บทที่ 198 ผู้ชายในสายตาของเธอ มีแค่ฉัน
“ประธานลี่” เวินจิ้งยังคงรักษามารยาทอยู่เสมอ
อย่างน้อยในเวลานี้ ลี่หนานเฉิงก็เป็นเจ้านายของเธอ
“อืม เอาอาหารเช้ามาให้ผมด้วย” ลี่หนานเฉิงพิงเก้าอี้อย่างขี้เกียจ รอยยิ้มที่มุมปากค่อยๆยิ้มกว้าง
ขึ้น
แน่นอนเวินจิ้งไปอยู่แล้ว แต่พอลุกขึ้นมาก็ถูกมู่วี่สิงจับแขนไว้ มองเวินจิ้งด้วยสายตาที่เยือกเย็น
และหนักแน่น “นั่งลง”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว ได้ยินเสียงมู่วี่สิงดังขึ้น “หนานเฉิง เจียมตัวหน่อย อย่ามาเป็นก้างขวางคอ”
“เจียมตัว คืออะไร? ผมไม่มี” ลี่หนานเฉิงพูดอย่างหน้าด้าน
สายตาที่เย็นชาของมู่วี่สิง พร้อมกดตัวเวินจิ้งให้นั่งลง
“เวินจิ้ง คุณเป็นลูกน้องของผมใช่มั้ย?” ลี่หนานเฉิงมองไปที่เวินจิ้ง
เวินจิ้งพยักหน้า
“คุณก็สมควรทำธุระให้ผม?”
“ควรค่ะ” เวินจิ้งขมวดคิ้ว
เธอสังเกตเห็นสายตาที่เย็นชาของมู่วี่สิงจ้องมองมา
แต่สถานการณ์ตอนนี้!
“คุณต้องฟังผม หรือฟังมู่วี่สิง?” ลี่หนานเฉิงพิงเก้าอี้ แล้วถามต่อ
เวินจิ้งช็อกไปสักระยะหนึ่งแล้วกัดฟันถามว่า “ก็ต้องดูว่าเป็นเรื่องบริษัทหรือเป็นเรื่องส่วนตัว
ค่ะ”
“ไม่ว่าเรื่องส่วนตัวหรือส่วนรวมผมเป็นคนเลือกเอง หนานเฉิง คุณควรประพฤติตัวดีๆ กับผมหน่อยนะ” มู่วี่สิงถึงแม้จะตวาดใส่ แต่ที่จริงก็ไม่ได้โกรธ
สองคนรักกันเหมือนพี่น้อง ไม่มีใครโกรธกันลงจริงๆ
ลี่หนานเฉิงยิ้ม พร้อมลุกขึ้นบิดขี้เกียจ “โอเคๆแล้ว ผมพึ่งลงจากเครื่องมาเหนื่อยมากละ เวินจิ้ง
เดี๋ยวตอนเที่ยงเราค่อยคุยกัน” พูดจบ เขาก็ถือกระเป๋าเดินทางไปที่ห้อง
เวินจิ้งมองไปที่มู่วี่สิงอย่างรู้สึกโกรธเล็กน้อย “มู่วี่สิง ยังไงประธานลี่ก็เป็นเจ้านายของฉันนะ”
ถึงแม้ เธอรู้ว่าเจ้านายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังของบริษัทการผลิตยาเทียนอีคือมู่วี่สิง แต่ตอนนี้ไม่ใช่
เขาที่กุมอำนาจทั้งหมด
คนที่เธอควรเชื่อฟัง คือเจ้านายของเธอเองต่างหาก
“ฉันขอพูดคำเดียว เวินจิ้ง ในสายตาของคุณ มีแค่ผมเท่านั้น ฮึ?” มู่วี่สิงเหล่ตามองอย่างน่ากลัว
และเสียงที่แหบแห้ง
เวินจิ้งก้มลง สายตาของมู่วี่สิงมันร้อนแรงเกินไป เธอหลีกเลี่ยงตามสัญชาตญาณ
เพียงแต่ คำพูดนี้จะฟังดูเอาแต่ใจ แต่กลับทำให้เวินจิ้งมีความสุข
เธอยิ้ม “คุณคงไม่ใช่หึงประธานลี่นะ?”
มู่วี่สิงสีหน้าเปลี่ยนทันที “เขาคู่ควรหรอ?”
