บทที่ 146 ตั้งใจทำแบบนี้
“มู่วี่สิง แกก็เป็นนักลงทุน ถ้าบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปขาดทุนแกก็ไม่ได้ประโยชน์หรอก” ฉืออี้เหิงระเบิดอารมณ์ นี้เป็นแผนการใหญ่ของเขา เป็นโอกาสที่ดีที่ให้เขาฟื้นขึ้นมา!
แต่ตอนนี้ ถ้าต้องไปแอฟริกา ……….ก็เท่ากับว่าเขาทิ้งตลาดในประเทศทั้งหมด
“อือ เดิมทีผมก็ไม่คิดอยากได้ประโยชน์อะไรอยากบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปอยู่แล้ว ตอนแรกที่ลงทุนก็เพื่อคุณนายมู่ก็เท่านั้น ฉืออี้เหิง ผมไม่ใช่คนที่จะไม่ถือสาอะไร” มู่วี่สิงเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา สิ่งที่เขาพูดทำให้ฉืออี้เหิงเริ่มลุกลี้ลุกลน เขามาเพื่อต้องการความช่วยเหลือจากมู่วี่สิง เพื่อขอให้ช่วยไปให้บริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปต้องย้ายไปอยู่แอฟริกาทั้งหมด
แต่ตอนนี้……….ที่แท้เขาตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น
“เวลาของผมมีค่า ชีวิตของผมก็มีค่า ครั้งต่อไปขอให่คุณฉือช่วยขับรถดีๆด้วยนะครับ อย่าใช้แต่อารมณ์” เอ่ยจบ มู่วี่สิงกลับขึ้นรถ สั่งคนขับรถถอยไปออกทางออกอีกฝั่ง
สุดท้ายสายตาของฉืออี้เหิงจ้องมองเวินจิ้งด้วยสายตาเคียดแค้น
เมื่อกี้ที่ฉืออี้เหิงขับรถปาดหน้านั้นทำให้เวินจิ้งตกใจมาก จึงอดไม่ได้จ้องเขาด้วยความโมโห
ใบหน้าถูกมู่วี่สิงดึงกลับมา “ไม่ให้มองเขา”
“ฉันไม่ได้มองเขาสักหน่อย” เวินจิ้งรีบตอบกลับ “เขานับวันยิ่งบ้าขึ้นไปทุกที”
“กับคนบ้า ทำได้เพียงให้เขาหนีไปไกลๆ” มู่วี่สิงเอ่ยเสียงเข้ม
เมื่อกี้เวินจิ้งได้ยินบทสนทนาของมู่วี่สิงกับเขาแล้ว ดังนั้น ที่ฉืออี้เหิงต้องย้ายไปแอฟริกาเป็นฝีมือมู่วิ่สิง?
นี่ทำให้เธอต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่
เรื่องบริษัทเหิงอวี่ต้องย้ายไปอยู่ที่แอฟริกาถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว บรรดานักข่าวพากันมุงล้อมประตูบริษัทเหิงอวี่กรุ๊ป ฉืออี้เหิงไม่เคยโผล่หน้าออกมาเลย
ข่าวที่ออกมาในตอนนี้มีแต่ข่าวคราวการลาออกของพนักงานที่พึ่งรับเข้ามายังไม่ทันถึงเดือน เกรงว่าคนที่เหลืออยู่ที่ต้องไปแอฟริกาคงจะมีเพียงฉืออี้เหิงแล้ว
หลุดที่เขาขุดเอง ก็ต้องกลบมันด้วยดัวของเขาเอง
อั้ยเถียนเห็นข่าว เธอรีบลากเวินจิ้งออกมาอย่างตื่นเต้น “ในที่สุดผู้ชายเลวคนนี้ก็ได้รับโทษ ให้เขาไปอยู่แอฟริกาไปเลย ให้อย่าได้กลับมาตลอดชีวิต”
เวินจิ้งหัวเราะ “ฉันหวังเพียงแต่ว่าต่อไปอย่าได้เจอเขาอีกเลย”
“แม้ว่าผู้ชายชั่วคนนั้นจะไปแล้ว ยังมีผู้หญิงเลวอีกคนนะ ฉินเฟยนี่ก็โชคดีจริงๆ เลิกกับฉืออี้เหิงแล้วยังได้แต่งงานกับฉีเซินอีก” อั้ยเถียนบ่น
ช่วงนี้ข่าวความสัมพันของฉินเฟยและฉืออี้เหิงก็มีออกมาไม่น้อย พวกเขาทั้งคู่เกือบจะได้แต่งงานกันแล้ว
“เถียนเถียน นั่นมันเรื่องของคนอื่นทั้งนั้น”
“แต่มันรกหูรกตาฉัน เรื่องในตอนนั้น ดูแล้วมันเป็นเรื่องที่ฉินเฟยทำร้ายเธอ เรื่องอะไรที่ตอนนี้เธอจะไม่ได้รับผลกรรมอะไรเลย แถมยังเปล่งแสงเจิดจรัส”
“เรื่องตอนนั้นฉันอยากสืบเรื่องราวใหม่อีกครั้ง ปีหน้าฉันวางแผนจะสอบปริญญาโท ถ้าถูกตรวจสอบเจอเรื่องลอกวิทยานิพนธ์ ก็คงยากที่จะผ่าน”
ตอนนั้นเวินจิ้งวางแผนจะสอบปริญญาโท แต่เพราะเจอเรื่องแบบนี้ทำให้เธอต้องตัดใจ
แต่ตอนนี้ เธอมุ่งมั่นที่จะเดินทางนี้
“จิ้งจิ้ง เธอคิดจะสอบอีกครั้งหรอ?” อั้ยเถียนตื่นเต้นจับข้อมือของเธอ
เวินจิ้งพยักหน้า
“เป็นเพราะคุณหมอมู่ใช่ไหม?” อั้ยเถียนหรี่ตามองเธอ
ใบหน้าของเวินจิ้งขึ้นสีแดงระเรื่อ ความจริงมู่วี่สิงก็มีส่วน เธออยากเป็นคนที่ดีกว่านี้เพื่อยืนเคียงข้างเขา
“ความรักเป็นสิ่งที่ประมาณการไม่ได้จริงๆ จิ้งจิ้ง เธอต้องสู้นะ เดี๋ยวฉันช่วยเธอติดต่ออาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์คนนั้นให้ ดูว่าเธอจะรวบรวมหลักฐานให้ได้ไหม”
“ขอบคุณเธอมากๆเลยนะ” เวินจิ้งมองอั้ยเถียนอย่างรู้สึกขอบคุณ
หลายปีมานี้ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร อั้ยเถียนเป็นคนที่คอยอยู่เคียงข้างและสบับสนุเนเธอมาตลอด
“พวกเราเป็นอะไร อย่าพูดขอบคุณเลย..”
ยังพูดไม่ทันจบ ประตูลิฟท์ที่อยู่ไม่ไกลก็ถูกเปิดออก เสี้ยงหงกำลังเดินมาทางนี้