บทที่ 170 ฝีมือเธอ
ลู่หวั่นใจเย็นลงมา ยิ้มอ่อนอ่อนไปทางเขา “ สวัสดี ปีนั้นตระกูลลู่มีเรื่องเกิดขึ้น ไม่ได้กลับไปที่บ้านเก่ามาหลายปีแล้ว “
“ งั้นวันนี้มีโชคชะตาได้เจอ คุณลู่ ไม่งั้นเราก็มาคุยเรื่องเก่าเก่ากัน ? “อานฉิงยกแก้วอย่างมีมารยาท
ลู่หวั่นไม่ได้ตอบรับ สีหน้าขาวของลู่หวั่นคือสายตาที่เย็นชา
มู่วี่สิงค่อยค่อยดันเธอออก “ ลู่หวั่น ในเมื่อคุณพ่อลู่คุณแม่ลู่ ก็วางแผนให้เธอเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่ต้องทำเรื่องที่ไม่มีประโชยน์แล้ว “
คำนี้ คือเตือน และคือการขู่เช่นเคย
ขอบตาลู่หวั่นซึมขึ้นมา เธอรู้ว่าผู้ชายตรงหน้านี้ เย็นชา และไร้ความรู้สึกแค่ไหน แต่จนถึงตอนนี้เธอก็ยังคาดหวังอยู่
แต่ตอนนี้เขากลับแตกหักแบบนี้ ผลักเธอให้กับคนอื่นเอง
ลู่หวั่นสูดหายใจลึก ยังคงรักษาสีหน้าเชิดหยิ่ง และใจเย็น สายตามองไปที่ผู้ชายข้างเธอ “ คุณคิดแบบนี้จริงหรอ ? “
มู่วี่สิงเมมปากดื่มไวน์ ริมฝีปากบางหยักยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “ ลู่หวั่น ฉันแต่งงานแล้ว “
ตาลู่หวั่นมีความโกรธออกมา แต่ยังคงไม่ก้าวขาออก
ลู่เจ๋อ มองท่าทีเย็นชาของมู่วี่สิง ไม่หยุดที่จะพูดอย่างโกรธ “ ประธานมู่ คุณมีสิทธิอะไรมาตัดสินการแต่งงานของลู่หวั่นแทนเธอ ! “
มู่วี่สิงยกสายตามอง สายตาอันคมชัดหยุดอยู่ที่ลู่เจ๋อ “ สิทธิที่ลู่หวั่นอาศัยอยู่ตระกูลมู่ตั้งแต่เด็ก แต่ลุงอย่างคุณ นอกจากจะแพ้พนันแล้วมีหนี้ ถึงจะมาหาลู่หวั่น ปกติก็ไม่แม้แต่จะเห็นร่องรอย คุณมีสิทธินับว่าเป็นผู้ปกครองเธอไหม ? “
คำพูดจบลง สายตาคนรอบข้างที่มองมาทางลู่เจ๋อ กลายเป็นความเสียดสี
“ ลู่หวั่น เธอว่ายังไง ? “ คืนนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเหล่มองลู่หวั่น
แต่สุดท้ายสายตาของเขาก็ยังคงเย็นชามาก
ลู่หวั่นยิ้ม ในเมื่อรู้เป้าหมายของมู่วี่สิง เธอไม่เคยไม่เชื่อฟังเขา
แต่แค่รู้สึกเย็นที่หัวใจ
“ ตลอดปีที่ผ่านมานี้ ฉันอยู่ตระกูลมู่ ก็ได้รับความดูแลที่ดีจริงจริง ….. “ ลู่หวั่นพูดเบาเบา
แต่แค่คำพูดพึ่งจบลง มู่วี่สิงก็เปิดปากพูดต่อ ไม่ให้พื้นที่สักหน่อยให้เธอมาตอบโต้ “ หลายปีที่ผ่านมานี้ ฉันดีกับลู่หวั่นเหมือนน้องสาว คุณอาน ฝากเธอให้คุณ ฉันก็ไว้ใจแล้ว “
