flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 213 ห้ามโกรธ

บทที่ 213 ห้ามโกรธ

ไม่นานรถพยาบาลก็มาถึงแล้ว ฉีเซินรีบตามมา เขาไปโรงพยาบาลกับฉินเฟยด้วยกัน

เวินจิ้งอยากไปด้วย แต่ถูกมู่วี่สิงกอดไว้

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณเลยนะ” เขาพูดเสียงต่ำ

กลับมาถึงโรงแรม อั้ยเถียนโทรหาเวินจิ้งตลอด มู่วี่สิงเป็นคนรับสายเอง

“วันนี้เธออารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ วันพรุ่งนี้ผมจะไปกับเธอ”

“เกิดอะไรขึ้นหรอ” อั้ยเถียนถามอย่างกังวล

“ไม่มีอะไร” มู่วี่สิงไม่ได้บอก วางสายลงทันที

เวินจิ้งอาบน้ำเสร็จออกมา อารมณ์ดีขึ้นเยอะแล้ว นั่งลงบนโซฟา เธอกำลังเช็ดผมอยู่

มู่วี่สิงเอาไดร์เป่าผมมานั่งลงข้างๆ เธอ

“เอาผ้าขนหนูให้ผม จะเป่าผมให้คุณ” เส้นเสียงของเขาเข้มแต่อ่อนโยน

เวินจิ้งมองผู้ชายที่หันข้าง ใบหน้าของเขาหล่อเหลา โครงหน้าคมชัด สวมใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมสองเม็ดออก โชว์แผ่นหน้าอกที่แข็งกร้าวออกมา

“ฉันทำเองก็ได้” เธอรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย อยากจะเอาไดร์เป่าผมมา

มู่วี่สิงกลับไม่อนุญาต กดหัวของเวินจิ้งให้นอนอยู่ที่บนตักของเขา จากนั้นเสียง “ซ่าๆ” ก็ดังขึ้น

ปลายนิ้วอันเรียวยาวอยู่ระหว่างผมของเวินจิ้ง บางครั้งที่โดนหนังหัว เธอก็ปวกเปียกและชาจนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเล็กน้อย

“ร้อนเกินไปหรอ” มู่วี่สิงถามและกดไดร์เป่าผมให้ลดความร้อนหนึ่งระดับ

เวินจิ้งส่ายหัว หลับตาลง เอามือไปกอดเอวของมู่วี่สิง

“ฉันนึกว่าไม่มีใครเชื่อฉันแล้ว” จู่ๆ เธอก็พูดขึ้นมา

“คุณนายมู่ ผมเชื่อคุณ” มู่วี่สิงมองลงไป แววตาแวววาม

คำพูดของเขาทำใจเธออุ่นขึ้นมาทันที

เหมือนเขาจะเชื่อเธอโดยที่ไม่มีข้อแม้ตลอดมา

เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาและถาม “ทำไมหรอ”

เมื่อก่อนเธอกับเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคุณนายมู่ แต่เขาก็สามารถวิเคราะห์แยกแยะออกได้อยู่

“เธอคือเวินจิ้ง”

วันต่อมา เวินจิ้งตื่นมาตั้งแต่เช้าแล้ว จะต้องรีบไปที่โรงแรมตรงนั้นเตรียมตัว

มู่วี่สิงไปกับเธอพร้อมกัน ข้างในห้องแต่งหน้า อั้ยเถียนมาถึงแล้ว

เมื่อเห็นเวินจิ้งก็ลากเธอมาข้างๆ ตัวเองอย่างสนิทสนม “ตกลงเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นอ่ะ”

“ไม่มีอะไรหรอก ตอนแรกฉินเฟยจะแย่งมือถือฉันไป แต่สุดท้ายเธอกลับไปชนโดนผนังเอง” เวินจิ้งเล่าสั้นๆ

“ไอ้ผู้หญิงเลวทรามคนนั้นคิดจะทำอะไรเธออีกแล้วล่ะ” อั้ยเถียนโกรธมาก “ฉันนี่ไม่อยากเห็นเธอในงานแต่งของฉันจริงๆ ฉันจะรีบไปแก้ไขรายชื่อแขกตอนนี้เลย”

“เธออยู่ในโรงพยาบาลอยู่ คาดว่าวันนี้ก็น่าจะมาไม่ได้แล้วแหละ” เวินจิ้งไกล่เกลี่ยให้เธอฟัง

“งั้นก็ดีละ ผู้หญิงคนนั้นควรถูกสั่งสอนสักหน่อยแล้ว!”

