flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 318 ความสงบ

บทที่ 318 ความสงบ

เย่เฉียวมีสีหน้าไม่พอใจ และเมื่อมาถึงสนามกีฬาที่มีรถจอดอยู่ด้านนอก มู่วี่สิงพิงประตูรถ และกำลังมองดูเวินจิ้งตอบคำถาม

เมื่อเขาเห็นเย่เฉียว ใบหน้าของเขาก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา

เย่เฉียวพูดว่า “เธออยู่ที่มหาวิทยาลัยหลินไห่ ไม่มีใครปล่อยเธอไว้แน่”

“หนึ่งในนั้น ก็คือคุณใช่ไหม” มู่วี่สิงมองไปยังเย่เฉียว

“ฉันเกลียดคุณ สำหรับเวินจิ้งแล้ว ถ้าเธอโกงข้องสอบจริง ฉันจะไม่ปล่อยเธออยู่แล้ว”

“ผมเชื่อในตัวเธอ”

“ต่อไปเธอจะมีปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ”

มู่วี่สิงขมวดคิ้ว เขารู้ดี

ช่วงเวลาในมหาวิทยาลัยหลินไห่ของเวินจิ้ง เริ่มที่จะไม่สงบ

แต่ในเมื่ออเธอเลือกเอง เขาจะทำทุกอย่างเพื่อจะกำจัดอุปสรรคให้เธอ

“ฉันจะคอยดูว่าคุณจะปกป้องเธอได้ยังไง” เย่เฉียวพูดอย่างเฉยเมย

“ขอบคุณที่เตือนนะ” สีหน้าของมู่วี่สิงนั้นเบื่อหน่าย

เวลาสอบไม่ถึงสองชั่วโมง เวินจิ้งได้ตอบคำถามทุกข้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ไป๋สือได้เปิดอ่านและได้แสดงความคิดเห็นกับอาจารย์หลายๆคน

เวินจิ้งรออย่างเงียบๆ จนกว่าหลี่หมิงจะส่งกระดาษคำตอบ ไม่นานหลังจากนั้นเอกสารแบบทดสอบทั้งสองฉบับได้รับอนุมัติเรียบร้อยแล้ว

ศาสตราจารย์ไม่ได้ประกาศผลก่อน แต่จะมีคำถามสัมภาษณ์เป็นลำดับต่อไป

ทั้งสองได้ตอบคำถามกลับไปมา ในที่สุดจะได้คะแนนสุดท้าย

ไป๋สือมองดูช่องว่างของคะแนน และได้ขมวดคิ้ว

“เวินจิ้งคะแนนเต็ม หลี่หมิงห้าสิบคะแนน”

เมื่อพูดจบ นักศึกษาทุกคนตกตะลึงและได้แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ นาๆ และหลังจากอ่านคะแนนหลี่หมิงเกือบจะวิ่งหนีออกไปทันที

ความไม่ยินดียินร้อนของเวินจิ้ง คะแนนเหล่านี้เพียงพอที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าความสามารถของเธอจริงแล้วเหนือกว่าหลี่หมิงแน่นอน เธอจะลอกข้อสอบของเขาได้อย่างไร

และตอนนี้ก็ได้ยิ่งยืนยันต่อหน้าอาจารย์และนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยแล้ว

ไป๋สือเดินลงมา และมองสายตาของเวินจิ้งด้วยความชื่นชม

ข้อสอบครั้งนี้ยากกว่าการสอบเข้าเรียนระดับชั้นปริญญาโท แต่เวินจิ้งทำคะแนนได้เต็ม ดูแล้วหลังจากการสอบเข้าระดับชั้นปริญญาโทเสร็จสิ้น เธอก็ไม่ได้เรียนอย่างผ่อนคลายเลย

“เวินจิ้ง ใช้ได้”

“ศาสตราจารย์ ขอบคุณที่เชื่อในตัวฉัน!” ดวงตาของเวินจิ้งเริ่มแดง

เธอได้ต่อสู้เพื่อจะได้โอกาสนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าไป๋สือได้ให้โอกาสกับเธอ

“เธอคือนักเรียนที่ฉันประเมินด้วยตนเอง ฉันไม่สงสัยในความสามารถของเธอเลย”

เวินจิ้งยิ้ม เมื่อเงยหน้าขึ้นมองนั้น กลับชนเข้ากับดวงตาคู่ลึกเข้าอย่างไม่ตั้งใจ

บนทางเดินที่อยู่นอกสนามกีฬา ร่างของมู่วี่สิงเป็นที่สะดุดตามาก

ในชุดสีขาวและกางเกงสีดำนั้น สายตาของชายหนุ่มรูปหล่อได้ตกภวังค์อยู่กับเวินจิ้งเสมอ

