง”หลู่ซิ่วเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
ทั้งสองเดินไปที่บ้านของเมี่ยวซีเหอพร้อมกับเดี่ยวชิงเฟิงงานเลี้ยงเต็มไปด้วยอาหารมากมาย
แต่ละจานล้วนเป็นอาหารท้องถิ่นทั้งหมดถูกจัดเตรียมเอาไว้เพื่อแขกทั้งสอง
เมื่อเห็นทั้งสองคนมาถึงแล้วผู้นําเที่ยวก็ลุกขึ้นเดินไปหาพวกเขาด้วยตัวเอง“ยินดีต้อนรับครับ
เชิญนั่งได้เลย”
“ขอบคุณครับ ผู้นําเมี่ยว คุณให้เกียรติพวกเรามาก”
หลังจากนั่งลงแล้ว หลู่ซิ่วเฟิงก็จับจ้องไปที่อาหารบนโต๊ะ
“โอ้ นี่คืออะไรเหรอครับ?”
“อ่อ นี่คือเห็ดชนิดหนึ่งที่โตบนภูเขาของเราครับ” เมี่ยวชิงเฟิงพูด “มันอร่อยและมีสรรพคุณบําารุงร่างกายด้วย
“โอ้ แล้วนี่คืออะไรเหรอครับ?”
“นี่เป็นปลาชนิดพิเศษที่ได้มาจากทะเลสาบอันเฉินครับมันสดและอร่อยมาก”
“จริงเหรอครับ? ผมคงต้องชิมดูแล้ว”หลู่ซิ่วเฟิงถามเกือบทุกจาน ราวกับเด็กเล็กขี้สงสัย“จุ๊ๆนี่มันของดีทั้งนั้นแถมผู้คนที่นี่ก็เก่งกาจ มันพิเศษมากจริงๆ”
เมื่อทุกคนมากันครบแล้วก็ได้เวลาเริ่มงานเลี้ยงในฐานะผู้นําของหุบเขาเมี่ยวซีเหอชูแก้วเหล้าเพื่อเป็นการต้อนรับแขกทั้งสองอย่างอบอุ่นเขาพูดว่าเขาจะช่วยเหลือพวกเขาทุกอย่างเท่าที่จะทําได้เพื่อให้ภารกิจสําเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ตามกฎของหุบเขา งานเลี้ยงจะเริ่มขึ้นหลังจากที่ผู้นํากล่าวจบแล้ว
“อืมมอร่อยอร่อย”หลู่ซิ่วเฟิงแทบไม่หยุดเคี้ยวหรือวางตะเกียบในมือของเขาลงเลย“นี่เป็นอาหารท้องถิ่นที่อร่อยมาก”เขายกนิ้วโป้งให้ไม่หยุดใบหน้าของเมี่ยวชิงเฟิงเต็มไปด้วยรอยยิ้มไม่ว่าจะเป็นใครเมื่อได้รับค่าชมก็มักมีสีหน้าพึงพอใจ
“ถ้าอร่อย ก็กินเยอะๆนะครับ”
“แน่นอนครับ เหล่านี่ก็รสชาติดีเหมือนกัน มันทํามาจากอะไรเหรอครับ?”
“มันทํามาจากธัญพืชหลายอย่างในหุบเขาของเราครับทั้งยังใส่สมุนไพรจีนลงไปด้วยถ้าดื่มเป็นประจําจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและอายุยืนครับ”
“อืม ผมคงต้องดื่มให้มากหน่อยแล้วมันช่วยบํารุงช่วงล่างด้วยไหมครับ?”
“ครับ มันได้ผลดีมากด้วยครับ”
“อืม โอ้ ดี!” หลู่ซิ่วเฟิงดื่มไปอีกใหญ่
ไม่ว่าอย่างไร เขามีช่วงเวลาที่ดีในการกินและปล่อยตัวปล่อยใจเล็กน้อยหยางกวนเฟิงที่นั่ง
อยู่ข้างๆก็กินได้เยอะและดื่มไปไม่น้อย
“ฮ่า ขอบคุณมากนะครับผู้นําขอบคุณน้องชายชิงเฟิงอาหารอร่อยและเหล้าก็ดีมากขอบคุณสําหรับการต้อนรับที่อบอุ่นเมื่อไหร่ที่พวกคุณมีโอกาสได้เข้าไปในตัวจังหวัดเชิญมาหา
ผมได้ทุกเมื่อเลยนะครับผมจะขอเป็นฝ่ายเลี้ยงพวกคุณบ้าง!”
“ดีเป็นอันตกลงครับ”เมี่ยวซีเหอพูดด้วยรอยยิ้ม
“ตกลงครับ!”
“ดื่ม!”
“ดื่ม!”
