บทที่ 118 จะต้องพาคุณนายกลับมาให้ได้
ประเทศแคนาดา
มู่วี่สิงเตรียมตัวจะเข้าร่วมการผ่าตัดที่สาขาวิชาสมองและสาขาวิชาประสาทร่วมมือกันจัดขึ้น ก่อนที่จะเข้าผ่าตัด หลี่ซานก็ส่งโทรศัพท์มือถือของเขามาให้
“คุณหมอมู่ โทรศัพท์ของคุณดังอยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ”
“ใครครับ?”
“สายเรียกเข้าของเบอร์แปลกหน้าค่ะ”
มู่วี่สิงขมวดคิ้วขึ้น หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู กลับไม่มีสายเรียกเข้าจากเวินจิ้ง
ตอนที่โทรศัพท์มือถือดังขึ้นมาอีกครั้ง มู่วี่สิงถึงได้รับสายขึ้นอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก
“มู่วี่สิง โครงการของผมคุณดูแล้วหรือยังครับ?”
“ผมไม่มีความสนใจต่อบริษัทของคุณ” คำพูดกล่าวออกไป มู่วี่สิงก็จะวางสายโทรศัพท์ลง
ฉืออี้เหิงเอ่ยขึ้นอย่างเยือกเย็น “คุณไม่มีความสนใจต่อบริษัทผม งั้นต่อเวินจิ้งล่ะ?”
“อ้า…ไสหัวไป!” เสียงหนึ่งดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน คือเสียงของเวินจิ้ง
ปลายนิ้วที่เรียวยาวของมู่วี่สิงค่อยๆดึงกลับเข้าหากันแน่น ความดุดันภายในสายตาสะท้อนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว “หากคุณกล้าแตะต้องเธอ อย่าว่าแต่บริษัทของคุณ ผมก็จะทำให้คุณหายสาบสูญไปด้วยเช่นเดียวกัน!”
หลี่ซานที่อยู่ด้านข้างตกตะลึง พลังของมู่วี่สิงทำให้คนตกใจกลัวจนถึงขีดสุด ทั่วทั้งร่างกายแฝงไปด้วยจิตสังหารที่เยือกเย็นมากที่สุดเอาไว้ เขาอบอุ่นมาโดยตลอด นี่ยังคงเป็นครั้งแรกที่หลี่ซานได้เห็นเขาโมโหเช่นนี้
“จุ๊ๆ คุณไม่ให้เงินลงทุนกับผม เรื่องอะไรผมก็สามารถทำออกมาได้ ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง ผมต้องการเงินทุนจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป”
วางสายโทรศัพท์ลง มู่วี่สิงหรี่ตาลงอย่างอันตราย ในเวลานี้ ความตื่นตระหนกภายในสายตาก็เปิดเผยออกมาให้เห็น
“คุณหมอมู่ ถึงเวลาเข้าตำแหน่งผ่าตัดแล้วค่ะ” หลี่ซานเอ่ยเตือนเขา
การผ่าตัดในครั้งนี้ อย่างเร็วที่สุดก็ต้องสิบชั่วโมงถึงจะเสร็จสิ้น เพียงแต่มู่วี่สิงในตอนนี้ สภาพการณ์แย่มาก
สภาพการณ์ของคุณหมอมีผลกระทบอย่างมากต่อความสำเร็จและความล้มเหลวของการผ่าตัด หลี่ซานค่อนข้างที่จะเป็นกังวล
แต่ว่า ระดับความยากของการผ่าตัดในครั้งนี้ มองดูจากขอบเขตของทั่วทั้งโลกในตอนนี้ มีเพียงมู่วี่เฉิงเท่านั้นที่จะสามารถทำได้สำเร็จ
“ให้หมอผ่าตัดของสาขาวิชาสมองเข้าไปก่อน” มู่วี่สิงนั่งลง สีหน้าท่าทางที่อยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาตึงเครียด เขากดลงไปบนจุดกึ่งกลางระหว่างคิ้ว ดื่มน้ำเย็นไปเต็มๆหนึ่งแก้วถึงสามารถสงบลงมาได้
กดโทรออกไปหาเกาเชียน เขาออกคำสั่งทีละคำทีละประโยคว่า “สะกดรอยตามการเคลื่อนไหวของฉืออี้เหิง ตรวจสอบหาตำแหน่งที่ตั้งของบอดี้การ์ดที่รับผิดชอบความปลอดภัยของคุณนายออกมา ดำเนินการตรวจตราตลอดทั่วทั้งเมืองหนานเฉิง ผมต้องการรู้ตำแหน่งที่อยู่ของคุณนายให้เร็วที่สุด ช่วงระยะเวลานี้ผมไม่สะดวกที่จะรับสาย เกาเชียน จะต้องพาคุณนายกลับมาให้ได้!”