อารมณ์ในดวงตาที่เคร่งขรึมของเขา

ดูเหมือนเวินจิ้งรีบวิ่งไปหาเขาเกือบจะทันที และเธอต้องการจะแบ่งปังความพึงพอใจของเธอให้กับเขาในขณะขณะนั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเดินออกจากสนามกีฬา มู่วี่สิงได้กลับขับรถออกไป

ร่างของเขาไม่ได้อยู่บนทางเดินนั้นแล้ว

ความหดหู่ในใจของเวินจิ้งก็ได้ปรากฏออกมา

ในเวลานี้ เสียงที่อยู่ด้านหลัง ทำให้เธอกลับสนใจ “เวินจิ้ง ยินดีกับเธอด้วยนะ”

เวินจิ้งหันศีรษะ ได้เห็นหลิงอี้ และยิ้มอย่างแผ่วเบา

“รบกวนคุณมาหลายวันแล้ว”

“ขอแค่คุณต้องการผม ผมก็อยู่ที่นั่น อย่าลืมสิ” หลิงอี้พูดอย่างจริงใจ

เรื่องครั้งนี้มหาวิทยาลัยจะรีบแจ้งให้ทราบว่า เวินจิ้งจะกลับมามีสถานะนักเรียนอีกครั้ง และหลี่หมิงจะถูกจัดการให้ออกจากมหาวิทยาลัย

นอกจากการประกาศเรื่องนี้แล้ว มหาวิทยาลัยได้ตัดสินใจให้ตู้ลี่เฉิงออกจากมหาวิทยาลัยด้วยเช่นกัน เนื่องจากทำผิดกฎของมหาวิทยาลัย และมีเจตนาให้เพื่อนร่วมชั้นติดอยู่ในห้องอุปกรณ์

มหาวิทยาลัยรู้เรื่องนี้ได้อย่างไรกัน

เวินจิ้งขมวดคิ้ว เธอยังไม่ได้รายงานเรื่องนี้กับไป๋สือ

หรือว่าจะเป็น …… หลิงอี้

เมื่อกลับมาถึงหอพัก เวินจิ้งได้ถามหลิงเหยา

“งั้นน่าจะเป็นพี่ชายฉันแล้วล่ะ เขาคอยช่วยเหลือเธอเรื่องนี้อยู่”

“เธอช่วยฉันฝากขอบคุณเขาให้หน่อยสิ หรือฉันควรจะเชิญเขากินข้าวสักมื้อดี” เวินจิ้งคิดอยู่ครู่หนึ่ง

เธอไม่อยากเป็นคนติดหนี้บุญคุณกับหลิงอี้

“ทำไมเธอไม่ไปพูดกับเขาเองล่ะ ฉันไม่อยากจะเป็นกระบอกเสียงให้กับเธอ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว หลิงเหยาดูออกว่าเธอไม่เต็มใจ มานี่ซิ “เธอไม่ได้ชอบพี่ชายของฉันสักนิดเลยเหรอ”

“อืม” เวินจิ้งพยักหน้า

“ฉันได้ยินพี่ชายพูดว่าเธอได้หย่าแล้ว หรือเธอยังลืมมู่วี่สิงไม่ได้”

ได้ยินดังนั้น เวินจิ้งได้แต่นิ่งเงียบ

อารมณ์ความรู้สึกของเธอได้แสดงไว้บนสีหน้าหมดแล้ว

หลิงเหยาส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ “ซือซือเกลียดเธอมาก มู่วี่สิงทั้งรักทั้งทะนุถนอมซือซือมากที่สุด เขาจึงลำบากใจมาก”

“ฉันรู้ ตอนนี้เราได้หย่ากันแล้ว ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว” เวินจิ้งย้ำชัด

เวลานี้ เสียงโทรศัพท์ของหลิงเหยาได้ดังขึ้น เป็นสายของมู่ซือซือ

แน่นอน ระหว่างนั้นไม่มีใครพูดอะไร!

“ซือซือ คิดถึงฉันไหม”

“แน่นอนสิ เธอเปิดเรียนแล้วใช่ไหม ไม่เห็นบอกฉันบ้างเลย” มู่ซือซือค่อนข้างไม่พอใจ

“เปิดเรียนแล้วมีแต่เรื่องยุ่งมาก ยกโทษให้ฉันเถอะ ที่รัก”

“ไม่ ถ้าเธอยอมมารับฉัน ฉันก็จะให้อภัยเธอ!”

“ว่าไงนะ” หลิงเหยาตกตะลึง

“ฉันอยู่หนานเฉิงแล้ว เพิ่งลงจากเครื่องบิน เธอจะไม่มาต้องรับฉันหน่อยเหรอ” น้ำเสียงของมู่ซือซือเศร้าเล็กน้อย

หลิงเหยามองไปที่เวินจิ้ง ถ้ามู่ซือซือมาที่มหาวิทยาลัยแล้วเห็นเวินจิ้ง กลัวว่าจะเกิดเรื่องวุ่นวายอีก …….

“ไม่น่าจะได้แล้วล่ะ ฉันค่อยไปรับเธอนะ สัปดาห์นี้เราจะได้มีเรื่องดีๆคุยกัน!”

“โอเค ฉันอยากไปมหาวิทยาลัยเธอบ้างหน่ะ อยู่ที่ประเทศ C ทำฉันเบื่อจริงๆเลย”

“ไปบ้านฉันเถอะ โอเคไหม” หลิงเหยาพูด

“ฉันอยากไปมหาวิทยาลัยเธอ ได้ยินว่าที่นั่นเป็นมหาวิทยาลัยการแพทย์อันดับหนึ่งของหนานเฉิงเลยนะ ฉันอยากจะไปเยี่ยมชมสักหน่อย”

หลิงเหยานิ่งไปสักพักหนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “โอเค แต่ฉันจะกลับไปบ้านตระกูลหลิง หลังจากเยี่ยมชมเสร็จนะ”

หลังจากที่วางสาย หลิงเหยาได้ทำเสียงร้องคร่ำครวญ ที่มู่ซือซือจะเข้ามาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

แต่ทั้งคู่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ความสัมพันธ์ต่างก็ดีมากจนเขาไม่ปฏิเสธเธอ

แต่ก็กลัวว่าเธอจะเห็นเวินจิ้ง ก็อาจจะไปกระตุ้นเธอ

หอพักไม่ใหญ่นัก เวินจิ้งได้ยินตอนที่หลิงเหยาคุยโทรศัพท์แล้ว

มู่ซือซือนั้นมาแล้ว

เธอไม่ได้สนใจอะไรมาก และยังคงอ่านหนังสือต่อไปอย่างเงียบๆ

ก่อนที่หลิงเหยาจะออกไปข้างนอก เธอได้เดินมาพูดเตือน “ฉันจะไปรับมู่ซือซือ จะต้องรอเขามาเยี่ยมมหาวิทยาลัย เธออย่าออกไปไหนนะ ไม่งั้นฉันกลัวเขา …….”

“อืม ไม่เป็นไร ฉันรอได้”

ในบ่ายวันนั้น ไป๋สือได้เรียกเธอไปหาที่ออฟฟิศ เวินจิ้งออกไปได้แค่นอกประตูเท่านั้น

บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

ไม่นานมานี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมายในบริษัท มู่วี่สิงไม่ได้พักผ่อนมาหลายวันแล้ว

แม้แต่เกาเชียนก็ยังคงทำงานล่วงเวลาอยู่

เมื่อทราบข่าวว่ามู่ซือซือกลับมา เขาจึงรีบไปรายงานกับมู่วี่สิงทันที “คุณมู่ วันนี้น้องสาวสามเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ มู่เหิงเป็นคนพาเธอกลับมา

ได้ยินดังนั้น สีหน้าของมู่วี่สิงนั้นค่อนข้างเย็นชา “ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”

“มหาวิทยาลัยหลินไห่”

ขณะนั้น เกาเชียนได้ยินเสียงแตกปากกาแตก มู่วี่สิงยืนขึ้น

“ยกเลิกการประชุมเย็นนี้” เขาสั่งอย่างเย็นชา

“แต่ว่า…….”

เขาไม่กล้าพูดกับเจ้านายที่ดูท่าทางเย็นชา

ทางเข้ามหาวิทยาลัยหลินไห่

มู่ซือซือลงจากรถ เป็นช่วงเวลากำลังเลิกเรียน นักเรียนกำลังเดินออกมาตลอดทาง

“เหยาเหยา ฉันโคตรอิจฉาเธอเลย” ความหวังในดวงตาของมู่ซือซือก็ได้เผยออกมา

ถ้าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อน ตอนนี้เธอก็อาจเป็นหนึ่งในนักเรียนของที่นี่แล้ว

แต่ ไม่มีคำว่าถ้า

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset