บทที่ 1468 เชื่อไม่ได้
“เรื่องอะไร?”
ตามหลักแล้ว หัวหน้ารปภ.ไม่ควรอยู่ที่นี่ เกิดเรื่องใหญ่โตอะไรขึ้นกันแน่ ถึงทำให้เขามาที่นี่ด้วยตัวเอง
หัวหน้ารปภ.เหลือบมองฉินซีครู่หนึ่ง เขาพูดขึ้นอย่างกระง่องกระแง่งว่า:“ประธานหลู นี่……”
เมื่อรับรู้ได้ว่าเขาป้องกันอย่างระมัดระวัง ฉินซีจึงออกตัวลุกขึ้น:“ประธานหลู พวกคุณพูดคุยธุระกันก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันไปเดินเล่นที่อื่นก่อน”
เมื่อพูดจบ ขณะที่เธอกำลังจะจากไป
หลูจื๋อหลินก็มองไปที่การกระทำของเธอ และรีบเอ่ยปากยื้อไว้:“คุณฉิน คุณเป็นแขก จะไล่แขกได้อย่างไรกัน เดี๋ยวผมไปจัดการธุระก่อน เดี๋ยวอีกสักพักจะกลับมาหาคุณ”
เขาจับที่แขนของฉินซี เพื่อให้เธอนั่งลง
ฉินซีหลบการสัมผัสของเขา พลางพยักหน้า:“ได้ค่ะ”
ในใจของเธอเหน็บแนมพลางยกริมฝีปากขึ้น ตอนนี้หลูจื๋อหลินดูสง่าผ่าเผย แต่เกรงว่าอีกไม่นานก็คงจะยิ้มไม่ออก
ไม่รู้เหมือนกันว่าหากหลูจื๋อหลินรู้ว่าเอกสารสำคัญของตัวเองหายไป แล้วจะยังมีอารมณ์เย้าแหย่อยู่ที่นี่ไหม
เมื่อคิดถึงจุดนี้ ในใจของฉินซีก็รู้สึกสะใจไม่น้อย
โดยปกติแล้ว เธอเกลียดวิธีที่ใช้ความสวยเพื่อมาหลอกล่อเป็นที่สุด
แต่ว่า ภารกิจที่ทุกครั้งที่มีผู้ชายเป็นฝ่ายตรงข้าม วิธีการนี้เป็นวิธีการที่ใช้ได้ผลที่สุด
ในใจของฉินซีเฮิงด้วยความเย็นชา:“ผู้ชายเหล่านี้ตาเป็นมัน ไม่ช้าก็เร็วก็จะต้องตายอยู่ในอ้อมกอดของผู้หญิง”
หลูจื๋อหลินก็เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด หากเขาไม่ดูถูกความสามารถของฉินซี หลักฐานของเขาก็จะไม่ถูกขโมยไป
หลูจื๋อหลินพาหัวหน้ารปภ.จากไป ยังด้านในของห้องรับรองและหยุดฝีเท้าลง
“มีเรื่องอะไร?”
หลูจื๋อหลินเอ่ยปากอย่างเย็นชา สายตาจับจ้องไปที่เขา
หัวหน้ารปภ.รู้สึกถึงความกดดัน:“ประธานหลูเมื่อสักครู่นี้มีคนบุกรุกชั้นบน แล้วขโมยเอกสารสำคัญในตู้เชฟไป ……”
ขณะที่เขาพูด สีหน้าของหลูจื๋อหลินก็ค่อยๆขรึมขึ้น
สองมือของกำหมัดแน่น สายตาแหลมคมราวกับมีด
หัวหน้ารปภ.ยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งเบาลง เขาค่อยๆเงยหน้าหรี่ตามองหลูจื๋อหลิน สองเกือบแทบจะอ่อนแรงลงและเกือบที่จะล้มลงบนพื้น
เขาปิดปากแน่น สั่นไปทั้งตัว
หลูจื๋อหลินกัดฟันแน่น พลางพูดขึ้นว่า:“พูดต่อสิ!”
แม้ว่าเขาจะพอคาดเดาคำพูดหลังจากนี้ได้แล้ว แต่เขาก็อยากจะได้ยินด้วยหูของเขาเอง เขาจึงจะตัดใจ
เมื่อต้องเผชิญกับคำถามของหลูจื๋อหลินหัวหน้ารปภ.จึงเอ่ยปากขึ้นว่า:“เอกสารสำคัญถูกขโมยไปแล้วครับ”
หลังจากที่เขาพูดประโยคนี้ออกมา ในใจของเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้น
แต่สิ่งที่ตามมากลับเป็นหมัดอย่างแรงของหลูจื๋อหลิน
“ผัวะ!”
เสียงดังทั่วห้องหลูจื๋อหลินใช้สุดแรงที่มี หน้าของหัวหน้ารปภ.ก็แดงขึ้นมา
หมัดนี้ทำให้หัวหน้ารปภ.งุนงง
สองมือของเขาประคองที่ใบหน้ามองไปยังหลูจื๋อหลินด้วยความตกใจ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้ต่อยตนเอง
หลูจื๋อหลินมองดูทีทีท่าของเขา ชั่วขณะนั้นก็โกรธควันออกหู:“ผมให้พวกคุณดูแลให้ดี แล้วพวกคุณมัวทำอะไรกันอยู่!หรูเว่ยเสียงล่ะ เขากลับมาก่อนเวลาไม่ใช่เหรอ?ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน!”
เขาพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม นัยน์ตาสีตาฉายประกายกระหายเลือด
หากตอนนี้ไม่ใช่เป็นเพราะต้องตามหาเขาหลูจื๋อหลินอยากที่จะหันพวกเศษวันนี้ออกเป็นชิ้นๆจริงๆ
เมื่อหัวหน้ารปภ.เห็นเขาโมโหขนาดนี้ ก็ก้มหน้าลง:“หรูเว่ยเสียงกำลังตามหาอยู่ครับ แต่ตอนนี้ยังหาร่องรอยของคนที่บุกรุกไม่เจอ”
เมื่อประโยคนี้ถูกพูดออกไป หลูจื๋อหลินก็ยิ่งโมโหมากขึ้นไปอีก
“เศษวะ!เศษวะ!พวกเศษวะ!ผมให้พวกคุณกินดีอยู่ดีทุกวัน พวกคุณกลับตอบแทนผมแบบนี้เหรอ?ตอนนี้พวกคุณรีบพาผมไปหาหรูเว่ยเสียงเร็ว ผมจะไปถามเขาด้วยตนเอง !”
ในตู้เชฟล้วนเก็บเอกสารที่หลายปีมานี้เขาทำผิดกฎหมาย หากถูกนำไปส่งให้กับตำรวจ งั้นชีวิตหลังจากนี้ของเขาก็อย่าหวังเลยว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบาย
ความผิดที่มีสามารถทำให้เขาตายได้เป็นร้อยครั้ง
เมื่อคิดถึงจุดนี้หลูจื๋อหลินรู้สึกก็หนาวสะท้าน
แต่ไหนแต่ไรหัวหน้ารปภ.ไม่เคยเห็นหลูจื๋อหลินโมโหขนาดนี้มาก่อนเลย
เขาไม่กล้าให้เสียเวลา รีบนำทางหลูจื๋อหลินขึ้นไปข้างบน
“เร็วเข้า!”
ตลอดการเดินทางหลูจื๋อหลินเร่งเขาหลายต่อหลายรอบ
……
ชั้นบน
หรูเว่ยเสียงยังคงตามหาเบาะแสของฉินซิกับลู่เซิ่น โดยไม่รู้เลยว่าอันตรายกำลังจะมาถึง
เขาหาแทบจะพลิกทั้งชั้นเพื่อตามหา แต่ก็หาคนที่น่าสงสัยไม่พบ
ขณะที่หรูเว่ยเสียงกำลังที่จะไปรายงานเรื่องนี้กับหลูจื๋อหลิน ก็ได้ยินเสียงเร่งฝีเท้าจากด้านหลัง
เขาหันไปดู แต่ยังไม่ทันรู้ว่าใครมา
ในเวลานี้เอง แรงมหาสารก็อัดไปที่ข้อพับขาของหลูจื๋อหลิน
ได้ยินเพียงแค่เสียง “ตุบ!” หลูจื๋อหลินอัดไปที่ข้อพับของเขาอย่างแรง
“ปึ๊ก”
หรูเว่ยเสียงเฮิงและล้มลงไปคุกเข่าบนพื้น
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าหลูจื๋อหลินจะปฏิบัติกับเขาแบบนี้
หลูจื๋อหลินเอ่ยปากพูดด้วยความโกรธว่า:“เศษวะ!คุณทำงานยังไงกัน!”
เขาเดินมาข้างหน้าของหรูเว่ยเสียง สายตาแดงระเรื่อจ้องมองไปที่เขา
“ขอโทษครับ”
หรูเว่ยเสียงรู้ว่าตัวเองทำผิด ก็ไม่ได้ปัดความผิดชอบ
เขาเอ่ยปากขอโทษยอมรับแต่โดยดี แต่หลูจื๋อหลินไม่ยอมรับ:“ขอโทษแล้วมีประโยชน์เหรอ?คนล่ะ!ใครเป็นคนขโมยของไปกันแน่!”
หลูจื๋อหลินโกรธจนสะบัดมือออก ความโกรธที่มีในใจปะทุขึ้นมาอย่างไม่หยุดยั้ง
เสียดายที่เขาไว้ใจหรูเว่ยเสียงขนาดนี้ แต่เขากลับสะเพร่า
หรูเว่ยเสียงก้มหน้า เอ่ยปากขึ้นว่า:“หนีไปแล้วครับ”
เขาหาบนตึกนี้จนทั่ว แต่ก็ไม่พบร่องรอยของฉินซีกับลู่เซิ่น
สิ่งเดียวที่เป็นไปได้ก็คือ พวกเขาหนีออกไปแล้ว
“อะไรนะ!”
เมื่อหลูจื๋อหลินได้ยินประโยคนี้ก็แทบจะล้มสลบลง
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นด้วยเสียงสูง สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
หลูจื๋อหลินโกรธจนกำหมัด:“หนีไปแล้ว?หนีไปที่ไหน?”
เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เข้มขรึม หรูเว่ยเสียงกลับตอบไม่ได้:“ไม่ทราบครับ”
เมื่อเสียงของหรูเว่ยเสียงจบลง หลูจื๋อหลินทนไม่ได้ทั้งเตะทั้งต่อยเขา
หัวหน้ารปภ.แอบดูอยู่ข้างๆ สีหน้ายิ้มอย่างมีเลศนัย
ยิ้มจนกระทบกับบาดแผลเมื่อสักครู่ หัวหน้ารปภ.เจ็บจนต้องขมวดคิ้ว
แต่หรูเว่ยเสียงกลับคุกเข่าอยู่ที่พื้น และถูกเตะต่อยด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก
หลูจื๋อหลินรู้สึกว่าว่าแม้ว่าหรูเว่ยเสียงจะถูกฆ่าตายก็ไม่อาจทำให้ความรู้สึกโกรธของเขาลดลง:“คุณรู้ทั้งรู้ว่าเอกสารนั้นสำคัญมาก แล้วทำไมถึงยังปล่อยให้ถูขโมยไปได้ หรือว่าคุณไม่อยากมีหัวอยู่บนบ่าแล้ว!”
เขาเตะต่อยจนเหนื่อยแล้ว ก็เอ่ยปากอย่างหอบๆว่า:“หากคุณไม่ต้องการ ผมจะช่วยคุณเอาออกเดี๋ยวนี้”
หลูจื๋อหลิน เท้าสะเอว ยืนอยู่ที่เดิม
เขารู้สึกว่าตนเองโกรธจนหน้าเขียวแล้ว
หรูเว่ยเสียงคุกเข่าอยู่ที่พื้นอย่างเงียบๆ และยอมถูกเขาด่า
เมื่อหลูจื๋อหลินเห็นท่าทีของเขา ความโกรธก็ค่อยๆคลายลง:“ผมถามหน่อยว่า คนที่บุกรุกหน้าเป็นยังไง เห็นหน้าไหม”
เพราะถึงจะถูกหรูเว่ยเสียงทำร้ายจนตายก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดก็คือจะทำยังไงถึงจะได้เอกสารพวกนั้นกลับมา อีกทั้งยังรับรองได้ว่าคนที่ขโมยยังไม่ได้นำไปเผยแพร่ที่ไหน