946 ล่าตัว
“นั่นเป็นสิ่งที่เราพอจะช่วยได้อยู่แล้วครับ”เดี๋ยวชิงเฟิงพูด
ผู้นําาได้บอกกับพวกเขาว่าให้คอยให้ความร่วมมือกับหยางกวนเฟิงและคนอื่นๆเท่าที่พวกเขาจะทําได้คดีเริ่มรับมือได้ยากขึ้นเรื่อยๆและยังส่งผลกระทบมาถึงหุบเขาพันโอสถมากขึ้นด้วยพวกเขาอยู่ในป่าลึกและปลีกตัวจากโลกภายนอกเรื่องที่เกิดขึ้นที่ด้านนอกทําให้การมีอยู่ของพวกเขาถูกเปิดเผยที่ร้ายไปกว่านั้นพวกเขายังเป็นที่รู้จักจากการที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีซึ่งส่งผลเสียกับภาพลักษณ์ของพวกเขาอย่างมากมันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
สถานการณ์ในเวลานี้ ก็คือการตามจับตัวคนร้าย สําหรับพวกเขา คนร้ายจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเบี้ยวเนียนชวนสําหรับคนจากหุบเขาพันโอสถรู้ดีว่าการที่จะจบเรื่องนี้ให้ได้สิ่งที่ต้องท่าก็คือการจับกุมหรือสังหารเมี่ยวเทียนชวนเสียส่วนคนอื่นพวกเขาคงทําอะไรไม่ได้มากแต่สิ่งสําคัญที่สุดก็คือการหาตัวเมี่ยวเทียนชวนให้พบ
เขาไม่มีเพื่อนหรือญาติเขาก็ไม่ต่างอะไรกับคนไร้บ้านทุกอย่างที่เขาทําก็เพื่อการแก้แค้นไม่มีเรื่องไหนที่เขาไม่กล้าหาเขตอู่ซานเป็นแค่เขตเล็กๆหลายอย่างจึงค่อนข้างล่าหลังแต่ช่วงนี้ทางรัฐได้มีการสั่งเพิ่มกล้องวงจรปิดเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเขตเหอซึ่งอยู่ติดกับเขตอู่ซานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้
รับความสนใจจากผู้มีอํานาจหลายคนจึงทําให้มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดคุณภาพสูงตามที่ต่างๆ
พวกเขาพบภาพของชายที่ปิดบังใบหน้าอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ
“ท่าทางแบบนี้ ดูเหมือนกับผู้ชายจากคดีที่แล้วเลย!”เพียงแค่มองหลู่ซิ่วเฟิงก็สามารถบอกได้ทันทีว่าคนในภาพเป็นคนเดียวกันกับที่พวกเขาเห็นที่เขตเหอ
“คุณแน่ใจนะ?” หยางกวนเฟิงถาม
“สัญชาตญาณของผมไม่เคยหักหลังผม”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“แล้วผมก็รู้ว่าคุณก็คิดเหมือนกัน”
“ใช่ เหมือนกันมาก”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราคงต้องทํางานล่วงเวลาเพื่อตัดภาพของเขาออกมาเราจะส่งเรื่องไปให้ทางเบื้องบนและจัดการประกาศจับผู้ชายคนนี้”
พวกเขาลงมืออย่างรวดเร็วเพราะคดีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากคนในปักกิ่งค่าหัวที่ตั้งเอาไว้นั้นสูงมากตอนนี้พวกเขาได้ทําประกาศจับเมี่ยวเทียนชวน,เมี่ยวเฉิงถาง,และเมี่ยวชิงชานออกไป
ค่าหัวถูกตั้งเอาไว้ที่หนึ่งแสนหยวนซึ่งได้รับความสนใจจากหลายคน
หมู่บ้านราชายาที่อยู่ห่างไปหลายร้อยไมล์
“นี่เป็นฝีมือของนายเหรอ?”เมี่ยวเฉิงถางกําลังอ่านข่าวในมือถือ เขารู้สึกตกใจมาก “พระเจ้านายบ้าไปแล้ว”
เขารู้สึกเย็นยะเยือกมันเป็นความรู้สึกที่รุนแรงยิ่งกว่าเหตุการณ์ที่เขาได้ปะทะกับเมี่ยวซีเหอเมื่อครั้งที่เขากําลังพยายามหลบหนีออกจากหมู่บ้าน
“ไม่ ฉันจะทําแบบนี้ไม่ได้แล้ว”
เขารีบตัดสินใจในทันที
เขตอู่ซานที่อยู่ห่างออกไป
“นี่คู่หู มานี่เร็ว” หลู่ซิ่วเฟิงพูดอย่างตื่นเต้น
“มีเรื่องอะไรเหรอ?” หยางกวนเฟิงถาม“ดูเหมือนว่าสายลับของเราจะส่งข้อความมาหาล่ะ”หลู่ซิ่วเฟิงพูด
“เขาอยู่ด้วยกันกับเมี่ยวเทียนชวนและเมี่ยวชิงชานใช่รึเปล่า?”
