flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1046 ให้ใครๆก็รู้

บทที่ 1046 ให้ใครๆก็รู้

ในช่วงเวลานี้ ฉินซีก็สังเกตว่าเหมือนมีปัญหาบางอย่างในตัวเธอจริงๆ

ไม่เคยมีใครสอนให้เธอใช้มีดเพื่อป้องกันตัว แต่เธอใช้มันได้ดีมาก ได้ยินชื่อที่คุ้นหู แต่ยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยเจอกันตอนไหน อีกอย่างตอนนั้นที่หาข้อมูลที่บ้านอานหยัน ทั้งๆที่เธอไม่เคยทำมาก่อน แต่ฝีมือของเธอดีมาก … พูดได้เลยว่ามันเก่งเหลือเกิน

ทุกอย่างเป็นเพราะเธอสูญเสียความทรงจำบางส่วนไปหรือเปล่า

เมื่อเห็นสายตาที่สับสนของฉินซี ลู่เซิ่นรู้สึกเจ็บปวดใจ แต่ก็ยังพูดต่อว่า”ฉินซี เมื่อที่คุณเห็นคนนั้นเลือดไหลออกมา รู้สึกยังไง

ฉินซีเงยหน้าขึ้นมองอย่างแรง ราวกับว่าได้รับผลกระทบจากอะไรบางอย่าง

เลือด……

ทุกอย่างเกิดขึ้นในกี่ชั่วโมงที่ผ่านมาถูกนึกซ้ำในสมองของเธอ

เธอรีบเปิดประตูและกระโดดลงจากรถ รถคันนั้นก็ตกลงไปในไซต์ก่อสร้าง เลือด เลือดเต็มไปหมดเลย

ไหลออกจากรถ มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นในหูของเธอ เวียนหัวมาก มันเหมือนกับ เหมือนกับ..

ฉินซีขมวดคิ้วอย่างเจ็บปวด จะยกมือขึ้นกอดศีรษะของเขาโดยไม่สนใจว่ามือขวายังมีน้ำเกลืออยู่

ลู่เซิ่นก้าวหน้าไปก่อน เอื้อมมือไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา

“หมอบอกว่า คุณมีโรคเครียดหลังบาดแผล”ลู่เซิ่นพูดเบาๆ”ที่คุณเป็นลม ไม่ใช่แค่เพราะอีเธอร์ไม่ถูกเผาผลาญ แต่ยังเป็นเพราะโรคเครียดหลังบาดแผลด้วย”

ฉินซีขมวดคิ้วเล็กน้อย และยกหัวขึ้นจากอ้อมแขน”โรคเครียดหลังบาดแผลเหรอ

ลู่เซิ่นพยักหน้าเบาๆ”คุณเคย … ถูกกระตุ้นโดยเหตุการณ์ที่คล้ายกันมาก่อน ดังนั้นเมื่อคุณได้เจออีกครั้ง จะทำให้เกิดอาการต่างๆ”

ฉินซียังคงสับสนเบาๆ”แต่…ทำไมคุณถึงถามฉันว่า ฉันคิดว่าความทรงจำของฉันสมบูรณ์หรือเปล่า ฉันจะสูญเสียความทรงจำไปบางส่วนเพราะโรคเครียดหลังบาดแผลเหรอ”

ลู่เซิ่นส่ายหัว น้ำเสียงของเขาไม่ค่อยแน่ใจมาก”ตอนที่คุณมาถึงนี่ยังหมดสติอยู่ หมอแค่ทำการวินิจฉัยและตรวจรง่ายๆตามคำอธิบายของฉัน และสแกนCTสมองให้คุณ ทำนายว่าคุณสูญเสียความทรงจำไปบ้าง รายละเอียดการวินิจฉัยต้องรอคุณตื่นก่อนค่อยดำเนินการต่อไปได้”

ฉินซีพยักหน้าอย่างหนักใจ

“เอาล่ะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องนี้เลย รอให้พรุ่งนี้คุณพักผ่อนให้เต็มที่ก่อน จะไปนัดหมอที่เก่งที่สุดตรวจให้” ลู่เซิ่นกล่าวว่า”ไม่ได้กินมาทั้งวันแล้ว หิวหรือเปล่า แม่บ้านทำโจ๊กให้คุณแล้ว คุณตื่นขึ้นจะได้กินเลย ลงท้องก่อนนะ”

