flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 1223 จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้

บทที่ 1223 จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้

“สรุปแล้ว นี่ก็คือแพลนของเธอ” จ้านเซินวางกระดาษลงตรงหน้าเธอ “จากนี้ไป ไม่ว่าเข้าคลาสหรือพักผ่อนจะต้องเป็นไปตามเวลานี้ และฉันจะไม่คอยมาตามเธออีกแล้ว”

ฉินซีบ่นอุบอิบในใจ พูดอย่างกับว่าฉันเรียกให้นายมาหาอย่างนั้นแหละ

แน่นอนว่าเธอไม่สามารถพูดเช่นนี้ออกไปได้ เธอจึงทำได้แค่เพียงพยักหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอรับทราบแล้ว

จ้านเซินลุกขึ้นยืน เมื่อเดินไปถึงประตู ฝีเท้าก็หยุดชะงัก เขาหันหน้ามองลงมาที่ฉินซี “ฉินซี ฉันจะไม่อยู่ที่ฐานปฏิบัติการสักสองสามวัน หวังว่าฉัน…จะไม่ได้รับรายงานว่าเธอถูกลงโทษอีกนะ”

ฉินซีกระพริบตาปริบๆ

จ้านเซินไม่อยู่อย่างนั้นเหรอ

สำหรับฉินซีแล้ว เรื่องนี้เทียบได้ว่าเป็นข่าวดีจากสวรรค์

ฉินซีดูจากประสบการณ์ในไม่กี่วันที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าคนอื่นๆในฐานปฏิบัติการดูท่าจะกลัวตัวเองอยู่ไม่มากก็น้อย

เธอรู้ดีว่า ระดับของตัวเองนั้น แม้จะอยู่ในสำนักงานใหญ่ก็ยังนับว่าสูงอยู่ดี

ถ้าจะให้พูดก็คือ คนที่สามารถจัดการกับตนเองได้นั้น…ก็มีแค่จ้านเซินเพียงคนเดียว

และหากยิ่งจ้านเซินไม่อยู่แล้วล่ะก็…แม่ว่าเธอจะไม่สามารถหนีได้ แต่เธอก็เป็นอิสระมากยิ่งขึ้น

แต่ความคิดเหล่านี้ยังคงสับสนวกวนอยู่ในหัวของฉินซี เธอไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมา เพียงแค่พยักหน้ารับและพยายามทำน้ำเสียงให้ฟังดูเหมือนไม่ได้สนใจมากนัก “ไม่มีใครอยากถูกลงโทษอีกหรอก”

จ้านเซินมองเธอนิ่งๆอยู่นานก่อนที่จะเอ่ยขึ้น “เธอคิดแบบนั้นนั่นแหละดีที่สุดแล้ว ”

เมื่อพูดจบเขาก็บิดกรประตูและเดินออกไป

ในขณะที่ประตูเปิดออกและค่อยๆปิด ฉินซีมองลอดออกไปที่นอกประตู…ไม่มีคนเฝ้ายามเหมือนวันก่อนๆ

…หรือว่าตอนนี้เขาจะปลดการเฝ้าระวังตัวเราแล้วจริงๆอย่างนั้นเหรอ

ฉินซียังคงไม่ปักใจเชื่อ แต่หนำซ้ำก็ยังไม่สามารถหาหลักฐานเพิ่มเติมอื่นๆอีกด้วย

เธอจึงทำได้เพียงแค่ก้มหน้าก้มตากินอาหารเช้าให้หมด จากนั้นก็ลุกขึ้น เริ่มเรียกหลักสูตรของวันนี้ตามที่จ้านเซินเป็นคนจัดการไว้ให้

บางที่อาจเป็นคำแนะนำของคนสวมชุดกาวน์ การฝึกร่างกายของเธอถูกย้ายไปเป็นช่วงเช้าทั้งหมด อีกทั้งระดับการฝึกยังไม่หนักเท่าเมื่อวาน

ถึงแม้ในใจฉินซีจะขี้เกียจ แต่มันก็ไม่มีผลอะไร เพราะผลของการฝึกในช่วงเช้า เสื้อผ้าของฉินซีก็เปียกปอนไปหมดแล้ว

เธอรีบกินอาหารไปไม่กี่คำ จากนั้นก็ไปอาบน้ำ ตกบ่ายก็เข้าไปอยู่ในห้อง

ตอนเข้าเรียน ไม่มีหญิงสาววัยรุ่นคนเมื่อวาน แต่เปลี่ยนเป็นหญิงสาววัยกลางคนแทน

เธอมองฉินซีด้วยสายตาเชิงสำรวจ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เพียงแค่พยักหน้าให้เธอนั่งลง

ฉินซีจ้องมองใบหน้าของเธอพลางรู้สึกหวั่นในใจ

จ้านเซินรู้จุดอ่อนของเธอดี ดังนั้นจึงเลือกหญิงสาววัยกลางคนที่ดูเป็นมิตรเพื่อเริ่มบทเรียนล้างสมองเธอ

…มันเป็นเรื่องง่ายที่เธอจะถูกชักจูงไปโดยอัตโนมัติ จากผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับแม่

แต่เมื่อเธอเริ่มพูดไปได้สักพัก ความสับสนในใจของฉินซีก็ค่อยๆหายไป

แม้จะเป็นคนวัยเดียวกัน แม้จะมีนิสัยคล้ายๆกัน แต่สิ่งที่ผู้หญิงคนตรงหน้าพูดมาทั้งหมดนั้น ไม่มีทางส่งผลกระทบอะไรกับเธอ

หรืออาจเป็นเพราะ… ฟางฟางได้ทิ้งบทเรียนที่ลึกซึ้งให้กับเธอ เธอจึงไม่ยอมให้ใครชักจูงได้ง่ายๆอีกต่อไป

เมื่อเข้าใจได้เช่นนี้ ฉินซีก็รู้สึกโล่งใจ

เธอไม่ได้กะว่าจะเข้าคลาสเรียนแบบขอไปทีเหมือนวานนี้ แต่เธอกลับทำเหมือนว่าตั้งใจเรียน… เธอเรียนเหมือนกับก่อนหน้านี้ ตอนที่มีฟางฟางอยู่

หลังจากที่จบคลาส ท่าทางของผู้หญิงวัยกลางคนดูจะพอใจอยู่ไม่น้อย เธอเอื้อมมือมาตบบ่าของฉินซีพลางพูดอย่างยิ้มๆ “ถ้าเป็นแบบนี้แต่แรก ก็คงไม่ต้องลำบากแบบนี้ใช่ไหมล่ะ”

ฉินซียิ้มจางๆ ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป

……

หลักสูตรนี้ดำเนินไปได้สองสามวัน

ช่วงแรกฉินซีเต็มไปด้วยความระแวง ทุกครั้งที่ออกจากประตูไปเธอจะสังเกตสิ่งรอบข้างอย่างละเอียด แต่สองสามวันให้หลัง ในที่สุดความจริงก็ค่อยๆปรากฏว่า…จ้านเซินไม่ได้ให้ใครคอยติดตามเธอแล้วจริงๆ

ยังคงมีความรู้สึกแปลกๆอยู่ในใจของฉินซี แต่จริงๆแล้วเธอเองก็รู้สึกโล่งใจอยู่ไม่น้อย

เพราะอย่างนั้นเธอจึงเริ่มดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา

เธอไม่เคยคิดหวังว่าตอนนี้ตัวเองจะสามารถหนีออกจากจุดนี้ได้ แต่ทว่า…อย่างน้อยเธอก็ได้รู้ว่าตัวเองกำลังต่อสู้ด้วยตัวคนเดียวอยู่หรือไม่

…คนสวมชุดกาวน์

นับตั้งแต่ที่ตรวจร่างกายวันนั้น ฉินซีก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย

ตัวเขาช่างดูลึกลับเหลือเกิน

ในระหว่างที่ฉินซีอยู่ภายใต้การสะกดจิต แต่ยังคงรู้สึกสะลึมสะลือ สาเหตุที่ทำให้เธอออกจากอาการโคม่าได้ในที่สุด เป็นเพราะความกดดันจากโลกภายนอกลดลงไปมาก ไม่อย่างนั้นตัวเองก็คงจะกลับไปเป็นเหมือนเดิม หลังจากอาการโคม่าสั้นๆนี้ เธอยังคงตกอยู่ในความทรงจำของตัวเอง

