บทที่ 1044 จะยุ่งให้ได้
แม้ว่าฉินซึ่งเทียนจะใช้อินเตอร์คอมอยู่ แต่ซุนจึ้นก็ขับรถตามหลังรถของฉินซีตามคำขอของเขาแล้ว
เมื่อรู้ว่ารอบๆเป็นคนของตัวเองหมด ฉินซึ่งเทียนจึงลงจากรถโดยไม่ต้องกังวลและยืนอยู่ข้างรถ
เขาถืออินเตอร์คอมไว้ในมือ จ้องมองรถของฉินซีอย่างตั้งใจ กลัวว่าจะพลาดทุกการเคลื่อนไหวของเธอ
แต่ประตูรถไม่ได้เปิดอย่างที่เขาคิดไว้
เขาขมวดคิ้วและกำลังจะเปิดอินเตอร์คอมพูดกับฉินซีอีกครั้ง เธอถูกล้อมรอบอย่างแน่นหนาแล้ว ไม่มีทางจะหนีไปได้ แต่พบว่ารถของฉินซีกำลังเคลื่อนอย่างช้าๆอีกครั้ง
เขาโกรธขึ้นมาทันที และพูดผ่านอินเตอร์คอมว่า”ฉินซี ไม่ต้องต่อต้านอีก ทุกทางออกที่อยู่รอบๆคุณก็มีคนเฝ้าอยู่ อย่าคิดว่าจะหนีไปได้ ทางเลือกของคุณมีแค่ทางเดียว”
แต่เขายังพูดไม่จบ หูเขาก็ได้ยินว่า”โอ้ แต่ฉันไม่ได้คิดแบบนั้น”
…
“คุณทำอะไร”ฉินซีบีบคำเหล่านี้ในขณะที่พยายามแย่งพวงมาลัยกับพี่หลิว
มีคำถามมากมายในสมองของเธอ พี่หลิวตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ เขาได้ยินที่อินเตอร์คอมพูดมากแค่ไหน แล้วทำไมเขาถึงอยากจะแย่งพวงมาลัย
แต่ในขณะนี้สีหน้าพี่หลิวน่ากลัวมาก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดจะตอบคำถามของฉินซี
เขากัดฟัน ราวกับว่าพวงมาลัยเป็นสมบัติในอ้อมแขนของฉินซี เขาต้องแย่งมาให้ได้
“คุณปล่อยมือ”แม้ว่าพี่หลิวจะผอมไปหน่อย แต่ยังไงเขาก็เป็นผู้ชายอยู่ดี แย่งกันแบบนี้ไม่ยอมปล่อย ฉินซีเริ่มไม่ไหวแล้ว
ทั้งสองกำลังต่อสู้กันในที่นั่งแคบ และไม่มีใครสังเกตว่ารถกำลังค่อยๆเลื่อนไป
“ปล่อยพวงมาลัย … ให้ฉัน” เสียงของพี่หลิวแหบมาก เขาถอดความอ่อนโยนที่ปลอมบนใบหน้าออก ดวงตาของเขาแดงขึ้นมา
ฉินซีมองก็รู้แล้ว ที่พี่ชายบอกว่าทิ้งเขาผ่านอินเตอร์คอมในเมื่อกี้นี้ เขาได้ยินหมดแล้ว
แต่ได้ยินแล้ว มันเกี่ยวอะไรกับการแย่งพวงมาลัยละ
“รอบๆเรามีแต่คนของเขา คุณจะจับรถทำไมละ”ฉินซีงงงวย
พี่หลิวหันมามองเธอ”คนที่อยู่รอบๆ เป็นคนตระกูลฉินใช่ไหม ถ้าคุณจะลงไปแบบนี้ งั้นพี่ๆน้องๆของฉันจะมีประโยชน์อะไรอีกละ”
ฉินซีพูดไม่ออกไปสักพัก
ที่แท้พี่หลิว… เป็นผู้ที่มีน้ำใจเหรอ
ป่านนี้แล้วยังคิดถึงพี่ๆน้องๆอีก