เย็นวันนั้น หลู่ซิ่วเฟิงดื่มเหล้าไปอย่างน้อยหนึ่งขวดจนหลับคาโต๊ะเขาพูดเพ้อเจ้อและความทรงไม่ปะติดปะต่อ
“ต้องขอโทษด้วยนะครับที่เพื่อนร่วมงานของผมลืมตัวแบบนี้” หยางกวนเฟิงที่ดื่มน้อยกว่าอีกฝ่ายพูดความจริงด้วยสถานะของพวกเขาในเวลานี้ไม่สมควรดื่มเหล้ามากจนเกินไปพวกเขามาที่นี่เพื่อทํางานและไม่ควรดื่มเยอะควรต้องควบคุมตัวเองให้ดี
“ผู้กองหยาง ผมคิดว่าผู้กองหลู่เป็นคนอารมณ์ดีและหาได้ยาก” เมี่ยวซีเหอพูดด้วยรอยยิ้ม
แล้วหลู่ซิ่วเฟิงก็ถูกหิ้วตัวพากลับไปที่บ้านพักของพวกเขา
“ผมขอโทษด้วยที่ต้องรบกวนพวกคุณ”
“เรายินดีครับ นี่เป็นซุปแก้เมาค้างที่เราทําไว้ให้พวกคุณ มันได้ผลดีมากนะครับ”เมี่ยวชิงเฟิงสั่งให้คนน่าหม้อกระเบื้องเคลือบพร้อมฝาปิดขนาดไม่ใหญ่มากเข้ามา
“ขอบคุณครับ”
“ถ้าต้องการอะไร ไม่ต้องเกรงใจนะครับ มีคนอยู่ที่บ้านข้างๆ”
“อ๋อ ได้ครับ”
“พักผ่อนตามสบายนะครับ”
“ขอบคุณสําหรับการดูแลครับ”
หลังจากส่งเมี่ยวซีเหอไปแล้ว หยางกวนเฟิงก็เปิดฝาหม้อและมองดูซุปแก้เมาค้างที่อยู่ด้านใน
มันมีกลิ่นอ่อนๆและยังมีกลิ่นหอมของสมุนไพรปะปนอยู่ด้วย สุดท้ายเข้าก็ไม่ได้ดื่ม
“ซุปแก้เมาค้างเหรอ? ขอผมสักถ้วยสิ” อยู่ๆหลู่ซิ่วเฟิงที่นอนอยู่บนเตียงก็ลุกขึ้นมา
“นี่ระวังหน่อยสิ”หยางกวนเฟิงพูด
หลู่ซิ่วเฟิงยกหม้อที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาและเทใส่ลงไปในถ้วย เขาดื่มหมดไปสองถ้วย
“อืมมม รสชาติไม่เลวเลยทําไมคุณไม่ดื่มล่ะ?คุณไม่เมาเหรอ?” “ผมไม่ได้ดื่มเยอะเลยไม่ได้เป็นอะไรมาก”หยางกวนเฟิงพูด
ปริมาณแอลกอฮอลในเหล้าธัญพืชที่หมักในหุบเขาไม่ได้สูงมาก ถ้าดื่มน้อยก็ไม่ทําให้เมามาก
“โอ้ เหล่านั่นดีจริงๆแล้วถ้าเรากลับไปแล้วก็คงหาซื้อข้างนอกไม่ได้ผมจําได้ว่าคุณก็ชอบดื่มเหมือนกันนี่”หลู่ซิ่วเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาเขาดูไม่เหมือน
คนเมาแม้แต่น้อย
“ถึงอย่างนั้นผมก็ต้องมีสติรู้สถานการณ์การดื่มมากเกินไปตอนอยู่ที่นี่ไม่ใช่เรื่องดีอาจจะมีการใส่อะไรลงไปในของพวกนั้นก็ได้”เขาพูดเสียงเบาแล้วชี้ไปที่ซุปให้หม้อ
“คุณเอาแต่กังวลเรื่องนั้นเรื่องนี้คุณคิดมากเกินไปแล้วโดนงูกัดครั้งเดียวกลัวเชือกไปสิบปีตอนเย็นผมสังเกตดูแล้วเมี่ยวซีเหอเป็นคนที่น่าทึ่งคนหนึ่งเสียก็แต่เขาดันมาอยู่ในหุบเขาห่างไกลแบบนี้เท่านั้นถ้าเขาเปลี่ยนที่อยู่เขาจะต้องประสบความสําเร็จในหน้าที่การงานอย่างแน่นอน”
“คุณยกย่องเขามากเลยนะ!”
“แน่นอน เขาเป็นหนึ่งในคนที่ยอดเยี่ยมที่ผมได้พบเจอในไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาไม่ใช่คนใจแคบแบบนั้นเขาไม่มีทางใช้วิธีการที่ไร้ยางอายแบบนั้นแน่แต่เรื่องที่คุณกังวลก็ไม่นับว่าเกินไปสําหรับคนแบบนั้นถ้าเขาคิดจะลงมือจัดการใครสักคนเขาจะลงมือหนักและทําให้อีกฝ่ายไม่มีทางฟื้นกลับมามีโอกาสได้อีก”เมื่อพูดเสร็จหลู่ซิ่วเฟิงก็ดื่มซุปแก้เมาค้างไปอีกหนึ่งถ้วย
“นี่ คุณไม่ดื่มจริงๆเหรอ?มันอร่อยมากนะ”
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ”
“แล้วคนอื่นๆล่ะ?”
ผู้ที่เข้าร่วมงานรวมเมี่ยวซีเหอและผู้อาวุโสบางคนในหมู่บ้านด้วย พวกเขาต่างดูมีอายุอยู่ใน
ช่วงเจ็ดสิบ จากการแนะนําของเมี่ยวซีเหอพวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นผู้อาวุโสที่ได้รับความเคารพ
ในหมู่บ้าน
“คนพวกนั้นดูเกรงใจเมี่ยวซีเหอ”
“อะไรอีก?”
“ผมคิดว่า มีหนึ่งในนั้นที่ไม่พอใจเมี่ยวซีเหออยู่ด้วย”
“โอ้ คนไหนเหรอ?”
“ผู้ชายที่ชื่อว่า เมี้ยวหยุนเทียน
“เขานั่งอยู่ที่โต๊ะตัวที่สองตรงข้ามกับพวกเราเขาคือคนที่สูงเล็กน้อย,ตัวผอม,และมีถุงใต้ตา
สีออกเขียวอ่อนๆ”