บทที่ 1470 จับเป็น
หรูเว่ยเสียงเข้ามาในตอนนี้ก็คงจะมาจับตัวผู้บุกรุก
แต่ว่าฉินซีกลับไม่รู้สึกกังวลเลยแม้แต่น้อย เธอมีวิธีที่จะหลบหลีจากการเป็นผู้ต้องสงสัย
เธอเดินวงหนึ่งรอบ จากนั้นก็นั่งลงที่มุมหนึ่ง
ในขณะเดียวกัน
ลู่เซิ่นก็เห็นหลูจื๋อหลินกับหรูเว่ยเสียง
เขาเปลี่ยนมาใส่ชุดพนักงานเสิร์ฟตั้งนานแล้ว แล้วใส่หน้ากากอีกครั้ง พลางเดินไปรอบๆห้องโถง บริการแขกที่เข้ามาอย่างนอบน้อม
ฉินซีและลู่เซิ่นสงบนิ่งขนาดนี้ ใครก็ดูไม่ออกมาพวกเขาทั้งสองคนเป็นขโมย
หรูเว่ยเสียงมองหาอย่างละเอียด จู่ๆ เขาก็พบว่าบริเวณมุมด้านหนึ่งฉินซีนั่งอยู่ จึงรีบเดินเข้าไป
เขารู้สึกว่าบุคลิกลักษณะของฉินซีกับผู้หญิงคนนั้นคล้ายกันมาก
หรูเว่ยเสียงกลัวว่าเธอจะหนีไปอีกครั้ง จึงเดินเข้าไปข้างหน้าเธออย่างรวดเร็ว
เขาไม่แม้แต่จะคิด รีบเข้าไปจับตัวเธออย่างรวดเร็ว
“อา!”
ฉินซีร้องเสียงแหลม สีหน้าเผยความตกใจออกมา
แขนของเธอถูกหรูเว่ยเสียงจับไว้แน่น เจ็บจนเธอต้องขมวดคิ้ว
ฉินซีโกรธเป็นอย่างมากเธอแกล้งทำเป็นบอบบางและพูดขึ้นอย่างน่าสงสารว่า:“คุณผู้ชายท่านนี้ คุณต้องการจะทำอะไรคะ?”
ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของฉินซี ขณะพูดคุยกับเธออย่างถูกคอ
เมื่อเห็นฉินซีได้รับอันตราย จึงรีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า:“คุณเป็นใคร กลางวันแสกๆถึงกล้าทำร้ายคนได้!”
ชายผู้นั้นยืนอยู่ด้านหน้าของฉินซี อยากที่จะช่วยเหลือเธอ
แต่ไม่ง่ายเลยที่หรูเว่ยเสียงจะจับตัวฉินซีได้ แล้วจะปล่อยเธอไปง่ายๆได้อย่างไร
หรูเว่ยเสียงพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า:“ผมขอร้องล่ะ คุณอย่ามายุ่งกับเรื่องไร้สาระพวกนี้เลย”
ในใจของเขารู้ดีว่า ชายที่อยู่ข้างหน้าจะต้องลุ่มหลงในความสวยของฉินซีเป็นแน่ ก็เลยออกตัวช่วยเหลือ อยากที่จะแสดงออกต่อหน้าฉินซี
แต่ว่าเขาไม่รู้ว่าในความเป็นจริงแล้วฉินซีเป็นงูพิษตัวหนึ่ง
หากเขาไม่เผลอนิดเดียว ฉินซีก็อาจจะเอาชีวิตของเขาได้
เมื่อคิดถึงจุดนี้ หรูเว่ยเสียงก็กดที่มือของเธอและเพิ่มน้ำหนักมือลงไปอีก
ไม่นานหน้ากากของฉินซีก็ถูกเปิดออก เผยใบหน้าของเธอออกมา
หลังจากที่ทุกคนเห็นใบหน้าของฉินซี ก็ต่างกลืนน้ำลาย
พวกเขาต่างเคยคาดเดาว่า รูปร่างหน้าตาของฉินซีจะไม่เหมือนใคร และคงจะไม่ขี้เร่อะไร
แต่ว่า กลับไม่คิดเลยว่าฉินซีจะสวยขาดนี้
ผู้คนต่างไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาเปรียบเปรยความงามของเธอ ฉินซีน่าจะเป็นนางฟ้าที่สวรรค์ส่งมา สวยจนสะดุดสายตาของทุกคน
เมื่อลู่เซิ่นเห็นฉากนี้ก็กำหมัดแน่น
เขาอยากที่จะเก็บหน้ากากขึ้นมา แล้วสวมใส่ให้กับฉินซี
ลู่เซิ่นไม่อยากที่จะให้ผู้ชายพวกนั้นใช้สายตาราวกับหมาจ้องมองฉินซี
สายตาของพวกเขามองฉินซีด้วยความหยาบคาย
โจวเอ้อเดินมายังข้างกายของลู่เซิ่น พูดเตือนขึ้นว่า:“อย่าขัดขวางภารกิจของฉินซี สงบสติอารมณ์หน่อย”
เขามองออกว่าลู่เซิ่นกำลังหึงอยู่ กลัวว่าเขาจะทำอะไรบุ่มบ่ามลงไป
เมื่อสักครู่นี้โจวเอ้อควรที่จะขัดขวางการขึ้นไปบนตึกของลู่เซิ่น แต่เขาก็เป็นกังวลว่าฉินซีจะรับมือไม่ไหว ก็เลยรับปาก
ตอนนี้จากที่พวกเขาเห็น ฉินซีไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา หากหรูเว่ยเสียงไม่เคารพฉินซี ผู้ชายที่อยู่ในงานปาร์ตี้นี้ทั้งหมดก็คงจะฆ่าเขาให้ตาย
อีกทั้งตอนนี้หลูจื๋อหลินก็ยังคงพยายามที่จะเอาอกเอาใจฉินซี คงไม่ลงมือตอนนี้แน่ เพราะจะทำให้เขาสู้หน้าเธอไม่ได้ นอกเสียจากว่าเขาจะมีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าฉินซีเป็นคนขโมยเอกสารไป
“ผมทราบครับ”
ลู่เซิ่นเอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง พลางเม้มปาก
ตัวของหลูจื๋อหลินนั้นอยู่ห่างจากฉินซีพอสมควร แต่เขาก็รู้สึกได้ว่าสายตาของคนทั้งงานปาร์ตี้จับจ้องไปที่มุมๆหนึ่ง และจู่ๆเขาก็รู้สึกว่าเหตุการณ์เริ่มไปปกติ
เขาเดินผ่านผู้คน เพื่อรีบไปหาฉินซีให้เร็วที่สุด
ชายที่อยู่ตรงข้ามกับฉินซี เมื่อเห็นใบหน้าที่สะสวยของฉินซีแล้วก็เกิดอาการคึกหันไปพูดกับหรูเว่ยเสียงว่า:“ผมบอกให้คุณปล่อยมือ คุณไม่ได้ยินเหรอ?”
เขาพูดขึ้นด้วยความโมโห อยากที่จะแสดงให้ฉินซีเห็นถึงความเป็นสุภาพบุรุษของเขา
คุณชายหางที่อยู่ข้างๆเพื่อได้เห็นโฉมหน้าของฉินซีก็เริ่มหวั่นไหว
มิน่าล่ะหลูจื๋อหลินถึงได้สนใจเธอนัก ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ ทั้งเมืองไห่ก็คงหาสวยแบบนี้ไม่ได้
ความสวยของฉินซีทำให้เธอได้เปรียบเป็นอย่างมาก ในที่สุดคุณชายหางก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงได้กล้าทำตัวอันธพาลขนาดนี้
คุณชายหางเดินเข้ามาที่ด้านหน้าของฉินซีอย่างกระเหม็ดกระเเหม่:“หรูเว่ยเสียงเห็นแก่หน้าผมเถอะ ปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปเถอะ คุณลู่นั่งคุณลู่นั่งอยู่ตรงนี้อย่างสงบ ไม่ได้ล่วงเกินคุณ แล้วทำไมคุณจะต้องโกรธด้วยล่ะ
อีกทั้ง คุณก็รู้ว่า คุณฉินเป็นคนดังที่อยู่ข้างกายประธานหลู หากเขารู้ว่าคุณไม่ให้เกียรติคุณฉิน คุณจะต้องถูกทำโทษอย่างแน่นอน”
เดิมทีเขาก็ชอบผู้หญิงสวยอยู่แล้ว และอยากที่จะได้ฉินซีมาครอบครองด้วย
ไม่นาน ผู้ชายทั้งหมดก็เริ่มคล้อยตามและเอ่ยปากขึ้นว่า:“ใช่แล้ว!คุณเป็นผู้ชาย แล้วจะมาคิดเล็กคิดน้อยกับผู้หญิงทำไม!หรือว่าคุณถูกใจคุณฉิน ก็เลยใช้วิธีการนี้ดึงความสนใจจากเธอ”
“คุณสวยราวกับไซซี จะคู่ควรกับองครักษ์อย่างคุณได้อย่างไรกัน ผมขอล่ะคุณล้มเลิกความต้องใจเถอะ รีบปล่อยคนซ่ะ!”
