บทที่336 เก่งกาจไม่แพ้กัน
มู่เฟิงและเย่ชิ่นถูกไล่ออกไปอย่างรวดเร็ว งานเลี้ยงดำเนินการต่อไปเรื่อยๆ
เวินจิ้งเพิ่งนึกขึ้นได้ ว่าตัวเองไม่ได้เตรียมของขวัญมาให้คุณปู่
นึกขึ้นได้ เธอก็มองไปทางมู่วี่สิง
เขารู้ความคิดของเธอตั้งนานแล้ว สั่งให้เกาเชียนเดินเข้ามา
“รูปภาพวาดเขียนนี้ อีกแป๊บหนึ่งคุณค่อยเอาไปให้คุณปู่ ”
“แต่ว่า นี้เป็นของขวัญที่คุณเตรียมมานะ ” เวินจิ้งขมวดคิ้ว
“ของผมก็เป็นของคุณ ”
“งั้นไม่ได้ ” เวินจิ้งยืนหยัดปฏิเสธ
แต่สายตาก็เห็นมูเฉิงเดินเข้ามา มู่วี่สิงเอารูปภาพวาดเขียนยื่นให้คุณปู่แล้ว “คุณปู่ นี้คือของขวัญที่ผมกับเวินจิ้งเตรียมมาให้ สุขสันต์วันเกิดครับ ”
สีหน้าที่ตึงเครียดของมูเฉิงก็คลายลงมาไม่น้อย มองไปทางเวินจิ้งอย่างอ่อนโยน “เด็กคนนี้ มีความตั้งใจจริงๆ ”
เวินจิ้งยิ้มไม่ขยับเขยื้อน
มู่วี่สิงเปิดปากพูดไปแล้ว เธอก็ไม่กล้าโต้แย้ง
“คุณปู่ สุขสันต์วันเกิดค่ะ ” เวินจิ้งเผยรอยยิ้มบนใบหน้าออกมา
“อืม ถึงแม้หนูจะไม่ได้เป็นสะใภ้ของหลานปู่แล้ว แต่ว่าหลังจากนี้ ก็ยังสามารถมาเยี่ยมปู่บ่อยๆได้นะ ปู่คิดถึงหนูมากๆเลย ”
“คุณปู่อยากเจอเวินจิ้ง ผมก็จะพาเธอมาเองครับ ” มู่วี่สิงตอบรับคำไปแล้ว
ได้ยินเขาพูดอย่างนั้น เวินจิ้งก็จ้องตาเขม่นไปหามู่วี่สิง
ไหนบอกว่าหลังจากนี้จะไปก้าวก่ายกันยังไง……
มูเฉิงหัวเราะเสียงดังอย่างมีความสุข “ห้ามมาหลอกปู่นะ ”
มองมูเฉิงเดินไปคุยกับแขกคนอื่น เวินจิ้ง“มู่วี่สิง คุณเกินไปแล้วนะ ”
“อะไร? ” เขาเลิกคิ้ว
“พวกเราพูดตกลงกันแล้ว ว่าจะไม่มาก้าวก่ายชีวิตของกันและกัน ”
“คุณกล้าที่จะปฏิเสธคุณปู่ ” มู่วี่สิงของเธอ
เวินจิ้งเงียบกริบ จริงๆก็……ไม่กล้า
แต่ก็รู้ ว่าหลังจากนี้จะไม่มาอีกแล้ว
“วี่สิง แสดงความยินดีกับคุณด้วย ” เสียงของมู่เหิงดังขึ้นมาจากด้านข้าง
มู่วี่สิงสบตาอย่างนิ่งๆ ไม่ได้ชนแก้วอะไรกับเขา
มู่เหิงก็เคยชินแล้ว “ช่วงนี้ยาตัวใหม่ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปได้รับผลตอบรับไม่เลว ดูเหมือนว่า ผู้ถือหุ้นทุกคนพอใจเป็นอย่างมาก ”
“เหรอ? หรือว่าพวกเขาไม่พอใจผมมาโดยตลอด? ” มู่วี่สิงเลิกคิ้ว
“ไม่ใช่แน่นอน แต่คุณก็รู้ในช่วงเวลานี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็ตกอยู่ในภาวะวิกฤติซ้ำแล้วซ้ำอีกอีกแล้ว ทุกคนก็คงไม่อยากนั่งรอความตาย”
“เหนื่อยไหม? ” มู่วี่สิงกลับไม่ได้สนใจมู่เหิงอีก ถึงขั้นมองข้ามเขาไปเลย
เวินจิ้งตกตะลึง พยักหน้า
เธอไม่ชินกับการใส่รองเท้าส้นสูง
“งั้นก็กลับ ” พูดจบ ประคองเธอเดินออกไปจากหน้าของมู่เหิง
มู่เหิงสีหน้านิ่งเงียบ การที่ถูกมู่วี่สิงมองข้ามไม่สนใจนั้นเขาก็รู้สึกโกรธ
แต่จะทำยังไงได้!
