บทที่201 สิ่งที่ควรจะเห็นก็ได้เห็นแล้ว
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว และกอดร่างของเวินจิ้งพลางล้มลง กลิ่นเหล้าที่ปากของเธอก็ได้ฟุ้งออกมา เขาก้มหน้าลงด้วยความไม่พอใจ
จับมือเล็กๆของเธอขึ้น เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “คุณนายมู่ คุณโกรธเหรอ”
เวินจิ้งยิ้มประชดและผลักเขาออกไป “ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
ดวงตาอันหมองคล้ำของมู่วี่สิงได้ดูลึกล้ำกว่าเดิม เขาทนไม่ไหวจนอยากจะบีบคางของเวินจิ้ง และเธอต้องพบกับสายตาที่เย็นชาของเขา
“พูดอีกรอบซิ ฮึ้ม?”
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ มู่วี่สิง!” ครั้งนี้/คราวนี้ เสียงของเธอดังขึ้นอย่างมากอย่างกับคนเป็นฮิสทีเรีย
อันที่จริงต้องการอยากจะควบคุมอารมณ์ของตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถทำได้
เมื่อนึกถึงลู่หวั่น …..ผู้หญิงคนนั้น ที่ชอบมู่วี่สิงมาหลายปี
เธอเป็นผู้หญิงที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดที่จะอยู่เคียงข้างมู่วี่สิง
“ไม่เกี่ยวกับผม แล้วจะเกี่ยวกับใคร ฮึ้ม?” เสียงต่ำของมู่วี่สิง แสดงให้เห็นถึงความอันตรายและร้อนแรง
เวินจิ้งรู้สึกงงเล็กน้อย ไม่สามารถขัดขืนต่อความอ่อนโยนของมู่วี่สิงได้
แต่เธอไม่ต้องการที่จะหวังพึ่งมันอีกต่อไป
ขณะที่สัมผัสหน้าอกของเขา เธอได้หันศรีษะอย่างเย็นชา “ไม่ต้องมาสนใจ”
มู่วี่สิงบีบคางของเธออีกครั้ง เขาหรี่ตาลงอย่างน่าอันตราย เขาได้เห็นเงาผ่านเข้ามาในหัว และพูดตะคอก “เมื่อกี้เห็นอะไรไหม”
“เห็นอะไรก็เห็นอันนั้นแหละ”
“แล้วนี่โกรธอะไร” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
เวินจิ้งส่ายหัว แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
เธอโกรธเรื่องอะไร เธอก็ไม่ยอมบอกออกมาตรงๆ
“ลู่หวั่นเป็นแค่พี่สาวของฉัน” มู่วี่สิงพูด
ใบหน้าของเวินจิ้งยังคงอุ่น
ใบหน้านั้นร้อนมาก ทั้งร่างและคอร้อนจัด ราวกับถูกไฟลวก
เธอได้ผลักมู่วี่สิงเพื่อจะยืนขึ้น แต่เธอยืนได้ไม่มั่นคง และทั้งร่างก็ได้ล้มไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา
มู่วี่สิงจึงคว้าเธอมากอดไว้อย่างมั่นคง
ทันใดนั้นเวินจิ้งก็ได้สติ แล้วก็ค่อยๆเปิดตา โครงหน้าที่งดงามของชายคนนั้น ปรากฏต่อสายตาของเธอ
เธอพูดเบาๆ “คุณปล่อยฉัน”
มู่วี่สิงทำเสียงอึดอัด และไม่สนใจคำพูดของเธอ
ตลอดทางเดินและออกจากลิฟท์ โชคดีที่ไม่มีใครอยู่บนชั้นนี้ ใบหน้าของเวินจิ้งที่แนบชิดหน้าอกของมู่วี่สิง แก้มของเธอก็เริ่มแดงขึ้น
ในรถ เวินจิ้งที่กำลังถูกมู่วี่สิงสวมกอดไว้ในอ้อมแขนของเขา เธอพยายามจะผลักเขาออกไป
“อย่าดิ้นสิ คุณนายมู่ คุณจะเมาหรือไม่เมาก็ทำให้ผมมีอารมณ์มาก” มู่วี่สิงกัดริมฝีปากบางๆ และในคำพูดเต็มไปด้วยความหมายบางอย่าง
แต่เวลานี้ในหัวของเวินจิ้งรู้สึกสับสนมาก จริงๆแล้วก็ไม่ได้คิดอะไรในความหมายที่เขาพูด และยังคงผลักเขา “ฉันร้อน อย่ามากอดฉัน!”
มู่วี่สิงได้รีบยกแผงกั้นในรถขึ้น พื้นที่นั่งด้านหลังก็เต็มไปด้วยความเป็นส่วนตัว เขายกใบหน้าเล็กๆสีแดงของเธอขึ้น
เสียงของเขายังคงอ่อนโยน “ฮื้ม กอดผม ไม่สบายเหรอ”
“ไม่สบาย …….”
มู่วี่สิงลดมือลงไปโอบเอวของเวินจิ้ง เขายกใบหน้าที่ละเอียดอ่อนของเธอขึ้น “เดี๋ยวก็สบายแล้ว …..”
เขายกริมฝีปากเรียว แล้วจูบที่ปากเล็กๆของเธอ
……
วันรุ่งขึ้น เวินจิ้งได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงโทรศัพท์ที่อยู่ข้างตัว ระหว่างที่เปิดตาขึ้น ภาพเมื่อคืนก็ได้แวบขึ้นมาในหัวทันที
เวินจิ้งได้ตบหน้าของตัวเอง เมาขนาดนั้นได้ยังไง!
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มีสายจากคนแปลกหน้าโทรเข้า
“ฉันคือฉีเซิน” เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น
เวินจิ้งขมวดคิ้วและจะรีบกดวางสาย
ฉีเซินรู้ความคิดของเธอจึงรีบออกปาก “เวินจิ้ง ฉันมีเรื่องสำคัญจะพบเธอ”
“เรื่องอะไร”
“เธอรีบมาโรงพยาบาล”
เวินจิ้งได้หยุดชะงัก “ใครเป็นอะไร”
“แม่ฉันเอง”
น้ำเสียงของฉีเซินค่อนข้างวิตกกังวล ดูเหมือนไม่ได้พูดโกหก
และเรื่องที่เกี่ยวกับคุณนายฉี เวินจิ้งก็เป็นห่วงเช่นกัน
หลังจากที่ได้วางสายโทรศัพท์ เวินจิ้งค่อยๆลุกขึ้นจากเตียง แล้วมองไปยังชุดคลุมอาบน้ำสีขาวที่เธอสวมอยู่ มู่วี่สิงเป็นคนเปลี่ยนให้เธอเหรอ
ความทรงจำของเธอก็ได้หายไป ……..
ทันใดนั้นมีเสียงฝีเท้านอกประตู มู่วี่สิงในสีขาวกางเกงดำได้เข้ามา พร้อมสีหน้าเย็นชา
“จะไปไหนเหรอ”
“ไม่ต้องมายุ่ง” ยังติดอยู่กับความรู้สึกของเมื่อคืน
“งั้นก็ไม่ต้องออกไป” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งลึก
เวินจิ้งเพิกเฉยต่อเขา อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้องนอน มู่วี่สิงกำลังมองเอกสารต่างๆอยู่โดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองเธอ
เธอได้เดิมตรงออกไป แต่มู่วี่สิงก็ได้บอกไปแล้ว เธอออกไปไม่ได้
ประตูถูกล็อค
เธอหันหลังกลับ และยืนต่อหน้าชายคนนั้น
“ฉันจะออกไป”
“นั่งลง” มู่วี่สิงพูดอย่างเบาๆ
เวินจิ้งกัดริมฝีปาก นั่งลงอย่างไม่เต็มใจ
“เมื่อคืนผมได้พูดชัดเจนแล้ว คุณนายมู่ คุณยังโกรธอะไรอีก บอกผมมา” มู่วี่สิงมองดูเธอ
เวินจิ้งได้ขมวดคิ้ว แต่จำไม่ได้ว่าเมื่อคืนมู่วี่สิงได้พูดอะไร …….