จริงๆแล้วฉินซีไม่มีความอยากอาหารเลย แต่เมื่อเห็นความเป็นห่วงของลู่เซิ่น สุดท้ายก็ยอมอย่างลังเล

ลู่เซิ่นลุกขึ้นไปหยิบกระติก ฉินซีมองไปรอบๆและพบว่าไม่มีคนรับใช้ในวอร์ดสักคนเลย

“หมอบอกว่าคุณต้องพักผ่อนให้ดีๆ เพราะฉะนั้นฉันให้คนรับใช้กลับไปก่อน”เมื่อมองออกความสงสัยของฉินซี ลู่เซิ่นเลยพูดว่า”คุณกินอะไรก่อน กินเสร็จก็นอนพักผ่อน ฉันจะ”

ฉินซีเงียบ

หลังจากที่ลู่เซิ่นเปิดกระติกน้ำร้อน ฉินซีก็ชนักถึงอะไรบางอย่าง-

ทั้งมือซ้ายและขวาของเธอไม่ว่าง ตักกินไม่ได้

แต่เหมือนว่าลู่เซิ่นจะเตรียมพร้อมไว้แล้ว เอื้อมมือไปบีบช้อนในมือของตัวเอง”มา ฉันป้อนคุณ”

ฉินซีหน้าแดงทันที กำลังจะปฏิเสธ แต่ลู่เซิ่นไม่ให้ปฏิเสธ และยื่นช้อนออกมาต่อหน้าฉินซี

ฉินซีรู้สึกอาย

ตั้งแต่เธอจำเรื่องได้ มีคนที่น้อยมากจะป้อนเธอแบบนี้ แม้แต่เหยาหมิ่นก็ไม่เคยทำกับเธอแบบนี้เลย

แต่สายตาของลู่เซิ่นนั้นดูสบายๆ ราวกับว่าสิ่งที่เขากำลังทำไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องธรรมดา

ฉินซีลังเลอยู่สองสามวินาที ในที่สุดยอมแพ้ด้วยการจ้องมองของลู่เซิ่น อ้าปากเล็กน้อยและกินโจ๊กไป

เมื่อกินคำแรกไปแล้ว จากนั้นทุกอย่างก็ราบรื่นมาก

ฉินซีรู้สึกได้ว่า การกระทำของลู่เซิ่นนั้นไม่คุ้นมือเบาๆ ไม่แน่ใจว่าจะตักโจ๊กคำละเยอะเท่าไหร่ มันจะร้อนหรือเปล่า

แต่การแสดงออกอย่างระมัดระวังบนใบหน้าของเขา ก็พอให้ฉินซีจะกลืนโจ๊กที่เยอะมากและร้อนไปหน่อยอย่างอร่อย

หลังจากกินโจ๊กหนึ่งชามเสร็จ ฉินซีก็โบกมือเส่งสัญญาณว่าเธออิ่มแล้ว ลู่เซิ่นก็ลุกขึ้นและเอาถังเก็บความร้อนไปไว้ข้างๆ

ฉินซีมองหลังของเขา งุนงงไปสักพัก

บุตรชายผู้สูงศักดิ์ที่ไม่ต้องอะไรอย่างลู่เซิ่น ก็สามารถทำสิ่งเล็กๆน้อยๆให้กับเธอได้เช่นกัน

หัวใจของฉินซีรู้สึกอบอุ่นเบาๆ

แต่สักพัก เธอก็นึกถึงปัญหาที่สำคัญที่สุด

“ลู่เซิ่น คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง”

ลู่เซิ่นวางกระติกน้ำร้อนและยิ้มตอบเธอว่า”ฉันคิดว่าคุณจะไม่ถามคำถามนี้แล้วซะอีก”

จริงๆแล้วคนที่อยู่รอบข้างฉินซี ไม่ใช่แค่บอดี้การ์ดสองคนที่ลู่เหวยส่งไปอย่างแน่นอน

เมื่อรู้ว่าพวกเขากำลังจะทำอะไรจากลู่เหวย ลู่เซิ่นก็รู้เลยว่า จู่ๆฉินซีก็ไปเมืองหลิน สาเหตุส่วนหนึ่งก็คือเพื่อจะหนีคนในตระกูลฉิน

เขาจะปล่อยให้ความปลอดภัยของฉินซีถูกคุกคามได้ยังไง

แต่จะส่งคนไปปกป้องเธอมากขึ้นด้วยการประโคมข่าว จะทำให้ฉินซีจับตาคนอื่นมากขึ้น ดังนั้นลู่เซิ่นจึงสั่งให้คนที่เขาส่งไปพักอยู่ใกล้กับโรงแรมที่ฉินซีพักอยู่ คอยติดตามและปกป้องอย่างใกล้ชิด

หลายวันที่ผ่านมา ฉินซีได้รับการคุ้มครองของลู่เซิ่นอยู่รอบๆโดยไม่รู้ตัว

ดังนั้นคนที่ตระกูลฉินส่งมาพบร่องรอยของฉินซี แต่ลู่เซิ่นเป็นคนแรกที่รู้เรื่อง

ลู่เซิ่นไม่ได้รีบสั่งให้พวกเขาลงมือทันที กลัวว่าการเปิดเผยเร็วเกินไปจะทำให้ฉินซีเป็นอันตราย และตัวเขาเองก็ออกเดินทางจากหนานเฉิงทันที อยากอยู่เคียงข้างฉินซีโดยเร็วที่สุด

“เพราะฉะนั้นตระกูลฉินหาเจอฉันล่วงหน้าหนึ่งวันงั้นเหรอ”ฉินซียังกลัวอยู่เบาๆ

ลู่เซิ่นพยักหน้า”พวกเขาตามคุณถึงโรงแรมที่พักอยู่ แต่ต้องใช้เวลาให้ผลดีพนักงานทางโรงแรมถึงจะเข้าไปได้ แล้วใช้เวลาสอบถามว่าคุณพักอยู่ชั้นไหนด้วย”

เมื่อพวกเขาสอบถามฉินซีพักอยู่ห้องไหน ก็ถูกฉินซีรู้เรื่องแล้ว

“พวกเขาลงมือเร็วกว่าที่ฉันคิดอีก”ลู่เซิ่นก้มหัวลง สีหน้ามีความขอโทษเบาๆ”เมื่อคนที่ฉันส่งไปพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ คุณก็ถูกพวกเขาพาตัวไปแล้ว”

ฉินซีส่ายหัว”ไม่ใช่ความผิดของคุณ คนของคุณช่วยเสี่ยวหลี่ไว้เหรอ”

ลู่เซิ่นโบกมือ”ลำพังฝีมือของพวกเขา เสี่ยวหลี่สามารถเอาตัวรอดได้ เขาหนีจากความยุ่งเหยิงของทั้งสอง

คน ไปใต้ดินหาคุณไม่เจอ และติดต่อคนของฉัน พวกเขาถึงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

ฉินซีบอกขอบคุณเสี่ยวหลี่ในใจ

ลู่เซิ่นพูดจบ เขาก็หันไปหยิบกระเป๋าเอกสารและส่งมาให้เธอ”นี่คือของที่เสี่ยวหลี่เก็บได้จากพื้น คงเป็น

ของคุณ เขาเห็นว่ามีเอกสารบางอย่างอยู่ในนั้น คิดว่ามันคงสำคัญมาก ก็เลยเอามาให้คุณ”

ฉินซีมองกระเป๋าเอกสารและถอนหายใจอย่างโล่งอก

กระเป๋าใบนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับคดีของเห้อเสียงเธอยังกังวลว่าถ้าคนเหล่านั้นเอาของนี้ให้ฉินซึ่งเทียน ถ้าฉินซึ่งเทียนจะทำอะไรไม่ดีต่อเห้อเสียงอีก เรื่องต่างๆก็จะกลายเป็นลำบาก

โชคดีที่คนเหล่านั้นที่ไม่เอาไหนไม่ได้ทำแบบนั้น

“ขอบคุณค่ะ”เธอยื่นมือจะเอากระเป๋า และพูดด้วยความจริงใจ

แต่ลู่เซิ่นไม่ปล่อยมือ ก้มลงและจ้องฉินซีว่า”ทำไมคุณไม่ติดต่อฉัน”

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset