บทที่ 166 คืนนี้เป็นคู่ร่วมงานฉัน
สีหน้ามู่วี่สิงเปลี่ยน เขายกกรามขึ้น ไม่นานก็มีบอดี้การด์สองคนมา “ ฉันส่งเธอไม่สะดวก เธอไว้ใจได้ พวกเขาจะปกป้องเธอ “
พูดจบ มู่วี่สิงก็รีบหันตัว
ลู่หวั่นมองแผ่นหลังที่เย็นชาของเขา กำมือแน่น สายตาในความไม่พอใจเผยออกมา
อารมณ์ตอนนี้ของเวินจิ้งมีความขึ้นขึ้นลงลง เห็นมู่วี่สิงดันมือของลู่หวั่น แล้วจากไป เธอก็สบายใจขึ้นมาทันที
ริมฝีปากก็ไม่รอช้าที่จะยิ้มออกมา โอ๊ะ ดูท่าแล้วคุณลู่หวั่นคนนี้ ต้องการพึ่งพามู่วี่สิงเป็นอย่างมาก
ไม่งั้นเมื่อกี้ ก็คงจับเขาแล้วไม่ปล่อยหรอก
คิดได้ว่า กลางคืนแบบนี้ ลู่หวั่นโทรหามู่วี่สิงให้เขาออกมา ดูท่าแล้วคงจะไม่ได้ทำธุระทางการอย่างเดียว
เวินจิ้งรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาอีกแล้ว
เดินออกจากประตู เธอจะเรียกรถกลับบ้าน กลับเห็นมู่วี่สิงยืนพิงอยู่ข้างรถมายบัคสีดำ มื้อทั้งสองสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง สายตาหยี่ และจ้องไปทางเธอ
ทำไมท่าทีเขาเหมือนกำลังรอใคร …….
หรือว่าจะรอเธอ ?
เวินจิ้งขมวดคิ้ว กลับเห็นมู่วี่สิงเดินมาทางเธอ
“ คุณรอฉันหรอ ? “ เวินจิ้งยังโกรธเล็กน้อย แล้วห่างจากเขา
แต่ไม่สำเร็จ แขนยาวของมู่วี่สิงดึงเธอมาที่อ้อมกอด
เขาแนบหน้าผากเธอ พูดเสียงต่ำ “ หน้าต่างกระจกตรงนั้น สามารถมองเห็นล็อบบี้ทั่วโรงแรมทั้งหมด “
มู่วี่สิงชี้ไปที่หน้าต่างบานใหญ่ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของโรงแรม
เวินจิ้งมองตามนิ้วมือของเขา จริงด้วย …… เพราะฉะนั้นเขารู้ว่าเธอยื่นอยู่หลังเสาตลอด …..
เวินจิ้งก้มหัวลงอย่างอึดอัดใจ แต่ …. เธอก็ไม่ได้ตั้งใจจะซ่อนไว้
เธอยกหัวขึ้นอย่างกล้า เวินจิ้งถาม “ เพราะฉะนั้น คุณออกมาดึกแบบนี้ ก็เพื่อแก้ปัญหาให้ลู่หวั่นสินะ ? “
มู่วี่สิงขมวดคิ้วไปมา ฝ่ามือแนบกับใบหน้าเย็นของเธอ “ ลู่หวั่นโดน ลุงเธอรังควาน ฉันไม่ได้ทำอะไร แค่ส่งเธอกลับมา “
“ ออ “ เวินจิ้งตอบเบาเบา
“ คราวหลังจะออกมา ให้คนขับรถส่งเธอ ห้ามเรียกรถเอง “
เวินจิ้งกัดปาก เธอก็ไม่อยากรบกวนคนขับรถกลางดึกแบบนี้ …..
ตั้งแต่ย้ายมาที่ตระกูลมู่ การเข้าออกของเธอ ก็อิสระขึ้น ไม่มีที่จะออกไปแล้วจะมีคนขับรถรอ เธอชอบแบบนี้มากกว่า
อีกอย่าง ช่วงนี้เธอก็จะให้ตัวเองซื้อรถสักคัน แบบนี้ก็สะดวกมากขึ้นแล้ว
เห็นเวินจิ้งยังไม่ตอบรับ สีหน้าของมู่วี่สิงยิ่งเปลี่ยนไป จับคางเธอไว้ เธอมีสีหน้าเสียใจ
“ ยังโกรธ ? “
“ เปล่านะ ? “
“ ใช่ โกรธ คุณนายมู่ เธอกำลังหึง “ มู่วี่สิงพูดอย่างมั่นใจ
เวินจิ้งบึนปาก ผลักเขาออก พูดอย่างน้อยใจ “ ฉันกำลังหึงจริง เมื่อกี้คุณกับลู่หวั่นสนิทสนมขนาดไหน “
“ อืม ฉันยอมรับ “ มู่วี่สิงก็ไม่ได้ปฏิเสธ
เวินจิ้งโกรธ บิดหัวแล้วไป
รู้สึกว่าคุยกับผู้ชายคนนี้ไม่รู้เรื่องแล้ว !