จำได้แค่ว่าเขากับลู่หวั่นเหมือนจะกอดอยู่ด้วยกัน …….
เธอมองไปทางอื่น จริงๆแล้วเธอเหมือนจะหายโกรธแล้ว
ในที่สุดเธอก็ได้รู้ว่ามู่วี่สิงได้เตรียมวางแผนแต่งงานกับลู่หวั่น ลู่หวั่นชอบเขาก็เป็นเรื่องของลู่หวั่น มู่วี่สิงเป็นคนที่เพียบพร้อมและหน้าตาดี มีผู้หญิงชอบเขามากมาย
ถ้าเธอโกรธผู้หญิงทุกคน จะไม่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวมากไปหน่อยเหรอ
“ไม่ได้โกรธ” เวินจิ้งสูดหายใจลึกๆ แต่น้ำเสียงก็ยังดูไม่เป็นธรรมชาติ
มู่วี่สิงเข้ามาใกล้ๆแก้มของเธอ เขาหรี่ตาลง “ที่หลังอย่าดื่มหนักอีกนะ ฮื้ม”
หลังจากดื่มเหล้า และถูกพยุงขึ้น หลังจากนั้นก็หลับไป!
“ฉันไม่ได้ดื่ม ….” เสียงของเวินจิ้งได้หยุดชะงักลง จำได้ว่าเมื่อคืนได้ดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ยกเว้นแต่เหล้าดีกรีแรงที่ลี่หนานเฉิงส่งให้กับเธอ …….
“ฉันไม่รู้หนิ ……” เวินจิ้งก้มศีรษะลงด้วยความอาย
“ทีหลังไม่รู้ก็ไม่ต้องดื่ม” มู่วี่สิงก้มหน้าลง
โชคดีที่แก้วเหล้านั้นเป็นของลี่หนานเฉิงให้เธอ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะไม่ทำอะไรกับเวินจิ้ง เพราะสุดท้ายแล้วก็เป็นพี่เป็นน้องกับเขากันมาหลายปี
แต่ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่น นึกแล้วก็อาจจะเป็นไปได้ เงาของดวงตามู่วี่สิงก็ได้เปร่งประกายออกมา
“ครั้งหน้าจะไม่มีอีกแล้ว”
“ยังจะมีครั้งหน้าอีกเหรอ” น้ำเสียงของมู่วี่สิงเยือกเย็นขึ้น
“ไม่มีแล้ว” เวินจิ้งเบ้ปาก
เธอดูเหมือนจะถูกมู่วี่สิงกลืนกินเข้าไปแล้ว
เวลานี้เสียงโทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง เป็นฉีเซินที่ได้โทรมา
เวินจิ้งจะรีบออกไป “มูวี่สิง วันนี้ฉันมีธุระ”
ชายคนนั้นได้เห็นสายเรียกเข้าในโทรศัพท์ของเวินจิ้ง ดวงตาของเขาหม่นหมอง “ฉีเซินโทรมาหาคุณทำไม”
“เกิดเรื่องกับคุณนายฉี” โดยที่เวินจิ้งก็ยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“ผมจะไปกับคุณ” มู่วี่สิงกล่าว และรีบปิดคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว
เวินจิ้งได้หยุดชะงัก และพยักหน้าอย่างช้าๆ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมือง
ผู้ช่วยของฉีเซินได้ลงมารอเวินจิ้งแล้ว เมื่อเห็นเวินจิ้ง เขาก็เข้ามาทักทายทันที “น้องเวิน ในที่สุดคุณก็มา”
มู่วี่สิงได้เก็บเงียบมาโดยตลอด ความใกล้ชิดของทั้งสองคนนั้นสะดุดตาเป็นอย่างมาก
ตลอดทางจนถึงห้องผู้ป่วย ฉีเซินยืนอยู่ข้างทางเดิน ได้ยินเสียงฝีเท้า และได้เงยหน้าขึ้นด้วยตาดำขวับ
สายตาที่มองไปยังร่างของมู่วี่สิงนั้น ช่างดูเย็นชา