บทที่ 164 เขารู้ว่าเธอชอบเขา
“คุณ……ก็ต้องไม่ปกติสิ คุณไม่ชอบฉัน แต่ทั้งจูบหอมฉัน แม้กระทั่งยัง…..” คำพูดต่อไป เวินจิ้งพูดไม่ออกแล้ว
เธอรู้สึกว่า ความสัมพันธ์ตัวเองกับมู่วี่สิง มันช่างไม่สมประกอบและแย่นัก !
เพราะฉะนั้นเธอต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด !
ถ้าไม่มีความใกล้ชิดกับเขาขนาดนั้น เธอก็สามารถแสดงให้เป็นภรรยาของเขาได้ แต่ตอนนี้ เธออยากเผชิญกับใจตัวเอง
“ยังอะไร ? คุณนายมู่ เธอไม่ชอบแบบนี้หรอ ? “เสียงของเขาต่ำสุดขีด เหมือนการสีไวโอลินแล้วสีใจเธอไปด้วย
ใจเวินจิ้งสั่นไปทั้งหมด มู่วี่สิงแปลว่าอะไร ?
เธอชอบ …… แบบนี้ !
ใครบอกว่าเธอชอบ ?
“ไม่ชอบ ? แล้วปกติเสียงเธอยัง …. “ เขาพูดข้างหูเธอ ทำเอาหน้าเวินจิ้งแดงไปหมด
ยกมือแล้วรีบปิดปากเขาไว้ !
เวินจิ้งจ้องเขา “ ฉันนั่นมันปฏิกิริยาปกติ ! “
“ ไม่ คุณนายมู่ นั้นเรียกว่าการดำเนินความรัก “ มู่วี่สิงทำท่าทางอย่างสั่งสอน
เวินจิ้งกลับไม่พอใจแล้วกัดฟัน ไม่อยากฟังเขาพูดแล้ว เธอจึงปิดหูไว้
แต่มู่วี่สิงกลับไม่ยอมปล่อยเธอ ดึงมือเธอลง ย่อเอวลงมา ใบหน้าหล่อของเขาเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น เหมือนจะกดจูบลงมาอีกรอบ
แต่เขาไม่ได้ทำ แต่แค่พูดออกมาทีละคำ “ ไม่อยากยอมรับขนาดนี้เลย ว่าเธอชอบฉัน หื้ม ? “
เวินจิ้งแค่รู้สึกว่าสมองตัวเองไม่อยู่นิ่งแล้ว สายตาของมู่วี่สิงดูคมชัดและเข้าใจทั้งหมด
ที่แท้ เขารู้หมดแล้ว
เธอก้มหัวลง ผลักเขาออกแล้วจะก้าวขาหนี แต่ยังไม่ทันวิ่งออกห้อง ก็โดนเขาจับไว้เข้าหาอ้อมกอดเขา เขาหยี่ตา “ บอกฉันก่อน ทำไมถึงสงสัยรสนิยมทางเพศของฉัน “
เวินจิ้งเกาหัวไปมา สบตากับสายตาเขาอย่างกังวล “ คุณไม่ยอมหย่า ฉันจึงเดาว่าคุณไม่ได้แค่อยากลดความกดดันทางครอบครัว คงจะมีเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่านี้ เพราะไม่อยากเปิดเผยรสนิยมทางเพศที่ไม่ปกติของคุณ “
คำพูดพึ่งจบลง มู่วี่สิงจึงขยี้หัวเธอไปมา สีหน้าที่จริงจังก็ลดลงมาเล็กน้อย
“ วงจรสมองของคุณนายมู่แปลกใหม่ดี “
เวินจิ้ง : ……
หรือเธอคาดเดาผิดแล้ว ?
แม้เธอเองก็ไม่แน่ใจขนาดนนั้น แต่คำพูดของมู่วี่สิงมักทำให้เธอสงสัย
อีกอย่าง ….. ทำไมถึงชอบเธอไม่ได้ ?
ไม่ใช่เกย์ …. แสดงว่าใจเขาไปอยู่ที่ผู้หญิงอีกคน ?