เสียงระคายหูค่อยๆดังเข้ามา หลังจากเห็นรูปร่างหน้าตาของฉินซีแล้ว ทุกคนต่างเข้าข้างเธอ
ฉินซีก้มหน้าลง ผมยามปกปิดรอยยิ้มอย่างมีเลศนัยของเธอ
ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าบางครั้งความงามก็ทำให้เธอได้ประโยชน์ไม่น้อย
แต่มีประโยคหนึ่งที่ว่า เรื่องร้ายก็นำมาซึ่งสิ่งที่ดีและสิ่งที่ดีก็นำมาซึ่งเรื่องที่เลวร้าย
มีข้อดี ก็ต้องมีข้อเสีย
หน้าตาของฉินซีในสายตาผู้ชายแล้วเป็นสิ่งที่หอมหวาน
แต่ว่าในสายตาของผู้หญิงกลับเป็นหนามยอกอก
นี่ไม่!
เดิมทีผู้หญิงที่อยู่ในงานปาร์ตี้ต่างเป็นมิตรกับเธอ แต่ตอนนี้เต็มไปด้วยแววตาของศัตรู
หากสายตาสามารถฆ่าคนได้แล้วล่ะก็ ตอนนี้ฉินซีก็รู้สึกว่าตนคงตายไปหลายรอบแล้ว
ผู้หญิงเหล่านี้อยากที่จะให้หรูเว่ยเสียงฆ่าฉินซีให้ตายแทบแย่ ทางที่ดีคือกรีดหน้าของเธอให้เสียโฉม ถ้าทำเช่นนี้เธอจะได้ไม่มาแย่ผู้ชายของตน
แต่ว่าฉินซีล้วนไม่สนใจสิ่งเหล่านี้
เสียงที่ดังเอะอะนี้ ทำให้หลูจื๋อหลินตามเข้ามา
เมื่อหลูจื๋อหลินเห็นหรูเว่ยเสียงจับตัวฉินซีไว้สีหน้าก็เปลี่ยนไป
เขาโกรธเป็นอย่างมาก และดึงหรูเว่ยเสียง:“คุณกำลังทำอะไร รีบปล่อยคุณฉินซะ”
หลูจื๋อหลินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม จ้องมองเขาด้วยสายตาโกรธแค้น
เขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักกว่าจะเชิญฉินซีมาร่วมงานได้ และในงานนี้เขาก็รู้สึกว่าท่าทีที่ฉินซีมีต่อเขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นว่าฉินซีที่กำลังจะตกอยู่ในกำมือของเขา กลับถูกหรูเว่ยเสียงจับตัวเธอไว้
หลูจื๋อหลินโกรธจนแทบจะปะทุออกมา ในใจของเขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ที่ปล่อยให้หรูเว่ยเสียงจัดการโดยคนเดียว
หรูเว่ยเสียงขมวดคิ้ว พลางพูดเสียงต่ำว่า:“ประธานหลูเธอก็คือ……”
คำพูดที่เขาต้องการพูด กลับถูกหลูจื๋อหลินจ้องตาเขม็งใส่ :“ผมบอกให้คุณปล่อย!”
หลูจื๋อหลินรู้สึกว่าหรูเว่ยเสียงไม่รู้จักแยกแยะ เมื่อก่อนเขาคงตาบอดที่เลือกเขามาใช้งาน