บทที่ 218 ก็แค่แต่งงาน
เวินจิ้งเอากางเกงชั้นในเก็บไว้ในกระเป๋า เดินเข้าไปในโซนเสื้อผ้าผู้ชาย เวินจิ้งเห็นร่างคนหนึ่งที่ดูคุ้นเคย
พอซูยีนเห็นเธอก็แปลกใจเหมือนและเธอก็เดินมาหา “เวินจิ้ง มาซื้อเสื้อผ้าให้มู่วี่สิงหรอ”
เวินจิ้งยิ้ม “ก็ถือว่าใช่มั้ง”
แต่ยังไม่ได้เห็นสิ่งที่เหมาะ
“พอดีว่าฉันก็คนเดียวเหมือนกัน เดินด้วยกันป่ะ” ซูยีนพูดอย่างสดใส
เวินจิ้งก็ไม่ได้ปฏิเสธ และรสนิยมของซูยีนก็ดีมากด้วย เธอก็สามารถช่วยให้คำปรึกษาได้พอดีเลย
“เธออยากจะให้ของขวัญเขานี่เอง หรือว่าเธอซื้อเนกไทให้เขาไหม เมื่อกี้ฉันก็เห็นมีหลายแบบที่ดูโอเคอยู่” ซูยีนพาเวินจิ้งเดินไปที่อีกร้านหนึ่ง
เวินจิ้งมองดูแวบๆ ราคานั้นทิ่มตาเธอจนเกือบจะบอด
ถึงแม้ว่าเธอจะใช้บัตรของมู่วี่สิงอยู่ แต่นี่ก็เท่ากับเงินเดือนของเธอหลายปีแล้ว เธอรู้สึกเสียดาย
ซูยีนดูหน้าของเวินจิ้งอึดอัดใจมาก ขมวดคิ้วมุ่น “เวินจิ้ง เธอรู้สึกว่ามันแพงเกินไปแล้วใช่ไหม”
เวินจิ้งพยักหน้า ลากซูยีนออกไปข้างนอก
“มู่วี่สิงไม่ได้ให้เธอแบล็กการ์ดหรอ” ซูยีนถามอย่างไม่พอใจ
“ให้แล้ว แต่ฉันไม่อยากใช้เยอะขนาดนี้”
“เขาไม่ขาดเงินสักหน่อย ไป ฉันช่วยเธอรูดบัตรเอง” ซูยีนลากเวินจิ้งเข้าไปในร้านอีกรอบ
ไม่นานพนักงานก็มาถึง ซูยีนชี้ไปข้างหน้ากี่แบบนี้ “เลือก”
เวินจิ้งกัดริมฝีปาก เธอรู้ว่าบัตรของมู่วี่สิงเหมือนจะไม่มีจำกัด ส่วนบัตรเงินเดือนของเธอก็ให้เขาไปเพื่อคืนเงินตั้งนานแล้ว ยังไม่ได้เอากลับมาเลยสักที
“ถ้าเธอยังลังเลอีกฉันก็เลือกให้เธอแล้วนะ” ซูยีนพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ไม่ดี
เวินจิ้งจึงจะเลือกเนกไทสีน้ำเงินได้สักที ชำระเงินเสร็จ พนักงานห่อให้เรียบร้อยและเอาให้เธอ
“ซูยีน แล้วเธอจะซื้ออะไรหรอ” เวินจิ้งเพิ่งจะนึกขึ้นได้ เมื่อกี้ที่เธอเห็นซูยีนเธอกำลังดูเสื้อผ้าผู้ชายยู่
“ฉันหรอ เดินเล่นเฉยๆ” ซูยีนไม่มีจุดมุ่งหมาย
เวินจิ้งขมวดคิ้วมุ่น เนื่องจากว่าไม่ได้สนิทกันมาก ก็เลยไม่ได้ถามว่าอยากซื้อให้ลี่หนานเฉิงใช่ไหม
“ยังไม่ได้กินข้าวเนาะ? ไป ตรงนั้นมีร้านอาหารญี่ปุ่นร้านหนึ่งที่ดีมากเลยนะ”
ภายนอกของซูยีนถึงแม้ว่าจะดูหยิ่งๆ เข้าใกล้ยาก แต่ถ้าสนิทกับเธอ ความจริงนิสัยของเธอสดใสมาก แต่แค่ในดวงตาของเธอมีความโศกเศร้าอ่อนๆ ทำให้คนอดไม่ได้ที่จะเอ็นดูเธอ
“เธอกับมู่วี่สิงแต่งงานแบบสายฟ้าแลบ แล้วก่อนหน้านี้เธอสองคนคบกันนานแค่ไหนหรอ” ซูยีนสนใจเรื่องระหว่างเวินจิ้งและมู่วี่สิงมาก
เพราะยังไงในวงการนั้นของพวกเขา มู่วี่สิงไม่เคยยุ่งเรื่องผู้หญิงเลย ถึงแม้ว่าจะมีผู้หญิงมาจีบเขาตลอด แต่ก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาสักคน
ตอนนี้จู่ๆ ก็มาแต่งงานกับเวินจิ้ง ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจมาก
“ฉันกับเขา ก็แค่แต่งงาน” เวินจิ้งอธิบาย
ซูยีนขมวดคิ้วมุ่น ก็เหมือนกับที่เธอคิดจริงๆ
“ฉันเห็นเธอมีความพิเศษสำหรับมู่วี่สิงมาก ก็นึกว่าเธอสองคนรู้จักมานานมากแล้ว”
“พิเศษ? น่าจะเพราะว่าเราแต่งงานกันมั้ง”
“สำหรับสิ่งที่เขาไม่ชอบ เขาไม่มีทางสนใจหรอกนะ” ซูยีนรู้จักกับมู่วี่สิงตั้งแต่เด็ก ก็ถือได้ว่ารู้จักเขาดีอยู่
สองคนคุยกันไปมา เพิ่งกินข้าวเสร็จลี่หนานเฉิงก็โทรหาซูยีนแล้ว ซูยีนนิ่งไปครู่หนึ่ง “ฉันไม่ว่าง”
“คุณอยู่กับใคร” น้ำเสียงของลี่หนานเฉิงเย็นชาขึ้นมา
“ไม่เกี่ยวกับคุณสักหน่อย”
พูดจบ ซูยีนก็วางสายลงทันที
“ฉันส่งเธอกลับบ้านนะ”
“คนขับรถยังรอฉันอยู่ซูยีน เธอไปทำธุระของเธอต่อเลย ขอบคุณสำหรับมื้อเย็นนี้มากนะ”
เมื่อกี้ซูยีนไม่เหลือโอกาสให้เวินจิ้งได้จ่ายเงินเลย รูดบัตรอย่างว่องไว
“ไม่เป็นไร ก็ฉันชอบผู้หญิงเรียบร้อยๆ อย่างเธอนี่ไง ถ้าว่างๆ ก็ออกมาเที่ยวอีกนะ” ซูยีนส่งสายตาให้เธอ
กลับถึงเอ่าตระกูลเย่ เมื่อเวินจิ้งเดินผ่านห้องอ่านหนังสือ จึงรู้ว่ามู่วี่สิงกลับมาแล้ว
“ไปไหนมาอ่ะ” มู่วี่สิงถาม
“ไปช้อปปิ้งกับซูยีนมา” ในมือเวินจิ้งยังถือถุงอยู่ เธอก็แอบเอาไว้ด้านหลัง
แต่ตาดีอย่างมู่วี่สิงสังเกตได้ตั้งนานแล้ว
ยักคิ้วกี่ที เขารู้ว่าวันนี้เวินจิ้งรูดบัตรไปห้าหมื่น
“คุณยังยุ่งเรื่องงานอีกหรอ” เวินจิ้งถาม
“อืม เดี๋ยวยังมีอีกหนึ่งประชุมอยู่ คุณไปพักก่อนเลย” มู่วี่สิงดึงความสนใจกลับมาที่คอมพิวเตอร์อีกครั้ง
เวินจิ้งขมวดคิ้วมุ่น กลับไปถึงห้องนอน เธอไม่รู้ว่าควรจะเซอร์ไพรส์ยังไงดี รู้สึกว่าเมื่อกี้นี้น่าจะเอาเนกไทให้มู่วี่สิงไปเลย
เอาถุงไว้ที่ข้างๆ เวินจิ้งอาบน้ำเสร็จ ทบทวนได้สักพักมู่วี่สิงเพิ่งจะกลับมา
เวลาเที่ยงคืนแล้ว เขาทำเป็นไม่ได้เห็นถุงใบนั้น
“สอบวิทยานิพนธ์เมื่อไหร่หรอ”
“วันศุกร์หน้า”
เวินจิ้งรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย สำหรับเนื้อหาของวิทยานิพนธ์เธอยังจำได้ชัดเจนมาก แต่ก็คือรู้สึกว่ากลัวยังไงไม่รู้
ความรู้สึกที่ถูกสงสัยแบบนั้น เธอไม่เคยลืมเลย
“ถึงเวลานั้นผมจะไปกับคุณ”
“ถ้าคุณไปแล้วฉันยิ่งรู้สึกตื่นเต้น” เวินจิ้งปฏิเสธ
มู่วี่สิงขมวดคิ้วเข้ม “ ผมเป็นห่วง”
ถ้าตอนนั้นมีคนใส่ร้ายเวินจิ้ง ผ่านไปสามปีแล้วยังหาคนนั้นไม่เจอสักที กลัวว่าจะเกิดเรื่องเดิมๆ ขึ้นซ้ำซ้อนอีก
“ตอนนี้ก็สืบได้แล้ว มีอะไรน่าห่วงอีกหรอ”
“คนที่อยู่เบื้องหลังยังไม่ได้ออกมา” มู่วี่สิงหรี่ตาลงยังเย็นชา