คิดถึงความเป็นไปได้นี้ เวินจิ้งก็ยิ่งรู้สึกเสียใจมากขึ้น
เธอยกสายตามองเขา มู่วี่สิงไม่มีการตอบสนองคืน ดูท่าแล้วคงจะไม่โกรธแล้ว
คิดถึงสิ่งที่เขาพูดเมื่อกี้ เวินจิ้งก็รู้สึกไม่สบายใจทันที
เขารู้เธอชอบเขา
หัวก็โดนมู่วี่สิงยกขึ้นมาอีกรอบ สายตาเขาร้อนแรง “ ฉันไม่ยอมหย่า เพราะคุณนายมู่ คือเธอ “
เวินจิ้งสับสนไปหมด หมายความว่ายังไง ?
คุณนายมู่ไม่ใช่ว่าต้องเป็น…… ใครก็ได้ไม่ใช่หรอ ?……
เพราะยังไงมู่วี่สิงก็ต้องการ แค่ภรรยาคนเดียว แต่ไม่ใช่เธอ
ใจเวินจิ้งรู้สึกมีความผิดหวังครอบงำ และอึดอัด
ไม่อยากฟังเขาพูดอะไรทั้งนั้น ครั้งนี้เวินจิ้งใช้แรงทั้งหมดผลักเขาออก ยืนห่างเขาไม่กี่เมตร “ มู่วี่สิง ฉันชอบคุณก็จริง แต่สถานะของพวกฉัน ฉันเข้าใจ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณต้องการภรรยาคนหนึ่ง คุณก็ไม่มีทางจะแต่งงานกับฉัน ไว้ใจเถอะ ฉันไม่คิดมากหรอก “
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ในระหว่างที่เวินจิ้งหันหลังจะออกไป เขาเตะประตูเข้า จากนั้น ก็ให้เธอมาอยู่ในอ้อมกอดเขาอีก
เขาสูดหายใจลึกลึก นิสัยดีที่ทนไว้เหมือนจะหายไป แต่กับเวินจิ้ง สุดท้ายเขาก็ไม่โมโห
จับคางเธอไว้ พูดเสียงต่ำ “ บอกฉัน เธอจะคิดมากเรื่องอะไร ? “
เวินจิ้งไม่พูดอะไร เธอจะคิดว่า ….. มู่วี่สิงก็ชอบเธอ
แต่นี่เป็นเรื่องที่ความน่าจะเป็นคงเป็นศูนย์
“คุณจะสนใจทำไม ? มู่วี่สิง คุณปล่อยฉัน “
มู่วี่สิงจะปล่อยที่ไหน แต่กลับอุ้มเธอโดยตรงแล้ววางลงบนเตียง เวินจิ้งรับรู้อย่างระวัง และระแวง มู่วี่สิงมองเธอด้วยภายใต้ความสูง ตาสีดำค่อยค่อยหยี่ขึ้น
“ฉันไม่สน แล้วใครจะสน ? ในเมื่อคุณนายมู่ สงสัยฉัน งั้นวันนี้ฉันจำเป็นที่จะต้องยืนยันให้เธอใช่ไหม? รสนิยมของฉันไม่ปกติใช่ไหม ? “
เวินจิ้งลนทันที รับรู้ได้ถึงท่าทีของมู่วี่สิง เธออยากรีบหนีไป
แต่เธอไม่ใช่คู่แข่งของมู่วี่สิง เธอพึ่งจะลุกขึ้น ก็โดนเขากดไว้ “ คุณนายมู่ ฉันสนใจแค่ผู้หญิง “
“ ฉันสนใจแค่เธอ “
เวินจิ้งตาโตทันที จับคำพูดของมู่วี่สิงได้ เธอใจลอยไปสักพัก
สนใจแค่เธอ ?
ไม่ทันที่จะคิดให้เข้าใจกับคำพูดของเขา มู่วี่สิงก็เข้ามาแล้ว เวินจิ้งไม่มีเวลาคิด ได้แค่จับผ้าปูเตียงไว้แน่นแน่น
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว ฟ้าก็มืดลงนานแล้ว เวินจิ้งผลักไหล่ของมู่วี่สิงอย่างโกรธ สูดหายใจเข้าลึกลึก เธอค่อยค่อยลืมตา
ในหัวมีคำพูดที่มู่วี่สิงพูดเมื่อกี้ : ฉันสนใจแค่เธอ
เห็นมู่วี่สิงที่กำลังจะตื่น เธอจับแขน ของเขา และถูไปที่หน้าอกเขา เปิดรอยยิ้ม “ คุณหมอมู่ คุณ ….. ชอบฉันหรอ? “
ที่จริงแล้วเวินจิ้งก็ถามไปแค่นั้น แต่คำพูดของมู่วี่สิง เหมือนจะหมายความว่าแบบนี้
ชายนิ่งไปสักพัก พลิกตัว แสงอ่อนอ่อนส่องอยู่ที่ใบหน้าหล่อ ทำให้คนน่าหลงเสน่ห์นัก
เขาไม่มีสีหน้าใดใด เวินจิ้งมองเขาไม่ออก
สักพัก เขาถึงพึ่งขยับริมฝีปากบาง “ ในโลกของฉันไม่มีชอบ เธอแค่จำไว้ คุณนายมู่ที่ฉันต้องการ เป็นได้แค่เธอ”
มู่วี่สิงเข้าไปในห้องน้ำอย่างเร็ว เวินจิ้งเคาะหัวตัวเอง คำพูดของมู่วี่สิงทำให้เธอสับสนจริงจริง
แต่เขาพูดแบบนี้ ก็หมายความว่าจะไม่มีทางหย่าแล้ว
แต่แค่ ความหมายของเขา ยังบ่งบอก ว่าเขาไม่มีทางชอบเธอ
ใจเวินจิ้งทั้งเศร้าทั้งหวาน
นอนไปสักพัก เวินจิ้งตื่นเพราะความหิว ทั้งเย็นถึงตอนนี้ก็ไม่ได้ทานอะไร และตอนนี้ กลิ่นหอมค่อยค่อยเตะจมูกเธอ
เดินออกจากห้องรับแขก ห้องครัวใหญ่ของตระกูลมู่ก็ทำอาหารมากมายไว้เรียบร้อยแล้ว
ก่อนหน้านี้เขาทำอาหารฝรั่งเยอะกว่า ตอนนี้แม้แต่อาหารจีนก็ถนัดขนาดนี้แล้ว
แค่หน้าตาอาหารก็ให้คะแนนเต็มแล้ว
“ หิวจะตายแล้ว “ เวินจิ้งทนไม่ไหวที่จะพูด นั่งลงก็เริ่มทานแล้ว
แต่ผู้ชายตรงหน้า มองเธอตลอด เวินจิ้งรู้สึกกระดากกระเดื่อง
เธอค่อยค่อยแลบลิ้น คีบซี่โครงชิ้นหนึ่งให้เขา “ มู่วี่สิง ทานข้าวแล้ว ! “
มู่วี่สิงเก็บสายตาที่ตามใจ และรัก กำลังจับตะเกียบ มือถือก็ดังขึ้นมา เวินจิ้งก็มองเห็นสายที่โทรเข้ามา คือลู่หวั่น
เธอก้มหัวลง ค่อยค่อยเก็บรอยยิ้มมุมปาก
รับสาย มู่วี่สิงก็รีบกลับไปที่ห้อง ตอนออกมา ก็เปลี่ยนเสื้อเชิ้ตใหม่แล้ว คิ้วก็ขมวดขึ้นมา
“ คุณจะออกไป ? “ เวินจิ้งถามเขา
แต่มู่วี่สิงยังไม่ทานข้าวเลย
เขาพยักหน้า ฝีเท้าหยุดที่ข้างเวินจิ้ง “ ฉันมีเรื่องต้องไปจัดการ เธอทานข้าวเสร็จก็พักผ่อนเร็วเร็ว “
จูบไปที่บริเวณคิ้วของเวินจิ้ง มู่วี่สิงก็หันหลังจากไป
บ้านก็กลายเป็นความว่างเปล่า แม้อาหารจะอร่อย แต่ไม่มีมู่วี่สิง จะมีรสชาติอะไร ?
เก็บถ้วยชาม แล้วกลับไปที่ห้อง เวินจิ้งพึ่งเห็นว่ามีสายเข้ามาเยอะมาก อั้ยเถียนเป็นคนโทรมา
เธอรีบโทรกลับไปทันที
“ จิ้งจิ้ง มาคลับเหาเซิง……นำเอกสารของบรัทลู่เซิงมา “