รอยยิ้มของเวินจิ้งยิ่งยิ้มกว้างขึ้น
กินอาหารเช้าเสร็จ เวินจิ้งก็ไม่ได้รบกวนเวลาพักผ่อนของลี่หนานเฉิง รอจนถึงเที่ยงค่อยเอา
เอกสารไปที่ห้องประชุมของโรงแรม
หน้าตาของลี่หนานเฉิงเหมือนกับเทพบุตรซาตาน ริมฝีปากเรียวบางของเขาเป็นที่น่าดึงดูด
เทียบกับผู้หญิงแล้ว……ยังสวยกว่าอีก
ถึงแม้เขาจะดูอ่อนโยน แต่ก็ไม่ได้เสียความเป็นชายชาตรี ดูแล้วหล่อสง่างามมาก
“สนองให้มู่วี่สิงอิ่มแล้วหรอ? ” ลี่หนานเฉิงนั่งลงอย่างเกียจคร้าน เม้มปากขึ้นเบาๆ
เวินจิ้งกำลังจะพูด แต่เมื่อได้ยินที่เขาพูด สีหน้าก็แดงก่ำ
“ประธานลี่ อย่ามาล้อเล่นกับฉันนะ”
“เปล่านี่? พวกคุณเป็นสามีภรรยากัน เรื่องเซ็กส์คงเข้ากันดีมากสินะ?” ลี่หนานเฉิงเอียงตัวเข้ามา
ใกล้ เวินจิ้งรีบถอยออกทันที เอาเอกสารที่อยู่ตรงหน้ายื่นให้เขา “ประธานลี่เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า”
ลี่หนานเฉิงก็ไม่ได้ล้อเธออีก ช่วงที่เขาจัดการงานส่วนรวม สีหน้าจะดูจริงจังขึ้นมา
เมื่อวานเวินจิ้งเข้าประชุมกับโป๋ทง ไปแล้วครั้งนึง เจาะจงมาเพื่อปฏิเสธคำเรียกร้องของโป๋ทง
ลี่หนานเฉิงคิดโปรแกรมแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว
“พรุ่งนี้นัดเวลาเลย” เขาออกคำสั่ง ด้วยนัยน์ตาสีดำที่เข้มงวด
ตอนดึกๆ มู่วี่สิงไม่ได้อยู่ที่ห้อง เวินจิ้งอยู่คนเดียวเพียงลำพัง เขาจะโทรศัพท์หาอั้ยเถียนทุกวัน
และรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังมีรักครั้งใหม่ เป็นคู่ครองที่ครอบครัวจัดการให้
“เดือนหน้าเราก็จะแต่งงานแล้ว จิ้งจิ้ง เธอหาเวลาว่างมาที่ ประเทศ Cสักครั้งสิ?” อั้ยเถียนถาม
เวินจิ้งคาดไม่ถึงว่า ความคืบหน้านี้……เร็วผิดปกติแล้ว
เสี้ยวหงรู้มั้ยนะ? เวินจิ้งไม่ได้ถามออกไป อั้ยเถียนคงไม่อยากจะได้ยินเรื่องที่เกี่ยวกับผู้ชายคนนี้
“แน่นอน รอฉันทำงานรอบนี้เสร็จก็จะไปนะ อั้ยเถียน ยินดีด้วยนะ” เวินจิ้งพูดอย่างจริงใจ
“ช่วงนี้เธอคงยุ่งมากสินะ? ฉันลาออกจากงานอย่างกะทันหันเลยสร้างความลำบากให้เธอไม่น้อย
เลย” อั้ยเถียนถอนหายใจ เธอรู้สึกผิดต่อเวินจิ้ง
“ไม่เป็นไร เธอก็รู้ ฉันยังมีมู่วี่สิงปกป้องอยู่นะ” เวินจิ้งพูดอย่างทะเล้น
เมื่อกี้เหมือนเธอจะเข้าใจอะไรแล้วเรื่องหนึ่ง ที่ลี่หนานเฉิงเข้ามา น่าจะเป็นเพราะมู่วี่สิงวางแผน
ไว้สินะ?
ความสามารถของลี่หนานเฉิงไม่เป็นสองรองใครเลย เมื่อสักครู่ที่เธอประชุมกับเขาก็พอจะดูออก
แล้ว ถึงแม้เขาจะดูเหมือนเป็นคนเสเพล แต่ความคิดและการตัดสินใจของเขาสามารถรับหน้าที่
ตำแหน่งนี้ได้
ที่สำคัญการเจรจาหารือกับโป๋ทงในตอนนี้ ยิ่งต้องการคนที่เข้าใจและแม่นยำการตลาด มีทักษะ
ในการเจรจาพูดคุย ลี่หนานเฉิงเหมาะสมที่สุด
เสี้ยวหงไม่มีวันเข้าใจสถานการณ์เลวร้ายของเธอตอนนี้ แต่มู่วี่สิงกลับมองออกอย่างชัดเจนนาน
แล้ว
“โอ้โห อวดความรักอันแสนหวานให้ฉันหรอ! ดูแล้วเธอกับคุณหมอมู่พัฒนาได้อย่างราบรื่นนะ
ไม่แน่วันหนึ่งฉันก็ได้เป็นแม่บุญธรรมแล้ว” อั้ยเถียนพูดหยอกล้อ
เวินจิ้งชะงัก คิดไปถึงถ้าหากเธอมีลูกกับมู่วี่สิง……
เป็นไปได้น้อยมาก
ทุกครั้งที่สองคนจะมีอะไรกัน มู่วี่สิงจะใส่ถุงยางอนามัยเสมอ ด้านนี้เขาจะรอบคอบ
มาตลอด
“เถียนเถียน ฉันรู้สึกว่าฉันต่างหากที่จะเป็นแม่บุญธรรมนะ”
“ไม่จริง งั้นเรามาพนันกัน!”
“ได้สิ พนันอะไรล่ะ?”
“……”
……
พอวางสายแล้ว เวินจิ้งก็รีบตรวจสอบการเดินทางของเธอ ถ้าทำธุระที่ เมืองBเสร็จ
เธอก็จะบินตรงไปที่ ประเทศ Cเลย เธอเองรอที่จะไปเยี่ยมอั้ยเถียนไม่ไหวแล้ว
“คืนนี้ผมมีงานเลี้ยง เป็นเด็กดีกินข้าวคนเดียวนะ รู้มั้ย?” มู่วี่สิงพูดอย่างอ่อนโยน
“โอเคค่ะ จะกลับกี่โมงหรอคะ?” เวินจิ้งเผลอปากถามออกไป
“ไม่แน่ใจ ถ้าง่วงแล้ว คุณก็นอนก่อนเลยนะ”
“หือ ความหมายนี้ น่าจะถึงเช้าสินะ?” เวินจิ้งรู้สึกอ้างว้างเล็กน้อย
เธออยากถามมู่วี่สิงว่าไปที่ไหน ไปกับใคร แต่พอคิดว่าเป็นงาน อาจจะไม่สะดวกที่จะบอกเธอ
“อืม เด็กดี”
“ไม่ดี” เวินจิ้งโวยวาย
มู่วี่สิงหัวเราะเบาๆ “กลับไปเดี๋ยวชดใช้ให้นะ”
เวินจิ้ง : ?
“พรุ่งนี้ทั้งวันเป็นของคุณ”
ในเวลานี้เองเวินจิ้งพึ่งจะเผยรอยยิ้มออกมา แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่า พรุ่งนี้ต้องไปประชุมที่โป๋ทง
นี่นา! “พรุ่งนี้ฉันยุ่งมาก ดูเหมือนเวลาเราจะไม่ตรงกันแล้ว”
“ผมให้ลี่หนานเฉิงจัดการธุระเองแล้ว” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เวินจิ้งรีบห้ามเขาไว้ “อย่านะ พรุ่งนี้ฉันจะพยายามเคลียเวลาเอง คุณอย่าไปพูดอะไรกับ ประธานลี่
นะ!”
มู่วี่สิงยกริมฝีปากขึ้น “คุณแคร์เขามาก?”
แคร์?
ไม่ใช่สักหน่อย เพียงแค่เธอแยกเวลาส่วนตัวออก
“ใช่ที่ไหน มู่วี่สิง คุณอย่าพูดมั่วซั่วนะ!”
“อืม ถ้าหากผมคิดฟุ้งซ่านขึ้นมาจริงๆ ผมคงไปตัดคอเขาแล้ว”
มู่วี่สิงเขาพูดได้ทำได้มาตลอด
เวินจิ้งรู้สึกกลัวเล็กน้อย……
“คุณทำให้ฉันตกงานได้นะ”
“ผมยินดีที่จะเลี้ยงคุณ”
เวินจิ้ง: ……
พอวางสาย เวินจิ้งก็ออกไปกินข้าว เป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งก่อน ทำให้ตอนนี้เธอจะออกไป
ไหนก็ต้องมีบอดี้การ์ดคุ้มกันอยู่ไกลๆ
เดิมทีเวินจิ้งจะคัดค้านมาตลอด แต่ตอนหลังมาคิดแล้วก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง จึงยอมรับ
เมืองBไม่เจริญเท่าเมืองหนานเฉิง แต่มีร้านอาหารอร่อยๆไม่น้อยเลย เวินจิ้งไปที่ศูนย์อาหาร พอนั่งลงก็มี
เงาที่คุ้นเคยสองคนผ่านตาอยู่ไม่ไกล
ฉืออี้เหิงกำลังโอบกอดฉินเฟยออกมาจากห้างสรรพสินค้า สองคนจูงมือกันอย่างสนิทสนม