“ตอนนั้นคนที่เกลียดฉัน คนที่ฉันคิดได้ก็มีแค่ฉินเฟยคนเดียว” เวินจิ้งลองนึกดูและพูดออกมา
เธอก็เคยสงสัยฉืออี้เหิง แต่ว่าเธอสองคนก็เลิกกันแล้ว เขาน่าจะไม่มีแรงจูงใจ
แต่ว่า เธอก็ยังแอบรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
“ผมจะไปสืบเธอเอง ตอนนี้คุณก็ตั้งใจเตรียมสอบวิทยานิพนธ์ ส่วนเรื่องอื่นไม่ต้องเป็นห่วง”
“สามีคะ คุณดีจังเลย” เวินจิ้งเข้าไปกอดมู่วี่สิง ความเอาใจใส่ของเขาทำให้เธอสบายใจมาก
เธอจูบริมฝีปากบางของเขาและพูดเบาๆ ว่า “ฉันซื้อของขวัญมาให้คุณ”
“หืม?”
“อันนี้ใช่ไหม”
เวินจิ้งไปเอามา “ไม่รู้ว่าคุณจะชอบไหม”
“ผมเชื่อรสนิยมของคุณ”
เวินจิ้งยิ้ม “รสนิยมของฉันไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก แต่วันนี้มีซูยีนอยู่ น่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด”
วันต่อมา เวินจิ้งตื่นขึ้นมาไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ประตูห้องเสื้อผ้าถูกเปิดออก เวินจิ้งอึ้งดูผู้ชายในกระจก
เธอรีบใส่เสื้อชั้นในด้วยความรวดเร็ว
มู่วี่สิงลงไปข้างล่างแล้วไม่ใช่หรอ!
ผู้ชายเดินเข้า เอาเนกไทที่เวินจิ้งซื้อมาเมื่อวานขึ้นมา วันนี้เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว เนกไทถูกเอาไปให้ในมือของเวินจิ้ง
“ให้ฉันผูกให้หรอ”
เวินจิ้งแก้มแดงเล็กน้อย ใส่เสื้อให้เรียบร้อยจึงเอาเนกไทขึ้นมา
“คุณนายมู่ เวลาที่อยู่ต่อหน้าผมไม่ต้องเขินนะ” แก้มแดงๆ ของเวินจิ้งยั่วคนมาก
นิ้วอันเรียวยาวของมู่วี่สิงสัมผัสแก้มของเธอ ทำให้เวินจิ้งรู้สึกว่ามีไฟฟ้าไหลผ่านอย่างนั้น
“เมื่อกี้ฉันยังไม่ได้ใส่…” เวินจิ้งพูดพึมพำ
ถึงแม้ว่าก็หลายครั้งกับมู่วี่สิงแล้ว ต่างคนต่างคุ้นเคยกับร่างกายของอีกคนหนึ่งมากแล้ว แต่ก็ยังมีบางครั้งที่เวินจิ้งควบคุมการเขินอายของตัวเองไม่ได้อยู่ดี
“ถึงจะไม่ใส่ก็สวยมาก” มู่วี่สิงดูร่างกายอันสวยงามของเธอ
หุ่นของเวินจิ้งตรงตามมาตรฐานมาก หน้าอกไม่ถือว่าใหญ่ แต่เอวบางขายาว สัดส่วนพอดีมาก
และผิวของเธอก็ขาว ใบหน้าประณีต หลังจากที่แต่งงานกับมู่วี่สิงก็อิ่มอวบขึ้นเล็กน้อยอีก สวยงามและน่าหลงใหล
แก้มของเวินจิ้งยิ่งแดงขึ้นไปอีก รีบเขย่งเท้าขึ้นมาผูกเนคไทให้เขา
แต่เธอไม่เคยมีประสบการณ์ สมัยก่อนเคยผูกให้ฉืออี้เหิงครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ชำนาญมากเหมือนกัน
และสายตาของมู่วี่สิงก็จ้องมองเธออยู่ตลอด เวินจิ้งอยากจะรีบทำ แต่กลับรัดโดนคอมู่วี่สิงโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ พอดึงที หัวของเขาก็ก้มตามลงมาด้วย
ริมฝีปากบางสัมผัสโดนริมฝีปากชมพูของเวินจิ้ง