เวินจิ้งมองสีหน้าของผู้ชายที่อยู่ข้างๆตึงเครียด คำพูดของมู่เหิงเมื่อกี้เธอได้ยินหมดแล้ว
ช่วงนี้สถานการณ์ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปฟื้นตัวกลับขึ้นมา เมื่อกี้มีคนไม่น้อยมาแสดงความยินดีกับมู่วี่สิง และให้ความเคารพนับถือเขาไม่น้อย
แต่ในช่วงนี้ ปัญหาก็คือบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปที่รับยาที่ยาดีที่สุดของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป รวมถึงบริษัทแม่บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก
มู่วี่สิงวางแผนแบบนี้ไว้ตั้งนานแล้วใช่ไหม?
คิดถึงตรงนี้ เวินจิ้งก็รู้สึกตกใจนิดหน่อย
เธอคิดว่าความสามารถของมู่วี่สิงอยู่ที่การช่วยคนไข้ แต่ในด้านการค้าขาย เขาก็เก่งกาจไม่แพ้กัน
แต่ทำไมเขาต้องทำแบบนี้นะ?
ถ้าผลตอบรับของยาตัวใหม่เหล่านี้ไม่ดี บริษัทมู่วี่สิงก็จะอยู่ในสภาพวิกฤติยากลำบากกว่านี้เข้าไปอีก
เขากำลังพนัน
และก็เป็นที่แน่ชัดว่าหลังจากที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปได้รับซื้อยาของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแล้วนั้น ก็ไม่ได้มีการระวังตัวอะไรมาก ถึงทำให้ดึงดูดผลกระทบถึงตลาดทั้งหมด
มู่วี่สิงวางแผน อย่างมีความตั้งใจจริง
“กำลังคิดอะไรอยู่? ” เวินจิ้งดึงสติกลับมา มู่วี่สิงขมวดคิ้ว มองหน้าขรึมใส่เธอ
“คุณคิดวางแผนเรื่องยาตัวใหม่ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปพวกเขาว่าจะยึดครองตลาดทั้งหมดไว้ตั้งนานแล้วใช่ไหม จุดประสงค์ก็เพื่อบีบบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป? ” เวินจิ้งมองเขา
แต่ก่อนเธอคิดว่ามู่วี่สิงกับฉินเฟยความสัมพันธ์ที่ไม่ปกติต่อกัน แต่ว่าตอนนี้ เจตนารมณ์ของเขาเหมือนกับว่าจะพุ่งไปที่ฉินเฟย
“บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไม่ควรเป็นสินค้าที่ขายดีหน้าร้านตั้งนานแล้ว เป้าหมายของผมเป็นบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปมาตลอด”
แต่ว่ารากฐานของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปนั้นแน่นหนาแข็งแรงมาก เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องก้าวทีละก้าว
“เป็นห่วงผม? ” มู่วี่สิงเลิกคิ้ว
“เปล่า ”
“งั้นติดตามเรื่องของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป คุณพูดมาซิว่าไม่ได้เป็นเพราะผม ผมไม่เชื่อ ” น้ำเสียงของมู่วี่สิงมีความยโสโอหังและพอใจเป็นอย่างมาก
เวินจิ้งค้อนตาใส่ รู้สึกไม่ค่อยดีกับหัวใจ……
เธอก็ติดตามจริงๆ และก็เป็นห่วงมากๆด้วย……
……
กลับถึงโรงเรียน เวินจิ้งให้มู่วี่สิงจอดรถไว้ด้านนอก
“เวินจิ้ง คุณจะตัดความสัมพันธ์กับผม อย่างโหดเหี้ยมเลย? หือ? ” ก่อนลงรถ มู่วี่สิงดึงข้อมือของเธอ
แต่ใช้แรงนิดเดียว เธอก็ล้มเข้ามาในอ้อมกอดของเขาแล้ว
ถูกเขาควบคุมอยู่
ได้ยินคำพูดนั้น เวินจิ้งก็เก็บซ่อนอารมณ์ความรู้สึกได้ดีมาก พูดอย่างนิ่งๆว่า “ไม่จำเป็นต้องตัดใจอย่างโหดเหี้ยม ความสัมพันธ์ของพวกเราแต่ก่อนเดิมทีก็ไม่ปกติอยู่แล้ว ตอนนี้ก็แค่กลับไปอยู่ไหนทางที่ปกติก็เท่านั้น ”
พูดจบ เธอก็ผลักมู่วี่สิงออก
