บทที่ 162 สิ่งที่ต้องปฏิบัติกับร่างกาย
“ทำไมคุณ …..อยู่บนเตียงฉัน ….. “ เวินจิ้งชี้ไปทางเขาอย่างโกรธ
มู่วี่สิงหยักยิ้ม “ ปิดประตูก่อน “
เวินจิ้งถึงพึ่งรับรู้ได้ รีบล็อกประตู นำเสื้อผ้าให้มู่วี่สิง
ทำท่าทีพวกนี้เสร็จ เธอหันหลัง ใจเต้นจนหยุดไม่ได้
“คุณนายมู่ ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นสักหน่อย อายอะไร ? หื้ม “ มู่วี่สิงมองไปที่หน้าเธอ มุมปากยิ้มอย่างอ่อนโยน
แสงเข้ามาทางนอกหน้าต่าง ยิ่งทำให้ความสมบูรณ์ใบหน้าเขา ดูชัดเจนและดึงดูด
เวินจิ้งนิ่งไปสักพัก มองมู่วี่สิงสวมเสื้อเชิ้ต ติดกระดุมเม็ดเดียวก็เรียบร้อยแล้ว พูดกับเวินจิ้ง “ ช่วยฉันติดกระดุมให้เรียบร้อย “
เวินจิ้งขมวดคิ้ว มองแผ่นอกแน่นที่อยู่ไม่ไกลของมู่วี่สิง อยากจะไปจับนัก ……
ทำตามไปโดยไม่รู้ตัว เธอก็ติดกระดุมให้เข้าเรียบร้อยแล้วจริงจริง แต่แค่ผิวพรรณทุกส่วนของเขาเต็มไปด้วยความยั่วยวน สายตาเวินจิ้งหยุดอยู่ที่ร่างกายเขา จนกว่ามู่วี่สิงจะเตือนว่าเธอติดกระดุมผิดที่แล้ว !
เรื่องน่าอายแบบนี้มาเกิดขึ้นกับตัวเธอได้อย่างไง !
เวินจิ้งไม่สบายใจจริง จึงปล่อยมือ “ ไม่ติดแล้ว “
มู่วี่สิงจับมือเล็กของเธอไว้ “ อย่าดื้อนะ อย่าทำแล้วยอมแพ้กลางทางสิ ““
ตอนนี้ไม่ว่ามู่วี่สิงจะพูดอะไร ฟังจากหูของเวินจิ้งก็เป็นการยั่วยวนทั้งนั้น
แต่ เธอไม่ควรประนีประนอม เวินจิ้งหันหัว ไม่มองเขาแล้ว
มู่วี่สิงที่หัวเราะออกมาเบาเบาจากข้างหลัง “ น่าดูไหม ? “
เวินจิ้งแกล้งทำเป็นไม่รู้ว่าเขาถามอะไร
ยัยบ้า….
ทั้งสองเดินออกไป เจียนอีก็นำอาหารเช้าขึ้นมาเสริฟ์แล้ว
แต่เวินจิ้งใกล้จะสายแล้ว ทานอย่างเร่งรีบ มู่วี่สิงยื่นผ้าเช็ดให้เธอ “ ไม่ต้องรีบ สายก็สายสิ “
เวินจิ้งจ้องเขาพริบตาเดียว เธอไม่ใช่เจ้านายสักหน่อย จะใจเย็นอย่างมู่วี่สิงแบบนี้ไม่ได้ !
“ลูก ตอนนี้ทำงานเป็นยังไงบ้าง ? ก่อนหน้านี้ฉันดูข่าวถึงพึ่งรู้ว่า บริษัทการผลิตยาเทียนอีเปลี่ยนเจ้านายใหม่แล้ว ไม่กระทบอะไรเธอใช่ไหม ? “
ได้ยินข่าวมา เวินจิ้งนิ่งไปสักพัก มองไปที่มู่วี่สิงอย่างรู้ตัว
ก็กระทบจริง ไม่งั้นก็ไม่โดนย้ายไปทำงานกับมู่วี่สิงหนึ่งเดือนหรอก
“ ตอนนี้ก็มั่นคงแล้ว ตอนนี้ฉันอยู่แผนกเดียวกับอั้ยเถียน ต่างคนต่างดูแลกัน “ เวินจิ้งพูด
“เด็นคนนั้นฉันก็ไม่ได้เจอเธอนานแล้ว เมื่อก่อนชอบมาทานข้าวที่บ้าน มีเวลาก็ชวนเถียนเถียนบ้าง แม่คิดถึงเธอ “
เวินจิ้ง— —รักปาก ออกบ้านกับมู่วี่สิงสายไปครึ่งชั่วโมงเต็มเต็ม
ไปบริษัทการผลิตยาเทียนอีก็คงจะสายแน่นอน
“มู่วี่สิง เพราะคุณ ! “เวินจิ้งพูดอย่างโกรธ
เธอสายเดือนนี้ก็ห้ามสายแล้ว เธอก็ติดหนี้เขาอยู่แล้ว ตอนนี้เป็นไง ไม่รู้ว่าจะชดใช้เสร็จตอนไหน
“อืม โทษฉัน เพราะฉะนั้นคุณนายมู่จะลงโทษฉันยังไง ? ” เขายื่นมือมาจับมือเล็กของเวินจิ้งไว้
เธอปล่อยไม่ออก ได้แค่อยู่แบบนี้
ถึงบริษัทผลิตยาเทียนอีสักที เวินจิ้งรอไม่ไหวที่จะเปิดประตูลงรถ กลับโดนมู่วี่สิงโอบเอวบางของเธอไว้
สักพัก เธอก็เข้าหาอ้อมกอดของเขา
เวินจิ้งยังไม่ทันตั้งตัว มู่สี่สิงจับคางเธอไว้ จูบเธออย่างลึกซึ้งแล้วปล่อยเธอ
“คุณ ! “ เธอโกรธ ผู้ชายคนนี้มักจะเป็นแบบนี้ ……
มู่วี่สิงพูดเสียงต่ำ “ วันนี้ฉันจะกลับดึก หลังเลิกงานคนขับรถจะมารับเธอ กลับบ้านดีดี “
เขาสั่ง
เวินจิ้งตอบรับ แล้วไปที่ทำงานอย่างเร่งรีบ อั้ยเถียนถามอย่างกังวล “ จิ้งจิ้ง ร่างกายเธอเป็นยังไงบ้าง ? “
“ไข้ลดแล้ว คราวหลังมู่วี่สิงโทรหาเธอ ไม่ต้องฟังเขา เมื่อวานฉันไม่เป็นอะไร “ น้ำเสียงเวินจิ้งมีความโกรธเล็กน้อย
เขามีสิทธิอะไรมาตัดสินทุกอย่างแทนเธอ ?
อั้นเถียนรู้สึกได้ ว่าอารมณ์ของเวินจิ้งไม่ค่อยดี “ จิ้งจิ้ง เธอทะเลาะกับคุณหมอมู่อีกแล้วหรอ ? “
เวินจิ้งขมวดคิ้วขึ้นมา ทะเลาะ ?
เธอตอนนี้อยากจะหย่ากับเขาแท้แท้…..
ตอนกลางวัน เธอทนฟังกับการพูดสารพัดของอั้ยเถียน เวินจิ้งพูดกับเธอ “ ฉันอยากหย่า ….. “
“ อะไรนะ ?” อั้ยเถียนกำลังดื่มชามะนาว สำลักกับคำพูดของเวินจิ้ง เธอตบไหล่เวินจิ้ง “ เรื่องอะไร ? “
เวินจิ้งกวาดมองไปทั่ว ข้างไม่มีคน จึงพูดเสียงต่ำ “ เธอว่า คุณหมอมู่จะเป็นเกย์ไหม “
นี่เป็นเรื่องที่เธอคิดในช่วงนี้ เริ่มแรกมู่วี่สิงบอกจะไม่มีทางชอบเธอ แต่กลับไม่หย่ากับเธอ ถ้างั้นก็คงทำเธอเป็นแค่หน้ากากให้เขา……
“หะ ! “ อั้ยเถียนทำหน้าตกตะลึง มองเวินจิ้ง ไม่อยากจะเชื่อเธอ
“ เป็นไปไมได้ ! “ อั้ยเถียนตบโต๊ะแล้วลุก
เวินจิ้งลน รีบดึงเธอลงมานั่ง ให้คนอื่นได้ยินไม่ได้ !
