บทที่ 11 แสดงทักษะ (2)
ในยามเช้า หลังจากที่พวกเขาทั้งคู่เดินผ่านถนนที่ถูกสาดส่องด้วยแสงจันทร์มาทั้งคืน พวกเขาก็ได้เจอเข้ากับไกด์อีกคน
เมื่อส่งมอบเหรียญทองให้กับไกด์เสร็จ ไกด์นั้นก็ได้นำทางพวกเขามายังสถานที่อีกแห่ง อย่างไรก็ตามสถานที่ที่พวกเขาเข้ามานั้นไม่ใช่บ่อน
“นี่พี่ชาย ไม่ใช่ว่าพวกท่านจะต้องจ่ายค่าชดใช้ให้กับเราหรอกเหรอ”
ทันใดนั้นเสียงที่ฟังดูบึ้งตึงก็ดังมาจากชายที่มีสีหน้าเคร่งขรึมที่ปรากฏตัวต่อหน้าลุคและฟิลิป พวกเขาทั้งหมดถืออาวุธที่ดูไม่ธรรมดาและด้านหลังของพวกเขาก็มีคนอีกสี่คนคอยยืนปิดทางไม่ให้ใครเข้าออก
“นี่พวกเจ้าเป็นพวกเดียวกับเด็กๆที่ข้าไปเล่นมาด้วยเมื่อวานเหรอ?”
ลุคถามชายวัยกลางคนที่มีแผลเป็นบนใบหน้าด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“หุๆ ครั้งก่อนเจ้าเล่นกับลูกน้องของข้าซะหมดท่าเลย มาตอนนี้ข้าก็เลยอยากจะให้เจ้าชดใช้มาสักหน่อย”
ชายวัยกลางคนนั้นมีนามว่า เฮคเตอร์ เขาคือ “เพชรสีคราม” แห่งกิลด์จอมโจร ในตอนแรกเขาตกใจมากเมื่อได้ข่าวว่ามีคนกล้าโกงในบ่อนของเขา
หลังจากที่เขาสามารถยืนยันตัวคนปล่อยข่าวได้แล้ว เขาก็ตัดสินใจมุ่งหน้ามาหามันทันที
“โกงเหรอ? เจ้าคงจะหมายถึงลูกน้องของเจ้าสินะที่พยายามจะโกงข้า”
“เรื่องนั้นมันไม่สำคัญแล้วไอ้หนู ประเด็นคือถ้าเจ้าคืนเงินที่เอาไปทั้งหมดมาให้ข้า ข้าก็จะปล่อยให้เจ้ามีชีวิตรอดต่อไป”
เห็นได้ชัดว่าลุคไม่มีความเกรงกลัวหรือความตั้งใจที่จะส่งมอบเงินให้กับพวกเขา
บ่อนของพวกเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยชื่อเสียงในแง่ร้ายและพวกเขาก็เข้าใจในข้อนี้เป็นอย่างดี ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นถึงขุนนางพวกเขาก็ควรที่จะเกรงกลัวต่อผลลัพธ์ที่จะตามมาทีหลัง เช่นเดียวกันกับกิลด์จอมโจร เนื่องจากพวกเขาต่างก็เป็นคนที่ใช้ชีวิตกับอาชญากรรมจนเป็นเรื่องปกติ
“มันคงจะดีกว่าถ้าเราเลือกจะฝังพวกเขาแทน”
ราวกับเขาตระหนักได้ถึงความคิดอันชั่วร้ายของเฮคเตอร์ ฟิลิปก้าวออกมาข้างหน้าของลุคเพื่อทำการปกป้องเขาในทันที
“นายน้อย เดี๋ยวข้าจะเป็นคนดูแลพวกเขาเอง ดังนั้นโปรดท่านรออยู่ข้างหลังของข้าซักครู่”
“เจ้าจะดูแลพวกเขาทั้งหมดเลยเหรอ?”
“ฮ่าๆ ถ้าข้าไม่สามารถจัดการกับเรื่องแบบนี้ได้ ข้าก็คงไม่มีหน้ามารับตำแหน่งอัศวินผู้พิทักษ์ของท่านหรอก” ฟิลิปยิ้มขณะที่ชักดาบที่อยู่ด้านหลังของเขาออกมา
“ฮ่าๆ นี่เจ้าเป็นอัศวินอย่างนั้นเหรอ? ข้าว่าดาบของเจ้าคงจะแทงทุท้องข้าไม่ได้ด้วยซ้ำ… อ้าก!”
ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องของเฮคเตอร์ก็ดังขึ้น และมีเสียงหัวเราะออกมาจากปากของฟิลิป
ดาบของฟิลิปเริ่มเปล่งออร่าสีแดงสดใสออกมา
“นี่มัน.. ผู้เชี่ยวชาญ”
อัศวินนั้นฝึกฝนมานาในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากพ่อมด พวกเขาสะสมมานาเพื่อเสริมสร้างพลังงานในร่างกาย และบางคนก็สามารถปลดปล่อยมันออกมาในรูปแบบของกายภาพได้หรือก็คือออร่า
และอัศวินที่สามารถปลดปล่อยออร่าได้ก็จะถูกเรียกว่า“ผู้เชี่ยวชาญ”
ผู้เชี่ยวชาญนั้นมีพละกำลังและมีความว่องไวที่เหนือกว่าคนทั่วไปหลายเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเสริมออร่าเข้ากับดาบ มันจะทำให้ดาบของพวกเขามีพลังมากพอจะตัดผ่านอิฐหรือแผ่นเหล็กหนาๆได้
ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญจึงจัดเป็นบุคลากรระดับสูงที่ไม่มีใครอยากต่อกรด้วย แต่ผู้เชี่ยวชาญคนนี้กลับปรากฏตัวในตรอกเปลี่ยวๆ
“บ้าเอ้ย มันเป็นอัศวินจริงๆ”
ในตอนแรกพวกเขาคิดว่า ทั้งสองคนคงจะเป็นขุนนางชั้นต่ำที่เพิ่งถูกปลดออกมา
ในขณะที่พวกโจรกำลังถอยกลับมาตั้งหลักอย่างประหม่า ฟิลิปก็ได้ตะโกนขึ้นมา
“ทำไมกัน? พวกเจ้าไม่อยากจะเล่นกับข้าแล้วงั้นเหรอ? แต่ข้ามีดาบที่สามารถแทงทะลุท้องพวกเจ้าได้เลยนะ พวกเข้าจะไม่สนใจมันหน่อยเหรอ?”
“เ*ยเอ้ย! นี่มันก็แค่ผู้เชี่ยวชาญ เล่นมันเลยพวกเรา!”
เมื่อเฮคเตอร์พูดเสร็จ เขาก็กระโจนเข้าหาฟิลิปขณะที่คนอื่นๆยังยืนลังเลอยู่ ถ้าพวกเขากลับไปที่กิลด์ในสภาพนี้ พวกเขาก็คงจะโดนต่อว่าเป็นแน่
และเมื่อลองคำนวณดีๆ เขาก็คิดว่าฟิลิปคงจะเป็นพวกผู้เชี่ยวชาญระดับล่างๆ ที่พึ่งจะก้าวเข้าสู่ขั้นผู้เชี่ยวชาญได้เมื่อไม่นานมานี้
เมื่อพวกโจรรู้สึกตัว พวกมันก็เริ่มกวัดแกว่งดาบและขวานของพวกมันขณะที่สบถออกมา
“อั้ก!”
“เจ้าไอ้สารเลว!”
“อ้ะ! ไอ้เ*ย!”
ฟิลิปเคลื่อนที่ไปรอบๆเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีที่เข้ามา นอกจากนั้นเขายังสามารถแทงและเฉือนพวกโจรทีละคน
“เ*ยเอ้ย! นี่มันไม่ใช่แค่เด็กแล้ว”
เทคนิคของฟิลิปนั้นเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบ มันไม่มีการเคลื่อนไหวใดเลยที่เปล่าประโบชน์ และเขายังรักษาความเสถียรของออร่าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญระดับต่ำตามที่เฮคเตอร์คิด
เฮคเตอร์ที่คิดว่าเขาไม่ใช่คู่มือของฟิลิป ก็เริ่มที่จะเปลี่ยนรูปแบบการโจมตี เขาพยายามที่จะไล่ต้อนฟิลิปเข้าไปยังมุมและพยายามจะจับลุคเอาไว้เป็นตัวประกันและขู่ว่า
“”ไอ้เด็กเวรนี่…”
ขณะที่เฮคเตอร์กำลังเคลื่อนไหว เขาก็อดไม่ได้ที่จะให้ความสนใจกับเหรียญทองที่กำลังบินมาหาเขา เมื่อเขามองไปยังเหรียญนั้น ทุกอย่างก็ยังไม่ได้จบลงแค่นั้น
ลุคไม่พลาดโอกาสของเขา เขาเริ่มเหวี่ยงถุงเงินที่หนังอึ้งเหมือนกับคทาเข้าใส่เฮคเตอร์
ปั้ก..
“แอ๊ะ..!”
เฮคเตอร์ที่โดนถุงเงินฟาดไปยังบริเวณหัว ก็โยกหัวเด้งไปมาเหมือนกับกบ
“นี่ข้าดูกระจอกขนาดนั้นรึยังไง?”
แม้ว่าร่างกายของเขาจะเป็นแค่เด็กวัยรุ่นธรรมดา แต่จิตวิญญาณและสติปัญญาของเขาก็เป็นของพ่อมดเซย์ม่อน ซึ่งมีอายุมากกว่า 40 ปี
ในอดีตเขาได้เคยเห็นถึงความขมขื่นของโลกที่ไร้หัวใจมาแล้ว ดังนั้นสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในตรอกนี้จึงเป็นอะไรที่ง่ายมากสำหรับเขาในการจัดการ
“เจ้า เจ้ารู้ไหมว่าข้าเป.. อ้าก!”
ลุคเหยียบไปยังนิ้วมือของเฮคเตอร์ และเริ่มลงน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆ และแทนที่เขาจะเหยียบคาอยู่ที่มือเฉยๆ เขาก็เริ่มเปลี่ยนมาเหยียบย่ำไปยังส่วนต่างๆของเฮคเตอร์และทำให้เขาต้องกู่ร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
ในความเป็นจริงแล้ว การศึกษาโครงสร้างร่างกายของมนุษย์นั้นเป็นอะไรที่ซับซ้อนมากกว่าการศึกษาเวทมนตร์ แม้แต่ลุคก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ปั้กๆ.. ตุบ.
“อ้า..ฮือ . โปรดเมตตา อัก… ได้โปรด..”
เฮคเอตร์ที่ต้องเผชิญกับความเจ็บปวดที่ไม่มีท่าทีจะสิ้นสุด เริ่มกรีดร้องและขอร้องอย่างน่าสมเพช
“เ*ยเอ้ย! นี่มันเป็นวิธีการทรมานบที่โครตโหดร้ายเลย”
เมื่อเห็นลุคเหยียบย่ำไปยังจุดต่างๆของเฮคเตอร์ ฟิลิปก็เริ่มรู้สึกขนลุกขึ้นมา เขารู้ว่าลุคนั้นได้เรียนการป้องกันตัวมาบ้างจากโรเจอร์ส แต่เขาไม่รู้เลยว่าลุคจะสามารถลงมือได้อย่างโหดเหี้ยมและป่าเถื่อนเช่นนี้
“ว้าว เจ้าดูดีจริงๆ” ลุคเอ่ยชมเมื่อมองไปยังสีหน้าของเฮคเตอร์ที่กำลังร้องคร่ำครวญ
หลังจากเขาออกกำลังกายเรียกเหงื่อในครั้งนี้เสร็จ ความเครียดที่ถูกสั่งสมมานานก็ดูเหมือนจะถูกปลดปล่อยออกมา
“ตอนนี้เจ้ามีแผนจะทำอะไรอีกละ?”
เขาเล่นกับเฮคเตอร์อยู่เป็นเวลานาน ก่อนที่จะไปเก็บเหรียญทองที่เขาโยนไปขึ้นมา ลุคที่รู้ว่าฟิลิปกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่ เขาจึงไม่ได้พูดอะไรกับฟิลิปมาก
“บ่อนไม่ใช่สถานที่ที่เราจะไปได้อีกแล้ว”
เขาไม่รู้ว่าจะหารายได้จากที่ไหนอีก 20,000 เปโซที่เหลือ และทุกครั้งที่เขาคิดเกี่ยวกับจำนวนเงินที่มหาศาลนี้มันก็มักจะทำให้เขารู้สึกรำคาญอยู่ทุกครั้งไป
และแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ถือเงินก้อนโตอะไรมาก แต่การที่ชายหนุ่มสองคนถือเงินจำนวนมากเอาไว้ขณะเดินบนถนน มันก็ย่อมไม่แปลกที่จะทำให้พวกเขาตกไปเป็นเป้าหมายของโจรกลุ่มต่างๆ
“ดังนั้นฉันควรจะหาวิธีการหาเงินที่ถูกกฎหมายถึงจะดีที่สุด”
ลุคเดินออกไปจากตรอกและเอ่ยถามฟิลิป
“เมืองแห่งนี้มีสนามแข่งรถหรือสนามประลองหรือไม่?”
“ข้าไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับสนามแข่งรถมากนัก แต่ข้าพอรู้เกี่ยวกับสนามประลองอยู่บ้าง.. ใช่แล้ว สนามประลองกิกันท์!”