สายตาของผู้ชายนั้นค่อยๆเปลี่ยนเป็นความเย็นชา เยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง
จนกระทั่งมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา มู่วี่สิงถึงละสายตาออก
“ประธานมู่ พรุ่งนี้ประชุมผู้ถือหุ้นสิบโมงเช้านะครับ ”
“อือ ราคาหุ้นของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปลดลงอย่างต่อเนื่อง ” เขาพูดเสียงเข้ม
กลับถึงหอพัก เวินจิ้งเปลี่ยนชุดเรียบร้อย นั่งคิด และพลิกบัตรธนาคารดูอีกรอบ
ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของเธอตอนนี้เป็นเงินที่เธอเก็บออมเองทั้งหมด แต่ก็แค่ไม่กี่หมื่นหยวนเอง
ของขวัญโบราณที่มู่วี่สิงมอบให้คุณปู่วันนี้ อย่างน้อยก็ล้านขึ้น……
เธอไม่อยากติดหนี้เขา
“เวินจิ้ง คุณทำอะไรอยู่? ” หลิงเหยาอาบน้ำเสร็จเดินออกมา เห็นเวินจิ้งกำลังมองดูบัตรธนาคารดูเหมือนจะกลัดกลุ้มใจอย่างนั้น
“อือ วันนี้มู่วี่สิงช่วยฉันเอาของขวัญมอบให้คุณปู่ ฉันอยากจะเอาเงินคืนให้เขา ”
“งั้นก็คืนซิ แต่ว่ามู่วี่สิงไม่รับเงินแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว
“คุณยังมีเรื่องอะไรให้กลุ้มอีกเหรอ? ”
“ไม่มี เหมือนว่าฉันไม่มีเงินเยอะมากมายขนาดนั้น ” ถึงแม้ตอนนี้เธอจะเป็นคุณหนูของตระกูลหลิน แต่ก่อนหลินเวยให้บัตรธนาคารกับเธอ แต่ว่าเงินในนั้นเธอไม่เคยแตะต้องเลยสักนิด และก็ไม่อยากแตะต้องด้วย
หลิงเหยา “อิอิ ” ยิ้มๆ “คุณนี้ตลกจริงๆ มรดกที่คุณตาตกทอดมาให้คุณ นั้นเป็นหมื่นล้านขึ้น ”
เวินจิ้งนิ่งเงียบ ที่คุณตาให้เธอนั้นล้วนเป็นอสังหาริมทรัพย์ แต่อย่างอื่น มรดกที่เธอรับได้นั้น ก็บริจาคให้มูลนิธิหมดแล้ว
“คุณไม่มีจริงๆเหรอ? เวินจิ้ง น่าขำจริงๆ คุณยังขาดอีกเท่าไร? ” หลิงเหยาเท้าสะเอว มองดูท่าทางที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกของเวินจิ้ง หัวเราะจนจะนั่งลงไปอยู่แล้ว
เธอคงกลัวที่ได้รู้จักคนรวยปลอมมั้ง……
“ก็รูปภาพตัวอักษรสมัยราชวงศ์ชิง แะนคิดว่าน่าจะประมาณล้านขึ้น ”
“งั้นก็ชั่งเถอะ มู่วี่สิงก็ไม่ได้ขาดแคลนเงิน คุณก็ไม่มี ” หลิงเหยาตบปลอบใจไปที่ไหล่ของเธอ
เวินจิ้ง ตาละห้อย ก็คงจะต้องเป็นแบบนั้นแล้วล่ะ……
แต่ว่าชเสื้อผ้าบนตัวของเธอ ก็ยังคงต้องส่งคืนให้เขา
หลิงเหยาอดไม่ได้มองเธอ “เวินจิ้ง ฉันรู้สึกว่ามู่วี่สิงยังคิดถึงคุณตลอดไม่ลืม ”
“ไม่รู้ ”
ไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้สึกว่ามู่วี่สิงยังคงเป็นห่วงเธออยู่ แค่ว่า เธอไม่กล้าที่จะคิดเรื่องอื่น
“ดูเหมือนว่าคุณจะคิดแบบนี้ รากบัวขาดก็ยังเหลือใยแม้จะตัดความสัมพันธ์ไปแล้วแต่ก็ยังมีเยื่อใยให้แก่กันอยู่ก็ไม่เลวนะใช่ไหม? ”
“หลิงเหยา วันนี้พวกเราพูดรู้เรื่องแล้ว ว่าหลังจากนี้จะไม่ก้าวก่ายกันและกันอีก ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆทั้งสิ้น ”
“เรื่องพวกนี้จะพูดให้ชัดเจนได้ยังไง คุณต้องไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปทุกวันเสาร์ จะสามารถหลบหน้ามู่วี่สิงได้จริงๆเหรอ? ”
ได้ยินคำพูดนั้น เวินจิ้งนิ่งไม่ขยับ
ที่จริง มู่วี่สิงก็ดูเหมือนว่าจะอยู่ที่ห้องทดลอง
“ฉันหลบหน้าเขาได้แน่นอน ”