ในขณะนี้โลกอารยธรรมแห่งการบ่มเพาะพลังได้รับการดําเนินการเสียสละครั้งใหญ่
ทุกคนที่ได้รับการเสียสละได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างมากพวกเขาส่งเสริมขอบเขตการบ่มเพาะพลังอย่างรวดเร็ว
แม้แต่เยาวชนสวรรค์เองก็เริ่มมีกลิ่นอายคล้ายคลึงกับพระเจ้า
กลิ่นอายพลังงานลึกลับของจักรวาลได้สั่นคลอนรอบๆพื้นที่เหล่านี้
พลังงานปฐมโกลาหลขนาดใหญ่ได้มาหลอมรวมกัน
การบ่มเพาะพลังของแต่ละคนเองก็ได้รับการส่งเสริม
พวกเขาได้รับการช่วยเหลือจากมิติแห่งไฟรวมถึงพลังงานปฐมโกลาหลที่ช่วยเกื้อหนุนและเปลี่ยนแปลงได้หลายรูปแบบ
“โลกมิติไฟ โลกมิติแห่งการริเริ่มและการเริ่มต้นของอารยธรรมทุกสรรพสิ่งมันคือโลกแห่งความจริง” เสียงของเยาวชนสวรรค์ราวกับกัมปนาตที่รุนแรง
มันส่งเสียงซ้ำแล้วซ้ำเล่าเต็มไปทั่วพื้นที่
หลายคนผลันเข้าใจสิ่งเหล่านี้
พลังงานสวรรค์มากมายโอบล้อมพื้นที่อย่างรุนแรง
“ความประสงค์ของข้าภายใต้พื้นที่เหล่านี้ก็คือการควบคุมพลังงานโบราณ”เยาวชนสวรรค์กล่าว
ในเวลานี้เสียงของเยาวชนดังก้องอีกครั้ง
“โลกอารยธรรมแห่งการบ่มเพาะพลังจําเป็นต้องเปลี่ยนชื่อเป็นโลก,
“เปลี่ยนชื่อเป็น โลก”
“เปลี่ยนชื่อเป็น โลก…”
โลกอารยธรรมแห่งการบ่มเพาะพลังได้สร้างชื่อที่สามารถสานสัมพันธุ์มนุษยชาติออกมาได้
ทันใดนั้นโชคชะตาของโลกก็ส่งเสริมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
การเปลี่ยนแปลงชื่อของโลกนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงเพียงแค่บางส่วนแต่มันนํามาซึ่งอิทธิพลขนาดใหญ่
โลกอารยธรรมแห่งการบ่มเพาะพลังเป็นเพียงแค่ชื่อที่ธรรมดาเพียงเท่านั้นแต่ชื่อ โลกนั้น ให้วงจรที่ตีแผ่ขยายออกไปไร้พรมแดนมันปกคลุมไว้ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มก้อนของผู้คนที่มาหลอมรวมกัน
ในโลกอารยธรรมโบราณนั้นโลกนั้นถูก บรรพชน หวาง จ้าว ช่วยเอาไว้ ทั้งๆที่ หวาง จ้าว สามารถกลายเป็นจักรพรรดิ์ของโลกได้แต่เขากลับไม่คิดจะทําเช่นนั้นแต่กลับประกาศออกไปว่าเป็นผู้ปกป้องสันติภาพของโลก
บางครั้งความเอาแน่เอาแนวของวีรบุรุษเหล่านี้ก็ยากจะหยั่งถึงความคิดของผู้คนนั้นล้วนแตกต่างกัน
มันคือโชคชะตาและวาสนาที่ถูกลิตมา
ตอนนี้โลกอารยธรรมแห่งการบ่มเพาะพลังได้ฆ่าต้นแบบผู้เชี่ยวชาญของวิหารอมตะหลังจากนั้นก็ดําเนินการสังเวยเพื่อส่งเสริมขอบเขตเจตจํานงค์สวรรค์
ตอนนี้ตรรกะของโลกได้เปลี่ยนไปแล้วมันคือรูปแบบพลังงานขนาดใหญ่
เพียงแค่ชื่อก็สามารถสร้างกําลังใจนึกเอ็มได้
นี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดเดาได้
ในหัวใจมนุษย์ทุกคนนั้นเข้าใจในแต่ละความหมายที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ใครจะเติมเต็มช่องว่างเหล่านั้น
เผ่าพันธุ์มนุษยชาติได้หลอมรวมกับชนเผ่าพื้นเมืองและกลายเป็นอารยธรรมขนาดใหญ่ที่อยู่ร่วมกัน
ตอนนี้ระบบการปกครองได้เข้าสู่ยุคใหม่
ต้นแบบผู้เชี่ยวชาญจํานวนมากได้ปรองดองกัน
นี่เป็นสาเหตุทําให้โชคชะตาของโลกได้แข็งแกร่งมากขึ้น