“ใช่ แล้วเขายังแอบถ่ายรูปเอาไว้ด้วย”หลู่ซิ่วเฟองตอบ“เยี่ยมไปเลย!”หยางกวนเฟิงปรบมือด้วยความตื่นเต้น“พวกเขาอยู่ที่หมู่บ้านราชายา”หลู่ซิ่วเฟิงพูด“แล้วจะรออะไรล่ะ?รีบไปเร็ว!”
ภายในหมู่บ้านที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยไมล์เมี่ยวเฉิงถางที่นอนอยู่บนเตียงเริ่มหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆหลังจากที่เห็นข่าวมันก็ทําให้เขารู้ว่าเป็นฝีมือของเมี่ยวเทียนชวนได้ในทันทีค่าพูดว่าอีกฝ่ายบอกไว้ก่อนที่จะออกไปเมี่ยวเฉิงถางยังคงจดจําได้ดีเมื่อเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปปะติดปะต่อกับเหตุการณ์ก่อนหน้าเมี่ยวเฉิงถางก็มั่นใจว่า เหตุการณ์ฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในเขตเหอต้องมีความเกี่ยวข้องกับเมี่ยวเทียนชวนมีความเป็นไปได้สูงมากที่เมี่ยวเทียนชวนจะเป็นคนทําเรื่อง
เลวร้ายเหล่านั้นเดี่ยวเทียนชวนทําทุกวิถีทางเพื่อใส่สร้างเรื่องให้กับเมี่ยวซีเหอคดีเหล่านั้นมีคนเสียชีวิตถึงเกือบ 30 คนพวกเขาเหล่านั้นเป็นมนุษย์ที่มีลมหายใจและไม่ใช่สัตว์เลี้ยงแค่เห็นก็รู้ ได้ถึงความหนักหนาสาหัสของคดีนี้มันได้รับความสนใจจากเบื้องบนในทันทีและคนเหล่านั้นต่างก็คอยจับตามองไม่ให้คลาดสายตา และเป็นไปตามคาดพวกเขาสามคนถูกประกาศจับด้วยค่าหัวสูงลิ่งแล้ว
เพื่อการแก้แค้น เดี่ยวเทียนชวนทําได้ทุกอย่างไม่มีอะไรที่ขัดขวางเขาได้เลยเขาเป็นบ้าไป
การออกมาจากหุบเขาอย่างมากเมี่ยวเฉิงถางก็แค่ต้องเสียสถานที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นบ้านของเขาไปแต่ถ้าเขายังคงติดตามเมี่ยวเทียนชวนต่อไปเขาจะกลายเป็นผู้ต้องหาที่เป็นที่ต้องการตัวของคนทั้งประเทศพวกเขาจะกลายเป็นเหมือนหนูที่ทุกคนต่างอยากกําจัดเขาจึงต้องแยกตัวออกจากเดี่ยวเทียนชวนให้เร็วที่สุดเพราะตั้งแต่ต้นเขาไม่ได้รู้เรื่องที่อีกฝ่ายเคยก่อและเขาไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องที่เมี่ยวเทียนชวนทำเขาไม่ได้บอกอะไรกับเมี่ยวชิงชานเขาทําเพียงนอนรอคอยด้วยความกังวลอยู่บนเตียงเท่านั้น
“อยากจะบ้าตาย นี่มันถนนอะไรกัน?”หลู่ซิ่วเฟิงบ่นไปตลอดทาง