“ฉันขับรถส่งคุณไป ถ้าแบบนั้นพวกเรายังพอได้รับผลบ้าง”พี่หลิวกัดฟัน “ยังไงคุณก็ต้องไปที่นั่นอยู่แล้ว ให้ฉันขับรถส่งไปหรือคุณจะเดินไปเอง มันต่างกันที่ไหนละ”
ฉินซีหยุดชั่วคราว
สิ่งที่พี่หลิวพูดก็มีเหตุมีผล แต่ … เธอมักจะรู้สึกแปลกใจ
แต่ความลังเลชั่วขณะของเธอก็เพียงพอแล้ว พี่หลิวคว้าพวงมาลัยแล้วเลี้ยวไปทางซ้ายกะทันหัน
ฉินซีเบิกตากว้าง
ไม่ใช่ พี่หลิวไม่คิดจะส่งเธอไปนู้นสักหน่อย
เขารู้สึกหมดหวังกับพี่น้องเหล่านี้ของเขาอยู่แล้ว โดยรู้ว่าแม้เขาจะกลับไปก็ไม่ได้รับผลดีอะไรแน่นอน ก็เลยลากเธอตายด้วยกัน
ฉินซีกระเด้งออกจากที่นั่ง สองมือขยับอย่างรุนแรง พยายามลากพวงมาลัยกลับไปตามทาง
แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
รถกำลังลงเนินอยู่แล้ว เมื่อพี่หลิวขยับพวงมาลัยแบบนี้ รถก็เอียงไปข้างเดียวอย่างควบคุมไม่ได้
ถนนรองรับรถได้เพียง 1 คัน เมื่อพวงมาลัยถูกขยับแบบนี้ รถก็ขับตรงไปที่ข้างทาง
——แต่ข้างทางไม่มีการป้องกัน นี่เป็นสถานที่ก่อสร้างที่เต็มไปด้วยเหล็กเส้น
ฉินซีคำรามในใจแค่แป๊บเดียว ล้อหน้าของรถก็หยุดอยู่กลางอากาศแล้ว
…
ฉินซึ่งเทียนไม่อยากจะเชื่อ และค่อยๆหันศีรษะไป
คนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นลู่เซิ่นที่ควรจะอยู่ไกลที่หนานเฉิง
ที่ฉินซึ่งเทียนเลือกที่จะลงมือในตอนนี้ ก็เพราะได้ตรวจสอบมาว่าลู่เซิ่นไม่ได้อยู่เมืองนี้
แม้ว่าฉินซีและลู่เซิ่นจะหย่าร้างกันแล้ว แต่เขาเคยเห็นกับตาว่าลู่เซิ่นปกป้องฉินซีแค่ไหน เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่กล้าเสี่ยงที่จะลงมือไต้สายตาของลู่เซิ่น
แต่ … จู่ๆเขาจะโผล่มาที่นี่ได้ยังไง
สายตาของฉินซึ่งเทียนมีความตื่นตระหนกเบาๆ
แต่คนอย่างเขา ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองแสดงความกลัวออกมาได้อย่างแน่นอน เขาจึงยืนตรงและฝืนยิ้ม”ลู่เซิ่น คุณมาที่นี่ได้ยังไง”
แต่ลู่เซิ่นขัดจังหวะเขาโดยตรง”ฉันควรถามคุณมากกว่า ฉินซึ่งเทียน ตามข้อกำหนดของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของจีน คุณควรอยู่บ้านและรอการสอบถามไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงวิ่งออกไปเองล่ะ”
อยู่ดีๆก็พูดถึงคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีนขึ้นมา จงใจจะทำให้ฉินซึ่งเทียนไม่สบายใจ อย่างที่คิดไว้ไม่ผิดจริงๆ สีหน้าของเขาไม่ดีทันที”เรื่องนี้ ไม่ต้องรบกวนคุณนะ”
ลู่เซิ่นยิ้มจางๆ”แต่เรื่องนี้ ฉันจะติดตามอยู่แล้ว”
เขาชี้ไปที่รถของฉินซีที่อยู่ในระยะไกล
“คุณว่า ฉันควรแจ้งความว่าคุณคุมขังอย่างผิดกฎหมาย หรือว่าถูกสงสัยว่าลักพาตัวไม่สำเร็จดี”น้ำเสียงของลู่เซ่นเบาๆ แต่ฉินซึ่งเทียนได้ยินแล้วขนลุกที่หลังทันที
เขายังอยู่ในช่วงการสอบสวนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ ถ้าลู่เซิ่นแจ้งความจริงๆ เขาเข้าคุก มันก็จะมีปัญหาไม่สิ้นไม่จบแน่นอน
ฉินซึ่งเทียนรู้สึกมีความกลัวเบาๆ ละยิ้มให้ลู่เซิ่น”คุณพูดอะไรของคุณ ฉันแค่อยากจะสั่งสอนลูกสาวของฉันเอง”
“โอ้”ลู่เซิ่นเลิกคิ้ว”แต่มันไม่มีประโยชน์ที่คุณจะบอกฉันหรอก รอคุยกับตำรวจดีกว่า”
เมื่อเขาพูดจบ ก็ยืนตรงและเดินไปทางฉินซีโดยตรง
อุบัติเหตุเกิดขึ้นอย่างกะทันหันในเวลานี้
รถฉินซีเลี้ยวไป90องศาและขับตรงไปยังสถานที่ก่อสร้างด้านหนึ่ง
รูม่านตาของลู่เซิ่นบิดแน่น
การเคลื่อนไหวของรถดูเหมือนจะเคลื่อนไหวช้าในสายตาของเขา
ล้อหน้าด้านซ้ายหยุดอยู่กลางอากาศ และล้อหน้าด้านขวาก็ขับออกไป รถทั้งคันถูกแขวนไว้ที่ข้างถนน ตามการขยับของรถ ค่อยๆไปข้างหน้า
ฐานรากที่สร้างเสร็จนั้นต่ำกว่าถนนประมาณสองเมตร และมีเหล็กเส้นอยู่จำนวนมากด้วย
หากรถตกลงไปโดยตรง ถึงจะไม่ถูกรถทับจน คนอาจถูกเหล็กเส้นเจาะแท้งก็ได้
ลู่เซิ่นไม่ค่อยอารมณ์รุนแรงแบบนี้ แต่คราวนี้เขาหันหน้าไปโดยตรง และตะโกนไปในทิศทางที่เขาเดินมา”รีบไปช่วย”
…
ฉินซีรู้ว่าส่วนหน้าของรถถูกหยุดอยู่กลางอากาศแล้ว
ถ้าไปหน้าอีกนิดเดียว รถอาจเสียจุดศูนย์ถ่วงและกลิ้งไปยังสถานที่ก่อสร้างได้
– คนอาจจะถูกเหล็กเส้นแท้งจนตาย
เธอก็เลยไม่กล้าขยับอย่างแรง เพราะกลัวจะเสียการทรงตัวของรถ
แต่พี่หลิวคิดแต่จะตาย เขาจึงดิ้นไปดิ้นมาในรถโดยไม่สนใจอะไรเลย แถมยังอยากจะยืดขาไปเหยียบคันเร่งด้วยซ้ำ
ฉินซีเหงื่อเย็นออกเต็มเลย รีบไปปกป้องอย่างรวดเร็ว
เธอยื่นมือออกไปอยากตบพี่หลิวแต่ครั้งนี้พี่หลิวเตรียมพร้อมแล้ว หลบออกไปข้างๆ และหนีมือของฉินซีได้
“อย่าคิดว่าฉันจะโดนวิธีเดิมสองครั้ง”พี่หลิว กล่าวอย่างเสียงแหบ
ฉินซีไม่ตอบ
ทันใดนั้น เธอเหมือนจะได้ยินเสียงของลู่เซิ่น
แต่ลู่เซิ่นไม่มีทางอยู่ที่นี่…