บทที่ 1075 อยู่ในใจ
คุณหมออ่านใจเธอออกอย่างรวดเร็ว เขาหันหน้าเผชิญกับเธอ จ้องลึกเข้าไปในดวงตาก่อนเอ่ย : “เธอ…..เคยฝันเห็นเขาไหม?”
ฉินซีทบทวนสักครู่ ก่อนส่ายหน้า
ก่อนเข้ารับการรักษา มีอยู่หลายครั้งที่เธอฝันร้าย แต่เธอรู้ดี เลือดสีแดงสดในความฝัน ไม่ใช่พี่หลิว แต่เป็นเลือดของเหยาหมิ่น
“ทฤษฎีขึ้นชื่อว่าเอาไว้ ความฝันเกิดจากจิตใต้สำนึกของคน” คุณหมอลากเก้าอี้ออก นั่งลงข้างฉินซี “แม้ตอนนี้ มีข้อความมากมายเกี่ยวกับความฝัน แต่ตัวผมมองว่า ทฤษฎีนี้เป็นเหตุเป็นผล”
“หมายความว่า…..ฉันไม่มีความรู้สึกผิดต่อพี่หลิวจริงๆ” ฉินซีเอ่ยถาม
คุณหมอพยักหน้า “จากการรักษา คุณไร้ความสนใจใดๆเกี่ยวกับพี่หลิว สิ่งที่อยู่ในใจคุณ คือคุณแม่ของคุณ”
“นี่…..” ฉินซีขมวดคิ้วต้องการเอ่ยอะไรบางอย่าง หากแต่ถูกหมอขัดขึ้น
“แต่ผมไม่รู้สึกว่านั่นเป็นปัญหา” คุณหมอน้ำเสียงจริงจัง “ตรงกันข้าม นั่นหมายความว่าคุณเป็นคนมีเหตุผล ความตายของพี่หลิว ไม่ได้หมายความว่าคุณไร้ความเกี่ยวข้อง แต่ไม่ว่าอย่างไร คุณอย่ามองว่าเป็นสาเหตุหลัก หากเขาไม่ลักพาตัวคุณ หากเขาไม่ยื้อแย่งพวงมาลัยรถ เขาก็ไม่ต้องตาย จากคำอธิบายของคุณเอง เขาในตอนนั้นเรียกร้องความตาย คุณจะอยู่หรือไม่อยู่ ไม่ช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น”
ฉินซีพูดไม่ออก
เธอคิดเช่นนั้นจริงๆ
“เพราะงั้น คุณเลือกที่จะไม่อาลัยอาวรณ์กับการตายของพี่หลิว ไม่ใช่เรื่องดีหรือไง” คุณหมอลุกขึ้น ตบบ่าเธอ “หากคุณเสียใจจนเกินไป ผมอาจจะคิดว่าคุณเกิดความรู้สึกต่อเขา”
“เกิดความรู้สึก?” ฉินซีเอ่ยถาม
“ก็คือ…..ตอนนั้นคุณไม่ได้ห้ามคุณแม่ของคุณ ตอนนี้ไม่ได้ห้ามพี่หลิว เพราะความเชื่อมโยงของสองเรื่องนี้ จึงเกิดความรู้สึกผิดต่อพี่หลิว” คุณหมอเอ่ยอย่างกระชับ “แต่ความรู้สึกผิดนี้ไม่มีอยู่จริง หากคุณรู้สึกจริง ผมต้องใช้เวลารักษายาวนาน วุ่นวายกว่านี้อีก”
ฉินซีหัวเราะ “ถ้างั้นฉันก็ช่วยคุณประหยัดเวลา”
คุณหมอหัวเราะพร้อมพยักหน้า : “ใช่แล้ว”
…..
ห้องรักษาของโรงพยาบาลเสมือนยูโทเปียชั่วคราวของฉินซี อยู่ในนี้เธอสามารถหลบหนีจากโลกแห่งความจริง
แต่เมื่อก้าวออกจากโรงพยาบาล เธอไม่สามารถไม่กลับไปยังชีวิตจริงได้
บนรถ ฉินซีไตร่ตรองสักครู่ ก่อนส่งข้อความให้จ้าวจิ้งไม่ต้องฟ้องร้องให้กับเห้อเสียง ไม่คาดคิด สักครู่เดียวเท่านั้น จ้าวจิ้งโทรเข้ามา
ฉินซีรับสายด้วยความฉงน “จ้าวจิ้ง?”
เวลานี้ จ้าวจิ้งยุ่งอยู่กับงานของตน ฉินซีจึงไม่โทรศัพท์ไปหา ไม่คาดคิดเธอกลับโทรมาเอง
“คุณฉิน ผมเอง” เสียงจากปลายสาย กลับเป็นเห้อเสียง
“เห้อเสียง?” ฉินซีขมวดคิ้วเป็นปม “คุณอยู่นั่นได้ไง”
เห้อเสียงหายใจแรง เสมือนตื่นเต้นกับอะไรบางอย่าง “คุณฉิน คุณมีอะไรที่ต้องการใช้ผม หาผมได้ตลอดเลย!”
ไม่ทันที่ฉินซีได้เอ่ยตอบ ปลายสายกลับมีเสียงโหวกเหวกแทรกขึ้น หลายวินาทีต่อมา เสียงจ้าวจิ้งดังขึ้น : “พี่ฉินซี โทษที เขาเห็นข้อความพี่เข้า เค้าให้ฉันโทรหาพี่ให้ได้เลย”
ฉินซีส่ายหน้า : “ไม่เป็นไร แต่ว่าทำไมเห้อเสียงถึงไปหาเธอได้?”
“อาจเพราะคำพูดพี่เมื่อวัน เขาไม่สบายใจ แถมยังติดต่อพี่ไม่ได้ ก็เลยมาถามฉันว่ารู้อะไรบ้างไหม”
ฉินซีถึงได้สบายใจขึ้น เธอหวั่นเห้อเสียงไปหาเรื่องเธอเพราะเรื่องคดี
“อย่างนั้นหรือ” ฉินซีเอ่ย “เธอให้เบอร์กับเขาไปเถอะ ฉันมีเรื่องที่ต้องรบกวนเขา”
เห้อเสียงยืนฟังอยู่ข้างๆ ได้ยินประโยคฉินซี เขารีบเอ่ยขึ้น : “ผมอยู่นี่! ว่ามาเลย!”
จ้าวจิ้งส่งโทรศัพท์ให้เห้อเสียง เขาส่งเสียงดังลั่นกว่าเดิม “ คุณฉิน มีเรื่องอะไร ที่ผมพอจะทำได้ ผมยอมทำทุกอย่าง!”
ฉินซีหัวเราะเสียงเย็น : “ฉันต้องการให้คุณออกมาชี้ตัวฉินซึ่งเทียน คุณทำได้ไหม?”
เห้อเสียงชะงักอยู่นาน ก่อนเอ่ยขึ้น : “ผม…..ผมจะพยายาม”
“ได้หรือไม่ได้ ฉันต้องการแค่สองคำตอบนี้” ฉินซีเอ่ยเสียงเย็น
เห้อเสียงอ้ำอึ้งอยู่นาน ก่อนตัดสินใจ กัดฟันกรอด : “ได้! ผมจะทำตามคำสั่งคุณ!”
“ดี” เป็นไปตามคาด “ถึงเวลา ฉันจะให้จ้าวจิ้งติดต่อคุณไป”
จบคำ เธอตัดสายทิ้งทันที
ฉินซีวางโทรศัพท์ลง ก่อนมองออกไปนอกหน้าต่าง
ทั้งหมดกำลังจะจบลงแล้ว
…..
เมื่อฉินซีกลับถึงรีสอร์ทชิงหยวน พ่อบ้านมีอาการผิดแปลกไป
“คุณผู้หญิง เมื่อสักครู่…..มีคนมาหาคุณ บอกว่าเป็น…..คุณแม่ของคุณ”
พ่อบ้านรู้อยู่แล้ว แม่ของฉินซีนั้นเสียไปตั้งนานแล้ว
ถ้าอย่างนั้นคนที่มาหาเธอ คงไม่ใช่ใครอื่น นอกจาก…..หลี่เหวย
มิน่าเขาถึงได้ระแวดระวัง เสมือนกลัวฉินซีโกรธ
แม่ฉินซีกลับไร้ปฏิกิริยาใดๆ : “อืม? ไล่เธอออกไปก็พอ ฉันไม่มีเวลาพบเธอ”
พ่อบ้านพยักหน้ารัว : “อืม ผมสั่งให้คนไปบอกว่าคุณไม่อยู่ เธอก็ไปเลย แต่…..เธอบอกว่าช่วงบ่ายจะมาอีก”
“มาอีก?” คิ้วทั้งสองข้างของฉินซีขมวดเข้าหากัน “มาอีกก็แค่ไล่ออกไปอีก ฉันไม่มีเวลาสนใจเธอ”
พ่อบ้านพยักหน้ารับคำ
แต่เมื่อฉินซีทานอาหารเที่ยงได้เพียงครึ่งเดียว พ่อบ้านกลับเข้ามาด้วยสีหน้าลำบากใจ
“คุณผู้หญิง เธอคนนั้น……มาอีกแล้ว โหวกเหวกอยู่หน้าบ้าน หากคุณผู้หญิงไม่ออกไป เธอจะบอกที่อยู่ให้กับนักข่าว…..แถมคนรุมเต็มไปหมด”
ฉินซีไม่รู้ว่าควรตอบว่าอย่างไร
บริเวณชิงหยวนมีคนรุมล้อมอยู่ไม่น้อย หลี่เหวยคงตั้งใจแน่ๆ ถึงได้สร้างความวุ่นวายที่หน้าชิงหยวน
หากนี่เป็นบ้านของเธอ ช่างหลี่เหวยโวยวาย เธอไม่หวั่น แต่ที่นี่ยังไงซะก็เกี่ยวข้องกับลู่เซิ่น
เธอรู้ฝีมืออันชั่วร้ายของหลี่เหวยดี หากยังสร้างความวุ่นวายที่หน้าบ้านต่อไป ไม่ว่าอะไรเธอก็พูดได้ทั้งนั้น
ฉินซีถอนหายใจ : “พาเธอไปที่สวนหลังบ้าน”
พ่อบ้านไม่เข้าใจ : “สวนหลังบ้าน?”
ฉินซีพยักหน้า : พาเธอไปที่ริมน้ำก็พอ เดี๋ยวฉันตามไป”
พ่อบ้านพยักหน้ารับ ก่อนเดินนำบอดี้การ์ดออกไป
ฉินซีหยิบตะเกียบขึ้นทานอาหารต่อไป
เธอทานอาหารตามปกติไม่รีบไม่ร้อนไม่ช้าเกินไป สิบกว่านาทีผ่านไป เธอยืดตัวลุกขึ้น ก่อนเดินไปที่สวนหลังบ้าน
…..
หลี่เหวยสร้างความวุ่นวายที่หน้าบ้าน เธอรู้ดีตระกูลใหญ่อย่างตระกูลลู่ หวั่นเรื่องการไม่ซื่อตรงที่สุด
เธอถึงได้มั่นใจนัก หากเธอทำเช่นนั้น ฉินซีต้องออกมาแน่
เป็นไปตามคาด สักครู่เดียว บอดี้การ์ดหลายนายเดินออกมา