บทที่ 124 คนที่เธอเกลียดที่สุด
“อะไรนะ นายจะกลับไป หลายปีที่ผ่านมานี้ นายคอยต่อต้านมาตลอดไม่ใช่เหรอ!” เสี้ยงหงรู้สึกประหลาดใจ
ถึงอย่างไร ตลอดทั้งชีวิตของเขา มู่วี่สิงเป็นคนที่ไม่มีทางยอมประนีประนอมอย่างเด็ดขาด
“อืม บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปถูกโจมตีอยู่บ่อยครั้งในช่วงนี้ คุณปู่ไม่ได้ส่งให้ใครกลับมาดูแล เขากำลังรอให้ฉันเข้าไปรับช่วงต่อและจัดการเรื่องนี้เสีย เขาใช้บริษัทมาซื่อกรุ๊ปเป็นเดิมพัน เสี้ยงหง ฉันรู้เรื่องนี้มานานแล้ว” มู่วี่สิงกล่าวอย่างนิ่งเรียบ
“ฉันกรอกบัญชีของบริษัทเย่าเคอให้ได้ เมื่อถึงตอนที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปถูกตรวจสอบ ฉันมีวิธีปกปิดข้อมูลตรงนั้น ฉันรู้สึกเสียใจมากที่นายไม่ได้เป็นหมอ” เสี้ยงหงโน้มน้าวเขา
พวกเขาทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก และเสี้ยงหงเข้าใจในตัวมู่วี่สิงเป็นอย่างดี
ถึงแม้ว่าเขาจะเชี่ยวชาญเรื่องกลอุบายต่าง ๆ ในโลกธุรกิจ แต่ทว่าพรสวรรค์ของเขานั้น เหมาะสำหรับการพัฒนาและเติบโตในวงการแพทย์มากกว่าเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากนั้น อาชีพแพทย์ก็เป็นอาชีพที่เขาโปรดปรานมากที่สุดด้วย
มู่วี่สิงพลันยิ้มขึ้นมา “การต่อสู้ภายในตระกูลมู่ร้ายแรงมาก ถึงคุณปู่จะไม่พูด แต่ฉันก็รู้ดี ขั้นตอนนี้ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องก้าวเดินไป ไม่ช้าก็เร็ว”
“ไม่ว่ายังไง ฉันก็สนับสนุนการตัดสินใจของนาย”
“ขอบใจนะ เพื่อนยาก”
……
ในตอนค่ำ เวินจิ้งยังคงอยู่แต่ภายในห้องนอนตลอด หลังจากที่รู้ว่าเธอถูกช่วยเหลือออกมาได้ อั้ยเถียนก็รีบโทรศัพท์มาหาเวินจิ้งในทันที
“จิ้งจิ้ง เธอทำให้ฉันกลัวแทบแย่ ไอ้สารเลวฉืออี้เหิงนั่นถูกจับไปหรือยัง!” อั้ยเถียนถามออกไปด้วยความโกรธจัด
“ตอนนี้เขาถูกมู่วี่สิงจับตัวเอาไว้ แต่ถึงจะแจ้งตำรวจไป หลักฐานเอาผิดก็ไม่มากพอ ดังนั้น ตำรวจก็ต้องปล่อยตัวเขาไปอยู่ดี” เวินจิ้งขมวดคิ้ว
ฉืออี้เหิงได้รับเงินลงทุนจากมู่วี่สิงไปเรียบร้อย เมื่อมาลองคิดดูแล้ว เวลานี้คงไม่อาจทำอะไรได้มากนัก
แต่ทว่า เขาได้กลายเป็นคนที่เธอเกลียดเข้าไส้มากที่สุดโดยสมบูรณ์
“แล้วเธอล่ะ ไม่บาดเจ็บใช่ไหม เขาไม่ได้ทำอะไรเธอใช่ไหม จิ้งจิ้ง ฉันช่วยอะไรเธอได้บ้างไหม” อั้ยเถียนไล่ถามเธออย่างละเอียด ตอนนี้เธออยากจะนำร่างของผู้ชายไม่ได้ความคนนั้นมาฉีกให้เป็นชิ้น ๆ เสียเหลือเกิน!
เวินจิ้งหัวเราะ “ฉันไม่เป็นไร โชคดีที่ได้มู่วี่สิงมาช่วยไว้ทันพอดี เธอไม่ต้องกังวลไป ตอนนี้ฉันสบายดีจ้ะ”
“หือ แต่ฉันยังโกรธจนควันออกหูอยู่เลย ฉืออี้เหิงคอยรบกวนเธออยู่เสมอเลยใช่ไหม ตอนนี้ฉินเฟยไม่ต้องการเขาแล้ว ก็เลยคิดถึงเธอขึ้นมาใช่ไหม!” อั้ยเถียนพูดด้วยความโกรธจัด
เวินจิ้งขมวดคิ้ว เมื่อคิดถึงคำพูดที่ฉืออี้เหิงกล่าวเมื่อตอนกลางวัน เธอไม่สามารถเชื่อมั่นในตัวเขาได้อีกต่อไปแล้ว
“ก็แล้วแต่เขาจะคิด เขาทำร้ายครอบครัวของฉันอย่างรุนแรงมามากพอแล้ว ยังจะต้องการให้ฉันเปลี่ยนใจกลับไปหาเขาอีก เขาเสียสติไปแล้วหรือไงกัน” เวินจิ้งพูดอย่างฮึดฮัดด้วยความโกรธ
เมื่อได้ยินดังนั้น อั้ยเถียนพลันหัวเราะ “คิกคิก” ขึ้นมา “หาได้ยากนะที่เธอจะโกรธมากขนาดนี้ อย่าได้เมตตาผู้ชายห่วย ๆ แบบนี้ทีเดียว เขากล้าพังบ้านของเธอ พวกเราไปจุดไฟเผาบ้านเขากันดีกว่า!”
พวกเธอทั้งสองคนคุยกันอย่างออกรสชาติ เวินจิ้งอารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่เธอก็ยังต้องพูดคุยกับมู่วี่สิงเกี่ยวกับเรื่องของฉืออี้เหิงอยู่ดี
ถ้าหากว่าสามารถส่งตัวเขาไปให้ทางตำรวจจัดการได้ นั่นก็คงจะเป็นการดีกว่ามาก
เมื่อมาถึงยังห้องอ่านหนังสือ เวินจิ้งผลักประตูเข้าไปข้างใน แต่กลับพบว่ามู่วี่สิงกำลังยืนอยู่ที่ด้านหน้าของหน้าต่างที่ลากยาวถึงพื้น และหันหลังให้กับเธอ ร่างของเงานั้นแผ่ซ่านกลิ่นอายแห่งความโดดเดี่ยวออกมาเล็กน้อย
เธอเข้าไปกอดที่ด้านหลังของชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว
มู่วี่สิงลดตาลงมอง สีหน้าของเขาอ่อนโยนขึ้นมาก
“คิดถึงผมเหรอ” เขาเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“อือ คิดถึงมาก ฉันได้ยินมาจากเกาเชียนว่าตั้งแต่ที่คุณกลับจากเดินทางไปเจรจาธุรกิจ คุณยังไม่ได้พักผ่อนเลยสักนิดเดียว แล้วทำไมคุณถึงยังทำงานไม่หยุดอีกล่ะคะ”
“มีเรื่องบางอย่างที่ยังจัดการไม่เสร็จน่ะ” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
เมื่อเขาหันหลังกลับมา ใบหน้าอันหล่อเหลามาดเข้มของเขาก็ไม่อาจปกปิดความเหนื่อยล้าเอาไว้ได้
เขาไม่ได้นอนหลับมาเป็นเวลาสามวันแล้ว
เวินจิ้งมองดูเขาด้วยความรู้สึกเจ็บปวดอย่างสุดหัวใจ แต่เธอจะช่วยแบ่งเบาภาระของมู่วี่สิงได้อย่างไรบ้างนะ
เมื่อเธอเกิดเรื่องขึ้น เธอก็ได้แต่กลายเป็นภาระให้กับเขาเท่านั้น
“คุณคิดจะทำยังไงกับฉืออี้เหิงเหรอคะ ก่อนหน้านี้ แม่ของฉันเคยไปแจ้งตำรวจมาแล้ว ตอนนี้การตรวจสอบของทางตำรวจมีความคืบหน้าอะไรบ้างไหมคะ”
มู่วี่สิงโอบกอดและพาเธอไปนั่งลงบนโซฟา “ผมนำตัวเขาส่งตำรวจแล้ว ไม่สามารถส่งฟ้องคดีลักพาตัวได้ แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องที่เขาเจตนาทำลายบ้านของคุณและก่อกวนเจี่ยนอี มีการรวบรวมหลักฐานสำหรับสองข้อกล่าวหานี้ได้จนเกือบครบแล้วล่ะ”
“ตราบใดที่สามารถนำตัวเขาไปลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมได้ ฉันก็รู้สึกสบายใจขึ้นแล้วล่ะค่ะ” เวินจิ้งมองดูเขา “ตอนนี้คุณสามารถไปนอนหลับพักผ่อนได้หรือยังคะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น มู่วี่สิงหรี่ตาลง ริมฝีปากเรียวบางของเขายกขึ้นเล็กน้อย “อือ แต่ขอนอนกับคุณก่อน”