มันอาจจะเป็นสถานที่ที่มีการวางเดิมพันเป็นกิกันท์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาจะสามารถเดิมพันเป็นเงินได้หรือไม่
เมื่อเห็นสีหน้าครุ่นคิดของลุค ฟิลิปก็พยักหน้าพลางกล่าว
“แน่นอนว่าเราสามารถเดิมพันเป็นเงินได้ แต่การเดิมพันนั้นต้องใช้เงินจำนวนมากและสามารถที่จะเสียไปได้อย่างง่ายดาย”
“ถ้าอย่างนั้นมันก็หมายความว่าจะสามารถได้กลับมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน เอาละไปที่สนามประลองกิกันท์กันเถอะ”
“ข้าเกรงว่าวันนี้การประลองจะเริ่มไปแล้ว เราควรจะกลับไปนอนพักเอาแรงและไปใหม่ในวันพรุ่งนี้จะดีกว่า”
“เอาตามนั้น”
ลุคเองก็เหนื่อยมากเช่นกัน เพราะทั้งการพนันและงานต่างๆที่เขาต้องจัดการในแต่ละวัน ระหว่างทางไปยังโรงเตี้ยมลุคก็ได้เหลือบไปมองอัศวินข้างกายของเขาที่กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
เขาเข้าใจมาตลอดว่าฟิลิปนั้นเป็นคนที่ไม่ค่อยจะเก่งทั้งในด้านของการพูดและการกระทำ แต่ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าฟิลิปเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญ และน่าจะอยู่ในระดับกลางเป็นอย่างต่ำ
ลุคตัดสินพลังของฟิลิบจากเหล่าอัศวินที่เคยทำงานอยู่ข้างเขาในสมัยก่อน
“เป็นอะไรที่น่าประทับใจจริงๆ ที่เขาสามารถมาถึงขั้นนี้ได้ตั้งแต่อายุยังน้อย”
เนื่องจากรากันต์นั้นเป็นอัจฉริยะด้านการฟันดาบและเกิดมาพร้อมกับร่างกายที่แข็งแกร่งดุจดั่งสัตว์ประหลาด มันจึงไม่ได้ยากอะไรสำหรับเขาที่จะเข้าสู่ขั้นผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ยังเยาว์วัย แต่กลับกัน หากเป็นอัศวินธรรมดาพวกเขาอาจจะให้เวลาเกือบทั้งชีวิตเพื่อพัฒนาให้ถึงขั้นผู้เชี่ยวชาญ
เมื่อ 500 ปีก่อน มันมีผู้เชี่ยวชาญขั้นกลางน้อยกว่า 100 คนที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรลิเบียย่า
“มังกรจะยังคงเป็นมังกรแม้มันจะเหลือแต่ซากก็ตาม”
แม้ว่าเชื้อสายของรากันต์จะลดจำนวนลงเรื่อยๆ และลุคก็มั่นใจว่าความรุ่งโรจน์และความสามารถในอดีตของตระกูลนี้คงจะสูญหายไปแล้วก็ตาม แต่เมื่อเขามองไปยังฟิลิป…
“หึๆ เขาอาจจะเป็นประโยชน์กับข้าในภายหลังก็เป็นได้”
แม้ว่าจะยังไม่มีแผนที่ชัดเจนแต่เขาก็คิดว่าการจะล้างแค้นตระกูลบาล็อคจะสามารถทำได้ง่ายขึ้นเมื่อเขามีกองกำลังของตระกูลรากันต์คอยหนุนหลังอยู่
และเมื่อนึกถึงตระกูลรากันต์เรื่องที่ไม่ค่อยดีก็เริ่มไหลเข้ามาในหัวของเขา
“ก่อนหน้านั้น ข้าคงจะต้องจ่ายหนี้สินให้หมดก่อนสินะ”
หลังจากเข้าพักในโรงเตี้ยมเรียบร้อยแล้ว พวกเขาทั้งสองก็เริ่มพักผ่อนและรอจนถึงรุ่งเช้าของอีกวัน เพื่อที่พวกเขาจะได้ไปทำการเสี่ยงโชคที่ต้องการ…
Emperor of Steel-กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล – ตอนที่ 11 แสดงทักษะ (2)
Posted by ? Views, Released on October 22, 2021
, Emperor of Steel
กำเนิดใหม่จักรพรรดิเหล็กไหล เซย์ม่อน
เขาคือชายผู้ซึ่งอยู่บนจุดสูงสุดของของศาสตร์มนต์ดำ
เขาคือชายผู้ถูกขนานนามว่าปราชญ์แห่งความมืด
เขาคือชายผู้ถูกตีตราว่าเป็นราชาปีศาจ
สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้ผู้คนต่างพากันหวาดกลัวเขา และทำให้เขาถูกสังหารลงโดยจักรพรรดิดาบในที่สุด
“ไม่ ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้มันจบลงแบบนี้!”
ในที่สุดแล้ว ด้วยความปรารถณาอันแรงกล้าที่อยากจะมีชีวิตต่อของเขา มันได้ทำให้เขากลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง
แต่โชคชะตาและความจริงนั้นโหดร้าย เขากลับมาเกิดใหม่หลังจากเวลาได้ล่วงเลยไปแล้วกว่า 500 ปี.. ชีวิตในครั้งนี้ของเขาจักถือกำเนิดใหม่ในฐานะผู้สืบทอดของศัตรูคู่แค้นของเขา จักรพรรดิดาบ
Recommended Series
Comment
Facebook Comment