บทที่ 302 แต่งงานกับฉันเป็นเรื่องยากมากเลยเหรอ
“เถียนเถียน บ้านหลังนี้ทำไมเธอไม่ตกแต่งดีๆ?”
สไตล์มินิมอล ตอนนี้เป็นที่นิยมมาไม่ใช่เหรอ?” สีหน้าไม่แยแสของอั้ยเถียน
“นี่ไม่ใช่สไตล์มินิมอล มันเรียบกว่าบ้านเช่าอีก”
“พอแล้ว ฉันพอใจก็พอ” อั้ยเถียนพูดขัดเธอ แววตาเสียใจกระจายมา
“ฉันได้ตรวจสอบเจอโรงพยาบาลของคุณปู่เธอแล้ว ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม?” อั้ยเถียนยื่นที่อยู่ให้เธอ
เวินจิ้งขมวดคิ้ว “ฉันไปเอง”
จนกระทั่งถึงเช้าตรู่เวินจิ้งเพิ่งออกไป ทางเดินของโรงพยาบาลก็เงียบมาก
เดิมคิดว่าเวลานี้ที่ไม่มีใครเฝ้าหลินเจิ้ง กลับไม่คิดว่าหลิงอี้ก็อยู่ที่หน้าประตู
เมื่อเห็นเวินจิ้ง เห็นได้ชัดว่าเขาแปลกใจเล็กน้อย คิดว่าเวินจิ้งคงไม่มา
เขาเดินมา “คุณปู่หลับไปแล้ว”
“อืม คุณหมอว่ายังไงบ้าง?” เวินจิ้งขมวดคิ้ว
“อาการแย่ลงเรื่อยๆ และได้ออกรายงานอาการป่วยขั้นวิกฤติแล้ว”
เวินจิ้งสีหน้าซีดขาว
“หากเธออยากพูดคุยกับคุณปู่ พรุ่งนี้ค่อยมา ตอนนี้เธอควรไปพักผ่อนได้แล้ว” หลิงอี้พูดอย่างเป็นห่วง
เวินจิ้งกลับไม่ไปไหน นั่งตรงเก้าอี้ทางเดิน
หลิงอี้ขมวดคิ้วเงียบๆ “เธออยากรอที่นี่?”
“เดี๋ยวฉันก็ไป”
เธอกับคุณปู่…ก็เหมือนว่าจะไม่มีอะไรพูด
“คนในครอบครัว มีอย่างที่ไหนเป็นศัตรูกันข้ามคืน”
“ดังนั้น ก็สามารถทำร้ายอย่างไร้ศีลธรรมงั้นเหรอ?” เธอพึมพำ
คุณปู่ใช้ร่างกายของเธอข่มขู่ให้ต้องหย่า วิธีโหดร้ายเช่นนี้ เธอรับไม่ได้
หลิงอี้เงียบ เป็นเวลานาน เขาถึงจะพูด “เธอกับมู่วี่สิง ยังมีความเกี่ยวข้องกันไหม?”
“ไม่มี”
“ความสัมพันธ์นี้ ครึ่งหนึ่งเป็นการบังคับจากคุณปู่ อีกครึ่ง เป็นมู่วี่สิงปล่อยวางเอง” หลิวอี้พูดเงียบๆ
เวินจิ้งเงียบ
บางทีหากเป็นเมื่อก่อนเธออาจไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ เธอเชื่อแล้ว
ผู้ชายคนนั้น ไม่มีอะไรให้ต้องเก็บไว้ ปล่อยให้ความสัมพันธ์นี้สิ้นสุดลง ดังนั้น เธอก็เข้าใจแล้ว
“แต่ว่า แล้วยังไงได้”
แต่ก้นบึ้งในใจ ก็ยังรู้สึกคับข้องใจ
“แสดงว่าคุณปู่ช่วยเธอเลือก นั้นถูกต้อง พวกเธอแต่งงานสายฟ้าแลบ และไม่มีความรู้สึกอะไร หรือว่าเธอไม่มีความสงสัยใดๆกับมู่วี่สิงเลยเหรอ?” หลิงอี้หรี่สายตา
“ไม่ว่าเขาแต่งงานกับฉันด้วยจุดประสงค์อะไร ตอนนี้เราหย่ากันแล้ว เขาได้อะไรล่ะ?”
เวินจิ้งไม่เข้าใจ
แม้ว่าหากเขาจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอแต่แรก แต่เขาก็ไม่ได้อะไรไปจากตระกูลหลิน
“อย่างน้อย เธอก็รักเขาแล้ว” หลิงอี้รู้สึกมีเข็มทิ่มจนเลือดออก
เธอยิ้มเบาๆ “เหมือนจะ ใช่”
ไม่อยู่นาน เวินจิ้งลุกขึ้นมา “ฉันต้องกลับไปแล้ว”
“เธอมาจากหนานเฉิงตั้งพันไมล์ เจอคุณปู่สักครั้ง เขาคิดถึงเธอจริง”
เวินจิ้งไม่หยุดฝีเท้า
ทันใดนั้น มีเสียงดังมาจากห้องผู้ป่วย หลิงอี้รีบกลับเข้าไปห้องผู้ป่วย เวินจิ้งก็ตามเข้าไปด้วยความกังวล
คุณหมอและพยาบาลรีบมาให้ทัน
หลินเจิ้งหายใจ และจับหน้าอกแน่นๆ ใบหน้าซีดขาวจนน่ากลัว
เวินจิ้งนั่งตรงประตู มองดูคุณหมอตรวจอาการของหลินเจิ้ง หลังจากฉีดยา อาการของเขาถึงจะสงบลง
“ต้องเฝ้าดูอาการผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด”
หลังจากคุณหมอออกไปแล้ว เวินจิ้งถึงจะโล่งอก
แต่คุณปู่ก็เห็นเธอแล้ว
“เสี่ยวจิ้ง” เขาเรียกเธอ
เวินจิ้งเดินเข้าไป
“ปู่ ฉัน…”
“นั่งลงเถอะ อยู่กับปู่ครู่เดียว”
ตรงประตู หลิงอี้รู้ถึงสถานการณ์จึงเดินออกไปแล้วปิดประตู
“ปู่มีคงจะเวลาแค่ไม่กี่วันนี้แล้ว ฉันรู้ว่าเธอเกลียดฉัน แต่ว่า ปู่ไม่เสียใจ มู่วี่สิงให้ความสุขกับเธอไม่ได้ ปู่หวังแค่ว่า ต่อไปเธอจะมีชีวิตที่ดี”
เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก ฟังคุณปู่พูดอย่างเงียบๆ
“บริษัทหลินซื่อเป็นของเธอ ครึ่งหนึ่งอยู่ในความดูแลของแม่เธอ ส่วนอุตสาหกรรมในต่างประเทศ อยู่ในมือของหลิงอี้ หากเธอแต่งงานกับเขา ก็จะสามารถรับช่วงต่อจากบริษัทหลินซื่อได้ทั้งหมด”
“คุณปู่ คุณจำเป็นต้องให้ฉันรับช่วงต่อเหรอ?” เวินจิ้งเงยหน้า
เธอมองแล้ว การจัดการบริษัทที่ใหญ่โต เป็นความสามารถนอกเหนือของเธอทั้งหมด
“ถ้าหากเธอไม่ต้องการ บริษัทหลินก็จะไม่มีผู้สืบทอดจริงๆแล้ว กลัวว่ามันจะตกอยู่ในมือของคนที่กำลังเฝ้ามองดูอยู่” คำพูดของหลินเจิ้งนั้นเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
นี่เป็นผลลัพธ์ที่เขาไม่ต้องการเห็นมากที่สุด
“ขอโทษค่ะ คุณปู่ คุณโปรดพิจารณาคนอื่นก่อน” น้ำเสียงของเวินจิ้งแน่วแน่
เธอคิดไว้อย่างชัดเจน เส้นทางอนาคตของเธอ ไม่ควรรับช่วงต่อจากบริษัทหลินซื่อ
เมื่อได้ยินอย่างที่พูด อารมณ์ของหลินเจิ้งก็สงบลง ปฏิกิริยาตอบกลับของเธอ อยู่ในความคาดหมายของเขา
“อย่างนั้นเธอก็ต้องรีบแต่งงานกับหลิงอี้ ฉันนำบริษัทหลินซื่อให้เขา”
“ถ้าหาก ฉันก็ปฏิเสธล่ะ?”
หลินเจิ้งเงียบ อารมณ์ขึ้นๆลงของเขา ทำให้ร่างกายของเขาสั่นอย่างอดไม่ได้
เขาพูดด้วยความโกรธ “อย่างนั้นฉันตายตาไม่หลับ!”
ตายตาไม่หลับ
เวินจิ้งสีหน้าขาวซีด เม้มริมฝีปากหนัก
“บริษัทหลินซื่อเป็นความพยายามมาตลอดในชีวิตของฉัน ฉันจะไม่ยกให้คนนอก” หลินเจิ้งพูดกระแทก
“งั้นถ้าหาก ฉันก็ไม่ใช่คนของตระกูลหลินล่ะ” เวินจิ้งจ้องมองหลินเจิ้ง
“เธอ…เธอหมายความว่าไง!”
“ฉันไม่ใช่คนของตระกูลหลิน” เวินจิ้งพูดเงียบๆ
เสียงสิ้นสุดลง ทำใจจากไป
หลิงอร้ยืนอยู่ตรงประตู ได้ยินทั้งสองคนคุยกันอย่างชัดเจน
เขามองเวินจิ้ง
“แต่งงานกับฉันมันยากขนาดนี้เลยเหรอ?” เขาถามอย่างเสียใจ
ในประเทศบี มีผู้ชายสองคนที่มีตัวตนที่โดดเด่น หนึ่งคืออานฉิง และสองคือหลิงอี้
ผู้หญิงที่อยากแต่งงานกับเขา แต่ละคนมีชื่อเสียง เลือกหนึ่งในหมื่นคน
แต่โอกาสนี้ตกลงมาบนหัวของเวินจิ้ง เขามองออก ว่าเธอไม่รังเกียจ
เขาด้อยกว่ามู่วี่สิงเหรอ?
“ใช่”เวินจิ้งตอบอย่างไม่ลังเล
หลิงอี้เก็บอารมณ์ในสายตา และตามเวินจิ้ง “ฉันส่งเธอกลับ”
“ไม่จำเป็น”
“เธออยู่ประเทศบีนานเท่าไหร่”
“คงไม่กี่วัน”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว เดิมต้องการมาดูคุณปู่ แต่เมื่อครู่ เขากำลังบังคับเธอ เธอผิดหวังมาก
เธอหวังว่าคุณปู่จะเคารพการตัดสินใจของเธอ แต่ว่า ไม่มี
สิ่งที่ตระกูลหลินทำกับเธอ เธอก็ให้อภัยไม่ได้
“เธอจะไม่มาดูคุณปู่แล้ว?”
“ใช่ ฉันก็จะไม่กลับไปตระกูลหลิน” เวินจิ้งพูดเงียบๆ
ออกจากโรงพยาบาล อั้ยเถียนขับรถมารับเธอ
หลังจากเวินจิ้งขึ้นรถ ง่วงนอนมาก
“เป็นยังไงบ้าง เจอคุณปู่ของเธอแล้ว?” อั้ยเถียนถามอย่างเป็นห่วง
“อืม แต่ว่าทะเลาะกัน เป็นอย่างที่คิดไว้” เวินจิ้งพูดเบาๆ
“แล้วต่อไป เธอจะทำยังไง?”
“เฮ้อ” เวินจิ้งขมวดคิ้ว “เรื่องและคนของตระกูลหลิน ไม่เกี่ยวกับฉันทั้งนั้น”
“จิ้งจิ้ง หากเธอต้องการที่พักพิง ฉันอยู่ตลอด” อั้ยเถียนเข้ามากอดเธอ
เวินจิ้งเพิ่งหย่าร้าง ตอนนี้ก็จะออกจากตระกูลหลิน และเจี่ยนอียิ่งไม่อยู่ข้างกายเธอ ความโดดเดี่ยวและทำอะไรไม่ได้ของเธอ เธอามารถเข้าใจได้”
“อั้ยเถียน ขอบใจเธอนะ”
“ช่วงนี้เราไปเที่ยวกันเถอะ ไปผ่อนคลาย หลังจากกลับไปเธอก็เปิดเรียนแล้ว”
ทั้งสองคนวางแผนอย่างรวดเร็ว จุดมุ่งหมายคือพื้นที่รีสอร์ตถัดไปจากประเทศบี
เพราะไม่ใช่วันหยุด พื้นที่รีสอร์ตคนไม่เยอะ ทั้งสองพักในโรงแรม เวินจิ้งนั่งอยู่ตรงระเบียง มองดูทิวทัศน์ที่สวยงามของทะเลและท้องฟ้า
ยังจำได้ครั้งก่อนที่เที่ยวกับมู่วี่สิง แม้จะไปแค่วันเดียว กลับเป็นความทรงจำที่เธอไม่สามารถลืมได้
ราวกับว่ากลิ่นอายของเขายังอยู่ข้างกาย
เวินจิ้งหลับตาลง ท่าทางที่หล่อเหลาของมู่วี่สิงไปจางไปไหน
ทุกข์ทรมาน…จริงๆ