บทที่ 274 เขาเหมือนจะใจอ่อน
“คุณนายมู่ มองมาที่ฉัน” มือที่ไม่ได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดของมู่วี่สิงได้แตะใบหน้าของเธอ
เวินจิ้งลดตาลง พร้อมใบหน้าที่ซีดเซียว
“ไม่ต้องสนใจคนอื่น เข้าใจไหม”
“แต่ว่า เธอเป็นน้องสาวของคุณนะ มู่วี่สิง เธอเป็นน้องสาวของคุณ” เวินจิ้งพึมพำ
มู่วี่สิงมีความกังวลกับน้องสาวคนนี้มาก
เธอไม่ต้องการทำลายความสัมพันธ์ของทั้งคู่
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ที่มู่ซือซือมีอาการป่วยทางจิต เขาไม่สามารถรับสิ่งเร้าที่เข้ามากระตุ้นได้
แต่เธอก็ดันเป็นหนึ่งในสิ่งเร้าของเขา
“มีผมอยู่” มู่วี่สิงมองดูเธออย่างนิ่งเฉย
เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก และไม่ได้พูดอะไรออกไป
เพียงแค่เธอมีความเกี่ยวข้องกับฉีเซินแค่วันเดียว มู่ซือซือก็เกลียดเธอได้
………..
บ้านใหญ่ตระกูลมู่
ส้งวี่กลับมาพร้อมกับมู่ซือซือ เธอได้โวยวายตลอดเวลา และทำให้ภายในบ้านไม่มีความสงบ
มูเฉิงได้ผ่านไปยังห้องของมู่ซือซือ เกือบโดนเธอขว้างหมอนมาใส่
เมื่อได้เห็นคุณปู่ อารมณ์ของมู่ซือซือก็ได้สงบนิ่งลงเล็กน้อย
“โวยวายอะไร”
“คุณปู่ พี่ชายจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้!”
“เด็กเวร เธอพูดเหลวไหลอะไร!” มู่เฉิงเบือนหน้าลง
“ฉันไม่ได้พูดมั่วๆ เวินจิ้งกับเขา ………เป็นพี่น้องกัน คุณจะให้ฉันอยู่ร่วมกับเขาได้อย่างไร!” มู่ซือซือพูดอย่างไม่ใจดี
เธอไม่ได้รู้สึกดีอะไรต่อเวินจิ้ง ตอนได้รู้ถึงสถานะของเธอแล้ว ยิ่งทำให้เธอทนไม่ไหว
เพียงแค่มีความเกี่ยวข้องกับคนในตระกูลฉี เธอก็รับไม่ได้
มู่เฉิงทำหน้าขมวดคิ้ว สถานะที่แท้จริงของเวินจิ้งเขาก็ไม่คาดคิด
“ปกติเธอก็ไม่ได้อยู่ที่หนานเฉิง ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ร่วมกับเขา”
“งั้นคุณปู่จะไม่ให้ฉันได้เจอหน้าพี่ชายตลอดชีวิตเหรอ” มู่ซือซือยิ้มอย่างเยือกเย็น
“ซือซือ คนที่พี่ชายของเธอจะแต่งด้วยคือเวินจิ้ง แล้วก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลฉี” มู่เฉิงปลอบโยน
แต่ก็ไร้ประโยชน์ มู่ซือซือดันพูดรุงแรงขึ้น “ไม่ …… เขากับตระกูลฉีมีความเกี่ยวข้องกัน เขาคือพี่สาวของฉีเซิน เขาเป็นศัตรูของฉัน…….”
“คุณปู่ ผมขอพาตัวซือซือไปพักผ่อนก่อน” ส้งวี่ขมวดคิ้ว และได้บังคับมู่ซือซือออกไปให้ได้
“ส้งวี่ ฉันไม่ได้พูดอะไรผิด ฉันต้องจะทำให้คุณปู่ได้รู้ความจริง” มู่ซือซือพูดอย่างเยือกเย็น
“ในเมื่อเป็นทางเลือกของพี่ชายคุณ คุณควรจะเคารพการตัดสินใจของเขา”
มู่ซือซืองอริมฝีปากอย่างเย็นชา “ถ้าเขายังเห็นว่าฉันเป็นน้องสาว จะต้องหย่ากับเวินจิ้ง!”
