บทที่ 1204 ซีเรียสที่ไม่เคยมีมาก่อน
ไม่ใช่ว่าลู่เซิ่นไม่เคยถามน้องสาวมาก่อน
แต่เขามักจะชอบแกล้งหยอกเธอด้วยน้ำเสียงที่ติดตลก
แต่วันนี้ … น้ำเสียงของเขาจริงจัง
ลู่โยวโยวหน้าแดงก่ำ กระซิบเสียงเบา “ทำไมจู่ๆ ถึงถามล่ะ”
ลู่เซิ่นไม่ได้เร่งรัด เขาแค่รอคำตอบของเธอเงียบๆ
ลู่โยวโยวหนีไม่พ้นแล้ว เธอได้แค่หัวเราะเบาๆ ก่อนจะขยับเข้าไปกระซิบข้างหูพี่ชาย “ไม่ได้ชอบมากขนาดนั้น ก็แค่ชอบมาหลายปี จนมันเป็นแค่ความเคยชินน่ะ หลินยี่เขาหล่อ อ่อนโยน นิสัยก็เป็นผู้ใหญ่ แต่มันอาจจะเป็นแค่ความหวั่นไหว มันเป็นเรื่องปกตินี่”
เธอพูดถึงความหลัง
ลู่เซิ่นยิ้มมุมปาก
ตามที่เขาเดาไว้ไม่ผิด
เมื่อลู่โยวโยวเห็นหลินยี่เป็นครั้งแรก เธอถูกดึงดูดด้วยภาพลักษณ์และความเป็นผู้ใหญ่ของหลินยี่ สิ่งนี้ทำให้เธอใจเต้นได้
หลังจากนั้นทั้งสองคนก็ไม่มีโอกาสได้ติดต่อกัน ลู่โยวโยวเพียงชื่นชมในหน้าตาของหลินยี่ แต่แบบนี้ … ลู่เซิ่นเรียกมันว่าความหลงเท่านั้น
ลู่โยวโยวไม่รู้จักตัวตนหลินยี่ว่าเขา จริงๆแล้วเป็นคนแบบไหน และก็ไม่รู้ว่าจะพูดคุยอย่างไรกับหลิน ดังนั้นสิ่งที่เธอคิดว่าชอบทั้งหมด มันจึงขึ้นอยู่กับจินตนาการของเธอเอง
การที่เธอได้พบหลินยี่ เธอสร้างหลินยี่ในฝันขึ้นมาในใจ และตกหลุมรักชายคนที่เธอจินตนาการไปเอง
หากมีโอกาสได้พบปะกับหลินยี่ เขาเกรงว่าความฝันของเธอจะดับสูญไป
ลู่เซิ่นรู้ดีว่าหากเขาเกลี้ยกล่อมลู่โยวโยวให้ปล่อยหลินยี่ไป เธอคงไม่เชื่อฟังและรั้นที่จะปล่อยความรู้สึกที่มีค่าของเธอไป ดังนั้นมันจะส่งผลตรงกันข้าม สิ่งที่เขาต้องทำคือให้ ลู่โยวโยวเห็นเอง ว่าหลินยี่ไม่ใช่คนในภาพฝันที่เธอวาดเอาไว้
เมื่อลู่โยวโยวได้ค้นพบว่าจริงๆแล้วหลินยี่เป็นคนอย่างไร
ลู่เซิ่นนึกถึงหลินยี่ที่นิสัยพื้นฐานไม่ได้แตกต่างจากเขาเท่าไหร่นัก มันค่อนข้างที่จะเรียกว่าเป็นนิสัยที่ไม่ดีเสียด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าให้เธอได้เจอหลินยี่เวอร์ชั่นจริงเสียก่อน เธอจะต้องเสียใจอย่างแน่นอนกับความคิดเห็นที่เธอบอกเขาในวันนี้ว่า “อ่อนโยนและมั่นคง” ความชอบของเธอก็ไม่อาจมั่นคงอีกต่อไปเมื่อได้เห็นธาตุแท้
คิดถึงตรงนี้ เขาจึงถามกลับไปด้วยเสียงอันแผ่วเบา “ในเมื่อมันเป็นความหวั่นไหว ทำไมถึงไม่ลองคุยกับเขาดูล่ะ?”
ลู่โยวโยวคว่ำริมฝีปากของเธอลง “คิดว่าฉันไม่อยากทำหรือไง? เขาอยู่ที่บ้านหลังนี้มาก็นานแล้ว ถ้าหากพี่ไม่มา ฉันก็เข้าไปห้องเขาไม่ได้ ผู้ช่วยน่ารำคาญของเขาก็ขวางไม่ให้ฉันเข้าไป โผล่ไปทีไรก็บอกว่าเขาต้องการพักผ่อนทุกที แต่ฉันก็เห็นเวินจิ้งเข้าไปได้ทุกที เขาปล่อยให้เธอเข้าไปไม่ห้ามด้วยซ้ำ หรือว่าผู้ช่วยคนนั้นเขาไม่พอใจฉัน เลยต้องการแยกจากพวกเราเหรอ?”
สีหน้าของลู่เซิ่นดูจนปัญญาแล้วจริงๆ “ลู่โยวโยว เธอคิดเองได้แล้วนะ ถ้าหากหลินยี่อยากเจอเธอ ผู้ช่วยเขาจะห้ามไหมละ? ”
สีหน้าของลู่โยวโยวแข็งค้างไปชั่วครู่ “เขาไม่อยากเจอฉันเหรอ?”
