บทที่ 1380 ยิ่งเลียนแบบก็ยิ่งแย่
ความรู้สึกรักแต่ครอบครองไม่ได้อย่างนี้ ทำให้ถังย่าเจ็บปวดในใจนิดๆ
“ฮะ?”
หลังจากหลิวซีหางได้ฟังคำตอบของเธอ รู้สึกสับสนนิดหน่อย : “ไม่ใช่จริงๆ หรือ? พวกคุณทั้งคู่ใส่เสื้อคู่กันขนาดนี้แล้ว จะไม่ใช่ได้ยังไง?”
เดิมทีเธออยากจะจับคู่ถังย่ากับหลอจี่หอาง แต่ตอนนี้หลังจากเห็นว่าข้างกายถังย่ามีผู้ชายที่หล่อเหลากว่าหลอจี่หอางอยู่แล้ว จึงตัดความคิดนี้ไปชั่วขณะ
ถ้าเป็นเธอล่ะก็ เธอก็อาจจะเลือกจ้านเซินเหมือนกัน
ไม่ได้!
ความจริงแล้วหลอจี่หอางกับจ้านเซินไม่เหมือนกันเลยสักนิด ว่าไปแล้วก็แยกไม่ได้ว่าใครดีกว่ากัน
แค่ว่าหลิวซีหางค่อนข้างชอบจ้านเซินที่เป็นผู้ชายเย็นชาแบบนั้นมากกว่าหน่อย ดังนั้นจึงรู้สึกว่าจ้านเซินดีกว่าหน่อย
ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชายแข็งแกร่ง รักความยุติธรรม ต้องเลือกหลอจี่หอางแน่นอน
แต่ว่าหลิวซีหางไม่รู้ว่าถังย่าชอบผู้ชายแบบไหน
หรือว่าหลอจี่หอางก็คิดแต่ก็ยังไม่แน่ใจกัน
“ไม่ใช่เสื้อคู่ ชุดนั่นพวกเราแค่ซื้อพร้อมกันเท่านั้นเอง”
ถังย่าหัวเราะอย่างยากลำบากพลางอธิบาย
ความจริงแล้ว เธอซื้อชุดนี้ให้จ้านเซินเป็นของขวัญวันเกิดให้เขาเมื่อปีที่แล้ว
ถังย่ากำลังเห็นแก่ตัว อยากจะใส่เสื้อคู่กันกับจ้านเซิน
ด้านความรักจ้านเซินก็เหมือนกระดาษแผ่นหนึ่ง
เขาไม่เคยสนใจสิ่งที่ตัวเองสวมใส่ แค่คิดว่าเสื้อผ้าชุดนี้ของถังย่าคุณภาพไม่เลว ดีไซน์ก็ตรงตามที่เขาชอบมาก เลยทำให้ใส่บ่อยเท่านั้นเอง
ถังย่าคิดว่า ถ้าจ้านเซินรู้ว่าใจในตัวเองมีความคิดแบบนี้ เขาอาจจะไม่ใส่
ผู้หญิงเหมือนกัน หลิวซีหางเหมือนจะเข้าใจความหมายที่ถังย่าบอก
เธอมองถังย่าที่ก่อนหน้านี้ยังแสดงออกอย่างสบายๆ อยู่ในสถานีตำรวจ แต่หลังจากที่จ้านเซินมาก็เปลี่ยนเป็นสงบนิ่งขึ้นมาทันที ในใจพอจะเข้าใจอะไรแล้ว
“คุณถัง สู้ๆ!”
หลิวซีหางเข้าใกล้ถังย่ากะทันหันและพูดเบาๆ
เธอมองถังย่าด้วยแววตาส่องแสง กำมือแน่นเป็นหมัด
การเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นกะทันหัน ทำให้ถังย่าตะลึงยืนอยู่กับที่ เธอมองหลิวซีหางอย่างสงสัย : “อะไร?”
