บทที่ 1371 ไม่กล้าอีกต่อไป
นี่แค่ราคาของเสื้อผ้า ยังไม่รวมเครื่องประดับบนตัว
ดังนั้น ถังย่าจึงไม่สนใจลูกเศรษฐีขี้อวดที่อยู่ตรงหน้าคนนี้
หลังจากที่ลูกเศรษฐีเห็นหน้าตาถังย่า ก็จ้องไม่วางตา
เขาเหม่อมองถังย่า ความปรารถนาที่แรงกล้าปรากฏขึ้นในสายตา : “คนสวย คุณอยากให้ฉันหลบไปตรงไหนล่ะ หลบไปอยู่บนเตียงคุณไหม?”
ลูกเศรษฐีคิดอยากจะได้ถังย่ามากขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่เคยเห็นผู้หญิงมีเสน่ห์แบบถังย่า และยิ่งมีหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์อย่างนี้ ช่างเป็นสมบัติล่ำค่าของโลกมนุษย์
ถ้าได้อยู่กับผู้หญิงสวยๆ อย่างนี้สักคืน เขายินดีจ่ายไม่ว่าเท่าไหร่
คำพูดน่ารังเกียจแบบนี้ ทำให้คนที่อยู่รอบข้างขมวดคิ้ว
ถังย่าได้ยินเขาพูดแบบนี้ ดวงตาที่สวยงามปรากฏแสงแวววาวน้อยๆ
เธอมองไปยังลูกเศรษฐีที่ก็ถือว่าดูดี ก้าวขาเรียวยาวไปตรงหน้าเขา : “ฮ่าฮ่า คุณชอบฉันขนาดนั้นเลยหรือไง?”
ถังย่ายิ้มเหมือนสุนัขจิ้งจอก หัวใจของลูกเศรษฐีติดกับในทันที
ลูกเศรษฐีเห็นเธอยิ้มให้ตัวเอง หลงใหลจนสับสนไปชั่วขณะ
“ชอบสิ! ฉันไม่เคยชอบใครอย่างนี้มาก่อน คุณคือคนแรก”
ลูกเศรษฐีพยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง เห็นถังย่าเดินมาทางตัวเอง ใจเต้นตึกๆ เขาเข้าใจว่าโอกาสของตัวเองมาถึงแล้ว
รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าเขา เขารู้ผู้หญิงก็เหมือนกันหมด ไม่สามารถต้านทานความยั่วยวนของเงินทองได้ แม้แต่ถังย่าก็เป็นเหมือนกัน
แต่แบบนี้ก็ดี เขาได้ในสิ่งที่ปรารถนา
แทนที่จะบอกว่าเขาชอบถังย่า บอกว่าเขาแค่อยากได้ร่างกายของถังย่าเพียงเท่านั้นจะดีกว่า
ถังย่าได้ยินเขาพูดคำว่าชอบออกมาได้อย่างง่ายดาย ไม่ใช่แค่ไม่รู้สึกหวั่นไหว แต่กลับรู้สึกถากถางเป็นอย่างยิ่ง จนทำให้เธอคลื่นไส้
ยิ่งเธอโกรธ รอยยิ้มบนหน้ายิ่งลึกขึ้น
คนที่คุ้นเคยกับถังย่าทุกคนรู้ เวลาที่เธอยิ้มเป็นสัญญาความทุกข์ของอีกฝ่าย
แต่คนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่รู้อะไรเลย
ผู้เห็นเหตุการณ์ยังคงเข้าใจว่าถังย่าค่อยๆ หวั่นไหวภายใต้การโจมตีของลูกเศรษฐี