พวกเขาแยกกันเป็นหลายกลุ่มส่วนหนึ่งไปเส้นทางปกติอีกส่วนแยกไปทางอ้อมเจ้าหน้าที่ตํารวจต่างติดอาวุธมาพร้อมเดี่ยวชิงเฟิงกับเมี่ยวฉางหงก็ตามมาด้วยส่วนชายชราที่มารักษา
เหยื่อพร้อมกับพวกเขาได้เดินทางกลับหุบเขาไปตามลําพัง
“เรื่องนี้เราต้องระวังให้มากพวกเขาต่างใช้พิษเป็นและทําได้ทุกอย่างโดยไม่สนใครหน้าไหนพวกเขาทําได้ทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ”ก่อนปฏิบัติการ หยางกวนเฟิงได้บอกรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ที่ร่วมในการปฏิบัติการครั้งนี้หากจําเป็นพวกเขาได้รับอนุญาตให้จับตายได้ทันที
คนที่พวกเขาต้องการตัวมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของพิษซึ่งเป็นเป้าหมายที่จัดการได้ยาก“ทําไมคนพวกนี้ถึงได้ชอบมาหลบตามพื้นที่ห่างไกลแบบนี้ด้วยนะ?”หลู่ซิ่วเฟิงถาม
“พอเถอะ เลิกบ่นได้แล้ว”หยางกวนเฟิงพูด“พวกเราใกล้ถึงแล้ว”
พวกเขาใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะเดินทางมาถึงหมู่บ้านราชายา จากนั้นพวกเขาก็ได้ท่าการปิดล้อมพื้นที่เอาไว้เพราะเป็นคดีใหญ่พวกเขาจึงนําตํารวจติดอาวุธมาด้วยจํานวนมาก
“หืม?!”เมี่ยวเทียนชวนได้กลิ่นแปลกๆบางอย่าง
“มีคนกําลังมา”
แล้ว”กัน?”
เมี่ยวชิงชานถาม
“ฉันไม่แน่ใจ”เมี่ยวเทียนชวนพูด“บางทีอาจจะเป็นคนจากที่นี่หรือไม่ก็ตํารวจเราต้องไปกัน
“แล้วเฉิงถางล่ะ? เขายังไม่หายดีเลยนะ!”
“เราจะพาเขาไปด้วย” เมี่ยวเทียนชวนพูดโดยไม่ลังเล
“หา?”
“ทั้งสองเข้าไปหาเมี่ยวเฉิงถางที่นอนพักอยู่
“เฉิงถาง พวกเราต้องไปกันแล้ว”เมี่ยวเทียนชวนพูด
“ไป? ตอนนี้เลยเหรอ?ทําไมล่ะ?”เมี่ยวเฉิงถางถามด้วยความประหลาดใจ
“ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ”เมี่ยวเทียนชวนพูด“ที่นี่ไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว”
“เมี่ยวซีเหอส่งคนมาเหรอ?”
“ฉันไม่รู้” เมี่ยวเทียนชวนพูด“ฉันรู้แค่ว่ามันไม่ปลอดภัยเราต้องไปกันแล้ว”
“แต่ ดูสภาพฉันสิ”เมี่ยวเฉิงถางพูดด้วยท่าทีลําบากใจ
“เอาแบบนี้ดีไหม?พวกนายสองคนไปกันก่อนฉันจะอยู่ที่นี่ต่ออีกสักสองวันพอฉันหายดีแล้ว
จะตามไปหาพวกนายเองบางทีนายอาจจะคิดมากไปเองรึเปล่า?”
“ฉันไม่มีทางพลาดหรอก”เมี่ยวเทียนชวนพูดอย่างมั่นใจหลายปีที่ผ่านมาเขาได้อาศัยสัมผัส
ที่หกในการหลบเลี่ยงการถูกลอบสังหารมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
“สภาพฉันเป็นแบบนี้ไปไหนไม่ได้หรอก”เมี่ยวเฉิงถางพูด“ฉันอ่อนแอเกินกว่าจะเดินทางไกลถ้าพวกนายพาฉันไปด้วย ฉันก็จะกลายเป็นภาระของพวกนายจริงๆนะ”
กรอบแกรบเมี้ยวเทียนชวนได้ยินเสียงฝีเท้าหลายคู่
“ไม่ใช่คนของที่นี่”สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
เป็นไปได้มากว่าจะเป็นเสียงของพวกตํารวจเขาสงสัยว่าตํารวจหาพวกเขาเจอได้ยังไง
“ไปกันเถอะ”
เขาพาเมี่ยวชิงชานออกไปจากบ้านพวกเขามุ่งหน้าไปทางภูเขา
“เจอเป้าหมายแล้วย้ำเจอเป้าหมายแล้ว”
“หยุด!”
ปังปังปังปัง…เสียงสาดกระสุนดังขึ้น
เมื่อเดี่ยวเทียนชวนอยู่ในป่าเจ้าหน้าที่ตํารวจติดอาวุธก็สู้เขาไม่ได้ ไม่นาน พวกเขาก็ตามเขาไม่ทันกลับไปที่หมู่บ้าน
ราชายาแห่งเขตเมี่ยวประหลาดใจมากเขาอยู่ที่นี่มานานหลายปี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่หมู่บ้าน
แห่งนี้ถูกตํารวจล้อมเอาไว้แล้วเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
“ผู้ชายคนนั้นบ้าไปแล้ว!”หลังจากที่เงียบไปนานเขาก็ถอนหายใจ
“คุณพอจะรู้อะไรบ้างไหม?”หลู่ซิ่วเฟิงถามเขากับราชายารู้จักกันมาก่อน
“ปู่ของชิงชานเป็นผู้นําคนก่อนของหุบเขา”หวูซานพูด“เขาเป็นเด็กดี แล้วเขาก็อยู่แต่ในหุบเขามาโดยตลอดเขาไม่ได้มีส่วนกับเรื่องที่พวกคุณมาในวันนี้มากนักหรอกส่วนเมี่ยวเทียนชวนต่างออกไป พ่อแม่ของเขาตายในอุบัติเหตุพวกเขาออกไปหาสมุนไพรในป่า และอยู่กลุ่มเดียวกันกับเมี่ยวซีเหอแต่กลับมีแค่เมี่ยวซีเหอคนเดียวที่กลับมาจากการเข้าป่าครั้งนั้นต่อจากนั้นเดี่ยวเทียนชวนก็เชื่อว่า เมี่ยวซีเหอคือคนที่ฆ่าพ่อแม่ของเขานับแต่วันนั้นเป็นต้นมาเขาก็เกลียดชังเมี่ยวซีเหอมาโดยตลอด”
“ฉันไม่ได้ไปที่นั่นนานแล้วที่เล่าไปก็เป็นทั้งหมดที่ฉันรู้”
จะพอรู้เรื่องราวภายในนั้นอยู่บ้างแต่เขาก็ไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เลย
“เล่าเรื่องเมี่ยวซีเหอให้เราฟังทีสิ”
“เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากตอนที่ฉันยังเรียนการรักษาอยู่กับอดีตผู้นําผู้นําเคยพูดกับฉันว่าเมี่ยวซีเหอคืออัจฉริยะของหุบเขาในรอบ 150 ปี”
“เขาเก่งกว่าคุณอีกเหรอ?”
“ใช่ เขาเก่งกว่าฉัน” หวูซานพยักหน้าเขาไม่ใช่คนที่ยอมก้มหัวให้ใครง่ายๆ ความจริงหลายสิบปีที่ผ่านมามีน้อยคนที่ได้รับการยอมรับจากเขาเขาสามารถนับได้ด้วยมือเดียวด้วยซ้ำและเดี่ยวซีเหอก็เป็นหนึ่งในนั้น
“คุณจะบอกว่า เขาอาจเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้ใช่ไหม?”
“ไม่ใช่ เขาไม่มีทางทําเรื่องแบบนั้นหรอก”หวูซานตอบไปตามที่คิด