ถังย่าไม่เข้าใจว่าหลิวซีหางกำลังทำอะไร
“คุณถัง ฉันเห็นว่าตอนที่คุณกับคุณผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ด้วยกันดูเข้ากันที่สุดเลย คุณห้ามท้อเด็ดขาด คุณต้องทำได้แน่นอน”
หลิวซีหางอดให้กำลังใจเธอไม่ได้
เธอไม่ได้โกหก เธอคิดว่าจากเงื่อนไขของถังย่า มีแค่จ้านเซินเท่านั้นที่เหมาะสม
หลิวซีหางดูออก ถังมีความคิดแบบนั้นกับจ้านเซิน
ในใจเธอ ในเมื่อชอบ งั้นก็ห้ามท้อ
ถ้าคนที่เหมาะสมกันทั้งสองคนยังไม่สามารถเดินไปด้วยกันได้ งั้นเธอก็ได้แต่ผิดหวังตามไปด้วย
หลังจากถังย่าฟังเธอพูดจบ ใจก็ว้าวุ่นและพูดไม่ออก : “คุณไม่เข้าใจ เขามีคนที่ชอบแล้ว”
ริมฝีปากแดงขยับเบาๆ ถังย่ากล่าวด้วยเสียงผิดหวัง ในดวงตาสวยส่องประกายความผิดหวัง
เธอรู้ความหวังของตัวเองมีเพียงน้อยนิด
ระหว่างเธอกับฉินซีแล้ว จ้านเซินต้องเลือกฉินซีแน่นอน
“เป็นไปไม่ได้!”
หลิวซีหางส่งเสียงออกมาอย่างตกใจ
หลังจากรู้ตัวว่าเสียงของตัวเองดังเกินไป เธอรีบร้อนเอามือปิดปาก
เธอแอบมองจ้านเซินแวบหนึ่ง ในใจเต็มไปด้วยความเสียดาย
หลิวซีหางเอ่ยปากซุบซิบ : “ถ้างั้นคนที่เขาชอบสวยไหม?”
เธอรู้สึกจริงๆ ว่าถังย่ากับจ้านเซินเหมาะสมกันที่สุด ไม่ได้อยู่ด้วยกันน่าเสียมาก
“สวย”
ถังย่าจินตนาการภาพใบหน้าที่สวยงามของฉินซีในใจ เม้มปากและพยักหน้า
“อย่างนี้ก็ยากแล้ว…”
“เฮ้อ!”
หลิวซีหางแอบถอนหายใจในใจ
เธอถามต่อว่า : “สวยกว่าคุณอีกหรือไง?”
หลิวซีหางรู้สึกว่า ถังย่าคือผู้หญิงที่สวยที่สุดที่เธอเคยเห็น
ปกติหลิวซีหางติดตามดารา แต่ถังย่าสวยกว่าดาราพวกนั้นอีก
ทำไมจ้านเซินถึงไม่ชอบกัน?
คนที่ทำให้จ้านเซินละทิ้งสาวงามตรงหน้า คนที่มีความรักลึกซึ้ง ต้องโดดเด่นขนาดไหน
หลิวซีหางรู้สึกได้ทันทีว่าเซลล์สมองของตัวเองน้อยเกินไป คิดภาพไม่ออกเลยสักนิด ต้องเป็นนางฟ้าแบบไหนกัน
ถังย่าคิดแล้วคิดอีกและพูดว่า : “ฉันกับเธอไม่ใช่คนประเภทเดียวกัน เธอนิสัยค่อนข้างเย็นชา คนอื่นมักจะบอกว่าเธอสง่างามราวดอกบ๊วย มีเสน่ห์ทำให้คนหลงใหล ราวกับสี่สาวงามในสมัยก่อน”
เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในองค์กร บุคลากรต่างบอกว่าเธอกับฉินซี คนหนึ่งเป็นไฟ คนหนึ่งเป็นน้ำแข็ง
พวกเธอสวยมาก มองเพียงแวบเดียวก็ไม่สามารถลืมได้ลง ความภาคภูมิใจเป็นสองเท่าขององค์กรอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
หลังจากที่ถังย่ารู้ว่าจ้านเซินชอบฉินซี ถึงขนาดสนใจศึกษาความเคยชินของฉินซีบางส่วน เธอมีลักษณะนิสัยยังไง แต่กลับทำออกมาไม่สมเหตุสมผล
ตอนนั้นทุกคนคิดว่าเธอสติไม่ดีรึเปล่า ป่วยหรือไม่
แม้แต่จ้านเซินยังถามเธอว่าช่วงนี้ความกดดันมากเกินไปรึเปล่า ไม่สบายรึเปล่า ต้องการพักผ่อนสักหน่อยไหม
คำพูดของจ้านเซินส่งผลต่อความภูมิใจในตัวเองของถังย่า
เธอเพิ่งจะเข้าใจ ตัวเองราวกับยิ่งเลียนแบบยิ่งแย่ ไม่เข้าใจแก่นแท้ของฉินซี การกระทำท่าทางอย่างนั้น ก็แค่ทำให้คนอื่นหัวเราะเยาะเธอเท่านั้นเอง
คิดถึงตรงนี้ ในใจถังย่าเจ็บปวดนิดๆ
หลังจากนั้น ถังย่าไม่เคยเลียนแบบฉินซีอีกเลย
เธอเป็นตัวเองตามเดิมเพราะเธอรู้ว่าจ้านเซินจะไม่เลิกชอบฉินซีและมาชอบเธอแทน เพราะเธอเหมือนกันกับฉินซี
หลิวซีหางฟังเธออย่างเงียบๆ และถามอย่างออกรสออกชาติว่า : “ทำไมคนสวยคนหล่อข้างตัวคุณมีเยอะขนาดนี้ ฉันเสียใจที่มีแฟนเร็วไป ตอนนี้เจอคนหล่อๆ ทำได้แค่มอง หยอกล้อไม่ได้”
น้ำเสียงของหลิวซีหางเมไปด้วยความคับแค้นใจ เม้มปากราวกับน้ำตาจะไหลลงมาในทันที
ได้ยินเสียงของเธอ สติของถังย่ากลับมาในทันที
เธอยิ้มพลางมองหลิวซีหางและพูดว่า : “ได้เจอคนที่ชอบคุณ คุณก็ชอบเขา เป็นเรื่องที่มีความสุขที่สุดเรื่องหนึ่ง นี่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าตาเลยสักนิด”
ถังย่าเหมือนเป็นพี่สาวคนโต ใช้เสียงเบาๆ ปลอบโยน
กล่าวโดยรวมแล้ว ในแง่ของความเป็นมนุษย์ ถังย่าเข้มแข็งกว่าจ้านเซินไม่รู้กี่เท่า
จ้านเซินใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งอยู่ในองค์กร แต่ถังย่าที่เป็นลูกน้อง กลับวิ่งวุ่นปฏิบัติภารกิจอยู่ด้านนอก และหลีกเลี่ยงการปลอมตัวเพื่อให้เข้ากับผู้คนไม่ได้
“คุณถัง คุณไม่ต้องปลอบฉันแล้ว”
หลิวซีหางถอนหายใจ ความจริงแล้วเธอก็แค่พูดๆ ไป ในใจยังชอบแฟนของตัวเองมากอยู่ดี
ประโยคสนทนาวนกลับมาที่ตัวถังย่าอีกครั้ง : “คุณถัง งั้นพาสาวคนนั้นที่คุณพูดถึง เขาชอบคุณชายคนเมื่อกี้มากใช่ไหม?”
ถึงแม้หลิวซีหางไม่เห็นฉินซีกับตา แต่จากรายละเอียดที่ถังย่าอธิบาย ก็พอจะจินตนาการออก ว่าเป็นคนที่สวยยังไง
ถังย่ารู้ว่าฉินซีชอบลู่เซิ่น สำหรับจ้านเซินเป็นแค่ความรู้สึกพี่น้องธรรมดาทั่วไป : “ไม่ชอบ”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ความตกใจปรากฏในดวงตาหลิวซีหาง
เธอพูดอย่างดีใจว่า : “คุณถัง ฉันคิดว่างั้นคุณก็ยังมีโอกาส”
แค่ไม่ได้ชอบพอกันทั้งคู่ งั้นก็ยังมีความเป็นไปได้