“จิ้งจิ้ง เธอเป็นไข้จนสับสนแล้วหรือเปล่า อีกอย่างอยู่ดีดีเธอมาพูดว่าหย่าอะไร “ อั้ยเถียนใจเย็นลงมา
“แต่เธอลองคิดดู คุณหมอมู่เขาเคยพูดว่าจะไม่ชอบฉัน แต่ก็ไม่ยอมหย่ากับฉัน งั้นก็คงเพื่อปิดบังความจริงที่เป็นเกย์ของเขา ไม่งั้น ทำไมเขาไม่หาผู้หญิงที่ตัวเองชอบ แล้วแต่งงาน ? “ เวินจิ้งวิเคราะห์อย่างละเอียดอ่อน
อั้ยเถียนหยี่ตา เหมือน ….. ก็มีเหตุผล
แต่ เธอก็ยังไม่เชื่อ !
“ แต่ เธอมีอะไรกับคุณหมอมู่แล้วไม่ใช่ ? “อั้ยเถียนขมวดคิ้วถาม
“ ฟังก์ชั่น x ของเขาก็ปกติ แต่ท่าทีของทิศทางไม่ปกติ “ เวินจิ้งขมวดคิ้ว
อั้ยเถียนมองสีหน้าเวินจิ้งที่โกรธนี้ ตาดำก็หมุนตาม แล้วคิดไปคิดมา “ เวินจิ้ง ฉันมั้นใจว่าคุณหมอมู่เขาไม่ใช่เกย์ พวกเธอก็คุยสัญญาการแต่งงานแล้ว ทำไมเธอถึงพูดว่าอยากหย่า ? คุณหมอมู่ไม่ดีหรอ ? ฉันก็อิจฉาเธอจะตายแล้ว “
เวินจิ้งเครียดสับสน “ ฉันไม่อยากเสียเวลาความสุขครึ่งชีวิตของคุณหมอมู่ แต่ตอนนี้ฉันคิดแล้ว เขากลับเป็นคนแบบนี้ เหมือนว่าแค่แต่งงานถึงจะปิดบังได้ “
อั้ยเถียนมองสายตาเธอเหมือนมองคนบ้า จึงเคาะหัวของเวินจิ้ง “ เธออย่าคิดไปมั่ว ในเมื่อคุณหมอมู่ก็มีอะไรกับเธอแล้ว เขาต้องปกติแน่นอน ! ส่วนเรื่องหย่า เวินจิ้ง หย่าแล้วเธอจะไปหาผู้ชายคุณภาพดีดีแบบนี้จากไหน ? “
นี่มัน …… เหมือนแทงโดนจุดอ่อนของเธอ
“ในเรื่องการกระทำร่างกายบางอย่างของเขา มันโรคจิตนัก ภายนอกดูปกติและนิ่งอย่างคุณหมอมู่ ภายในกลับเหมือนหมาป่าร้ายตัวหนึ่ง ! ”
“ หื้ม ? โรคจิต ? โรคจิตขนาดไหน ? รีบบอกฉันสิ ! “ สีหน้าอั้ยเถียนถามด้วยความสงสัย
เวินจิ้งจ้องเธอ เรื่องพูดยากแบบนั้น เธอไม่พูดออกมาหรอก !
“ ไม่พูดแล้ว ตอนนี้ฉันต้องคิดว่าจะหาสองล้านยังไง ถึงจะช่วยตัวเองออกมาได้ “ เวินจิ้งถอนหายใจพูด
“ สองล้าน ? เธอทำงานให้บริษัทผลิตยาเทียนอีทั้งชาติ ก็น่าจะมี “ อั้ยเถียนพูด พึ่งได้สติกลับมา “ เธอจะเอาสองล้านทำไม ? เธอติดหนี้ ? “
“นี่เป็นที่ฉันติดมู่วี่สิง ฉันจะหย่า ก็ต้องคืนเงินนี้ “
อั้ยเถียนกลับเคาะไปที่หัวเวินจิ้งอีก “ ถ้าพวกเธอหย่ากัน เธอก็ได้แบ่งทรัพย์สินไม่น้อยกับคุณหมอมู่ ยังง้อสองล้านนี้หรอ ? “
เวินจิ้งขมวดคิ้ว “ พวกฉันไม่ใช่สามีภรรยาแท้ ฉันไม่แบ่งทรัพย์สินกับเขาหรอก “