บทที่ 161 นิสัยปากไม่ตรงกับใจ
ตอนนี้ เวินจิ้งนอนราบอยู่บนเตียง ดูข่าวบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปในมือถือ ส่วนใหญ่ก็มีมู่วี่สิงกับลู่หวั่นออกกล้องด้วยกัน ทั้งสองยืนด้วยกัน แม้แต่การรายงานของสื่อก็บ่งบอกว่าลู่หวั่นก็คือคุณนายมู่ ไม่งั้นงานโอกาสสำคัญแบบนี้ ทั้งสองจะเข้าร่วมด้วยกันได้อย่างไร
ทันใดนั้น เสียงเปิดประตูผ่านหูมา เวินจิ้งเงยหัวขึ้น ร่างสูงของมู่วี่สิงก็เดินเข้ามาแล้ว
เธอรีบลงจากเตียง มองเขาอย่างระวัง
เจี่ยนอีก็เดินเข้ามาจากข้างหลัง “ ลูกสาว ฉันว่าตอนนี้ก็ดึกแล้ว คุณหมอมู่ก็เหนื่อยแล้ว วันนี้พวกเธอก็นอนที่นี่กันเถอะ ”
“ไม่ได้! “ เวินจิ้งรีบปฏิเสธ ตอนนี้เธอไม่อยากจะอยู่ห้องเดียวกับมู่วี่สิงแม้แต่น้อย
มู่วี่สิงกลับกอดหัวเวินจิ้งไว้อย่างรักใคร่ กอดกักเธอไว้จนขยับตัวไม่ได้ “ ฟังแม่เถอะ ฉันก็ไม่อยากไปกลับหลายรอบ “
เวินจิ้ง : …….
เจียนอีก็หัวเราะดีใจ “ วี่สิง เธออย่าเกรงว่าที่นี่เล็กเลย แต่อยู่แล้วอบอุ่นดีนะ ถ้างั้นฉันก็ไม่รบกวนพวกเธอแล้ว“
“ ราตรีสวัสดิ์ แม่ “ มู่วี่สิงพูดอย่างมีมารยาท
เวินจิ้งยังคงทำสีหน้าเดิม อยากจะผลักเขาออก แต่มู่วี่สิงผลักเธอไปที่ผนังอย่างแข็งแกร่ง เขามองเธอด้วยภายใต้ความสูง นัยน์ตาดำแคบลง
ไม่รู้ว่าตอนไหนเขาหยิบมือถือเธอไปแล้ว ริมฝีปากเยาะเย้ย ขำขัน “ อยากรู้อะไร ถามฉันโดยตรงก็ได้แล้ว “
เวินจิ้งหันหัว เม้มปากแล้วไม่พูดสักคำ
อยากจะเอามือถือกลับมา มู่วี่สิงกลับยกมือขึ้น เธอก็เอื้อมไม่ถึง
“ ฉันไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น “ เธอพูดอย่างเย็นเย็น
“ นิสัยปากไม่ตรงกับใจของ คุณนายมู่ จะแก้ได้ตอนไหน ? “ เขาจับคางเธอขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความมั่นใจ
เวินจิ้งโกรธแล้วกัดปากตัวเองอย่างช่วยไม่ได้ “ คุณจะเปลี่ยนนิสัยคุณที่มักรังแกฉันได้เมื่อไหร่ ! “
“ ฉันรังแกเธอตรงไหน ? “ หน้ามู่วี่สิงมีความไม่รู้ความ
“ก็ตอนนี้ไง ฉันยังไม่รับปากว่าจะให้คุณอยู่ที่นี่ คุณก็ตัดสินใจจะอยู่เอง คุณรีบกลับไป….. “ เวินจิ้งผลักแล้วดันเขา
แต่แรงของเธอจะไปสู้แรงของมู่วี่สิงได้ที่ไหน ผ่านไปสักพักเธอก็เต็มไปด้วยเหงื่อ มู่วี่สิงก็ยังยืนอยู่หน้าเธอ
มู่วี่สิงมองตาเธอที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ลูบหัวเธอไปมา “ถ้าฉันกลับไปแล้ว แม่คงจะเป็นห่วง “
ได้ยินแล้ว เวินจิ้งขมวดคิ้ว เมื่อกี้เจียนอีเห็นมู่วี่สิงมาก็ดีใจเหลือเกิน เธอก็ไม่อยากทำให้เธอผิดหวัง
ยังไงที่ต้องแต่งงานกับมู่วี่สิง ก็เพื่อให้แม่สบายใจ
“ เตียงฉันเล็ก ฉันปูผ้านอนพื้นให้ คุณนอนนี่เถอะ “ เวินจิ้งพูด แล้วหาผ้าปูและผ้านวม
มู่วี่สิงขมวดคิ้วไปมา มองร่างเวินจิ้งที่กำลังรีบ กอดเธอจากข้างหลัง แนบคางไว้ที่บนไหล่เธอแล้วพูดพึมพำ “คุณนายมู่เต็มใจหรอ ? “
เวินจิ้งนิ่ง พูดเสียงต่ำ: “ ไม่งั้น คุณก็นอนบนเตียงเถอะ “
มู่วี่สิงโดนเลี้ยงดูแลอย่างดีมาแต่เด็ก คงไม่ควรปูผ้านอน งั้นเธอก็นอนแทนเขาไปก่อนเถอะ
สีหน้ามู่วี่สิงยิ่งนิ่ง หันร่างของเวินจิ้งอย่างแข็งแกร่ง เวินจิ้งไม่หันหน้าหาเขาไม่ได้
“ นอนด้วยกันเถอะ “ น้ำเสียงของเขาคือการสั่ง
เวินจิ้งแสดงสายตาที่ปฏิเสธ ส่ายหัว “ ไม่ “
พึ่งกำลังย่อลงมาจะปูผ้านอนพื้น ทันใดนั้น ร่างของเวินจิ้งก็โดนอุ้มขึ้นมา มู่วี่สิงอุ้มเธอมาวางไว้บนเตียงแล้วร่างใหญ่ของเขาทับลงมา เวินจิ้งอยู่ใต้ร่างเขา
เธอกระพริบตา ใจเต้นแรง คางโดนบีบไว้ เธอไม่มองสบตาที่ดำสนิทของเขาไม่ได้ มีความลึกซึ้ง กว้างใหญ่
“ มู่วี่สิง…… “
“ อย่าดื้อนะ ฉันไปอาบน้ำก่อน ง่วงก็นอนก่อน “ เริ่มแรกคิดว่าเขาจะทำอะไร แต่แค่จูบตาของเวินจิ้งเท่านั้น
เวินจิ้งสบายใจแล้ว แต่ก็ยังลงมาปูผ้านอนให้เรียบร้อย หาผ้าปูเตียงที่หนาแล้วนอนลงบนพื้น
ไม่นาน ตอนที่มู่วี่สิงออกมา เวินจิ้งรีบหลับตา แกล้งทำเป็นว่าตัวเองนอนหลับแล้ว
มู่วี่สิงหยี่ตา จับเอวเธอแล้วอุ้มขึ้นมาอีกรอบ เวินจิ้งก็รีบลืมตาขึ้น แขนก็ไปกอดคอเขาอย่างรับรู้
เธอถึงพึ่งรู้ ……. มู่วี่สิงเปลือยหน้าอกไว้ ด้านบนไม่ได้ใส่อะไร !
และด้านล่าง …… ก็พันแค่ผ้าขนหนูตัวเดียว ……
เธอหน้าแดงนัก พึ่งคิดได้ว่าที่นี่ก็ไม่มีเสื้อผ้าที่ให้มู่วี่สิงใส่ได้
“ คุณใส่เสื้อฉันไปก่อนดีไหม ? “ เวินจิ้งพิงอยู่ในอ้อมกอดเขา ทนความยั่วยวนแบบนี้ ที่ทำให้คนแทบจะทะลักเลือดออกมาไม่ไหว
หุ่นของมู่วี่สิงนั้น มีสัดส่วนดีจริงๆ กล้ามเนื้อหน้าอกที่แข็งแร็ง อบอวลด้วยหยดน้ำที่ไหลลงมาเรื่อยเรื่อย เธอทนไม่ไหวที่จะจ้องตลอด……
มู่วี่สิงมองสีหน้าเธออย่างพอใจ ใบหน้าหล่อเหลาเข้าใกล้ สมบูรณ์แบบมาก
“ เสื้อผ้าของเธอไม่เหมาะ “
“ แล้วทำยังไง…. “ เวินจิ้งพูดแล้วกลืน รู้สึกว่าตัวเองจะจมตายกับแผนความหล่อของมู่วี่สิงแล้ว
“ พรุ่งนี้เกาเชียนจะส่งเสื้อมาให้ฉัน ก็ต้องรบกวนคุณนายมู่ไปช่วยฉันเอาแล้ว “ มู่วี่สิงพูด แล้วนอนกับบนเตียง แขนยาวโอบกอดเอวของเวินจิ้งไว้ ดูรักใคร่นัก
หลังเธอแนบกับหน้าอกของมู่วี่สิง แม้เธอจะสวมชุดนอนไว้ แต่ไม่รู้ทำไม เหมือนเธอจะถูกเผาไหม้ขึ้นมาแบบ
นั้น ยิ่งใกล้ยิ่งร้อน เธอทนไม่ไหวที่จะดึงผ้าห่มออก
“มู่วี่สิง คุณอยู่ห่างฉันหน่อย ! ฉันนอนที่พื้นดีกว่า ! “ เวินจิ้งขมวดคิ้วอย่างจริงจัง
เวินจิ้งรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง
แต่มู่วี่สิงก็กอดเธอไว้ไม่ปล่อย เวินจิ้งก็สู้ไม่ไหว จ้องเขาอย่างโกรธ มู่วี่สิงกลับหลับตาตั้งแต่แรกแล้ว เหมือนจะนอนหลับแล้ว ?
เวินจิ้งก้มหัวลง สายตาหยุดอยู่ที่คุณสมบัติใบหน้าที่โดดเด่น และชัดเจน โถโถ ใบหน้านี้มันช่างน่าอิจฉาจริงจริง
นิ้วมือของเธอค่อยค่อยเข้าใกล้ ลูบไปที่คุณสมบัติใบหน้าอย่างช้าช้า แม้แต่ผิวพรรณก็ละเอียดขนาดนี้ ไม่มีข้อเสีย แต่เธอบางทีก็ยังมีสิวขึ้นบ้าง……
เวินจิ้งทำหน้าแก้มปูด นิ้วแหลมเลื่อนไปที่จมูกโด่งของมู่วี่สิง บีบเบาเบา
รอยยิ้มที่ได้ใจพึ่งจะยิ้มออกมา มู่วี่สิงก็ลืมตาขึ้นมาทันที เวินจิ้งทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรนำมือไว้ไหน……
เธอคิดว่าเขานอนหลับแล้ว !
เขาแกล้งหลับงั้นหรอ ?
เวินจิ้งมองเขาอย่างโกรธ รีบหันหลังไปทันที
มือกลับโดนมือใหญ่ของมู่วี่สิงควบคุมไว้แล้ว เสียงที่มีความแหบเล็กน้อย พูดอยู่ข้างหูเธอ “ คุณนายมู่ ขยับไปมาที่บนตัวฉัน ไฟไหม้ได้นะ “
เสียงพูดจบลง มู่วี่สิงจูบเธออย่างเกือบจะไม่มีลมหายใจ เธอทำตาโต โดนเขาควบคุมไปหมด
“ อืม ?เธอก็อยาก ? “ มู่วี่สิงขมวดคิ้วขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความหัวเราะ
เวินจิ้งจะปฏิเสธได้ที่ไหน แต่พอคิดถึงว่าที่นี่เก็บเสียงคงไม่ค่อยดี ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ….. เจียนอีได้ยินแน่นอน
เธอรีบส่ายหัวอย่างปฏิเสธ หันหลังให้มู่วี่สิง “ ฉันไม่อยาก ไม่อยากแม้แต่น้อย ! “
มู่วี่สิงหัวเราะออกด้วยเสียงต่ำ กอดเวินจิ้งเข้ามาในอ้อมกอดอีกครั้ง คืนนี้ คงจะไม่สบายตัวแล้ว
เวินจิ้งกลับนอนไม่หลับทั้งคืน เช้าวันต่อมาก็ตื่นมาทำอาหารเช้ากับเจียนอีแต่เช้า
เวลานี้ อ๊อดประตูก็ดังขึ้น เห็นว่าเป็นเกาเชียนที่จับเสื้อผ้ามาชุดหนึ่ง เวินจิ้งรับมาอย่างมีมารยาท พอกลับไปในห้อง ก็เห็นมู่วี่สิงพึ่งตื่นนอน…….
ตอนนี้ ทั้งตัวเขาไม่มีอะไร ,เห็นเวินจิ้งที่นิ่งเฉยอย่างมาก
แต่เวินจิ้งจะไปนิ่งได้ที่ไหน เห็นภาพแบบนี้แต่เช้า เธอทั้งโกรธและอาย !