คำพูดของมู่ซือซือ ส้งวี่ได้บอกกับมู่วี่สิงแล้ว
มู่วี่สิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ความเย็นชาในดวงตาของเขาได้ปรากฏออกมา
“คุณดูเธอให้ดี พรุ่งนี้เป็นพิธีแต่งงาน อย่าให้เธอออกมาได้”
ส้งวี่ได้ถอนหายใจลึกๆ “ผู้หญิงคนนั้น เป็นคนของตระกูลฉีจริงๆเหรอ”
“เธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉีเซิน”
“แต่ว่า ซือซือบอกว่าเวินจิ้งเป็นคนพูดเองว่าพวกเขาเป็นพี่น้องพ่อเดียวกันแต่คนละแม่”
“ส้งวี่ เธอเป็นคนของตระกูลมู่ จำเอาไว้”
น้ำเสียงที่เกรงขามของมู่วี่สิงนั้น ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะโต้ตอบ
………….
คืนก่อนวันแต่งงาน ตามกฎของประเพณีแล้ว มู่วี่สิงและเวินจิ้งยังไม่สามารถที่จะพบกันได้
เวินจิ้งอยู่ที่ปราสาทตระกูลหลิน โดยมีอั้ยเถียนอยู่เป็นเพื่อนเธอ
เรื่องเกี่ยวกับมู่ซือซือนั้น อั้ยเถียนได้ทราบเรื่องแล้ว แต่เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างมู่ซือซือและฉีเซิน
“ตอนนี้มู่ซือซือไม่ลงรอยกับเธออยู่ พรุ่งนี้เขาคงจะไม่ปรากฏตัวออกมาหรอกนะ” อั้ยเถียนพูดด้วยความกังวล
ถ้าเขาอยู่ พิธีแต่งงานก็จะคงไม่สงบสุขน่ะ
“อืม มู่วี่สิงได้บอกแล้วว่าจะรีบส่งเขากลับไปประเทศ C เขาจะไม่เข้าร่วมพิธีแต่งงาน”
“งั้นก็ดี แต่เรื่องเธอกับฉีเซินนั้นมันช่างน่าอึดอัดใจจริงๆ”
เวินจิ้งลดตาลง แต่เธอก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก
ด้วยเหตุนี้ก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าตัวเองจะต้องมาถูกกีดกันเพราะสถานะนี้
ความเจ็บปวดที่คอของเธอนั้น ทำให้เธอได้นึกถึงมู่ซือซือว่าเกลียดเธอขนาดไหน
“แต่เธออย่าคิดมากไปเลย เธอเป็นคุณนายมู่นะ มู่วี่สิงจะต้องปกป้องเธออย่างแน่นอน” อั้ยเถียนปลอบ
เวินจิ้งยิ้ม เธอเชื่อในตัวของมู่วี่สิง
ไม่ได้เจอเขาแค่วันเดียว ก็คิดถึงเขามากแล้ว
“เถียนเถียน ฉันรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย” เวินจิ้งพลิกตัวไปมา และเธอนอนไม่หลับ
ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เธอกับมู่วี่สิงจะเดินมาถึงวันนี้
เธอคิดว่าการแต่งงานของคนสองคน อาจไม่ได้ยืนยาวถึงหนึ่งปี แต่กลับคิดไม่ถึงว่ามันได้ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว
“ฉันก็เหมือนกัน จิ้งจิ้ง ตอนแรกฉันก็มีความกังวลว่าคุณหมอมู่จะปฏิบัติไม่ดีต่อเธอ แต่ได้เห็นความสัมพันธ์ของเธอตอนนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ ฉันนะโล่งใจจริงๆ”
“เถียนเถียน แล้วเธอล่ะ เฉินเซียวกับเธอเป็นไงบ้าง”
อั้ยเถียนพูดถึงเรื่องของเธอและเฉินเซียวบ่อยครั้ง จึงทำให้เวินจิ้งนึกขึ้นได้ว่า อั้ยเถียนยังไม่ได้แต่งงาน
หลังจากที่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของอั้ยเถียนก็ได้นิ่งลง
“ฉันไม่ค่อยได้เจอเขา เมื่อนึกก็ใกล้จะสามเดือนแล้ว”
เมื่อเห็นใบหน้าที่เป็นกังวลของเวินจิ้งแล้ว อั้ยเถียนยิ้มตอบ “จริงๆฉันกับเขาแต่งงานกันเพื่อผลประโยชน์ เขาไม่จำเป็นต้องปฏิบัติต่อฉันอย่างดี และฉันก็จะไม่ตกหลุมรักเขา”
“มันคุ้มเหรอ” เวินจิ้งถามเสียงต่ำ
การแต่งงานแบบนี้ ก็เหมือนกับการตายทั้งเป็น
แต่อั้ยเถียนไม่ได้สนใจ
“คุ้มค่ามากขนาดไม่รู้ ในเมื่อฉันไม่ได้ชอบเขา ตอนนี้เขาก็ไม่ได้อยู่เคียงข้างฉัน มันก็เป็นทางที่ดีที่สุดแล้ว”
“เถียนเถียน สักวันเธอจะพบกับคนที่รักเธอ” เวินจิ้งกอดเธอ
อั้ยเถียนมองลง ความหดหู่ในดวงตาของเธอก็ปรากฏออกมา
เธอค่อยๆสั่นเทา “ฉันจะไม่รักอีกต่อไป”
…………
วันรุ่งขึ้น เวินจิ้งตื่นแต่เช้า
ภายในปราสาทมีบรรยากาศคึกคัก ในห้องแต่งตัวเต็มไปด้วยผู้คน
หลินเวยพิถีพิถันเรื่องการแต่งหน้าของเวินจิ้ง แม้ว่าจะได้แต่งไปก่อนหน้าแล้ว แต่เมื่อคืนเวินจิ้งพักผ่อนไม่เต็มที่และรอบดวงตาคล้ำ ดังนั้นเขาจึงแต่งหน้าหลายรอบมากกว่าจะพอใจ
“เสี่ยวจิ้ง เป็นไงบ้าง ดูดีไหม” หลินเวยยังคงดูแลเธอเป็นอย่างดี
เวินจิ้งยิ้มและพยักหน้า
รอยยิ้มและใบหน้าอันสดใสของเธอ
ขณะที่เดินออกไปยังระเบียง เวินจิ้งได้รับสายโทรศัพท์ของมู่วี่สิง
“เมื่อคืนนอนไม่หลับเหรอ” เขาได้ยินเสียงอู้อี้ของเธอ
เวินจิ้งได้เขินอาย “อื้ม ……..”
“ไม่มีผมอยู่ข้างๆ นอนไม่หลับก็เป็นเรื่องปกติ”
“ไม่ใช่ซะหน่อย ฉันคุยกับเถียนเถียนทั้งคืน” เวินจิ้งพึมพำ
เธอไม่ต้องการยอมรับต่อหน้ามู่วี่สิง
“ไม่ต้องตื่นเต้น” มู่วี่สิงปลอบโยน
“ไม่ได้ตื่นเต้นสักหน่อย”
เพียงแค่……รอคอยนาน
ในมุมของเธอ วันนี้เป็นวันที่เธอได้แต่งงานกับมู่วี่สิงอย่างเป็นทางการ
“อืม งั้นรู้สึกเฉยๆเหรอ” เสียงของมู่วี่สิงเริ่มไม่พอใจ
“คงงั้นแหละ” เวินจิ้งกัดริมฝีปาก
“แต่ใจของผมไม่รู้สึกสงบเลย คุณนายมู่ วันนี้เป็นวันที่สำคัญมากสำหรับผม”
คำพูดของมู่วี่สิงทำให้ใจของเวินจิ้งสั่นเทา คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีความรู้สึกแบบนี้
เธอแค่คิดว่า เขาแค่เดินไปกับเธอพอเป็นพิธีเท่านั้น
เมื่อวางได้วางสาย โทรศัพท์ของมู่วี่สิงก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง และเป็นสายของส้งวี่
“วี่สิง ซือซือหายไปแล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของมู่วี่สิงสงบนิ่งลง “ไม่ใช่ให้คุณเฝ้าเธอเหรอ!”
“ผมได้จัดบอดี้การ์ดไว้รอบแล้ว แต่วันนี้ซือวือโวยวายเพื่อจะออกไปทานอาหารเช้า ผมได้ออกไปเป็นเพื่อนเธอ จากนั้นเธอไปห้องน้ำ และก็ได้หายไป” ส้งวี่พูดอย่างหงุดหงิด
เขาเป็นคนที่ใจอ่อนกับมู่ซือซือเสมอ
และมู่ซือซือได้ถูกกักขังอยู่สองวันแล้ว เขาก็รู้สึกว่าการพาเธอออกไปเดินเล่นน่าจะเป็นการดีกว่า
แต่ก็คิดไม่ถึงว่า เธอจะหายตัวไปอย่างกะทันหัน
เพียงแต่ทั้งตัวก็ไม่ได้พาอะไรไปด้วย แล้วเธอจะไปที่ไหนได้
เรื่องนี้เขากล้าที่จะบอกเพียงกับมู่วี่สิง แต่คนอื่นในตระกูลมู่ยังไม่รู้เรื่อง