บทที่ 145 อยากครอบครองผู้ชายคนนี้ไว้เพียงคนเดียว
งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไป เพียงแต่ผู้จัดนั้นแยกย้ายกลับกันปหมดแล้ว ในงานไม่นานก็เงียบลง
มู่วี่สิงนั่งอย่างสบายใจอยู่มุมด้านหนึ่งของโซฟา ไวน์แดงราคาเป็นหมื่นในมือ ฉืออี้เหิงช่างใส่ใจกับงานในคืนนี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
“สุดท้ายก็เป็นวัยรุ่นอารมณ์ร้อน”มู่วี่สิงเอ่ยออกมาเบาๆ สายตามองไปยังแผ่นหลังลุกลี้ลุกลนของฉืออี้เหิง
“วี่สิง เรื่องนี้คุณเกี่ยวข้องด้วย?” เสี้ยงหงยกปลายคิ้วขึ้น
เขาคิดมาตลอดว่ามู่วี่สิงไม่มีทางปล่อยให้บริษัทของฉืออี้เหิงเติบโตขึ้นง่ายๆแน่ แต่ก็คิดไม่ออกมาโดยตลอด
“เขากล้าแตะต้องคนของผม บทลงโทษนี้ผมไม่มีทางให้เขาได้อยู่ในหนานเฉิงอีกต่อไป” แววตาร้ายกาจถูกส่งผ่านออกมาในแววตาของมู่วี่สิง
เสี้ยงหงชนแก้วกับเขา ขมวดคิ้วขึ้น “ก็จริง ดูเหมือนว่าคุณจะใส่ใจเวินจิ้งนะ”
“เธอคือคุณนายมู่”
“วี่สิง ในฐานะเพื่อน ผมจะไม่เตือนคุณก็ไม่ได้ มีบางเรื่อง จะจริงจังไม่ได้” เสี้ยงหงขมวดคิ้ว สายตามองผ่านผู้คนไปยังเวินจิ้ง
“เสี้ยงหง ตอนนี้คุณดูแลตัวเองดีๆจะดีกว่า” มู่วี่สิงหรี่ตาแคบ
เสี้ยงหงขมวดคิ้ว “ผมรู้ตัวว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”
งานเลี้ยงใกล้จะจบลงแล้ว เสี้ยงหงและอั้ยเถียนกำลังจะกลับแล้ว แต่รอบข้างมู่วี่สิงยังคงล้อมรอบไปด้วยบุคคลสำคัญมีชื่อเสียงมากมาย บทสนทนาส่วนใหญ่เกี่ยวกับการเรียนหมอ แต่สายตาผู้หญิงบางคนนั้นร้อนแรง
เวินจิ้งไม่พอใจอยู่บ้าง เดินเข้าไป ขวงแขนมู่วี่สิงเอาไว้ “คุณ ฉันเหนื่อยแล้ว”
มู่วี่สิงวางแก้วไวน์ลง เอ่ยกับบคนเหล่านั้นอย่างมีมารยาท “ถ้าหากพวกคุณสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมของแผนกศัลยกรรมประสาทสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ของโรงพยาบาลเหรินหมินได้เลยนะครับในนั้นมีรายละเอียดชัดเจน”
เอ่ยจบโอบประคองเวินจิ้งเดินออกมา
สายตาของผู้หญิงหลายคนเปลี่ยนเป็นอิจฉา อดไม่ได้เอ่ยถาม “คุณหมอมู่ นี่คือภรรยาของคุณหรอคะ?”
มู่วี่สิงพยักหน้า ตลอดทางเดินออกมา เวินจิ้งรู้สึกราวกับตัวเองถูกสายตาของผู้หญิงเหล่านั้นฆ่าให้ตาย
“ไปไหนก็มีแฟนคลับของคุณทุกที่เลยนะ” เวินจิ้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงแง่งอน
จริงๆในใจนั้นนิ่งสงบ แต่ไม่ว่ามู่วี่สิงจะไปที่ไหนก็เป็นจุดสนใจ ตอนนี้เธอรู้สึกอยากครอบครองเขาเอาไว้คนเดียวมากจริงๆ…..
“ถ้าคุณไม่ชอบ ต่อไปผมจะไม่เผยหน้าแล้วเอาไหม? หืม?” มู่วี่สิงหันมาหาเธอ น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม
เวินจิ้งรีบส่ายหัว “ไม่ได้”
“ผมชอบที่คุณนายมู่หึงนะ” มู่วี่สิงยิ้มมุมปาก เชยปลายคางเธอขึ้นและมอบจูบนุ่มนวลให้กับเธอ
เวลานี้ รถหรูเบรคกระทันหัน เวินจิ้งยังไม่ทันได้จับยึดมือของเขา มู่วี่สิงอุ้มเธอ ดวงตาคมมองตรงไปข้างหน้า บีเอ็มสีขาวคันหนึ่งจอดขวางทางออกของโรงจอดรถ
“คุณมู่ ขอโทษด้วยครับ” คนขับรถรีบเอ่ยขอโทษ
ใบหน้าของมู่วี่สิงเข้มขึ้น รถคันข้างหน้าไม่ขยับออก ประตูรถถูกเปิดออกแล้วเดินตรงเข้ามา
เป็นฉืออี้เหิง
เมื่อสักครู่ฉืออี้เหิงรีบร้อนออกไปจากงานเลี้ยง เวินจิ้งไม่ทราบสาเหตุ แต่ตอนนี้มองใบหน้าเกรี้ยวกราดของเขา เดินเข้ามาถึงก็เอ่ยออกมาด้วยท่าทีโมโห “มู่วี่สิง เป็นแกใช่ไหม!”
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เปิดประตูออกไป ริมฝีปากบางยิ้มเย็น “คุณฉือพูดเรื่องอะไรหรอครับ?”
“บริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปต้องย้ายไปอยู่แอฟริกา คนที่อยู่เบื้องหลังก็คือแก!” ฉืออี้เหิงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
เขารู้ข่าวช้าขนาดนี้เป็นเพราะฝีมือของมู่วี่สิง
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม? ถ้าคุณไม่อยากให้บริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปต้องล้มละลาย ก็ไม่ต้องคิดค้นวิจัย AHสิครับ ผมยังไงก็ได้”
“แกก็รู้อยู่แก่ใจ ถ้าหากฉันล้มเลิกแผนการนี้ บริษิทเหิงอวี่กรุ๊ปก็ต้องเริ่มต้นใหม่”