บทที่ 168 ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้วหรอ
“โถโถ เธอแตกต่างจากคุณนายมู่ ในความคิดฉันจังนะ “ ลี่หนานเฉินเก็บสายตา
“ โอ๊ะ แล้วคุณคิดว่าคุณนายมู่ต้องเป็นยังไง ? “ เวินจิ้งถาม
เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าคนรอบข้างมู่วี่สิง คิดยังไง
ลี่หนานเฉิงจับคางตัวเองคิด ชี้ไปที่ เคาน์เตอร์บาร์ที่อยู่อีกฝั่ง ทางนั้น มูวี่สิงกำลังสนทนากับผู้บริหารระดับสูงและลู่หวั่นเองก็คอยเทไวน์ให้ทั้งสอง บางทีก็จะพูดคุยบ้าง อ่อนโยน และเหมาะสม
เธอยืนข้างมู่วี่สิง เหมือนเป็นคู่ที่ฟ้าดินกำหนด
เวินจิ้งหัวเราะ “ ลู่หวั่นไม่ว่าจะความสวย หรือความสามารถ ก็อยู่เหนือฉัน “
“ เธอก็รู้ตัวดี แต่ฉันกลับคิดแบบนี้ มู่วี่สิงก็เป็นคนฉลาด ไม่เหมือนคนอื่น อายุ16ก็สอบติดมหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ได้รับใบปริญญาโทสาขาประสาทวิทยา ก่อนอายุ20 ยิ่งกว่านั้นคือสำเร็จการผ่าตัดที่มีขั้นยากมามากมาย เขาในสายตาพวกฉัน ไม่มีใครเทียบได้ บางทีเขาต้องการหาคนที่สมดุลพอดี “
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ไม่ได้เข้าใจมาก
“ เธอเป็นคนที่เขาไม่ค่อยได้เห็นได้เจอ ฉะนั้นจึงสนใจเธอ ชีวิตในอดีต28ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงรอบข้างมู่วี่สิงมีใครบ้างที่ไม่ใช่ สวยสง่าและฉลาด เขาคงเบื่อและอ่อนล้ากับคนสวยแล้ว “
เวินจิ้ง : ……
เพราะฉะนั้นเธอก็สูญเสียทั้งอ้อมงั้นหรอ ?
เธอก็มีรูปร่างที่ดี และหน้าตาที่ยังถือว่าประณีต ส่วนความเฉลี่ยวฉลาด…. มีที่ต้องพัฒนา
เธอคิดมาตลอดว่า ที่เธอสู้ไมได้ ก็มีแค่ฐานะทางครอบครัว
แต่แค่ เรื่องนี้ไม่เคยทำให้เธอรู้สึกด้อยกว่า
เธอเคยล้มลงที่ฉืออี้เหิง เธอไม่อยากตกลงไปที่หลุมนั้นอีก
“ คุณลี่ ขอบคุณกับการวิเคราะห์ของคุณ ฉันเหมือนจะรู้จักเข้าใจมู่วี่สิงมากขึ้น “ เวินจิ้งบิดหัว สายตากระพริบไปมา
ลี่หนานเฉิงหยี่ตาขึ้น ตอนนี้ เวินจิ้งยังคงเงียบสงบอย่างอ่อนโยน เธอแต่งตัวธรรมดาที่สุด แต่กลับยืนอยู่กับกลุ่มคนที่แต่งตัวหรูหรา สะอาดเรียบง่าย และมีเสน่ห์ที่เด่น
เขาเก็บสายตา
เห็นเวินจิ้งมาแล้ว อั้ยเถียนสนใจทันที รีบเดินมาทางนี้
“ จิ้งจิ้ง ฉันจะเป็นห่วงตายอยู่แล้ว ! “
“ ฉันยังไม่ห่วงเลย เธอห่วงอะไร ? “ เวินจิ้งพูดอย่างหัวเราะ
“ ฉันก็กลัวว่าจะมีคนตั้งใจ อ่อยคุณหมอมู่ !เธอไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้น เธอดูชุดราตรีนาง โชว์แผ่นหลังหมด แล้วดูเกาะอกแทบจะหลุดลงมาแล้ว นี่ยังไม่ใช่การอ่อยอีกหรอ ! “ อั้ยเถียนพูดอย่างโมโห
