915 พักผ่อน
“มันน่ากินมากเลยครับ” เมี่ยวชิงเฟิงพูด “ผมไม่คิดเลยว่าผู้กองหลู่จะมีความสามารถแบบนี้ด้วย!ผมเอาเนื้อไก่ตากแห้งมาจากบ้านด้วยนะครับ”
“โอ้ ไม่เห็นต้องเอาไก่ที่บ้านมาด้วยเลย”หลู่ซิ่วเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “เรากําลังรอเหล้าจากคุณอยู่ต่างหาก!”
“ผมเอามาด้วยแล้วมันพอสําหรับพวกเราสามคนแน่นอนครับ” เมี่ยวชิงเฟิงพูดเขาเอาเหล่าในขวดขนาดใหญ่ที่หนักไม่น้อยกว่าห้ากิโล
“มาครับ ลองชิมฝีมือท่าอาหารของผมดู!”
“อืมมไม่เลว!”หลังจากกินอาหารที่หลู่ซิ่วเฟิงท่าแล้วเมี่ยวชิงเฟิงก็ยกนิ้วโป้งให้อีกฝ่าย“เป็นยังไงบ้าง?รสชาติใช้ได้ไหม?”
“มันอร่อยมากเลยครับ!”
“มา ดื่มกันเถอะ”
“ดื่ม!”
ทั้งสามไม่ได้ใช้แก้วดื่มแต่เป็นถ้วยมันดูกล้าและใจกว้างมาก
“อย่าหาว่าผมวุ่นวายเลยนะครับผู้กองแต่คดีไปถึงไหนแล้วเหรอครับ?”
“เรื่องนั้นควรต้องเก็บเป็นความลับและไม่สามารถเปิดเผยออกไปได้ แต่ในเมื่อน้องชายถามมาแล้วบอกสักหน่อยก็ไม่เป็นอะไรตอนนี้ตัดสินแล้วว่าเมี่ยวชิงเฟิงก็คือผู้ต้องสงสัยแต่เราไม่มั่นใจว่ามีแค่เขาคนเดียวหรือมีคนอื่นด้วย”
“แล้วผู้กองได้ยืนยันรึยังครับ?”
“ยังหรอก น้องชายเดี่ยวช่วงนี้เห็นใครทําอะไรผิดปกติบ้างรึเปล่า?”
“เอ่อ เรื่องนั้น ไม่เห็นมีนะครับ”
“แล้วใครที่มักจะออกไปไปนอกหุบเขาบ้าง?”
“บอกตามตรงเป็นผมเองครับ”เมี่ยวชิงเฟิงพูด“ช่วงนี้ผมคือคนที่ใช้เวลาอยู่ข้างนอกนานที่สุดและบ่อยครั้งที่สุดส่วนคนอื่นในหุบเขาแทบไม่ออกไปไหนเลยครับ”ถาม
“เป็นน้องชาย อืมมม” หลู่ซิ่วเฟิงยิ้มแล้วโบกมือ
“ในหุบเขามีโรงเรียนอยู่ด้วยไหม?”
“มันมีแค่โรงเรียนประถมเท่านั้นครับ”
“แล้วถ้าพวกเขาต้องไปเรียนชั้นมัธยมต้นกับมัธยมปลายต้องทํายังไงเหรอ?”หยางกวนเฟิง
“พวกเขาก็ไปได้ครับ แต่ก็ต้องทําตามกฎ”เมี่ยวชิงเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม
“ถ้าพวกเขาอยากไปเรียน พวกเขาก็ต้องออกไปจากที่นี่ แต่ถ้าพวกเขาออกไปแล้วก็จะกลับมาอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไป”
“นั่นจะไม่รุนแรงกับพวกเขาเกินไปหน่อยเหรอ?”
