บทที่ 292 ยินดีจะเสียเวลาไปพร้อมกับเธอ
วันที่จะกลับหนานเฉิงใกล้เข้ามาแล้ว เวินจิ้งอยู่เป็นเพื่อนคุณตาทุกวัน
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดของคุณตา เวินจิ้งก็เพิ่งจะรู้เมื่อเร็วๆ นี้เอง
ตระกูลหลินไม่ได้วางแผนจัดงานอะไรใหญ่โต แค่อยู่บ้านอวยพรวันเกิดให้ท่าน
พอคิดว่าจะให้ของขวัญคุณตา เวินจิ้งก็ถึงกับปวดหัว จึงให้อั้ยเถียนช่วยออกความคิดเห็น
“เธออยู่ที่ประเทศBเหรอ? น่าเสียดายที่ฉันยังไม่ได้กลับไป ฉันได้ยินว่าที่นั่นมีร้านหนึ่งซื้อยาที่ทำจากโสม คุณตาเธอสบายดีมั้ย ให้ฉันส่งยาดีๆ ไปให้เขาดีมั้ย น่าจะพอมีประโยชน์นะ”
เวินจิ้งนิ่งไป เรื่องนี้เธอไม่เคยคิดเลย
ข้างๆ คุณตามีหมอประจำตัวคอยดูสุขภาพท่าน เธอไม่เคยนึกถึงเลย
หลังจากวางสายไป เธอจึงไปหาหมอเพื่อถาม ระยะนี้เขาก็กำลังหาส่วนผสมยา หวังว่าจะทำให้คุณตาสู้ไปได้อีกสักระยะ
“คุณเวิน ถ้าหากคุณหาเจอคงจะดีมากจริงๆ ”
เวินจิ้งรับห้องมา รอให้มู่วี่สิงกลับมา แล้วเธอจะถามเขาว่าพอจะหาได้มั้ย
มู่วี่สิงพอมีเส้นสาย แถมยังเป็นผู้อำนวยการสถาบันการแพทย์ คงจะไม่ลำบากมาก
“ยาตัวนี้ มีแค่ในประเทศB รอข่าวจากฉันเถอะ”
“จริงเหรอ?” เวินจิ้งตาเป็นประกาย
ปากบางของมู่วี่สิงกระตุกยิ้ม “ฉันเคยพูด ขอแค่เป็นความต้องการของคุณนายมู่ ฉันก็จะพยายามทำให้ถึงที่สุด”
วันถัดไป มู่วี่สิงเลื่อนงานของช่วงเช้าออกไป แล้วพาเวินจิ้งออกไปข้างนอก
ระยะเวลาที่ทั้งสองมาประเทศBก็ไม่สั้นแล้ว การที่เดินเล่นท่ีนี่ เป็นครั้งแรก
เวินจิ้งเปลี่ยนไปใส่กระโปรงสีขาว แล้วแต่งหน้านิดหน่อย
มู่วี่สิงจับมือเธอ “อยากไปเดทกับฉันมั้ย?”
เวินจิ้งยิ้ม “ใช่สิ คุณมู่จะเป็นเกียรติมั้ย?”
“ด้วยความยินดี” มู่วี่สิงจับหน้าเธอเงยขึ้น แล้วจึงประทับจูบลงไป
ร้านค้าในประเทศBมีอยู่ไม่น้อย ร้านซ่อนอยู่ในตรอกซอกซอย ที่ไม่สะดุดตา
เวินจิ้งหยุดฝีเท้าที่ร้านที่ดูสะอาดและเรียบง่ายร้านหนึ่ง
เมื่อกี้ทั้งสองได้ไปเดินดูร้านยามาหลายร้าน แต่ว่าก็ไม่ใช่ร้านที่มู่วี่สิงหา
เดินเข้าไปในประตูแคบ แสงรอบข้างก็มืด เคาน์เตอร์ทำจากไม้จันทน์เก่าส่งกลิ่นหอมของไม้
กลิ่นยาหอมอ่อนๆ โชยมา กลิ่นที่ชัดเจนนี้ทำให้มู่วี่สิงสูดหายใจเข้าลึก
แล้วจึงเดินตามทางเดินเข้าไปต่อ จนถึงพื้นที่ที่กว้างกว่าเก่าเล็กน้อย สายตาของมู่วี่สิงมองไปที่ตัวอักษรบนลิ้นชักในร้าน
บนชั้นมีหนังสือทางการแพทย์เก่าๆ วางอยู่ ขวดถูกจัดเรียงอย่างประณีตในนั้นเต็มไปด้วยยาสมุนไพรจีน ที่เขาคุ้นเคย
ในร้านมีหญิงชราอยู่ท่านหนึ่ง เธอไม่ได้ทักทายลูกค้า เธอแค่สนใจไปที่กล่องสมุนไพร
ชามหยกขาว เธอใช้ไม้ในมือบดมันไปมาอย่างคล่องแคล่ว หญ้าสีเขียวสดไม่นานก็ถูกบดจนมีน้ำออกมา
มู่วี่สิงนิ่งไปสักพัก แล้วจึงใช้สายตามองลงไปที่ชั้นวางข้างตัวเขา
“สวัสดีครับ ผมอยากจะขอดูขวดนั้นหน่อย”
เวินจิ้งเงยหน้ามองตามมู่วี่สิง มันคือขาวโหลสีฟ้าขาว เขารับมา และเทใบยาในขวดลงบนกระดาษที่อยู่บนโต๊ะหน้าเขาไม่มาก แล้วหยิบขวดโหลขึ้นมาดู
เวินจิ้งไม่เข้าใจ พวกเขาไปเพื่อจะซื้อยา แต่ทำไมมู่วี่สิงยังมองแต่ขวดโหล…..
“มู่วี่สิง ขวดโหลนี้มีอะไรพิเศษเหรอ?”
“ส่วนผสมยาของคุณตา ถ้าหากหาเจอแล้วจริงๆ ก็ต้องเก็บมันไว้ในขวดที่เก็บกลิ่นได้ดีเป็นพิเศษ ไม่งั้นมันจะเน่า”
เวินจิ้งเกินคาด ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้
ทั้งหมดเป็นยาจีน ไม่คิดว่ามู่วี่สิงจะเข้าใจเรื่องนี้ไม่น้อยเลย
“ขวดโหลกระเบื้องลายสีฟ้าขาวนี้ คงถูกเผาเมื่อราชวงศ์ชิงปียงเจิ้ง ลายดอกไม้สีเทาที่เป็นเอกลักษณ์ และคงมีราคาที่สุด ไร้ที่ติ ไม่มีข้อบกพร่อง ไม่ใช่แค่ขวดยาที่มีราคา แถมยังเป็นของโบราณอีกด้วย”
ในมุมมองของเขา ถ้าหากเอาขวดโหลนี้ให้คุณตาพร้อมกัน ถึงจะเหมาะสมที่สุด
เวินจิ้งเข้าใจแล้ว
ปกติแล้วคุณตาก็ชอบสะสมของโบราณอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่ามู่วี่สิงจะรอบคอบกว่าเธออีก
เธอหยิบใบยาออกมา แล้วยื่นให้หญิงชรา
“ขอถามหน่อยค่ะที่นี่มายาพวกนี้มั้ยคะ?”