มู่วี่สิงหยักยิ้ม แขนยาวโอบเธอ เวินจิ้งเหมือนจะโดนเขากอดไปทั้งตัวแล้ว
คนขับรถรีบเปิดประตูรถ เวินจิ้งโดนเขายัดเข้าไปในรถ จ้องเขาอย่างโกรธ
“ ลู่หวั่นก็นับว่าเป็นน้องสาวของฉัน ฉันดูแลเธอ แต่ก็จะเว้นระยะห่าง “ มู่วี่สิงอธิบาย
เวินจิ้งสงสัยอย่างมีพิรุธ น้องสาว ?
ลู่หวั่นไม่ได้มีนามสกุลเดียวกับมู่วี่สิง เพราะฉะนั้น รับเลี้ยงหรอ ?
“ แต่ เธอเหมือนจะชอบคุณมาก ไม่มองว่าคุณเป็นพี่ชายหรอก “
บางครั้งผู้หญิงก็ดูผู้หญิงออก มันแม่นมาก ในเมื่อ ลู่หวั่นกับมู่วี่สิงไม่มีสายเลือดเดียวกัน ลู่หวั่นก็มักจะตั้งใจเข้าใกล้มู่วี่สิง …..
“คุณนายมู่ ไม่สบายใจ ฉันก็จะส่งเธอกลับไป “
เวินจิ้งรีบส่ายหัว เธอไม่อยากยุ่งเรื่องของมู่วี่สิงโดยไม่มีเหตุผล
“ ในเมื่อคุณให้เธอเป็นน้องสาว ก็ไม่มีอะไร อีกอย่างเรื่องของคุณ ฉันไม่สน “ เวินจิ้งหันหัวมองนอกหน้าต่าง
แม้จะบอกกับตัวเองว่าไม่เป็นไร แต่เมื่อกี้ภาพที่ทั้งสองเหมือนกำลังกอดกัน ก็ทำให้เธอโมโหนัก
เวินจิ้ง เธอตื่นหน่อย !
“ เธอแน่ใจว่าจะไม่สน ? “ มู่วี่สิงหยี่ตา ในใจรู้สึกไม่พอใจกับคำตอบเธอ
“ ฉันไม่สน “ เวินจิ้งดึงดันตอบแบบนี้
“คุณนายมู่ จำคำพูดเธอไว้ “ สายตามู่วี่สิงบ่งบอกว่ามีอะไรลึกซึ้ง
วันต่อมา บริษัทผลิตยาเทียนอี
วันนี้อั้ยเถียนลางาน คิดถึงเรื่องเมื่อวาน เวินจิ้นตอนนี้ยังรู้สึกกลัว
ถ้าเสี้ยวหงไม่ไป ถ้าเป็นเธอก็คงไม่มีทางช่วยอั้ยเถียนออกมาได้
มากกว่านั้นคือ วันนี้เสี้ยวหงก็ไม่ได้มาทำงาน เวินจิ้งส่งข้อความหาอั้ยเถียน ถามหาเธอ
แต่อั้ยเถียนไม่ตอบข้อความ
เวินจิ้งเป็นห่วง ตอนพักกลางวัน ก็โทรหาเธอ
“ จิ้งจิ้ง ฉันพึ่งตื่น “ อั้ยเถียนยืดเส้นยืดสาย แสงอ่อนส่องเข้ามา เธอมองผู้ชายข้างเธออย่างน่าหลงไหล
“ เพราะฉะนั้น ฉันรบกวนฝันดีของเธอกับคุณเสี้ยวแล้ว ? “
“ที่ไหน เขา ….. “ คำพูดของอั้ยเถียนบ่งบอกถึงความอาย
เวินจิ้งเข้าใจทันที “ ฉันยังเป็นห่วงว่า เธอจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น นอนต่อเถอะ ดูท่าแล้วเมื่อคืนเธอก็ไม่ได้พัก “
อั้ยเถียน “ ฮ่าฮ่า “ หัวเราะออกเสียง “ เห้อ ได้นอนตอนเช้าจริงนั่นแหละ จิ้งจิ้ง ทำไมตอนนี้เธอถึงรู้ทุกอย่างแล้ว ……”
เวินจิ้ง : …..
“จริงด้วย พรุ่งนี้พวกฉันมีธุรกิจต้องเดินทางไปที่เมืองB เธอเตรียมเอกสารยาที่พึ่งเปิดตัวให้เรียบร้อย จะต้องไปเจรจาต่อรองกับผู้จัดจำหน่าย “
“ ได้ งั้นก็ไม่รบกวนคุณอั้ยแล้ว “ เวินจิ้งพูดแล้วหัวเราะ
“ บ้า ! “
วางสาย เวินจิ้งกลับยิ้มไม่ออกแล้ว เธอเปิดbaidu พิมพ์ “เสี้ยวหง “
เกี่ยวกับเสี่ยวหง ประวัติในโซเชี่ยวก็เยอะอยู่เหมือนกัน จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สาขาการเงิน ระดับปริญญาโท หลายปีก่อนเขาเริ่มอยู่เมืองนอก สร้างกำไรมหาศาลให้บริษัทยาต่างต่าง เป็นนักเศรษฐศาสตร์ผู้ประกอบการ ที่ทุกคนรู้จักกันดี
ยังมีประวัติเสียหายของเขาบ้างเล็กน้อย ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ก็พวกซูเปอร์โมเดลทั้งนั้น สูงและเซ็กซี่ งามอย่างไม่มีใครเทียบ
เวินจิ้งปิดหน้าเว็บ แม้จะเป็นห่วง แต่นึกถึงการกระทำของเสี้ยวหงเมื่อคืน ก็รู้สึกว่าดีกับอั้ยเถียนอยู่
ไม่คิดอะไรมาก เวินจิ้งตั้งใจทำงาน ได้รับสายจากมู่วี่สิงตอนเย็น ให้เธอออกงาน งานเลี้ยงของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
เวินจิ้งมองงานที่กองอย่างภูเขาอยู่ตรงหน้า อั้ยเถียนไม่อยู่ พรุ่งนี้ก็ต้องเดินทางไปทำงานอีก คืนนี้เธอต้องทำงานเกินเวลา
อีกอย่างงานแบบนั้น เธอเองก็ไม่ชอบ และไม่อยากออกงานกับมู่วี่สิงอย่างสูงส่ง จึงปฏิเสธแล้ว
บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
ลู่หวั่นเคาะประตู เดินเข้าไป ห้องทำงานของประธาน
“ประธานมู่ เอกสารที่ฉันเตรียมไว้ เกี่ยวกับยาNeuropharmaceuticalsที่จะวิจัย ท่านลองอ่านดูค่ะ “
มู่วี่สิงรับมา ยังไม่ทันได้เปิด ลี่หนานเฉิงก็เดินเข้ามาแล้ว
“ ลูกพี่ งานเลี้ยงคืนนี้บอกพี่สะใภ้หรือยัง ? “
สีหน้าลู่หวั่นที่อยู่ข้างก็เปลี่ยนไป มองไปทางมู่วี่สิง
“ เธอไม่ว่าง “ มู่วี่สิงดูเฉยชา
“ โถโถ ฉันอุตส่าห์ประกาศแทนบริษัทกรุ๊ป ให้พนักงานรู้ ทุกคนต่างอยากเห็น คุณนายมู่ ! “ ลี่หนานเฉิงผิดหวังเล็กน้อย
“ ใช่คุณนายมู่ ไม่อยากให้เห็นหน้าใช่ไหม ? “ ลู่หวั่นถาม
“ เธอไม่ชอบงานแบบนี้อยู่แล้ว ก็ตามใจเธอเถอะ “ น้ำเสียงมู่วี่สิงเผยความตามใจและรักออกมา
“ แต่ในเมื่อเธอเป็นคุณนายของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ก็ไม่ควรตามใจเธอแบบนี้หรอก “ ลี่หนานเฉิงจับคางพิจารณา แม้จะเคยรู้จักกับเวินจิ้งแค่ครั้งเดียว แต่เธอก็เป็นคนเย็นชาจริง
ได้ยินแล้ว มู่วี่สิงยกสายตา สายตาหยุดอยู่ที่ลู่หวั่น “ ลู่หวั่น คืนนี้เธอไปเป็นคู่ฉัน “