เวินจิ้งยิ้มๆ “ได้แล้ว วันนี้เธอเป็นเจ้าสาวนะ ห้ามโกรธ”

พิธียังไม่เริ่มขึ้น ในสวนดอกไม้ข้างหลังก็มีแขกมาถึงเยอะมากแล้ว พอเวินจิ้งออกมาก็เห็นฉีเซินอยู่ข้างหน้าแล้ว

ทั้งตัวของเขาเป็นชุดสูทแฮนด์เมดสีดำที่สั่งทำมาโดยเฉพาะ คนทั้งคนสุภาพอ่อนโยน

ความจริงเขาเองก็หน้าตาหล่อเหลา รอบๆ ตัวไม่ขาดผู้หญิงที่อยากจะเข้ามารู้จักด้วย

ฉีเซินกลับเดินตรงเข้ามาหาเวินจิ้ง

“ประธานฉี” เวินจิ้งยังคงทำตัวมีมารยาทต่อเขา

“เวินจิ้ง วันนี้สวยมากเลยนะ” ดูเวินจิ้งทั้งตัวเป็นชุดเพื่อนเจ้าสาวสีขาวอ่อน ความเร่าร้อนในแววตาของฉีเซินก็ส่องออกมา

เวินจิ้งยิ้มอ่อนๆ “ขอบคุณค่ะ”

นิ่งไปสักพัก เธอถามว่า “ฉินเฟยเป็นยังไงบ้างแล้ว”

“พ้นจากอันตรายแล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ ผมรู้”

เวินจิ้งยิ้มๆ “ขอบคุณมากนะคะที่ประธานฉีเข้าใจ”

ขณะนี้ มีเงาหนึ่งที่คุ้นเคยเดินเข้ามาจากประตู เวินจิ้งนิ่งอั้นไปครู่หนึ่ง นั่นคือ…เสี้ยวหง?

เขามาได้ยังไง

เวินจิ้งเกือบจะเป็นตามไปทันทีเลย ฉีเซินหรี่ตามองตามสายตาของเวินจิ้ง ก็ได้สังเกตเห็นผู้ชายคนนั้น

ผ่านระเบียงทางเดินยาวๆ นี้ไป จุดที่เขากำลังเดินไปคือห้องแต่งหน้าของอั้ยเถียน

ความตื่นเต้นในตาเวินจิ้งลอยขึ้นมา อยากจะรีบตามไป กลับถูกมู่วี่สิงจับข้อมือไว้

“จะไปไหน” เขาขมวดคิ้ว

“คุณรู้ว่าเสี้ยวหงมาแล้ว?” เวินจิ้งมองเขา

“อืม” มู่วี่สิงไม่ได้ปฏิเสธ

เวินจิ้งสะบัดเขาออกอย่างเย็นชา จากนั้นก็ก้าวเท้าวิ่งตามไปทันที

แต่พอถึงห้องแต่งหน้า กลับไม่เห็นสักคนแม้แต่เงาเลย

“เสี้ยวหงล่ะ?” เวินจิ้งถามผู้ชายที่อยู่ข้างๆ

มู่วี่สิงหรี่ตาลง กวาดสายตามองห้องแต่งหน้า สุดท้ายมองไปที่ระเบียงที่ถูกเปิดประตูออกครึ่งบาน

ขณะนี้ คุณแม่อั้ยก็วิ่งมาอย่างเร่งรีบ “พิธีจะเริ่มแล้ว เถียนเถียนอยู่ไหนอ่ะ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว วิ่งไปที่ระเบียง คาดคิดไม่ถึงเลยว่าที่นี่จะสามารถตรงไปยังประตูด้านข้างของโรงแรมได้

หรือว่า…

คุณแม่อั้ยยังอยู่ตรงนี้อยู่ เวินจิ้งก็ไม่กล้าซักถามมู่วี่สิง ทำได้แค่ปลอบคุณแม่อั้ยก่อน “คุณน้าคะ ท่านอย่าเพิ่งกังวลนะ หนูจะโทรถามช่างแต่งหน้าดูก่อน”

เมื่อกี้อั้ยเถียนยังอยู่ตรงนี้อยู่เลย เวินจิ้งไม่กล้าคิดเลยถ้าเธอหนีไปกับเสี้ยวหงแล้ว…

“ฉันเห็นช่างแต่งหน้าเมื่อกี้แล้ว เธอบอกว่าเถียนเถียนอยู่ตรงนี้” คุณแม่อั้ยกระวนกระวายมาก

เวินจิ้งอดไม่ได้ที่จะมองมู่วี่สิงแวบหนึ่ง ลากเขาเดินออกไปที่ระเบียง ถามเสียงต่ำว่า “เสี้ยวหงพาคนไปแล้วใช่ไหม”