หญิงชราถอดแว่นเก่าๆ นั้นออก แล้วเดินเข้ามาใกล้
“ที่นี่มีแค่ยาตัวเดียว ส่วนยาตัวอื่น อีกร้านบนถนนนี้มีอยู่”
ซื้อตัวยาหนึ่งในนั้นและขวดยาไว้ แล้วทั้งสองก็ออกไป
บนถนนสายนี้มีร้านเป็นสิบๆ ร้าน พวกเขาทำได้แค่ดูทีละร้านๆ
“ตอนกลางวันนายต้องกลับบริษัทมู่ซื่อมั้ย? ฉันหาคนเดียวก็ได้” เวินจิ้งมองไปที่ผู้ชายด้านข้าง
เธอรู้ว่าส่วนผสมพวกนี้หายาก อาจจะต้องใช้เวลาทั้งวันในการหา
“เธอแค่คนเดียวฉันไม่วางใจ คุณนายมู่ เมื่อไหร่เธอจะเรียนรู้ที่จะเพิ่งพาฉันบ้าง ห้ะ?” มู่วี่สิงบีบคางของเธออย่างไม่ค่อยพอใจ
เวินจิ้งกัดริมฝีปาก เธอแค่กลัวจะรบกวนมู่วี่สิง
ปกติแล้วเขาจะยุ่งมาก……
พอรู้ความคิดของเวินจิ้ง มู่วี่สิงก็พูดเสียงเข้ม “เวลาของฉัน ยินดีจะเสียเวลาไปพร้อมกับเธอ”
หน้าของเวินจิ้งเริ่มแดงระเรื่อ ประโยคนี้เหมือนประโยคบอกรักเลย……
มือโดนมู่วี่สิงจับไว้ เขาพาเธอเดินดูร้านยาทีละร้านๆ ต่อ
ใกล้จะมืดแล้ว เหลือแค่ไม่ถึงห้าร้านแล้ว
เวินจิ้งเดินเข้าไปในร้านที่เป็นลานเล็กๆ ข้างหน้าเธอ เจ้าของร้านคือชายชราสูงอายุ
“ยาพวกนี้ที่ร้านฉันมีหมด แต่ว่า ฉันไม่ได้ขายนานแล้ว พวกเธอกลับไปเถอะ” ชายชราโบกมือ
“คุณปู่คะ บอกเหตุผลหนูได้มั้ย? ตัวยาพวกนี้มีความสำคัญกับคุณตาของหนูมากๆ ”
“เหตุผล? เพราะว่ายาพวกนี้มันปลูกไม่ได้แล้ว หาไม่ได้แล้วน่ะสิ เธอบอกสิว่าฉันยังจะขายให้เธออยู่มั้ย?” ชายชราพูดเสียงเข้ม
เวินจิ้งนิ่งไปสักพัก สายตาหมดหวัง
คุณปู่ยืนยันขนาดนั้น เธอจะขอยังไงเขาก็คงไม่ขาย
“ทำไงดี?” เวินจิ้งหงุดหงิด
“ถ้าหากผมยอมเอายามีที่ค่ามาแลก คุณปู่ ท่านจะยอมรับการแลกของเท่าเทียมนี้มั้ย?” มู่วี่สิงโค้ง ถามอย่างมีมารยาท
“ยาอะไรฉันก็ไม่ยอมแลก!”
“ตี้หวงมี่ ทั้งโลกนี้มีแค่หนึ่งร้อยชิ้น เมื่อยี่สิบปีที่แล้วก็เลิกผลิตไปแล้ว ได้ยินมาว่าถ้าขายตอนนี้มูลค่าคงมากว่ากี่สิบล้าน ตอนนี้ผมมีอยู่หนึ่งชิ้น ขอแลกกับยาสมุนไพรของท่านพวกนี้”
เวินจิ้งช็อกไปแล้ว ยาราคากี่สิบล้าน?
ส่วนผสมในใบสั่งยาของเธอถึงแม้จะมีบางตัวที่เลิกผลิตไปแล้ว แต่ราคาก็คงไม่มากไปกว่าสิบล้านหรอกมั้ง……
มู่วี่สิงนี่นายคงไม่……
เธอรีบดึงเขาไว้ “ไม่ได้นะ”
ของขวัญชิ้นนี้เธอจะให้คุณตา เธอไม่คาดหวังว่ามู่วี่สิงจะมาเสียเงิน
“นายพูดจริงเหรอ?” ชายชราตาเป็นประกาย และตื่นเต้นจนลุกขึ้นยืน
ปากบางของมู่วี่สิงยกยิ้ม “ถ้าหากท่านยอมตกลง พรุ่งนี้จะส่งมาให้อยู่ในมือท่าน”
“มู่วี่สิง ไม่ได้นะ มันมีค่ามากเกินไป ฉันไม่ซื้อแล้ว……” เวินจิ้งขวางเขาไว้
แต่ว่า เขาได้ตัดสินใจไปแล้ว
“แน่นอน พรุ่งนี้ผมจะเอาตี้หวงมี่มาแลก”
“ดี……ดี!”
ออกมาจากร้านยา เวินจิ้งก็ยังไม่ได้สติ
การแลกเปลี่ยนก็พูดสำเร็จแล้ว