ตอนที่ 326 ทุกอย่างไม่ได้สมัครใจ
“เวินจิ้ง! เธอเอารถเข็นของฉันมานะ!” มู่ซือซือพูดด้วยความโกรธ
“มู่ซือซือ ตอนนี้เธอเป็นคนป่วย จะต้องเชื่อฟังฉัน” เวินจิ้งกดมือเธอไว้
มู่ซือซือจ้องไปที่เธอ หยุดไปครู่หนึ่ง ใช้มือข้างหนึ่งของเธอทำแก้วข้างกายจนแตก เธอหยิบเศษแก้วนั้นขึ้นมา แล้วกรีดลงบนผิวของเธออย่างรุนแรง
เวินจิ้งก็ห้ามไว้ไม่ทัน
เลือดไหลออกมาจากหลังมือของมู่ซือซือ
“ถ้าเธอคิดจะขวางฉันอีก ฉันก็จะกรีดต่อ!” มู่ซือซือขู่
เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ และค่อยๆปล่อยมือออกอย่างช้าๆ
“เอารถเข็นของฉันมานี่” มู่ซือซือสั่ง
เวินจิ้งยังคงไม่ขยับ เธอหาโทรศัพท์จนพบคิดจะโทรไปหามู่วี่สิง
แต่มู่ซือซือได้เห็นการกระทำของเธอ จึงเอาเศษแก้วนั้นกรีดลงบนหลังมืออีกครั้ง
“คุณหนูมู่ เธอใจเย็นๆนะ” ผู้ช่วยหมอที่อยู่ด้านข้างตอนนี้ก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกลัว
มู่ซือซือเพิ่งจะผ่าตัดเสร็จไม่นาน ตอนนี้ยังไม่ควรที่จะออกจากโรงพยาบาลแน่นอน
“ฉันแค่จะขอออกไปไม่กี่ชั่วโมง…….” มู่ซือซือกัดปาก ดวงตาเริ่มเป็นสีแดง
พยาบาลได้แจ้งให้ผู้อำนวยการทราบเรื่องแล้ว และเมื่อได้มาเห็นการกระทำของมู่ซือซือ สีหน้าก็เคร่งเครียด
เขารู้สถานะของมู่ซือซือ คนของตระกูลมู่ เขาไม่สามารถจะว่าอะไรได้
“พาเธอออกไป”
“แต่ ร่างกายของเธอ……”
“ฉันบอกว่า พอเธอออกไป”
ผู้อำนวยการถึงกับเอ่ยปากแล้ว จึงไม่มีใครกล้าขัดขวางมู่ซือซือ
เวินจิ้งเป็นกังวล ตามเธออยู่ห่างๆ และพลางโทรศัพท์หามู่วี่สิง
แต่ มู่วี่สิงไม่รับโทรศัพท์!
เวินนจิ้งเปลี่ยนเป็นโทรไปหมายเลขของเกาเชียน
“คุณนาย……น้องเวิน คุณมู่กำลังประชุม เกาเชียนพูดอย่างเคร่งเครียด
เวินจิ้งโทรหาเขา ก็เพราะมีเรื่องด่วนที่จะต้องบอกกับมู่วี่สิง
แต่ในตอนนี้การประชุมนั้นเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เขาจึงไม่กล้าที่จะเข้าไป……
“มู่ซือซือออกจากโรงพยาบาลโดยพลการ สภาพร่างกายของเธอยังไม่ฟื้นตัว รบกวนคุณช่วยไปบอกมู่วี่สิงด้วย ตอนนี้ฉันจะตามมู่ซือซือไป”
“ได้ ผมจะไปรายงานคุณมู่เดี๋ยวนี้”
เรื่องของมู่ซือซือ เกาเชียนไม่กล้าที่จะล่าช้า
เมื่อวางสายโทรศัพท์ สายตาก็มองไปยังมู่ซือซือที่กำลังขึ้นรถแท็กซี่ เวินจิ้งก็ได้ขึ้นรถแท็กซี่อีกคันตามหลังไป
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง มู่ซือซือก็ได้ลงจากรถที่ประตูของสำนักงานกิจการพลเรือน
เวินจิ้งคอยเฝ้าอยู่ด้านนอก ก็เห็นมู่เฟิงและเย่ซิน
สองคนนั้นดูเหมือนจะเพิ่งได้ทะเบียนสมรส สีหน้าของเย่ซินเต็มไปด้วยความสุขเอนตัวอยู่ในอ้อนแขนของมู่เฟิง
แต่เมื่อตอนที่ได้เห็นมู่ซือซือกำลังเดินเข้าไป สีหน้าพวกเขาก็ซีดลง
“มู่เฟิง….”
“แกมันนางสารเลว!” เธอผลักรถเข็นออกไป ชนกับเย่ซินเข้าอย่างแรง
เย่ซินไม่สามารถที่จะหลบได้ทัน จึงล้มลงไปทั้งร่าง
มู่เฟิงมองมู่ซือซืออย่างเยือกเย็น พูดออกไปด้วยความโกรธ “มู่ซือซือ แกบ้าไปแล้วเหรอ!”
“คุณนะสิที่บ้า เอาทะเบียนสมรสมาให้ฉัน!” มู่ซือซือมองไปยังทะเบียนสมรสที่อยู่ในมือของมู่เฟิง ด้วยสายตาร้อนแรง
เธอจะไม่ยอมให้นางจิ้กจอกนี่เลื่อนขั้นขึ้นไปได้!
“มู่ซือซือ ไปให้พ้น” มู่เฟิงเตะมู่ซือซือออกไป แล้วประคองเย่ซินขึ้นมา
มู่ซือซือกำลังนั่งอยู่บนรถเข็น เมื่อถูกมู่เฟิงเตะรถเข็นจึงล้มลง ขาของเธอได้กระแทกกับพื้น เลือดก็ไหลออกมาในทันที
เธอโทรศัพท์ไปหามู่วี่สิงอีกครั้ง ครั้งนี้เขารับสาย
“มู่วี่สิง มู่ซือซือเขา….”
“อีกสักพักผมถึงไป เขาเป็นยังไงบ้าง”
“แผลของเธอเพิ่งจะหายดี กลัวว่าจะเกิดเรื่องขึ้นมาอีก” เวินจิ้งพูดอย่างเคร่งเครียด
ไม่ไกลกันนั้น มู่ซือซือประคองตัวขึ้นมาบนพื้น เธอมีขาเพียงแค่ข้างเดียว จึงไม่สามารถที่จะยืนขึ้นมาได้
เริ่มมีคนมามุงดูเยอะขึ้นเรื่อยๆ มู่ซือซือจึงด่าว่าด้วยเสียงดัง “นางผู้หญิงคนนี้ เป็นเมียน้อย ที่คอยยั่วยวนผู้ชาย ทำร้ายครอบครัวพวกเราจนต้องแตกแยกกันหมด!”
“มู่ซือซือ หุบปากเดี๋ยวนี้!” มู่เฟิงเดินเข้ามา เพราะทนไม่ได้กับคำพูดของพูดซือซือ
เธออยู่ต่อหน้ามู่เฟิง ดูเป็นคนอ่อนแอ
เลือดไหลออกมาเต็มขา เวินจิ้งจึงรีบเดินเข้าไป
เธอหยิบผ้าพันแผลออกมาจากกระเป๋าของเธอ มู่ซือซือเห็นการกระทำของเธอในตอนนี้ สีหน้าก็เริ่มอ่อนโยนลง
“มู่ซือซือ แกอย่าทำตัวเหมือนหมาบ้าให้ตระกูลมู่ต้องขายขี้หน้า!”
“คุณนะสิหมาบ้า คุณต้องหย่ากับผู้หญิงคนนี้ให้ฉันเดี๋ยวนี้!”
มู่เฟิงไม่ได้สนใจกับมู่ซือซือ แล้วรีบพาเย่ซินออกไปอย่างรวดเร็ว
มู่ซือซือต้องการที่จะตามไป แต่ด้วยความเจ็บปวดตอนนี้เธอหมดเรี่ยวแรงแล้ว
มองไปยังเวินจิ้ง เธอแทบจะขอร้องออกไป “เธอช่วยฉันขัดขวางพวกเขาหน่อย ฉันไม่มีทางให้มู่เฟิงแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น”
“พวกเขาจดทะเบียนกันเรียบร้อยแล้ว” เวินจิ้งขมวดคิ้ว นี่คือเรื่องจริง
“ฉันจะเอาใบจดทะเบียนของพวกเขามาฉีกทิ้ง…..” มู่ซือซือพูดด้วยความโกรธ
เวินจิ้งประคองเธอกลับขึ้นมานั่งบนรถเข็น มู่ซือซือไม่ได้สนใจแผลของตัวเอง รีบพยายามเข็นรถเข็นเพื่อจะตามไป
เวินจิ้งหยุดเธอไว้
“เธอตามพวกเขาไม่ทันหรอก”
มู่เฟิงและเย่ซินขึ้นรถไปแล้ว ไม่นาน มู่วี่สิงก็มาถึง
มู่ซือซือเริ่มใจเย็นลง ดวงตาก็แดงก่ำ
“ไม่ …….ทำไมมู่เฟิงถึงแต่งกับผู้หญิงคนนั้นได้……”
เมื่อเห็นมู่วี่สิง เวินจิ้งได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเข็นมู่ซือซือไป
“พี่……ทำไมถึงยอมให้พวกเขาแต่งงานกันหละ แม่ของฉันยังอยู่ในคุก มู่เฟิงรอไม่ได้เหรอ……”
“พวกเขาแต่งงานก็เป็นเรื่องของพวกเขา ไม่ได้เกี่ยวกับพวกเราหรือตระกูลมู่ รู้หรือเปล่า” มู่วี่สิงพูดไปอย่างอ่อนโยน
“ไม่ได้ ฉันรับไม่ได้ เขาทำให้แม่ต้องเป็นแบบนี้ ฉันจะทำให้พวกเขาไม่ตายดี!”
“พี่รู้ทั้งหมดนั้นแหละ ซือซือ ตอนนี้กลับไปโรงพยาบาลกับพี่ก่อน ขาของเธอจะพลิกอีกไม่ได้นะ” ความทุกข์ใจของมู่วี่สิงแสดงออกผ่านดวงตา
มู่ซือซือกัดริมฝีปากของตัวเองอย่างแรง แววตาเริ่มเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ในที่สุดความรู้สึกทั้งหมดก็ถูกลั่นออกมาเป็นน้ำตาที่ไหลออกมา
เธอกอดมู่วี่สิงไว้ แล้วร้องไห้โฮออกมา
“กลับโรงพยาบาลกันก่อน เดี๋ยวพี่อยู่เป็นเพื่อนเธอ” มู่วี่สิงปลอบเธอ
เวินจิ้งกลับถึงโรงพยาบาลแล้ว ไม่นานมู่วี่สิงก็พามู่ซือซือมาส่งที่โรงพยาบาล หมอและพยาบาลที่อยู่ประจำห้องผู้ป่วยก็ตัวสั่นกันเป็นแถว
แผลของมู่ซือซือปริฉีกออกอีกครั้ง เธอเพิ่งจะผ่าตัดมาไม่นาน ร่างกายจึงยังอ่อนแออยู่ ตอนนี้นอนปิดตาแน่นอยู่บนเตียง ความเจ็บเหล่านี้ทำให้เธอสงบลง
เวินจิ้งรีบพันแผลให้กับเธออย่างรวดเร็ว โชคดีที่ดูแล้วทุกอย่างไม่มีอะไรมากมาย ทุกคนก็รู้สึกโล่งใจ
คืนนี้เวินจิ้งจะอยู่ที่โรงพยาบาล ในตอนค่ำ มู่วี่สิงก็ต้องเข้าไปออฟฟิศ
เวินจิ้งกำลังเขียนรายงานอยู่ เงยหน้าขึ้น ภาพของชายผู้หล่อเหลาคนหนึ่งก็ปรากฏเข้ามา
“ยังไม่กินข้าวไม่ใช่เหรอ” น้ำเสียงของเขาดูมั่นใจ
เวินจิ้งเพิ่งจะนึกขึ้นได้ ว่าตัวเองเหมือนจะลืมเรื่องทานข้าวไปเลย……
จริงๆเธอก็หิวแล้ว
“ไปกับผม”
“เดี๋ยวฉันสั่งเดลิเวอรี่ก็ได้” พูดจบ เวินจิ้งก็เปิดแอพพลิเคชั่นของเดลิเวอรี่
“เดลิเวอรี่มันไม่ดีต่อสุขภาพ เวินจิ้ง อย่ามัวแต่หลบหน้าผมเลย” มู่วี่สิงขยับเข้ามาใกล้ ก้มตัวลงมามองเวินจิ้ง
เสียงของเขาต่ำและไม่มั่นคง ราวกับว่ากำลังยั่วยุเวินจิ้ง
เธอทนความรบเร้าไม่ไหว
เธอจึงออกมากับมู่วี่สิง โดยไม่ได้สมัครใจเลย
“อยากกินอะไรเ” เขาถามเธอ
เวินจิ้งมองไปยังร้านค้าบนถนน เธอรู้ดีว่ามู่วี่สิงเป็นพวกอนามัยรักสะอาด จะต้องเลือกร้านอาหารที่สะอาดเท่านั้น