ขณะที่ลู่เซิ่นกำลังจะพยักหน้า เขาก็เริ่มเห็นแล้วว่าขอบตาของเธอเริ่มแดงก่ำ
เขาถอนหายใจในใจ แย่แล้ว! เขาคิด
เป็นอย่างที่คิด น้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นลงมาเป็นสาย ก่อนที่เสียงแหลมปรี๊ดจะดังขึ้น
“ทำไม! มีสิทธิ์อะไรไม่อยากเจอฉัน! ฉันแย่ตรงไหน!”
ตอนเด็กๆลู่เซิ่นกลัวเสมอเวลาที่ลู่โยวโยวร้องไห้ เพราะทุกครั้งที่เธอร้องไห้ เธอจะควบคุมตัวเองไม่ได้และต้องใช้เวลาพักใหญ่ในการสงบสติอารมณ์ของตัวเอง
“ไม่ใช่ว่าเธอไม่ดี” น้ำเสียงของเขาทำดูทำอะไรไม่ถูก “แค่เขาไม่ชอบเธอเท่านั้นเอง”
ตาแดงของลู่โยวโยวมองจ้องไปที่ลู่เซิ่น “เขามีสิทธิ์อะไรที่จะไม่ชอบฉันล่ะ? ฉันไม่คู่ควรกับเขาตรงไหน?”
ลู่เซิ่นส่ายหัว “ลู่โยวโยว รอให้เธอได้พบกับคนที่ทำให้เธอใจเต้นได้ เธอจะเข้าใจ ถ้าหากได้สัมผัสกับอาการใจเต้น คนนั้นที่เธอเจอ จะไม่สามารถบังคับให้เธอไปรับได้อีก”
ลู่เซิ่นแทบจะไม่ได้พูดด้วยอารมณ์เช่นนี้ เขาไม่ได้เป็นคนที่จะชอบพูดอะไรแนวนี้ ดังนั้นเมื่อเขาพูดเช่นนี้ลู่โยวโยวก็หยุดร้องไห้เธอมองตรงไปที่ลู่เซิ่น “พี่ยังชอบฉินซีอยู่ไหม?”
ลู่เซินไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะถามอย่างกะทันหัน “ทำไมถึงถาม”
ลู่โยวโยวยักไหล่อย่างไม่แยแส “ก็แค่รู้สึก… …ว่าพี่ดูอินมากไป ฉันรู้นะว่าครั้งแรกที่พี่หย่ากับฉินซีเป็นเพราะแม่บังคับ แต่พี่ตัดใจไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”
ลู่เซิ่นไม่คิดมาก่อนว่าคนอย่างน้องสาวเขาจะสังเกตได้ แต่เขาไม่ชินกับการสารภาพความในใจให้ลู่โยวโยวฟัง เขาจึงทำเป็นยักไหล่ และตอบอย่างขอไปทีว่า “มั้ง”
“ถ้าอย่างนั้นพี่ไม่ควรแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้สิ” ลู่โยวโยวเดินวนไปรอบๆ นึกไม่ถึงว่าเธอจะวกกลับมาเรื่องเดิมอีก ลู่โยวโยวกำหมัดแน่น ก่อนพูดด้วยความโกรธ “พี่อายุก็ปูนนี้แล้วยังจะจับคลุมถุงชนอีกหรือไง? พี่ ไม่ต้องกังวลหรอกนะ ถ้าไม่อยากแต่ง ฉันจะสนับสนุนพี่เอง!”
ใบหน้าของลู่โยวโยวเต็มไปด้วยความไร้เดียงสา จึงไม่แปลกที่จะพูดขึ้นมาแบบนี้
แต่ใจของลู่เซิ่นก็ไม่ได้เต้นแต่อย่างใด ในโลกของเขา มันจะมีเรื่องง่ายได้อย่างไรกัน
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า” อารมณ์ของลู่เซิ่นไม่ได้เปลี่ยนแปลง “งานแต่งงานครั้งนี้ ฉันเป็นคนจัดการเอง ฉันรับปากไปแล้ว”
ลู่โยวโยวขมวดคิ้วด้วยความงง “พี่! ทำไมทำแบบนี้ล่ะ? ผู้หญิงคนนั้นเขาไม่ชอบพี่ พี่เองก็ยังไม่ลืมฉินซี ทำไมพวกพี่ถึงยังจะแต่งงานอยู่อีก”
ลู่เซิ่นยักไหล่ “เธอไม่ชอบฉัน ฉันก็ไม่ชอบเธอ นี่มันก็แฟร์แล้วนี่ มีอะไรไม่ดีตรงไหนล่ะ?”
ลู่โยวโยวถูกขัดโดยเขา เธอพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ทำได้แค่มองเขาอย่างโกรธๆ ก่อนจะพูดแย้งออกไป “แต่การแต่งงานมันต้องมีความรักไม่ใช่หรือไง?”
ลู่เซิ่นมองดูการแสดงออกที่เป็นธรรมชาติของเธอ พลางยิ้มจาง ๆ
ลู่เหวยและสูหยิง ปกป้องเธอเหมือนเป็น อัญมณีล้ำค่าเลยเชียว
เธอจึงโตขึ้นแบบมีความคิดที่ยังคงสวยงามอยู่เช่นนี้
แต่ความไร้เดียงสานี้ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหรอก
อย่างน้อย … ลู่เซิ่นก็เต็มใจที่จะปกป้องความไร้เดียงสาของเธอ
เขาส่งยิ้มให้ลู่โยวโยวและพูดว่า “งั้นต่อไปนี้เธอก็ต้องหาความรักจริงๆของเธอให้ได้”