มู่วี่สิงสีหน้าเรียบเฉย สายตามองไปที่ประตูด้านข้างแวบหนึ่ง พูดเสียงต่ำว่า “จากความรู้จักที่เธอมีต่ออั้ยเถียนแล้ว เธอจะไปกับเขาไหม”

เวินจิ้งกัดริมฝีปาก เธอคิดว่าอั้ยเถียนจะไป…

ถึงแม้ว่าเธอเต็มใจที่จะแต่งงาน แต่เธอวางเสี้ยวหงไม่ลง มันก็เป็นเรื่องจริง

“ทำไงดี” เวินจิ้งรีบโทรหาอั้ยเถียนทันที

แต่มือถือของเธอก็หล่นอยู่ตรงนี่

“ผู้ชายคนนั้นมาแล้วใช่ไหม” คุณแม่อั้ยระแวงขึ้นมาทันที

“คุณน้าคะ ท่านอย่าเพิ่งกังวลนะ อั้ยเถียนอาจจะแค่ไปห้องน้ำแล้วก็ได้ เดี๋ยวหนูไปหาดูนะ”

ออกมาจากห้องแต่งหน้า เวินจิ้งหาดูเบอร์ของเสี้ยวหงและโทรไป แต่กลับได้ยินเสียงสายไม่ว่างที่ปิดเครื่องแล้ว

มู่วี่สิงเดินมาเอามือถือของเธอไป “พวกเขาอยู่บนเครื่องบินแล้ว”

“อะไรนะ” เวินจิ้งจ้องตาโตขึ้นมา อั้ยเถียนหนีการแต่งงานแล้วจริงๆ…

ครอบครัวตระกูลอั้ยเป็นครอบครัวที่มีชื่อเสียงมาตลอด งานแต่งงานครั้งนี้ยิ่งใหญ่แค่ไหนเธอเองก็รู้อยู่ แขกที่มาร่วมงานล้วนเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีชื่อเสียง ถ้าเรื่องที่อั้ยเถียนหนีการแต่งงานลือออกไป จะมีความเสียหายต่อชื่อเสียงครอบครัวตระกูลอั้ยไม่น้อยเลยทีเดียว

“มู่วี่สิง คุณเป็นคนบอกเสี้ยวหงว่าอั้ยเถียนอยู่ที่นี่ใช่ไหม!” เวินจิ้งมองเขาด้วยความผิดหวัง

มู่วี่สิง เม้มริมฝีปากบาง แววตาเย็นเล็กน้อย “ผมไม่ได้บอกเสี้ยวหง แต่ผมรู้ว่าเขาจะมา”

“เขาไม่มีการ์ดเชิญ!” เวินจิ้งพูดอย่างโกรธเคือง

งานแต่งงานนี้สำหรับเรื่องความปลอดภัยของแขกเหรื่อเข้มงวดมาก เมื่อวานตอนที่เธอมาเช็กรายชื่อแขกก็ไม่เห็นมีชื่อของเสี้ยวหง แล้วเขาจะสามารถเข้ามาได้ยังไง

“ฉันไปหาอั้ยเถียนก่อน…” เวินจิ้งหันหลังไป ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาโกรธมู่วี่สิง

แต่เมื่อกี้มู่วี่สิงบอกว่าพวกเขาอยู่บนเครื่องบินแล้ว…

เครื่องบินส่วนตัว?

เวินจิ้งตั้งสติกลับมา “คุณติดต่อเสี้ยวหงได้ไหม”

มู่วี่สิงส่ายหัว กอดเธอไว้ “เรื่องนี้คุณก็ไม่ต้องเข้ามายุ่งแล้ว ยังไงเจ้าสาวก็ไม่อยู่ เราก็ควรไปได้แล้ว”

“ไม่ได้” เวินจิ้งผลักมู่วี่สิงออก

เธอกลับไปถึงห้องแต่งหน้า คุณแม่อั้ยกำลังบอกให้ รปภ. ไปหาอั้ยเถียนทุกบริเวณ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววสักอย่างเลย

“เสี่ยวจิ้ง หนูช่วยน้าหาเถียนเถียนหน่อยนะ งานนี้เธอต้องแต่ง เธอเป็นคนรับปากตกลงเองเลยนะ” น้ำตาของคุณแม่อั้ยอดไม่ได้ที่จะไหลลงมา

ถ้าเจ้าสาวไม่อยู่ครอบครัวตระกูลอั้ยก็ต้องเสียหน้าแล้ว

“หนูรู้ค่ะ หนูจะอั้ยเถียนให้เจอ” เวินจิ้งมองลงไปข้างล่าง ในใจก็ไม่รู้ควรจะทำยังไงดี

เห็นว่าถึงเวลาเริ่มงานแต่งแล้ว เจ้าบ่าวเดินออกมาแล้ว กำลังรออั้ยเถียนอยู่

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset