ตอนที่ 328 ฉันพร้อมจะไปพร้อมกับคุณ
ฟ้าเริ่มสว่างมู่ซือซือได้สงบลงและหลับไปแล้ว เวินจิ้งก็นั่งพักอยู่บนโซฟาแล้วงีบไป
เมื่อเธอลืมตาขึ้น เธอรู้สึกผิดปกติ
ไม่ใช่ว่าเธอหลับไปบนโซฟาหรอกหรือ
กระพริบตา เธอพลิกตัว พบว่าตัวเองนอนอยู่บนตักของใครบางคน
เธอลุกขึ้นนั่งทันที ใบหน้าอันหล่อเหลาของมู่วี่สิงเข้ามาในสายตา
เขามาตั้งแต่เมื่อไร
เธอมานอนอยู่บนตักเขาตั้งแต่เมื่อไร
“ถ้ายังง่วงอยู่นอนต่ออีกหน่อยเถอะ” มู่วี่สิงลูบผมเธออย่างอ่อนโยนและผ่อนคลาย
ราวกับว่าพวกเขายังไม่ได้หย่ากัน
เวินจิ้งมีสติตื่นขึ้นแล้ว เธอส่ายหัว “ฉันไม่ง่วง”
เวลานี้ เสื้อคลุมของมู่วี่สิงที่คลุมอยู่บนตัวค่อยๆเลื่อนลง เธอจึงรีบหยิบมันยื่นส่งให้เขาทันที และลุกขึ้นจากตัวเขา
แต่รอบๆตัวเธอเริ่มเต็มไปด้วยลมหายใจของมู่วี่สิง ที่ไม่เคยหายไปไหน
เธอเดินไปยังมู่ซือซือ เขายังไม่ตื่น เวินจิ้งได้ตรวจดูแผลและวัดอุณหภูมิร่างกาย เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีปัญหาอะไรจึงจะวางใจได้
ออกมาจากห้องผู้ป่วย เธอใกล้จะต้องกลับไปมหาวิทยาลัยแล้ว
“คุณมู่ ถ้ามู่ซือซือมีปัญหาอะไร รีบแจ้งฉันนะ” เวินจิ้งพูดอย่างห่างเหิน
“อื้ม เดี๋ยวผมไปส่งคุณ” มู่วี่สิงได้ลุกขึ้น
“ไม่ต้องรบกวนคุณหรอก”
“ไม่รบกวนอะไรสักนิด” มู่วี่สิงพูดออกไปด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเป็นคำสั่ง
บนรถ เวินจิ้งหาวออกไป เธอได้นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมง ตอนนี้รู้สึกง่วงมาก
“คุณเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร” เธอถาม
เธอหลับลึกมากขนาดมู่วี่สิงเข้ามาแล้วเธอก็ไม่รู้เรื่อง
“เมื่อสองชั่วโมงก่อน นอนสักพักเถอะ เดี๋ยวผมขับช้าๆ” มู่วี่สิงยื่นมือเข้ามา ช่วยใส่เข็มขัดนิรภัยให้เธอ
หน้าอกเธอสัมผัสกับอุณหภูมิที่ค่อยๆเย็น เวินจิ้งเริ่มจะสั่น
หน้าของเธอเริ่มแดงขึ้น
มือของชายคนนั้นยังไม่ได้ออกไปไหน ทันใดนั้นก็ได้จับไปที่คางของเวินจิ้ง เธอก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้าเขา
“ตื่นเต้นเหรอ” น้ำเสียงของเขาต่ำและดูไม่ค่อยนิ่ง
เวินจิ้งเริ่มจะสงบนิ่งไม่ไหว
“ไม่มีสักหน่อย คุณรีบขับรถเถอะ” เวินจิ้งส่ายหน้าแล้วหันมองออกไปนอกกระจก
มู่วี่สิงจับหน้าของเธอหันมาอีกครั้ง “นอนดีๆ”
เวินจิ้งมองไปที่เขา ตอนนี้เธอถูกด้วยดวงตาที่ดำราวหินออบซิเดียนของเขา
เขามักจะหลงเสน่ห์ของเธอ
“ถึงแล้วบอกฉันด้วย” พูดจบ เธอก็ไม่พูดอะไรต่อ
เมื่ออยู่ข้างกายมู่วี่สิง เธอดูเหมือนว่าจะหลับไปอย่างสบายใจ
ดังนั้นจึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาถึงมหาวิทยาลัยนานแล้ว
ตื่นขึ้นมาก็เป็นเวลาใกล้เที่ยงแล้ว มู่วี่ซิงกำลังทำงานอยู่ข้างๆเธอ แต่ทุกอย่างดูสงบมาก
เธอลูบตา เวินจิ้งมองไปยังประตูของมหาวิทยาลัยหลินไห่ที่ด้านนอก แล้วดูเวลาอีก
“มู่วี่สิง ฉันให้คุณปลุกฉันไม่ใช่เหรอ” เธอรู้สึกโกรธนิดหน่อย
“ช่วงนี้คุณไม่มีเรียน ไม่ต้องกังวล” เขาทำราวกับว่ารู้คาบเรียนของเธอดี
“ฉันไม่ต้องการรบกวนเวลาของคุณ”
“คุณไม่รู้เหรอ ว่าผมอยากจะอยู่กับคุณให้มากกว่านี้”
“พวกแล้วหย่ากันแล้ว” น้ำเสียงของเวินจิ้งเรียบเริ่มเยือกเย็น
“ผมรู้ อดีตภรรยาของผมไม่จำเป็นต้องตอกย้ำความจริงข้อนี้มากก็ได้ แม้ว่าหย่ากันแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าผมจะเข้าใกล้คุณไม่ได้ ใช่ไหม” เขาจับข้อมือเธอ แล้วเข้ามาพูดใกล้ๆจนเธอรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกครอบงำ
ท่าทางแบบนี้ทำให้เวินจิ้งรู้สึกอายและรำคาญ แต่ก็ไม่สามารถผลักมู่วี่สิงออกไปได้
เธอมองเขาด้วยความหงุดหงิด “คุณมู่หมายความว่ายังไง”
“เวินจิ้ง ผมไม่ชอบให้คุณมาเรียกผมว่าคุณมู่” ดวงตาของเขาเริ่มดูน่ากลัว
หัวใจของเวินจิ้งเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะ
ดูเหมือนว่าใบหน้าอันอ่อนโยนและดูอบอุ่นขอมู่วี่สิง เริ่มกลายเป็นใบหน้าที่ลึกล้ำและน่ากลัว
เธอกลืนน้ำลาย ตอนนี้เธอไม่มีเสียงใดๆออกมาจากเธอ
“มู่วี่สิง ปล่อยฉันนะ!” มองดูเขาที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เวินจิ้งยกเท้าขึ้นมาเพื่อจะเตะขาเขา
เห็นได้ชัดว่ามู่วี่สิงนึกไม่ถึง เขาร้องออกมาเสียงดัง ขมวดคิ้วแน่น
แต่เขาก็ยังคงไม่ปล่อยเวินจิ้ง
ปรับเก้าอี้นั่งลง เขาในตอนนี้แทบจะพันรอบตัวเธอ
“มู่วี่สิง!”
“เชื่อฟัง ผมแค่อยากจะกอดคุณ” พูดจบเขาก็พาตัวอันผอมเพรียวของเธอกดลงบนหน้าอก
ผ่านไปเพียงไม่นาน ในทุกๆช่วงการเคลื่อนไหว เวินจิ้งสามารถรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนของมู่วี่สิง
เขามักจะทำให้เธอยากจะต่อต้านเสมอ
ค่อยๆผ่านไป เวินจิ้งสงบเงียบลง
การอยู่ในอ้อมแขนของมู่วี่สิง คือช่วงเวลาที่เธอสบายใจที่สุด
แม้ว่าจะหย่ากันแล้ว แต่ลึกๆภายในจิตใจของเธอก็ยังคงต้องการที่พึ่งจากเขา
ตั้งใจไว้ชัดว่าจะปล่อยเขาไปให้ขาด แต่เขาก็เข้าหาเธอครั้งแล้วครั้งเล่า
จนกระทั่งมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เวินจิ้งจึงรีบผลักมู่วี่สิงออกไป
โทรศัพท์หล่นลงบนพรม มู่วี่สิงจึงลุกขึ้นนั่ง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
เวินจิ้งก็ลุกขึ้นนั่งเช่นกัน หันกลับมามอง ก็มองเห็นชื่อคนที่โทรมาในโทรศัพท์
ฉีเซิน
“รบกวนคุณแล้ว” สีหน้าเรียบเฉย มู่วี่สิงไม่มีเวลาจะคว้าเธอได้ทัน
เวินจิ้งแทบจะหนีไป เธอกำลังทำอะไรอยู่
ผู้ชายคนนั้น….เธอยังจะคาดหวังอะไรจากเขาอีก
เรื่องระหว่างพวกเขาไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว
ในรถ ผู้ชายคนนั้นมองไปยังร่างกายของเวินจิ้งอยู่นาน โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ดังอยู่นานจนหยุดไป แต่ไม่นานก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“คุณมู่ ข้อตกลงส่งไปถึงบริษัทของคุณแล้ว คุณจะลงนามเมื่อไร”
“ตอนบ่าย”
“ได้ ขอบคุณมากครับคุณมู่”
เมื่อวางสายโทรศัพท์ ริมฝีปากของมู่วี่สิงยิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ
………..
อีกไม่กี่วันข้างหน้า เวินจิ้งก็ไม่สามารถจะหลบหน้ามู่วี่สิงได้อีกเช่นเคย ดังนั้นในตอนที่เขาอยู่ เธอจึงไม่ควรจะไปที่ห้องผู้ป่วย
มู่วี่ซิงรู้สึกได้ ว่าวันที่มู่ซือซือออกจากโรงพยาบาล เขาจะกันเวินจิ้งไว้ที่ออฟฟิศ
ตอนนี้เธอเตรียมจะไปพบกับศาสตราจารย์ไป๋ ซึ่งเขากำลังกลับประเทศแล้ว
“คุณมู่” เวินจิ้งเรียกอย่างห่างเหิน
“เรื่องของซือซือ คุณยังไม่ได้บอกผมเลย” มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
หลายวันมานี้ส้งวี่อยู่ข้างกายมู่ซือซือ เวินจิ้งจึงมักจะแจ้งเรื่องของมู่ซือซือกับส้งวี่
“มู่ซือซือมีการฟื้นตัวที่ดี อีกไม่นานศาสตราจารย์ก็จะมาตรวจดู หากไม่มีอะไรก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว” เวินจิ้งพูดเบาๆ
“อื้ม สองสามวันนี้ทำให้ลำบากคุณแย่เลยใช่ไหม” มู่วี่สิงมองเห็นรอยคล้ำใต้ตาของเธอได้ชัดเจน
“ก็ดี”
“พักผ่อนมากๆ กลับถึงมหาวิทยาลัยก็อย่านอนดึก” มู่วี่สิงแนะนำเธอ
เขารู้ว่าการเรียนของเวินจิ้งนั้นยากขนาดไหน การต้องโต้รุ่งถือเป็นเรื่องปกติ
“ฉันรู้แล้ว คุณมู่ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันขอตัวไปพบศาสตราจารย์ไป๋ก่อน”
พูดจบ ไม่ทันจะรอคำตอบจากมู่วี่สิงก็เดินไปไกลแล้ว
คิ้วของผู้ชายคนนั้นก็ขมวดขึ้น
ทุกอย่างเรียบร้อยดี เดิมทีมู่ซือซือสามารถออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว แต่เธอกลับปฏิเสธที่จะออกจากโรงพยาบาล
“ฉันยังไม่หายดี อยู่ต่ออีกสองสามวันเถอะ” มู่ซือซือเริ่มก่อกวน
มู่วี่สิงพูดอย่างตรงไปตรงมา “อาการป่วยของเธอ หมอรู้ดีที่สุด เขาอนุญาตให้เธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว”
“ฉันยังรู้สึกไม่สบายเท่าไร พี่ชาย ส้งวี่ พวกคุณกลับกันไปก่อนเถอะ ให้เวินจิ้งมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน!” มู่ซือซือเริ่มมีน้ำเสียงไม่พอใจ
เดิมทีเวินจิ้งจะกลับไปมหาวิทยาลัยแล้ว แต่ถูกเรียกกลับมาอีกครั้ง
รู้ว่ามู่ซือซือไม่อยากจะกลับไป ดวงตาของเธอทำอะไรไม่ถูก
“คุณหนูมู่ เตียงของโรงพยาบาลมีความจำเป็นเร่งรีบอยู่มาก คุณทำแบบนี้เป็นการเจตนาเบียดบังทรัพยากรทางการแพทย์” เวินจิ้งไม่พอใจ
ผู้ป่วยจำนวนอีกไม่น้อยที่กำลังรอเข้ารับผ่าตัด มู่ซือซือได้เข้ารับการรักษาครั้งนี้ก็เพราะสถานะพิเศษของเขา
ตอนนี้การผ่าตัดเสร็จสิ้นแล้วยังจะทำแบบนั้นอีกก็ดูไม่เหมาะสม
“แค่อีกไม่กี่วัน ลองตรวจดูหน่อยเถอะ”
“โรงพยาบาลนี่ไม่ใช่คุณสร้างนะ”
“แต่โรงพยาบาลนี้มีพี่ชายฉันเป็นหุ้นส่วนนะ!”
เวินจิ้ง……..
เธอมองไปยังมู่วี่สิง “งั้นก็ให้คุณมู่ตัดสินใจแล้วกัน”