บทที่ 296 ฉันไม่ยอมหย่า
เวินจิ้งกัดริมฝีปาก เดี๋ยวก็มีสติเดี๋ยวก็เบลอ ในสายตาเหลือแค่มู่วี่สิง
เธออยู่ที่เบื้องหน้าเขา
ก้มหน้าลง เธอประกบจูบเขา แล้วอยากจะปลดเสื้อเชิ้ตเขาออก
เกาเชียนหันหนีอย่างรู้หน้าที่
มู่วี่สิงไม่ได้ให้โอกาสนี้กับเธอ เขาหิ้วเธอขึ้น แล้วเร่งฝีเท้าเดินไปทางที่รถจอด
“สั่งให้เลี่ยวตี๋มาที่นี่”
คอนโดระดับสูง
มู่วี่สิงวางเวินจิ้งลงบนเตียง เธอเอาแต่ดึงเขา งอขา เธอกัดไปที่ริมฝีปาก สายตาพร่ามัว
สำหรับมู่วี่สิงแล้ว นี่มันเท่ากับการเชื้อเชิญ
เลี่ยวตี๋มาถึงตั้งนานแล้ว พอเห็นเวินจิ้งเป็นแบบนี้ เลยเข้ามาจับชีพจร
“ยาทำให้มึนกับยากระตุ้นเป็นยาผสมชนิดหนึ่ง แต่ว่า มันน่าจะมีตัวยาอย่างอื่นอีก ฉันลองใช้ยาชนิดนึง” เลี่ยวตี๋ขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น
“อืม ยาชนิดนี้ฉันก็ไม่ระบุไม่ได้ มันหาไม่ตามท้องตลาด” มู่วี่สิงพูดเสียงเข้ม
เลี่ยวตี๋มาจากแผนกทดสอบยา แล้วก็ยังเป็นหมอวิจัยยา ความสัมพันธ์ระหว่างมู่วี่สิงนั้นดีมากๆ
พอเจาะเลือดเวินจิ้งที่จะเอาไปทดสอบเสร็จ เขารีบกลับศูนย์วิจัยทันที
พอมู่วี่สิงเห็นเวินจิ้งทรมานแบบนั้น เขาก็ขมวดคิ้วเข้ม
เขาจึงหยิบกล่องยาออกมา แล้วฉีดยาสลบให้เวินจิ้ง ไม่นาน ตาของเธอก็ค่อยๆ ปิดลง
แต่ปฏิกิริยาของร่างกายก็ยังอ่อนไหว มู่วี่สิงกอดเธอ กอดเธอไว้ในอ้อมแขน
“คุณนายมู่ เธอจะต้องไม่เป็นอะไร”
ตอนเช้า ที่ฟ้าสว่างเล็กน้อย มู่วี่สิงก็ยังไม่ได้หลับตา ก่อนหน้านี้เวินจิ้งข่วนที่หน้าอกเขาจนเป็นรอยเส้น มีแค่ทางนี้ ที่จะทำให้เธอรู้ดีขึ้นได้บ้าง
เลี่ยวตี๋รีบกลับมา ผลตรวจออกมาแล้ว
นอกจากยาที่ทำให้มึนกับยาสลบที่วินิจฉัยไปก่อนหน้านี้ ยังมีสารแอลกอฮอล์ตัวใหม่อีกด้วย มีผลข้างเคียงที่รุนแรงมาก หากไม่มียามาเจือจาง มันจะสะสมอยู่ในร่างกายเป็นเวลานาน ทำให้เป็นอันตรายอย่างมาก
มู่วี่สิงเหลือบมองอย่างเย็นชา มือเขาเริ่มสั่นเล็กน้อย
หลินเจิ้นโหดร้ายจริงๆ
“คุณหมอมู่ จำเป็นต้องหายาถอนพิษเดี๋ยวนี้นะครับ ไม่งั้นร่างกายคุณเวินจะต้านไม่ไหว สารแอลกอฮอล์พวกนี้ เป็นพิษที่ร้ายแรงมากนะครับ”
“ไม่มีทางอื่นเลยเหรอ?” มู่วี่สิงหลับตาลง
เขาไม่น่าให้เธอรู้เรื่องทั้งหมดนี้เลย
เขาไม่น่าให้เธอกลับไปบ้านตระกูลหลิน
หลายปีที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่เขาเกิดความรู้สึกเสียดาย
ถ้าหากปล่อยไปเธอจะตกอยู่ในอันตราย
ถ้างั้น ทำได้แค่ล็อกเธอไว้ข้างกายให้แน่น
ความเย็นได้แพร่กระจายเข้าไปในดวงตา เขากอดร่างเย็นๆ ของเวินจิ้งไว้ เหลืออีกครึ่งชั่วโมง เธอก็จะฟื้นขึ้น
ยาพิษยังคงอยู่ในตัวเธอ เธอจะทรมานมากกว่าเก่า
เลี่ยวตี๋ส่ายหัว “เป็นยาของบริษัทหลินซื่อใช่มั้ย? ฉันจำได้ว่าเมื่อห้าปีก่อนบริษัทหลินซื่อส่งสารแอลกอฮอล์มาให้ชนิดนึง แต่ว่าไม่ได้วางขายตามตลาด ฉันเกรงว่าจะเอาไปซื้อขายส่วนตัว”
“อืม เป็นบริษัทหลินซื่อ” มู่วี่สิงพูดเสียงเข้ม
มองไปที่เวินจิ้ง เขารู้สึกในตาเขานั้นดำดิ่ง หัวใจบีบแน่นและก็ผ่อนลง จากนั้นก็กอดเธอแน่น ราวกับว่าจะกอดแน่นจนถึงกระดูก
คุณนายมู่……
……
บ้านตระกูลหลิน
พอรู้ว่ามู่วี่สิงพาเวินจิ้ง หลินเจิ้นก็ระเบิดความโกรธ
“ทำไมนายไม่ยื้อคนพวกนั้นไว้ให้ฉัน!” หลินเจิ้นมองไปที่ตาของหลิงอี้ เหมือนความโกรธจะระเบิดออกมา
“คุณปู่ ผมยื้อไว้ไม่ได้ เวินจิ้งต้องการมู่วี่สิงมาก เธอไม่ให้ผมเข้าใกล้เลย”
“นายใจอ่อนแล้ว?” หลินเจิ้นหรี่ตา
“ครับ” หลิงอี้ไม่ได้ปฏิเสธ
“คุณพ่อ ท่านอย่าไปบังคับหลิงอี้เลยค่ะ ความรู้สึกที่เวินจิ้งมีให้มู่วี่สิง พวกเราทุกคนต่างรู้ดี” หลินเวยพูดช่วย
“ถ้าหากในปีนั้นเธอไม่ได้ทำผิด ฉันจะเป็นแบบนี้จนถึงตอนนี้มั้ย?” หลินเจิ้นมองหลินเวย ก็โกรธหนักกว่าเก่า
ปล่อยให้เนื้อเลือดเชื้อไขของตระกูลหลินอยู่ข้างนอกมาตั้งหลายปี!
หลินเวยตาตก เวลานี้ไม่กล้าพูดอะไรเลย
หลายปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าเธอไม่คิดจะรับเวินจิ้งกลับมา แค่ชีวิตของเธอทั้งสุขสบายและเรียบง่าย เธอจึงไม่อยากเข้าไปรบกวนเธอ
จนเมื่อเธอแต่งงานกับมู่วี่สิง เธอจึงเริ่มกระวนกระวายขึ้นมา
ทั้งหมดก็สายไปแล้ว…….
ด้านนอก พ่อบ้านจู่ๆ ก็เดินเข้ามา
“นายท่าน คุณมู่พาคุณหนูมาแล้วครับ”
หลังจากที่ได้ยิน สีหน้าที่ตึงเครียดของหลินเจิ้นก็เริ่มผ่อนคลายลง
“ให้พวกเขาเข้ามา”
เวินจิ้งเพิ่งจะฟื้น ตัวร้อนมาก เหงื่อไหลอยู่ตลอด เธอรู้สึกได้ชัดเลยว่า มันยากกว่าเมื่อคืนเยอะเลย
ทุกวินาทีคือความทุกข์ทรมาน
เธอมองมู่วี่สิง แล้วกัดปากตัวเองอย่างแรง ผลักเขา
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว ไว้จับมือเธอไว้ พยุงเธอเข้าประตูไป
ตระกูลหลินอยู่กันทั้งหมด เห็นได้ชัดว่ากำลังรอพวกเขาอยู่
“เสี่ยวจิ้ง” พอหลินเวยเห็นเวินจิ้งทรมาน ก็เจ็บปวดมาก
เวินจิ้งไม่ได้มองเธอ พวกตระกูลหลินทุกคน ทำเธอผิดหวังมาก
รู้สึกได้ถึงความเย็นชาของเวินจิ้ง ความเจ็บปวดในตาของหลินเวยก็แวบขึ้นมา
“คุณท่านหลิน แค่ผมกับเวินจิ้งหย่ากัน คุณก็จะให้ยาถอนพิษใช่มั้ย?” มู่วี่สิงพูดอย่างตรงไปตรงมา
หลินเจิ้นลูบคาง มองที่หน้าแดงๆ ของหลานสาว ก็ขมวดคิ้ว
“ตามนั้น”
“คุณตา ทำไมท่านต้องทำแบบนี้?” เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึก แล้วพูดอย่างเย็นชา
เธอคิดไม่ถึงเลยว่า คนที่ทำร้ายเธอได้เจ็บที่สุด ก็คือคนที่ใกล้ตัวเธอที่สุด
ถึงแม้คุณตาจะไม่ยอมรับที่เธอจะคบกับมู่วี่สิง แต่เขาถึงกับใช้วิธีนี้มาบังคับให้เธอหย่ากับมู่วี่สิง
ตระกูลหลิน……เห็นเธอเป็นตัวอะไร?
“เวินจิ้ง. แน่นอนว่าทำเพื่อตัวเธอเอง เธอไม่รู้อะไร ตาหาเธอเจอมาหลายปีแล้ว หลิงอี้คือคนที่เหมาะที่สุดที่ตาคัดหามาให้เธอ แต่เธอกับมู่วี่สิง เขารู้ฐานะของเธอตั้งแต่แรกแล้ว จึงหลอกใช้ประโยชน์จากเธอ” หลินเจิ้นพูดขึ้น
” งั้นคุณตาบอกหนูหน่อย ว่าทำไมมู่วี่สิงต้องหลอกใช้หนู?” เวินจิ้งถามเสียงเข้ม
สีหน้าของมู่วี่สิงไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนแรก เพียงแต่เวินจิ้งที่อยู่ในอ้อมแขน เขารู้สึกได้ชัดเจนเลยว่าเธอกำลังสับสนและกลัว
มือที่โอบอยู่ที่เอวของเธอก็เริ่มรัดแน่นขึ้น
“เมื่อปีแรกๆ บริษัทหลินซื่อของเรากับบริษัทมู่ซื่อแข่งขันกันนำเข้ายาเพื่อวางจำหน่าย จากนั้นมันก็ตกอยู่ในมือของตระกูลหลิน เขาแต่งงานกับเธอ ก็เพื่อที่จะได้สิทธิ์นี้! หลังจากนี้กิจการทั้งหมดของตระกูลหลินก็จะตกเป็นของเธอ เธอคิดว่าไง?”
เวินจิ้งหน้าถอดสี เรื่องเกี่ยวกับการตลาดเธอไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่รู้แค่ว่ามันมีกำไรมหาศาลซ่อนอยู่ในนั้น
ไม่ทันได้รู้ตัว เวินจิ้งก็มองไปทางมู่วี่สิง
“คุณท่านหลิน ร่างกายของเวินจิ้งทนต่อไปได้ไม่นาน เอาเอกสารการหย่ามา พวกเราจะเซ็นต์มัน แล้วช่วยเอายาถอนพิษออกมาให้ด้วย” .
มู่วี่สิงไม่ได้ตอบกลับคำพูดของหลินเจิ้น ความสนใจของเขาทั้งหมดนั้นมุ่งไปที่เวินจิ้ง
เธอทรมานจริงๆ
“มู่วี่สิง ฉันไม่ยอมหย่ากับนาย” เวินจิ้งสนับสนุนเขา
เธอจะไม่ยอมถูกคุกคามแบบนี้ เธอไม่เชื่อ ตระกูลหลินจะเย็นชากับเธอได้จริงๆ
“ฉันจะหย่ากับเธอ คุณเวิน” น้ำเสียงของมู่วี่สิงดูนิ่ง
คุณเวิน…….เรียกอย่างห่างเหินจังนะ……
เวินจิ้งยิ้มอย่างอมทุกข์ เธอรู้ดี ว่ามู่วี่สิงทำเพื่อร่างกายของเธอ
แต่ว่า เธอไม่อยาก……
เธอไม่อยากหย่าเลยสักนิด ไม่อยากคล้อยตามตระกูลหลิน!
“คุณตา หนูไม่หย่า”
“เวินจิ้ง เซ็นต์ใบหย่าเถอะ แล้วก็กลับมาตระกูลหลิน ตัดความสัมพันธ์กับมู่วี่สิง ฟังที่ตาพูด”
“ไม่ หนูไม่มีความสัมพันธ์อะไรกับตระกูลหลิน แต่ก่อนไม่มี ตอนนี้ยิ่งไม่มีความสัมพันธ์เข้าไปใหญ่!” เวินจิ้งพูดอย่างเย็นชา
ทุกคนที่อยู่ในนี้ทั้งหมด ทำให้เธอกลัวเป็นอย่างมาก