ในเมื่อลูกเศรษฐีตรงหน้าทั้งมีเงิน ทั้งหน้าตาไม่เลว อยู่กับเขามีความสุขดีกว่าดิ้นรนทนลำบากอยู่ด้านนอกด้วยตัวเองเยอะ
ด้วยความงามของถังย่า แค่เธอคิดจะทำ ต้องตกอยู่ในฝ่ามือผู้ชายแน่นอน
ถึงตอนนั้น ขออะไรจากลูกเศรษฐีเล็กๆ น้อยๆ ก็พอใช้ไปทั้งชีวิตแล้ว
คิดถึงตรงนี้ มีคนไม่น้อยมองถังย่าแววตาอิจฉาริษยา
คนที่เดิมทีคิดว่าถังย่าสูงส่งราวกับเทพธิดา ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความต้องการและการดูถูก
ถังย่ารู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของทุกคนอย่างชัดเจน แค่รู้สึกเยาะเย้ย
เธออยากจะถามพวกเขา เรื่องของเธอก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา
แต่เธอไม่ชอบคุยเรื่องไร้สาระกับคนอื่น และยิ่งขี้เกียจจะสนใจว่าคนอื่นจะมองตัวเองยังไง
แววตาเย็นชาแวบขึ้นมาในดวงตาที่สวยงาม เธอมองลูกเศรษฐีที่ยังคงยืนอย่างไม่จริงจังอยู่ตรงหน้าและคิดว่าจุดหมายใกล้จะมาถึงแล้ว และยิ้มอย่างเย็นชา
“ฉึบ!” ดังขึ้น
ถังย่าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่หยิบกริชขึ้นมากะทันหัน
เธอวางกริชไว้ที่ระหว่างคอของลูกเศรษฐี : “คุณพูดอีกครั้ง?”
การเคลื่อนไหวของถังย่ารวดเร็วจนคนมองไม่ออก ไม่มีใครเห็นว่าเธอดึงกริชออกมาเมื่อไหร่ ตอนไหน
เมื่อทุกคนมีปฏิกิริยาตอบสนอง คอของลูกเศรษฐีก็มีกริชเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเล่มแล้ว
กริชแหลมคมภายใต้แสงอาทิตย์ ส่องประกายหลากหลายสีสัน หนาวถึงกระดูก
ผู้คนตัวสั่นอย่างช่วยไม่ได้ ตัดสินใจถอยหลังไปครึ่งก้าว
ลูกเศรษฐีสับสนไปหมด เขานั่งตัวแข็งอยู่ในรถ และพูดอย่างสั่นๆ ว่า : “คนสวย อย่า…อย่า…หุนหันพลันแล่น”
เขามองถังย่าด้วยความตื่นกลัว ไม่กล้าพูดจาหยาบคายไม่มีมารยาทอีกแล้ว
เขายังมีความสุขในโลกมนุษย์ไม่มากพอ จะยอมตายแบบนี้ได้ยังไง
ลูกเศรษฐีไม่คิดว่าตัวเองจะได้พบกับความโหดร้าย
เขาก็แค่หื่นขึ้นมาง่ายๆ แค่นั้น ไม่ได้อยากจะเอาชีวิตมาทิ้งเพราะเหตุผลนี้
ถังย่ามองตรงไปที่เขา ดวงตาดำสนิทส่องประกายขึ้นมาอย่างรวดเร็ว : “ฉันสั่งให้คุณพูดประโยคเมื่อกี้อีกครั้ง”
เธอพูดเสียงต่ำ คำพูดมีความคุกคามอยู่
ถังย่าพูดพลาง ดันกริชที่อยู่ในมือกดลงไปคอเขาเพิ่มขึ้น
ใกล้ไปแล้ว! ใกล้เกินไปแล้วจริงๆ!
ลูกเศรษฐีรู้สึกได้อย่างชัดเจน คมมีดของกริชติดอยู่กับผิวเขาแล้ว
ถ้าถังย่าออกแรงอีกนิด กริชก็จะแทงทะลุเส้นเลือดใหญ่ของเขาในทันที เลือดไหลไม่หยุดในทันที ชีวิตของเขากำลังจะล่วงลับ
คิดถึงภาพนี้ ลูกเศรษฐีตัวสั่นมาก
เขากลืนน้ำลาย ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง เม็ดเหงื่อปรากฏอยู่บนหน้าผาก และไหลลงมาไม่หยุดตามใบหน้า
ลูกเศรษฐีถูกทำให้ตกใจจนสูญเสียความกล้า จนคิดไม่ออกว่าเมื่อกี้ตัวเองพูดอะไรที่ผิดต่อถังย่าออกไป : “คนสวย คุณอยากให้ฉันพูดอะไรล่ะ! ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้จริงๆ”
เขาขอร้องอย่างเจ็บปวด : “ขอร้องท่านผู้ยิ่งใหญ่ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันผิดไปแล้วจริงๆ ฉันแค่ปากพล่อยไป ไม่ได้คิดจะทำอะไรกับคุณจริง หลังจากนี้ฉันไม่กล้าอีกแล้ว!”
ในดวงตาขอลูกเศรษฐีมีประกายน้ำตา กลัวจนแทบจะฉี่ราด
ปกติเขาใช้เวลาทั้งวันไปกับการดื่มเหล้า การไปเที่ยวผับกับเพื่อนๆ ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
ถังย่ารู้สึกได้อย่าชัดเจนว่าร่างกายของเขาสั่นไม่หยุด ดวงตาที่สวยงามแสดงการดูถูกออกมา : “คนขี้ขลาด คุณไม่ได้เพิ่งจะบอกว่าอยากขึ้นเตียงฉันไม่ใช่รึไง?”
เธอยิ้มเย็นชา ริมฝีปากสีแดงขยับขึ้น : “มา ฉันให้โอกาสคุณสักครั้ง ดูหน่อยสิว่าการเคลื่อนไหวของคุณเร็วหรือกริชในมือฉันเร็วกว่ากัน”
ถังย่าพูดล้อเล่น มือออกแรงมากขึ้น
กริชเล่มนี้ ปกติถังย่าดูแลอย่างดี คมจนสามารถตัดเหล็กได้อย่างง่ายดาย เป็นอาวุธที่ใช้ในการฆ่าคน
ตอนนี้กลับมาใช้กลับลูกเศรษฐีขี้ขลาดคนหนึ่งช่างน่าเสียดาย แต่ใครใช้ให้เขาไม่ดูตาม้าตาเรือ วิ่งมาชนปากกระบอกปืนเอง
กริชที่คมกริบ บาดเป็นรอยอยู่บนคอของลูกเศรษฐี
เดิมทีทุกคนคิดว่าถังย่าล้อเล่นกันกับลูกเศรษฐี หยอกเล่นให้เขาตกใจก็จบแล้ว
ใครจะรู้ ว่าถังย่าจะลงมือจริง
ลงมือกลางถนน เธอไม่กลัวถูกตำรวจจับรึไง?
ทุกคนมองไปที่รอยบาดบนคอของลูกเศรษฐี คอของตัวเองรู้สึกเย็นวูบขึ้นมาชั่วขณะ
พวกเขาแยกย้ายกันอย่างร้อนรน วิ่งไปขอความช่วยเหลือยามของสนามบินจากที่ไกลๆ
ถังย่ากวาดสายตามองคนพวกนั้น แต่ก็ไม่ได้หยุดไว้
เธอยั้งมือไว้ คอของลูกเศรษฐีมีเลือดออก ถึงแม้จะน่ากลัว แต่ความจริงแล้วก็แค่หนังกำพร้าได้รับบาดเจ็บเท่านั้น ไม่กี่วันก็หายแล้ว แต่กระทั่งรอยแผลก็ไม่มีเหลือไว้
แต่คนอื่นไม่รู้ โดยเฉพาะลูกเศรษฐี
หลักกฎหมายสังคมตอนนี้ เขาคิดแค่ว่าถังย่าโหดไปหน่อยเท่านั้นเอง