บทที่ 12 อาลัยอาวรณ์ที่จะจาก
สามชั่วโมงถัดมา ในที่สุดก็ถึงคิวของอั้ยเถียน ที่จริงเวินจิ้งจะไม่เข้าไป แต่อั้ยเถียนเดินโซเซ เธอเลยประคองเข้าไป
ข้างกายของมู่วี่สิงมีพยาบาลล้อมรอบและก็มีแพทย์ฝึกหัด
พอเห็นเวินจิ้งตามเข้ามา มู่วี่สิงก็นิ่งไป สายตาหม่นลง
“อาการเป็นยังไงครับ?”เขาถามอั้ยเถียน แล้วหยิบเคสของอั้ยเถียนขึ้นมา
เวินจิ้งยืนใกล้ประตู มองไปรอบๆ ในห้องแขวนรูปกับใบประกาศไม่น้อย ต่างเป็นความสำเร็จวิชาทางแพทย์ที่มู่วี่สิงได้มาในไม่กี่ปีนี้
มองจนเหม่อไป ไม่ทันสังเกตว่าข้างๆวางของทดลองไปไว้ เธอถอยไป หลอดทดลองบนโต๊ะต่างสั่น จากนั้นก็ตกลงมาที่พื้น……
เวินจิ้งตาโต ใบหน้าดูตื่นตระหนก“ขอโทษค่ะ……”
สายตามองไป มู่วี่สิงมองเวินจิ้งที่ก้มลง ภาพที่เธอกำลังเก็บ
เขาเกือบจะลุกขึ้นมา พูดไปว่า“อย่าแตะ”
เวินจิ้งสั่น ไม่กล้าขยับ
มู่วี่สิงเดินเข้ามา สวมถุงมือจะเก็บหลอดทดลองพร้อมพูดอย่างดุๆว่า“ของเหลวในนี้จะกัดผิวคุณได้”
เวินจิ้งรีบชักมือเข้าไป กลัวไปหมด
“คุณหมอมู่ ฉันเองค่ะ”พยาบาลสองสามคนรีบเข้ามา ตัวใกล้มู่วี่สิง
ตอนนี้เอง ในใจของเวินจิ้งก็แปลกๆ
เหมือนว่าปกติข้างกายมู่วี่สิงก็มีแต่สาวๆเนี่ย
“จิ้งจิ้ง เธอมานี่”อั้ยเถียนอดไม่ได้ที่จะมองเธอ
เวินจิ้งก้มหน้าลง ไม่กล้าเดินมั่ว
มู่วี่สิงกลับไปนั่งที่เดิม สายตากลับจ้องไปที่เวินจิ้ง
เธอแลบลิ้นใส่เขา
จ่ายยาเสร็จ ตอนที่อั้ยเถียนออกไปก็ยังรู้สึกอาลัยอาวรณ์
“คุณหมอมู่หล่อมากเลย ทำไมหล่อขนาดนี้ทำให้อาการปวดหัวของฉันหายไปเลย……”
เวินจิ้ง:……
“ฉันไปเอายาให้”เวินจิ้งพูด
ตอนนี้เองที่ทางเดินก็มีเสียงเข้ามา:คุณหมอมู่ทำโอทีมาอาทิตย์หนึ่งแล้ว วันนี้จะเข้าเวรไม่ได้อีกแล้ว ผู้ป่วยที่ได้คิวค่อยมาพรุ่งนี้
ก้าวเท้าของเวินจิ้งถูกอั้ยเถียนห้ามไว้“ฉันนี่โคตรโชคดี เป็นคนไข้คนสุดท้ายของคุณหมอมู่วันนี้”
“ฉันว่าเธอไม่ได้ปวดหัว แต่โง่มากกว่า”
“เธอต่างหากล่ะ จิ้งจิ้ง ไม่คิดเหรอว่าคุณหมอมู่นี่โคตรเพอร์เฟค!เมื่อกี้เขายังช่วยเธอ ไม่งั้นผิวเธอคงจะแย่จนต้องไปหาหมอนะ!หล่อละยังจิตใจดี!”
“เถียนเถียน ฉันจะบอกไรให้ฟัง ฉันแต่งงานกับมู่วี่สิงแล้ว”ทันใดนั้นเวินจิ้งก็พูด
“หูวว นี่ไม่ขำ เอาใหม่!”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว มันยากที่จะเชื่อขนาดนั้นเชียว?
“จริงๆ”เธอย้ำ ดึงศอกของอั้ยเถียนแล้วโน้มไปที่ข้างหูเธอ“พวกเราจดทะเบียนสมรสแล้ว!”
เวินจิ้งไม่ได้หลอก อีกอย่างคำพูดของเธอดูจริงจัง ในที่สุดอั้ยเถียนก็มองเธออย่างเหลือเชื่อ
แต่ว่าเอามือแตะหน้าผากเธอ“เธอมีไข้เหรอ?”
เวินจิ้งพูดไม่ออก
“ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ”
ทั้งสองรับยาเสร็จก็ออกไป อั้ยเถียนยังหลงอยู่ในใบหน้าหล่อเหลาของมู่วี่สิง
เวินจิ้งดึงเธอออกไปเรียกรถแท็กซี่ ตอนนี้เอง รถปอร์เช่ที่คุ้นเคยหยุดอยู่ที่ข้างๆเวินจิ้ง มู่วี่สิงลงมา
“อุ่ย……นั่นใชคุณหมอมู่ไหม?”อั้ยเถียนดึงเวินจิ้งอย่างประหม่า
“ใช่”เวินจิ้งถอยหลังไป
นี่คือหน้าโรงพยาบาล มู่วี่สิงไม่คิดว่าตัวเองช่างดึงดูดสายตาเหรอ?คนรอบๆต่างมองมา
“เขากำลังรอฉันเหรอ?”อั้ยเถียนถามอย่างตื่นเต้น
มุมปากของเวินจิ้งยกขึ้น“ตอนนี้เธอยังไม่เชื่อฉัน?”