เวินจิ้งไมได้สังเกตุ มองไปตอนนี้ ผิวของลู่หวั่นขาวมาก ผมยาวลอนเบาเบา สยายลงด้านหน้าอก สง่าและเซ็กซี่ไม่มีใครเทียบ
เหมือนจะรู้สึกได้ถึงสายตาของเวินจิ้ง ลู่หวั่นมองมา สายตาของหญิงสาวทั้งสองสบตากัน
เวินจิ้งหยักยิ้มเบาเบา เก็บสายตาอย่างเร็ว
แต่แค่ ไม่สนใจลู่หวั่นได้ กลับไม่สามารถไม่สนใจผู้ชายอ่อร่าแข็งแกร่งที่อยู่ข้างเธอได้
สายตาเธอราวกับว่าโดนหยุดไว้ ในหมู่คน ยังคงเป็นใบหน้าที่หล่อเหลาเกินเหตุ ทั้งทั้งที่ไม่ได้อยู่ใกล้ แต่ภายในแสงไฟอ่อนอ่อน เขามักจะดึงดูดคนขนาดนี้
ภายใต้กางเกงสูทคือขาสองข้างที่ยาว เรียบร้อยสะอาด เสื้อเชิ้ตสั่งปรับแต่งขั้นสูง และมีชนิดเดียวกับสูท ราคาสูงส่ง
เขาแค่ยืนอยู่ที่นั่น แม้ไม่มีคำพูดอะไร ก็ไม่สามารถทำให้คนไม่สนใจเขาไม่ได้
ความเชิดหยิ่งดูแพง หล่อและเย็นชา ออร่าแข็งแกร่ง และสูงส่งทั้งตัว ไม่มีใครเทียบได้
แต่ลู่หวั่นอยู่ข้างเขา แม้กระทั่งอยู่เฉยเฉย เธอแต่งชุดราตรีสีขาว แต่งหน้ามีความประณีต น้อยมากที่จะมีคนเหมาะสมกับมู่วี่สิง
แต่แค่มู่วี่สิงยังคงขมวดคิ้วเบาเบา กับคำพูดบางครั้งของลู่หวั่นก็ไม่ได้ตอบรับ เมมปากดื่มเหล้า มองอารมณ์แท้จริงของเขาไม่ออก
ลู่หวั่นดูเคยชินกับสถานการณ์แบบนี้ เหมือนฝึกมาอย่างคุ้นเคย บางทีสายตาก็จะมองไปที่มู่วี่สิงอย่างอ่อนโยน ยิ้มอย่างสดใส
เวินจิ้งบีบขาแก้วไวน์กระชับขึ้น
เวลานี้ ร่างที่เคยเจอเมื่อกี้ มายืนอยู่ข้างเธอ ฉีซานยื่นค็อกเทลให้เธอแก้วหนึ่ง สายตาก็มองไปทางสองคนที่อยู่ข้างนอกเหมือนเธอ พูดอย่างเยาะเย้ย “ ผู้หญิงข้างประธานมู่ทั้งคน ไม่ใช่ คุณนายมู่ เธอก็ยังกล้ามาหาเรื่องให้ตัวเอง “
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ไม่ได้รับแก้วค็อกเทลจากฉีซาน “ บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปก็เป็นคู่แข็งกับมูซื้อกรุ๊ปอยู่แล้ว คุณเข้ามาก็หาเรื่องให้ตัวเองเหมือนกันไม่ใช่ ? “
“ ในบางครั้ง ฉันกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ก็อาจจะยืนอยู่ศึกเดียวกัน ในธุรกิจไม่ได้มีคู่แข็งไปตลอด “ ฉีซานพูดอย่างความหมายไม่ชัดเจน
เวินจิ้งไม่อยากสนใจเขา และไม่อยากจะสนใจสองคนที่อยู่ทางนั้น แต่อั้ยเถียนอยู่ข้างเสี้ยวหง ทั้งสองผ่านเรื่องครั้งที่แล้วมา ความสัมพันธ์ก็เหมือนดีขึ้นไม่น้อย
ฉีซานยังคงพูดอยู่ข้างหูเธอ “ ตั้งแต่ที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเข้ามาประจำการที่หนานเฉิง ก็ค่อนข้างถ่อมตน ช่วงนี้กลับมีข่าวให้ผู้สื่อข่าวบ่อยครั้ง เธอว่ามันคือเป้าหมายอะไร ? อีกอย่างลู่หวั่นก็ทำงานที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เพื่อมู่วี่สิง เธอยอมเสียสละตำแหน่งศาสตราจารย์ระดับปริญญาเอกของ โรงพยาบาลตี้อี มู่วี่สิงให้รายได้เธอ ยังพาเธอไปออกงานต่างต่าง ความสัมพันธ์นี้คงไม่ง่ายหรอกมั้ง “
“ ลู่หวั่นไม่ว่าจะความสามารถ หรือ ความสวยก็ดีไปหมด ผู้ชายในวงการพวกคุณ ก็ชอบแบบนี้ ไม่ใช่ ? “ เวินจิ้งบินปากถาม
สีหน้าของเธอจืดจืด เหมือนจะแค่พูดผ่านผ่าน
ฉีซานขมวดคิ้ว จ้องท่าทีของเวินจิ้งที่ไม่เป็นห่วงอะไร ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ เธอดูเฉยมากกว่าที่เขาคิด
“ ฉันคงไม่ใช่ ผู้หญิงที่ฉันชอบ ไม่สนใจฉันเพียงคนเดียว “ ฉีซานพูดอย่างบ่งบอก
เวินจิ้งยังคงเฉยชา เห็นมู่วี่สิงที่เหมือนจะเดินมาใกล้มากขึ้น แต่เขาหันหลัง เพราะฉะนั้นจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เห็นเธอ
“ จะไม่ไปทักทายหน่อยหรอ ? “ ฉีซานหยี่ตาขึ้น
สีหน้าเวินจิ้งมีความซีดเล็กน้อย จับแก้วแชมเปญที่อยู่ข้าง เม้มปากดื่มแล้ว อารมณ์ก็คลายลงมา
เธอพูดเบาเสียง “ ไม่มีอารมณ์ อีกอย่าง ข้างประธานมู่ ก็ไม่ขาดคู่หรอก “
“ งั้น เธอเป็นคู่ให้ฉัน เป็นไง ? “ ฉีซานเข้าใกล้ สายตาลึกซึ้งมองไปที่เวินจิ้ง
เธอไม่ปะแป้ง แต่งหน้าธรรมดา ไม่เด่นดีสุด แต่กลับทำให้เขาละสายตาจากเธอไม่ได้
เวินจิ้งหยักยิ้มอย่างเยาะเย้ย “ เข้ามาในนี้ ทุกคนส่วนใหญ่ก็คงคิดว่าฉันเป็นบริกร คุณฉี สายตาคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? “
เธอไม่ได้ใส่ชุดราตรี ไม่ได้จัดการผม ใบหน้าก็ยิ่งดูจืด ไม่มีการลงแป้ง ยืนอยู่ข้างฉีซานผู้ชายที่บำรุงตาคนนี้ เธอก็โดนมองจากสายตาอิจฉา ไม่น้อย
“ ฉันเชื่อใจสายตาฉันมาก “
“ คู่ร่วมงานของคุณ ควรจะเป็นคู่หมั้นคุณ “ เวินจิ้งพูดจบ หันหลังแล้วเดินเข้าไปในกลุ่มคน
เธอไม่อยากมีความสัมพันธ์อะไรฉีซาน
ชายหยี่ตามอง แล้วคอยอยู่ข้างเวินจิ้งตลอด คนในงานเลี้ยงเธอไม่รู้จัก แต่ชื่อเสียงของบริษัทฉีซื้อกรุ๊ปนั้น มีชื่อเสียงมานานแล้วในเมืองหนานเฉิน เดินมาก็มีคนขึ้นมาคุย
เขากลับดึงให้เวินจิ้งอยู่ข้างเขา “ อย่าไปไหนเอง อย่าดื้อ “
เสียงนั้นดูตามใจและรัก เหมือนว่าเธอคือผู้หญิงที่เขารักที่สุด
ผู้ชายคนนี้บ้าไปแล้วหรอ ?
เวินจิ้งอยากผลักเขาออก แต่แรงก็สู้ไม่ได้ ได้แค่ฟังเขาสนทนาเรื่องธุรกิจใหญ่โตกับแขกพวกนั้น