“คุณชาย วางใจเถอะครับ ผมจะทุ่มสุดกำลัง”
“ให้เสี้ยวหงไปเจรจาร่วมลงทุนกับฉืออี้เหิง เตรียมสิบล้าน”
สั่งการทุกอย่างเสร็จ มู่วี่เฉิงก็สวมทับเสื้อกาวน์สีขาว มองดูท้องฟ้าด้านนอกที่เริ่มมืดลงมา หมุนตัว เดินเข้าห้องผ่าตัดไป
เมืองหนานเฉิง
เกาเชียนมาหาเสี้ยวหงด้วยตัวเอง เสี้ยวหงคือคนที่นอกจากมู่วี่สิงแล้ว มีเพียงแค่สองคนนี้เท่านั้นที่เป็นผู้ครองอำนาจในการเคลื่อนย้ายทรัพยากรของตระกูลมู่
“เวินจิ้งถูกฉืออี้เหิงลักพาตัวไปแล้ว? ที่อยู่ล่ะ?” เสี้ยวหงถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“ตอนนี้ยังคงกำลังตามตรวจสอบอยู่ครับ ตำแหน่งที่ตั้งของฉืออี้เหิงคิดไม่ถึงว่าจะแพร่กระจายไปในสถานที่ต่างๆทั่วทั้งเมืองหนานเฉิง” เกาเชียนขมวดคิ้วขึ้น
“อะไรนะ!จิ้งจิ้งทำไมถึงได้…ถูกลักพาตัวไปแล้ว!” อั๊ยเถียนคิดเอาไว้ว่าจะเข้ามาส่งเอกสาร กลับคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินเรื่องนี้
เธอวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน บนใบหน้าคือความเป็นกังวลที่ปิดเอาไว้ไม่อยู่
“คือฉืออี้เฉิงไอ้สารเลวคนนั้น!แม่เอ๊ย เขาทำร้ายเวินจิ้งยังไม่พออีกหรอไงกัน!” อั้ยเถียนโมโหขึ้นมาใครก็รั้งเอาไว้ไม่อยู่
เสี้ยวหงกุมข้อมือของเธอเอาไว้ ดึงเธอมานั่งลงที่ข้างกาย “เมื่อวานเวินจิ้งไปที่ไหนมาบ้าง มีบอกคุณบ้างหรือเปล่า?”
อั๊ยเถียนพยักหน้า “สองวันมานี้หากจิ้งจิ้งไม่ได้ไปอยู่เป็นพื่อนคุณน้าที่คอนโด ก็ไปเฝ้าดูการตกแต่งที่ถนนอันหนิงทางนั้น คงจะไม่ได้ไปที่อื่นแล้ว”
“ตรวจสอบพบหรือเปล่าว่าบอดี้การ์ดเกิดเรื่องขึ้นที่ไหน?”
เกาเชียนส่ายศีรษะ บอดี้การ์ดไม่ได้ตามตั้งแต่ตอนที่เวินจิ้งออกไปข้างนอก เห็นได้ชัดว่าพอเวินจิ้งออกไปก็ถูกควบคุมเอาไว้แล้ว