คนที่สะกดจิตในคืนวันนั้น ก็คือคนสวมชุดกาวน์

หลังจากที่ตรวจสุขภาพ เขาก็เป็นคนเสนอขอลดการฝึกร่างกาย…

ฉินซีไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงช่วยเธอไว้ อีกทั้งยังไม่รู้จัดประสงค์ที่แท้จริงของเขาอีกด้วย

ทั้งหมดทั้งมวล เธอต้องสืบเสาะมันด้วยตัวเอง

แต่ก่อนหน้านี้ที่มีจ้านเซินอยู่ด้วย เขาคอยตามเธอทุกฝีก้าว ไม่ปล่อยให้เธอได้อยู่กับคนสวมชุดกาวน์ตามลำพัง

และตอนนี้…เขาไม่อยู่ที่สำนักงานใหญ่ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายจากการถูกควบคุมไปไม่น้อย นี่นับเป็นโอกาสดีหรือเปล่านะ

เมื่อฉินซีคิดได้เช่นนี้ก็ตัดสินใจได้แล้วว่า…เธอจะต้องคุยกับคนสวมชุดกาวน์ให้ได้

แม้จะตัดสินใจได้แล้ว แต่การจำลงมือนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

นอกจากห้องแล็บที่ตัวเองเข้าตรวจร่างกายแล้ว เธอไม่รู้ว่าคนสวมชุดกาวน์อยู่ส่วนไหนของสำนักงานใหญ่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนสวมชุดกาวน์อยู่ที่สำนักงานใหญ่หรือไม่

นอกจากนี้…เธอไม่รู้ว่าจ้านเซินจะกลับมาเมื่อไหร่

เขาเป็นเหมือนกับระเบิดเวลา หากเจอเขาขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าจะเกิดเรื่องขึ้นได้

แต่เพราะเธอได้ตัดสินใจไปแล้ว ไม่มีทางจะยอมแพ้ง่ายๆไปแบบนี้

ฉินซีถือโอกาสตอนทานอาหาร ได้ยินมาว่าช่วงเวลานี้คนสวมชุดกาวน์จะอยู่ที่ห้องตรวจเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของตัวเครื่อง อีกทั้งยังรู้มาอีกว่าธุรกิจที่อยู่ในมือของจ้านเซินนั้นยุ่งยากมาก ใช้เวลาสิบถึงสิบห้าวันถึงจะกลับมา

ฉะนั้นฉินซีจึงมีแผนในใจเรียบร้อยแล้ว

……

หนึ่งสัปดาห์หลังจากที่ จ้านเซินไม่อยู่

เวลาคือช่วงอาหารเย็น คนส่วนใหญ่ยังคงรวมตัวกันที่ห้องอาหาร ฉินซีจะใช้ข้ออ้างว่าตัวเองไม่สบาย หลังจากที่กินข้าวไปคำสองคำก็จะรีบกลับไปที่ห้อง

อยู่ในห้องสักสองสามนาที จากนั้นค่อยเปิดประตูและเดินตรงไปที่ลิฟต์

ที่ที่เธออยู่เป็นอาคารหอพักทั้งหมด ช่วงเวลานี้ไม่มีคน ที่ทางเดินก็ว่างเปล่า

เธอเดินไปยังประตูลิฟต์อย่างไม่รีบร้อน กดชั้นที่เป็นห้องตรวจโดยอิงจากความทรงจำของเธอ

ไม่มีใครขึ้นลิฟต์และทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น

ตั้งแต่แรกเริ่มจนตอนนี้ ฉินซีรู้สึกราวกับว่าหัวใจจุกอยู่ที่ลำคอ แต่ภายนอกกลับดูเหมือนไม่ประหม่าเลย เมื่อลิฟต์หยุด เธอก็ค่อยๆเดินไปยังห้องตรวจ

ที่ชั้นนี้ไม่มีวี่แววของคนเลย ส่วนพรมก็เก็บเสียงฝีเท้าได้อย่างเงียบเฉียบ

ฉินซีเดินไปที่ห้องตรวจพลางสังเกตสิ่งของรอบๆ

ในที่สุดเธอก็เดินมาถึงหน้าห้องตรวจ ขณะที่กำลังจะเคาะประตู กลับพบว่าประตูนั้นเปิดอยู่แล้ว

คิ้วของเธอขมวดขึ้นเป็นปม

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset