บทที่ 1373 น่าสนใจ
หรือว่าเป็นคนที่ทำผิดบ่อย?
ถังย่าไม่น่าจะมีประวัติ…
คิดถึงตรงนี้ เจ้านายหลออดตกใจไม่ได้
เจ้านายหลอเผชิญหน้ากับคำถาม ถังย่าขมวดคิ้วตั้งใจคิดอยู่สักพัก เหมือนกำลังคิดคำนวณอยู่ในใจ
ในขณะเดียวกัน ปากของถังย่ายังคงกล่าว : “ฉันนับนะ! 1…2…3…”
เธอพูดไปพลาง สีหน้าของเจ้านายหลอก็ยิ่งเคร่งขรึมขึ้นอีก
เมื่อถังย่านับถึงสาม ความอดทนของเจ้านายหลอก็หมดลง : “พอแล้ว!”
เขาสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่าถังย่าจงใจล้อเล่นกับเขา
คิดถึงตรงนี้ เจ้านายหลอสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาชั่วขณะ
เขากดข้อมือถังย่าไว้ : “ไปสถานีตำรวจกับฉัน”
เจ้านายหลอขี้เกียจจะคุยไร้สาระกับถังย่าอีก กดมือเธอไว้และเดินตรงไปทางรถตำรวจ
ตั้งแต่ต้นจนจบ การแสดงออกของถังย่าสงบนิ่งตั้งแต่เริ่มจนจบ
กระทั่งอยู่ในรถตำรวจแล้ว ท่าทีของเธอดูสบายๆ ราวกับนั่งอยู่บนรถครอบครัวของที่บ้านตัวเอง ถึงขนาดคิดจะนอนงีบสักหน่อย
นายตำรวจสองคนที่มากับเจ้านายหลอ นับถือถังย่าที่เป็นผู้หญิงคนเดียว ที่มีสติสมาธิแข็งแรงได้มากขนาดนี้
หนึ่งในนั้นอดที่จะอ้าปากพูดกับเจ้านายหลอไม่ได้ว่า : “หัวหน้า ผู้หญิงคนนี้ก็มีความสามารถเหมือนกันน่ะ เธอคงไม่ใช่บุคคลที่มีความสามารถอะไรใช่ไหม”
ปกติคนที่เห็นตำรวจแล้วยังนิ่งอยู่ได้ เป็นคนที่มีภูมิหลังทั้งนั้น
แม้ว่าถังย่าดูเป็นผู้หญิงอ่อนแอไม่มีอะไรพิเศษแล้ว…
อ่อ ไม่ใช่
ยังมีอีกอย่างที่นอกเหนือเป็นพิเศษ นั่นก็คือสวยเป็นพิเศษ
แต่ เจ้านายหลอกลับไม่รู้สึกว่าถังย่าเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง
เมื่อกี้ตอนที่เขาใส่กุญแจมือให้ถังย่า รู้สึกถึงกล้ามเนื้อที่ข้อมือของถังย่าได้อย่างชัดเจน
ผู้หญิงคนหนึ่งมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงสวยงาม ต้องผ่านการฝึกฝนมาอย่างไม่หยุดหย่อนถึงจะมีได้
แน่นอน สาเหตุที่สามารถสร้างกล้ามเนื้อได้ขนาดนี้มีมากมาย เช่น ถังย่าฝึกศิลปะการต่อสู้มายาวนาน หรือว่าเป็นนักกีฬาประเภทนักวอลเลย์ นักกีฬาที่ต้องใช้ข้อมือ
สาเหตุเหล่านี้เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่เจ้านายหลอกลับรู้สึกแปลกๆ ว่าถังย่าจะเป็นอย่างแรก
“ระวังหน่อย อย่าเดินใกล้เธอมาก”
เจ้านายหลอเตือนเสียงทุ้มต่ำ
ยิ่งเป็นผู้หญิงที่หน้าตาสวยงาม ยิ่งน่ากลัว
จุดนี้ เจ้านายหลอมีสิทธิพูด
ถึงแม้เขาจะไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักแบบนี้ แต่ในชีวิตปกติก็จากคนข้างตัวไม่น้อย
ลูกทีมทั้งสองคนรู้ดีว่าปกติแล้วเจ้านายหลอเป็นคนจิตใจบริสุทธิ์ ได้ยินเขาพูดแบบนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก
“ได้ หัวหน้า”
พวกเขาจงใจลดเสียงลง ไม่อยากให้ถังย่าได้ยิน
แต่พวกเขาไม่รู้ ถังย่าผ่านการฝึกพิเศษมาตั้งแต่เด็ก ระยะห่างใกล้ๆ แค่นี้ ได้ยินประโยคสนทนาของพวกเขาเป็นเรื่องที่ง่ายดายมาก
ถังย่ายกมุมปากขึ้น ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเรียบง่าย
เดิมทีอารมณ์ไม่ดีเพราะเรื่องของจ้านเซินกับฉินซี แต่เพราะการปรากฏตัวของเจ้านายหลอ กลายเป็นอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย
หลังจากถังย่าถูกพาตัวไปได้ไม่นาน ผู้ช่วยที่ต้องมารับเธอก่อนก็มาถึง
ผู้ช่วยซิวหน่ายซิงมาถึงอย่างรีบร้อน แต่เพราะไม่ได้ขับรถ Maybachที่คุ้นเคย
รถของเขาถูกชนระหว่างทาง ต้องเรียกรถมา ดังนั้นจึงมาช้าไปก้าวหนึ่ง
เมื่อซิวหน่ายซิงมาถึงสนามบิน เห็นคนมากมายยืนมุงกันอยู่ เหมือนกับกำลังประชุมอะไรกันอยู่
คิดถึงความสวยงามของพี่ใหญ่ตัวเอง ซิวหน่ายซิงคิดว่านี้เป็นเรื่องที่เห็นได้อย่างชัดเจน
เขาจงใจเดินไปทางที่คนเยอะๆ อยากจะรับถังย่าไป
แต่ซิวหน่ายซิงเดินวนมาหนึ่งรอบแล้ว กลับไม่เห็นถังย่า
ซิวหน่ายซิงโทรหาถังย่า อีกฝ่ายปิดเครื่อง
เขาทำได้แค่ถามคนที่เดินผ่านไปมาข้างตัวอย่างไม่รู้จะทำยังไง
ซิวหน่ายซิงถามอย่างสุภาพว่า : “สวัสดี คุณผู้หญิง ขอถามหน่อยเมื่อกี้คุณเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยๆ ไหม คุณรู้ไหมว่าเธอไปไหนแล้ว?”
เธอดูสง่างาม รอยยิ้มของเธอทำให้คนรู้สึกสดชื่น
ถังย่าพูดบ่อยว่า รูปลักษณ์ของเธอสามารถใช้หลอกคนได้ง่ายมาก
โดยเฉพาะสาวๆ ที่ยังไม่รู้จักโลกใบนี้ ชอบภายนอกที่ดูอ่อนโยนนุ่มนวลอย่างนี้ที่สุด ที่จริงแล้งเขาเป็นเจ้าชู้ที่แท้ๆอยู่แล้ว
เรื่องจริงเป็นอย่างนี้ ทุกครั้งที่เกิดเรื่องขึ้น ซิวหน่ายซิงจะไปจัดการให้สาวน้อย และมักจะจัดการได้สำเร็จตามเป้าหมายได้เสมอ
แต่ครั้งนี้ ซิวหน่ายซิงกลับทำไม่สำเร็จ
เจอกับการสอบถามของซิวหน่ายซิง สาวที่เดินผ่านทางมองเขาอย่างระมัดระวัง : “คุณเป็นอะไรกับเธอ?”
หญิงสาวตั้งคำถามตรงๆ และลากกระเป๋าเดินทางถอยหลังไปไม่กี่ก้าว สายตาส่อแววความกลัว
เมื่อกี้ที่ถังย่าทำทั้งหมด ทิ้งความทรงจำที่ไม่ดีไว้ในใจของทุกคน
ซิวหน่ายซิงมองท่าทีเดินถอยหลังของเธอ รู้สึกแปลกๆ : “ฉันเป็นผู้ช่วยของเธอ ทำไมคุณถึงกลัวฉันขนาดนั้น ฉันไม่ใช่คนเลว”
เขาพูดพลางยกมุมปากขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้ากว้างขึ้นอีก
หญิงสาวอดคิดถึงท่าทีที่ถังย่าเพิ่งจะลงมือทำกับลูกเศรษฐีไม่ได้ ก็คือรอยยิ้มที่ปาดคอลูกเศรษฐีคนนั้น
เธอตัวสั่นอย่างกะทันหันและพูดอย่างสั่นๆ ว่า : “เธอโดนตำรวจพาตัวไปแล้ว”
พูดจบ สาวน้อยรีบลากกระเป๋าเดินทางวิ่งไปอย่างเร็ว
ท่าทางลนลานของเธอ ราวกับว่ามีหมาป่ากำลังไล่ตามหลังเธออยู่
ซิวหน่ายซิงมองท่าทางเธอวิ่งเตลิดไป ในหัวเต็มไปด้วยความมืด
ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมสาวน้อยคนเมื่อกี้ถึงได้กลัวเขาขนาดนั้น ที่แท้เป็นเพราะถังย่า
ซิวหน่ายซิงอยากรู้ครั้งนี้หญิงสาวคนนี้ทำเรื่องอะไรที่ “สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน” ไปอีก ที่ทำให้คนทั้งสนามบินแค่ได้ยินชื่อเธอก็เกรงกลัวกันหมด
เขาเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ เมื่อกี้ตอนที่ตัวเองกำลังรีบมาสนามบิน สวนกับรถตำรวจหนึ่งคันพอดี ตอนนั้นยังคิดอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น คนโง่คนไหนโดนจับไป ที่แท้คนที่โดนจับไปเป็นพี่ใหญ่ของตัวเองนี่เอง
ซิวหน่ายซิงคิดว่าต้องไปช่วยถังย่าออกจากสถานีตำรวจอีกแล้ว ก็อดปวดหัวไม่ได้
รถส่งกลับไปซ่อมแล้ว
ไม่รู้จะทำยังไง ซิวหน่ายซิงทำได้แค่ขวางรถแท็กซี่ไว้ ถามที่อยู่ของสถานีตำรวจ และรีบพุ่งไป
……
ในสถานีตำรวจ
ถังย่านั่งอยู่ในห้องสอบปากคำ เหยียดขาสองข้าง
เธอหยิบหมากฝรั่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อคลุม แกะเปลือกออกและโยนเข้าปากไปและเริ่มเคี้ยว
ถังย่ามองไปทางเจ้านายหลอที่นั่งอยู่ตรงข้าม ยิ้มน้อยและพูดว่า : “เจ้านายหลอ หมากฝรั่งรสใหม่ล่าสุด ในประเทศหาซื้อไม่ได้น่ะ ลองหน่อยไหม”
เดิมทีเธออยากสูบบุหรี่ แต่ที่ตัวไม่มีบุหรี่ จึงทำได้แค่เคี้ยวหมากฝรั่งแก้ขัดไปก่อน
“ไม่ต้อง”
เจ้านายหลอมองไปที่ฝ่ามือขาวคู่นั้นที่ยื่นมาตรงหน้าตัวเอง ในแววตาส่องประกายความคลุมเครือ
เขาเงยหน้าจ้องตาสวยคู่นั้นของถังย่า ถามด้วยเสียงเคร่งขรึม : “เริ่มสอบสวนตอนนี้ ระหว่างสอบสวนคุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด แต่ทุกประโยคที่คุณพูดจะเป็นหลักฐานในชั้นศาล”
เจ้านายหลอกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ถังย่ามองท่าทางจริงจังของเขา แววตาส่องประกาย
เขาคิดว่าเจ้านายหลอคนนี้น่าสนใจ