“มันไม่นับว่ารุนแรงขนาดนั้นหรอกครับ แล้วก็ไม่ได้ถึงกับเข้มงวดด้วย เมื่อไม่นานมานี้ผู้นําดีใจมากที่มีนักเรียนสองคนกลับมาที่หมู่บ้าน แต่พอได้ยินว่าพวกเขาต้องการเปลี่ยนให้หุบเขากลายเป็นสถานที่ที่ดึงดูดนักลงทุนจากด้านนอกเข้ามาเพื่อทําให้คนในหมู่บ้านร่ำรวยผู้นําก็ไม่พอใจมาก”
“ความคิดของพวกเขามันผิด”
“ผมคิดว่าความคิดของพวกเขาไม่ถูกต้อง”เมี้ยวชิงเฟิงพูด“พวกเขาไม่รู้ว่าคนในหุบเขาต้องการอะไรหรือว่าพ่อแม่ของพวกเขาต้องการอะไรตั้งแต่นั้นมาผู้นําก็ยึดมั่นในความคิดก่อนหน้านี้ของตัวเองคนที่ออกไปแล้วจะไม่สามารถกลับมาได้อีกอย่างมากที่สุด พวกเขาก็แค่กลับ
มาพบหน้าพ่อแม่ของพวกเขาได้แค่ไม่กี่วันเท่านั้น”
“ความจริง พวกเขาสามารถพาพ่อแม่ของตัวเองออกไปได้มีอยู่ไม่กี่บ้านที่ทําแบบนั้นผมเห็นตอนที่พวกเขาพากันออกไปและพวกเขาก็มีชีวิตที่ดีอยู่ข้างนอกนั่น”
“มีคนเป็นหมอบ้างไหม?”
“การเป็นหมออยู่ข้างนอกจําเป็นต้องมีใบอนุญาต”เมี้ยวชิงเฟิงพูด “มีบางคนเปิดร้านอาหารและบางคนก็เป็นหมอผมเคยได้พูดคุยกับพวกเขาพวกคนหนุ่มสาวไม่ได้รู้สึกเสียใจกับการที่เลือกออกมา พวกเขาคิดว่าโลกภายนอกนั้นวิเศษมากและมันน่าสนใจกว่าหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขาแต่พ่อแม่ของพวกเขากลับรู้สึกเสียใจพวกเขาไม่ชอบชีวิตในเมืองใหญ่และหวังว่าจะได้กลับไป
อยู่ที่หมู่บ้าน พวกเขาเคยไปพบผู้นําอยู่หลายครั้งแต่พวกเขาก็ถูกเขาปฏิเสธทุกครั้ง”“อืมเรื่องนั้นผมเข้าใจ”หลู่ซิ่วเฟิงพูด
ทั้งสามกินอาหารและดื่มเหล้าพวกเขาต่างมีความความสุขกับมื้ออาหาร
ในเริ่มเหอคลินิกที่ห่างออกไปหลายพันไมล์
“เสี่ยวพัน วันนี้ไม่ไปทํางานเหรอ?”
“วันนี้ผมมีเวรตอนเช้าครับแต่ตอนเที่ยงผมว่าง”พันจวินตอบ“แล้วคุณอาไม่สบายตรงไหนครับ?”
“เฮ้อ ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร ร่างกายของฉันแย่ลงเรื่อยๆ อยากจะทําอะไรก็ไม่มีแรงเธอตรวจดูให้หน่อยได้ไหม?”
“คุณลุงไปตรวจที่โรงพยาบาลมารึยังครับ?”
“ฉันไปมาแล้ว ฉันตรวจหมดทุกอย่าง แต่ร่างกายของฉันก็ปกติดี”
“แล้วมันมีปัญหาที่ตรงไหนกัน?”พันจวินตรวจเบื้องต้นให้กับชายชราเขาพอจะรู้สภาพร่างกายของอีกฝ่ายอยู่บ้างชายชราได้เข้ารับการผ่าตัดไปเมื่อปีก่อนถึงแม้จะไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่แต่เขาถูกผ่าด้วยมีดซึ่งส่งผลต่อพลังชีวิตของเขาแล้วยังต้องผ่าตัดในช่วงหน้าหนาวพอดีเขาจึงใช้เวลานานในการฟื้นตัว
“น่าจะไม่มีปัญหาร้ายแรงอะไรนะครับ” แล้วพันจวินก็คิดถึงยาตัวใหม่ที่ได้มา “อ่อจริงสิผมมี
ยาตัวใหม่เข้ามามันจะช่วยบํารุงร่างกายให้แข็งแรงขึ้นคุณลุงอยากลองดูไหมครับ?”
“ได้สิ” ชายชรายิ้ม ลึกๆในใจเขาไม่ได้คาดหวังกับมันมากนัก
“รอเดี๋ยวนะครับ ผมจะไปเอามาให้”หันจวินกลับมาพร้อมกับยาขวดหนึ่งในเวลาไม่นาน“นี่ครับ”
“ซุปเสี่ยวเผยหยวน?”
“ใช่ครับ แค่กินตามคําแนะนําบนขวดก็ได้แล้ว”พันจวินพูด
“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว”ชายชราพูด“ของใจมากนะเสี่ยวพัน”
“ยินดีครัย”
ชายชราออกมาจากคลินิกและกลับบ้าน
ลูกชายของเขาก็อยู่ที่บ้านด้วยและถามว่า“พ่อไปไหนมาเหรอครับ?”
“พ่อไปคลินิกข้างล่างและได้ยามาด้วย”
“ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอครับว่าผมจะพาพ่อไปตรวจร่างกายวันนี้น่ะ? แล้วทําไมถึงต้องไป
คลินิกเล็กๆนั่นอีก?”
“คลินิกเล็กๆอะไร?เสี่ยวพันเป็นผู้อํานวยการแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลประจําเขตเลยนะ”“ครับเรื่องนั้นผมรู้แต่เขาก็ทํางานอยู่ในแผนกฉุกเฉินไม่ได้อยู่ในแผนกเฉพาะทางสักหน่อย”“ช่างเถอะในเมื่อได้ยามาแล้วพ่อก็จะกินดู”ชายชราโบกไม้โบกมือ
“มันเป็นยาอะไรเหรอครับ?”ลูกชายของเขาหยิบยาขึ้นมาดู
“นี่มัน…มันถูกผลิตที่เมืองนี้นี่?”เขาพบว่าซุปเสี่ยวเผยหยวนถูกผลิตโดยบริษัทยาในเขตเหลียนชานที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานเขาเคยได้ยินเรื่องบริษัทแห่งนั้นเมื่อไม่นานมานี้มันไม่ใช่ว่าเขาคิดดูถูกบริษัทในท้องถิ่นแต่ยาที่ถูกผลิตจากบริษัทที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานสามารถเชื่อถือได้แน่หรือ?
“พ่อ ผมว่าพ่ออย่ากินยาขวดนี้ดีกว่า”
“ทําไม? พ่อจ่ายเงินซื้อมาแล้ว!”
“ผมเป็นห่วง ดูสิครับ มันเป็นของที่ผลิตในเขตนี้”
“แล้วของที่ผลิตที่นี่มันทําไม?”ชายชราขมวดคิ้วเขารู้สึกว่ามุมมองของเขาและลูกชายเริ่มไม่
ตรงกันพอมีเงินเข้าหน่อยลูกชายของเขาก็เอาแค่ดูถูกนั่นนี่อยู่ตลอด
“ผม…”
“ช่างเถอะถ้าไม่มีอะไรแล้วก็ไปทําธุระของลูกซะพ่อไม่เป็นอะไรแล้ว”
ลูกชายไม่ได้พูดอะไรอีก และหันไปพูดกับแม่ของเขาแทน “แม่ ช่วยพูดกับพ่อทีนะครับ”
“ได้แม่รู้แล้วอย่าเก็บเอาไปคิดมากเลยลูกก็รู้นิสัยของพ่อดี
“ครับ”
หลังจากที่ลูกชายของเธอกลับไปแล้วเธอก็หันไปพูดกับคู่ชีวิตของตนเอง “คุณนี่นะลูกของ
เราแค่แสดงความเป็นห่วงทําไมถึงได้ชอบทําตัวแบบนี้อยู่เรื่อยเลย?”
“ผมแค่ทนเขาไม่ไหวเท่านั้นพอรวยแล้วก็ไม่สนใจรากเง้าของตัวเองแล้ว”เขาพูด
“เขาเป็นลูกชายของคุณนะแล้วเขาก็กตัญญูต่อคุณด้วย”
“ผมรู้” ชายชราพูด
“จริงสิ คุณได้ยามาจากเสี่ยวพันเหรอ?”
“ใช่ ผมจะลองกินดูมันอาจจะได้ผลก็ได้
ในหมู่บ้าน หวังเย้ารับคนไข้หลายคนในตอนกลางวันพวกเขามาด้วยอาการป่วยทั่วไปเช่น
หวัดและปวดศีรษะไม่ได้มีใครที่ป่วยหนัก
“เชียนเชิงคืนนี้ว่างไหมครับ?”