“ ประธานมู่ กับงานแต่งครั้งนี้ ฉันไม่มีความคิดเห็นอะไร พ่อของฉันก็หวังมาตลอดว่าฉันสามารถหาคุณลู่ เจอได้ ครั้งนี้ ขอบคุณคุณมาก “
สายตาอานฉิง ที่มองลู่หวั่นมีความน่าอัศจรรย์เล็กน้อย
ลู่หวั่นยังคงเมินเขา แต่ยืนอยู่ข้างมู่วี่สิง ท้ายสุดก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็แก่นแท้กันหมด จะมองเหตุการณ์แบบนี้ไม่ออกได้อย่างไร แต่แค่คิดไม่ถึงว่ามู่วี่สิงจะทำเรื่องขึ้นมาเอง วางแผนการแต่งงานให้ลู่หวั่น
“คุณลู่ ช่วงนี้ฉันมีงานต้องจัดการ แต่คุณพ่อฉันมักจะพูดถึงเธอตลอด ไม่งั้นคืนนี้คุณก็กลับไปกับฉันเลย?“อานฉิง ถามอย่างมีมารยาท
เดินมา แล้วยื่มมือให้ลู่หวั่นอย่างสุภาพบุรุษ
ลู่หวั่นก็ถอยไม่ได้แล้ว อีกข้างยังคือมู่วี่สิงที่ยืนยันแล้ว แต่ลุงเธอคนนี้ กำลังตกตะลึงกับมู่วี่สิง ตอนนี้ก็เงียบไปแล้ว ไม่กล้าพูดอะไร
อีกข้างคืออานฉิงที่คาดหวังกับเธอ ถ้าเธอรับปากแล้ว การแต่งงานครั้งนี้คงจะเป็นข้อสรุปที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว
มองสายตาเย็นชาของมู่วี่สิง สายตาลู่หวั่นหมดกำลังใจ ก็ได้แค่ยื่นมือตัวเองออกไป
แต่การแต่งงานครั้งนี้ เธอก็ต้องหาวิธีออกเองแล้ว
อานฉิง ยิ้มอย่างพอใจ “ ประธานมู่ ขอบคุณสำหรับการดูแลในวันนี้ ฉันกับคุณลู่ ก็ต้องไปก่อนแล้ว “
ลู่หวั่นไม่ได้มองมู่วี่สิงอีก ถ้ามองมากกว่านั้น ก็ได้แค่เพิ่มความเสียใจเท่านั้น
ลี่หนานเฉิงที่อยู่ข้างตลอด ก็ทนไม่ไหวที่จะปรบมือออกมา “ ฉันก็ว่าทำไมถึงพาลู่หวั่นมา ที่แท้ก็เพื่อให้เธอจากไป และก็เพื่อคุณนายมู่คนนั้นใช่ไหม ? “
มู่วี่สิงเหล่ตามอง นิ้วมือที่ยาวจับแก้วไวน์ไว้ สายตามีความหมายที่มองไม่ออก
“ ว่าแต่คุณนายมู่ของลูกพี่หล่ะ เมื่อกี้ฉันยังเห็นเธอมา “ ลี่หนานเฉิงมองไปรอบ ทำไมถึงไม่เห็นเธอแล้ว
“ หื้ม ?” สีหน้ามู่วี่สิงก็มีอารมณ์กลับมาแล้ว หยี่ตาขึ้น “ เธอมาหรอ ? “
“ ที่แท้ลูกพี่ไม่รู้หรอ ! คุณปู่เป็นคนพาเธอมา แต่ตอนนี้คุณปู่กำลังเล่นไพ่กับผู้ถือหุ้นอยู่ชั้นบน เวินจิ้งก็ไม่อยู่ด้วยแน่นอน เมื่อกี้ฉันยังเห็นเธอ ….. “ ลี่หนานเฉิงขมวดคิ้ว
มู่วี่สิงเงียบทันที โทรไปยังเบอร์ของเวินจิ้ง กลับได้ยินว่าไม่ได้อยู่ในที่ที่มีสัญญาน
“ ตรวจดูว่าโรงแรมมี่ไหนไม่มีอินเทอร์เน็ต ! “ มู่วี่สิงหยี่ตาขึ้นอย่างเย็นชา แล้วรีบสั่งให้ยามโรงแรมเริ่มหา
ลี่หนานเฉิงรีบไปจัดการ แล้วย้อนกลับมาต่อ “ เธอกลับไปแล้วหรือเปล่า ไม่แน่เห็นว่าลูกพี่อยู่กับลู่หวั่น เธออาจจะทนไม่ไหว “
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว พูดอย่างมั่นใจ “ เป็นไปไม่ได้ “
เกาเซียนเข้าสู่ระบบรักษาความปลอดภัยของโรงแรมได้อย่างเร็ว งานเลี้ยงยังคงจัดอยู่ แต่มีคนไม่น้อยที่แฝงเข้ามาหาเวินจิ้ง ไมได้รบกวนงาน
แต่เวลานี้ ฉีซานที่อยู่ในมุมใดมุมหนึ่งตลอด ก็สังเกตุเห็นความผิดปกตินี้ ขมวดคิ้ว มองไปรอบ เวินจิ้งไม่อยู่
ที่ที่เขาอยู่ก็ใกล้ประตู ตั้งแต่เข้ามาจนถึงตอนนี้ก็ไม่เห็นเวินจิ้งออกไปจากตรงนี้
ดาดฟ้าข้างนอกก็ไม่มีทางออก
ทันใดนั้น สายตาของเขาก็หยุดไปทางประตูที่อยู่ข้าง แต่ว่า มีคนที่เร็วกว่าเขาไปแล้ว
มู่วี่สิงมองประตูนิรภัยที่โดนล๊อคอยู่ตรงหน้า สายตาค่อยค่อยต่ำลง และเย็นชาเจี๊ยบ ใบหน้าหล่อเกรงไปหมด ค่อยค่อยเก็บนิ้วมือเรียวอย่างแน่น
ผู้จัดการของโรงแรมก็นำกุญแจมาอย่างเร็ว ขาเรียวยาวของมู่วี่สิงเตะไปทีหนึ่ง “ เปิ้ง “ เสียงทำให้เวินจิ้งที่อยู่ข้างในตกใจ
ในที่สุด …. มีคนมาแล้ว ……
เธอยกสายตา ไม่มีไฟ มองไปมีแต่ความมืด เงาร่างสูงนั้นโดนความมืดปกไว้แท้แท้ แต่เธอก็รับรู้อย่างชัดเจนว่าคือมู่วี่สิง
เธอไม่คิด คนที่หาเธอเจอคือเขา ……
แม้ว่า เธอก็เคยคาดหวัง แต่ก็ไม่กล้าคิด
แต่ตอนนี้ ผู้ชายหน้าหล่อค่อยค่อยเดินเข้ามา มีความน่ากลัว และพร้อมที่จะโมโหอย่างมาก ใบหน้าหล่อดูดีเต็มไปด้วยความเย็นชา แต่พอเห็นเวินจิ้ง สีหน้าก็อ่อนโยนลงมาทันที
“ มู่วี่สิง “ เธอพูด แล้วยกหัวขึ้นอย่างนิ่ง สบตากับสายตาที่คมชัดอย่างเย็นของเขา อยากจะลุกขึ้นมา
แต่เป็นเพราะขางขานั่งนานเกินไป ขาเธอก็ชาไปตั้งนานแล้ว ยืนไม่มั่นคง เห็นเธอจะกลิ้งลงไปกับบันได แขนยาวของมู่วี่สิงก็จับกอดเธอไว้
ทางเดินฉนวนนอกประตู คือลู่หวั่นที่กำลังจะไป แล้วเห็นร่างของมู่วี่สิงที่เดินเข้าไป จึงกำหมัดแน่น
เมื่อกี้เธอรับปาก อานฉิง ว่าหลังจากสามวันเธอจะไปประเทศB ช่วงนี้ เธอต้องอยู่แล้วจัดการเรื่องให้เรียบร้อย
แต่แค่คิดไม่ถึง ว่าย้อนกลับมา มู่วี่สิงกลับเจอแล้ว
เธอทำสีหน้าไม่พอใจ ร่างกายไม่หยุดที่จะสั่น
ด้านข้างก็มีร่างหนึ่งเดินมา ฉีซานหยี่ตาที่คมชัดมอง สายตาหยุดอยู่ที่ลู่หวั่น “ ฝีมือเธอ ? ”