ทั้งนี้โลกยังได้ขายทรัพยากรขนาดใหญ่อย่างเรือรบเพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากรจํานวนมากเหล่านั้นมาเพื่อส่งเสริมโลกให้แข็งแกร่งขึ้น
เป็นธรรมชาติว่านี่คือธุรกิจ
มันคือเรื่องที่รัฐบาลเผ่าพันธุ์มนุษยชาตินั้นได้ให้การยอมรับ
ธรรมชาติเผ่าพันธุ์มนุษยชาติในมือของ ซื่อ หยวน นั้น มั่นคงเป็นอย่างมาก แม้ว่าหลายปีต่อมาเธอจะลงจากตําแหน่งเธอก็ยังคงซึ่งอิทธิพลที่รุนแรง
อํานาจของเธอจะยังไม่หมดไป
ธรรมชาติการส่งเสริมของโลกเองก็จําเป็นจะต้องใช้เวลาหลายปีนับประสาอะไรกับตําแหน่งประธานาธิบดีที่ต้องได้รับการส่งเสริมและโยกย้ายปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ประธานาธิบดีนั้นหากมีกิจสําคัญสามารถดําเนินตําแหน่งควบ 2 ครั้งได้ทั้งยังไม่ต้องรอให้วิกฤษของมนุษยชาติเกิดขึ้นอีกครั้ง
ปัจจุบันปีนี้รัฐบาลการส่งเสริมโลกแห่งนี้มีเสถียรภาพที่ดี
ดังนั้นภายใต้การปกครองของ ซื่อ หยวน โลกได้เข้าสู่สภาวะการส่งเสริมอย่างรุนแรงพร้อมกับนํามาซึ่งโชคชะตาขนาดใหญ่
สําหรับ เจียง หลี่ แล้ว ตําแหน่งประธานาธิบดีสําหรับเขาก็เป็นเพียงตัวที่คอยบดบังโชคชะตาของเขาในอนาคต
เขาจําเป็นจะต้องเพิ่มโชคชะตาของเขาในการฝ่าวิกฤติเหล่านี้
หลายวันก่อนหน้านี้จํานวนเงินออมของเขาได้เพิ่มมากขึ้น
เจียง หลี่ ได้บ่มเพาะพลังอยู่ในดินแดนวิหารอมตะอย่างต่อเนื่องพร้อมกับการได้รับการส่งเสริมจากเจตจํานงค์สวรรค์โลกอารยธรรมแห่งการบ่มเพาะพลัง
เป็นธรรมชาติที่เขาจะรับรู้ถึงมันได้
ตอนนี้โลกอารยธรรมแห่งการบ่มเพาะพลังได้พัฒนาแน่นอนว่ามันได้ส่งผลต่อร่างกายของ เจียง หลี่ ด้วย
อันที่จริงตอนนี้รูปแบบไร้ขอบเขตของเขาเองก็พัฒนาเช่นเดียวกัน
นอกจากการบ่มเพาะพลังของเขาแล้วความเข้าใจด้านแก่นวิถีของโลกดาวเคราะห์ฟ้านับหมื่นก็เพิ่มมากขึ้น
รูปแบบโชคชะตาของเขามันเริ่มส่งเสริมมากพอจะทําให้เขาสร้างเส้นทางแห่งราชันย์รูปแบบขึ้นมา
ตอนนี้กองกําลังพิเศษ เจียง หลี่ ได้นั่งอยู่ในถ้ําอมตะของตัวเอง
เขาพยายามจะสร้างกฏธรรมชาติที่ 10 ที่มีการริเริ่มจากเปลวเพลิงจิตวิญญาณเขาค่อยๆสํารวจพร้อมกับหาเส้นทางที่เขาจะต้องเลือกเดิน
“ในโลกนี้บั้นปลายชีวิตไม่ใช่ที่สิ้นสุดโชคชะตานั้นสามารถนําพาให้ก้าวเดินไปได้เสมอฉันจะต้องหากฎธรรมชาติที่เข้ากับรูปแบบไร้ขอบเขตของฉัน”เจียง หลี่ ครุ่นคิดอย่างลําบาก
เขาต้องการเรียนรู้การบ่มเพาะพลังให้ลึกซึ้งกว่านี้
“9กฏธรรมชาติ หรืออาจเรียกได้ว่ารูปแบบทั้ง 9 การพัฒนาขอบเขตของมันนั้นยากเป็นอย่างมากยิ่งไปกว่านั้นฉันจําเป็นจะต้องส่งเสริม 9 กฎธรรมชาติเหล่านี้ด้วยเช่นเดียวกันเพราะมันคือขอบเขตที่ไร้ขีดจํากัด”เจียง หลี่ กล่าวออกมา
“กฏธรรมชาติที่ 10 ของฉัน คือข้อจํากัดในตอนนี้ ฉันจะต้องพัฒนาขอบเขตที่ไม่มีสิ้นสุดของฉันให้เข้าสู่ขั้นที่เรียกว่าการบดทําลาย เป้าหมายก็คืออํานาจพลังอันไร้ขอบเขต
เจียง หลี่ พึมพัม
“9 อย่าง,9กฎธรรมชาติ กฎธรรมชาติแห่งการเกิดใหม่แต่ไม่ใช่การเกิดใหม่แห่งนิจนิรันดร์,มันคือข้อจํากัดซึ่งข้อจํากัดเหล่านี้เองก็แบ่งออกเป็นหลายระดับเช่นเดียวกัน”