flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 337 ไม่มีการป้องกันสักนิด

บทที่337 ไม่มีการป้องกันสักนิด

ช่วงนี้ บริษัทมู่วี่สิงเป็นที่สนใจของผู้คน

เดิมทีบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไม่ได้มีชื่อเสียงและอำนาจที่ยิ่งใหญ่เท่าไรในเมืองหนานเฉิง แต่ไหนแต่ไรมาจัดการทำงานอย่างเงียบๆ แต่ว่ายาสามตัวใหม่ที่ออกมาวางขายในช่วงนี้เกือบจะถูกผูกขาดในตลาดทั้งหมด เป็นที่ดึงดูดผู้คนใหม่แตกตื่น

บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปที่ขายยาประเภทเดียวกันนั้นได้รับหารโจมตีหนักมาก จำนวนในตลาดลดลงอย่างต่อเนื่อง สถานะราคาหุ้นในตอนนี้หยุดชะงักแล้ว แม้กระทั่งกระทบถึงบริษัทแม่บริษัทฉีซื่อกรุ๊ป

ฉินเฟยมาบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปหลายวันแล้ว แต่ว่าฉีเซินนั้นไม่ได้พบเธอเลย

เธอรออยู่ที่บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปจนถึงตอนค่ำ และไม่ง่ายเลยที่จะขวางรถของฉีเซินไว้ได้

“มีธุระ? ” ฉีเซินขมวดคิ้ว มองดูผู้หญิงที่วิ่งออกมาขวางรถอย่างไม่สนใจอันตรายอะไร

เบรกรถอย่างกะทันหัน ฉินเฟยตกใจจนยืนอยู่ไม่นิ่งตั้งนานแล้ว

วิ่งโซซัดโซเซเข้าไป เธอดึงประตูที่นั่งฝั่งข้างคนขับออก “ฉีเซิน คุณต้องช่วยบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ”

ตอนนี้ยาที่ขายดีที่สุดของบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปเกือบจะขาดหายไปจากตลาดแล้ว อยู่ในสถานะขาดทุนทุกวัน ถ้าเป็นในรูปแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่ช้าก็เร็วบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปก็ต้องล้มละลายแน่!

ได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของฉีเซินนิ่งลง ปรายตาลืมขึ้น “ช่วยไม่ได้ ”

ครั้งนี้มู่วี่สิงโจมตีบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปอย่างเห็นได้ชัด และพวกเขาไม่มีการป้องกันอะไรไว้เลย

เขาประเมินค่ามู่วี่สิงต่ำไป

หมอคนหนึ่งที่ทำได้เพียงช่วยชีวิตคนไข้ ยังมีความสามารถในด้านการตลาดด้วยเหรอ?

เขาเพิ่งสติกลับคืนมาได้ ไม่เคยสนใจมู่วี่สิงมาก่อน

“เป็นไปไม่ได้ บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปก็มียาตัวใหม่ที่จะวางขายอยู่ไม่ใช่เหรอ? คุณเอายาตัวใหม่ส่งมาให้บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ขอแค่จำนวนยอดขายเพิ่มขึ้นมาแล้ว ก็ช่วยบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปได้แล้ว หรือ……คุณให้เงินทุนกลับบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปนิดหน่อย ”

“ผมให้เงินทุนกับพวกคุณไปไม่น้อยแล้ว ตอนนี้บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปเองก็ยากที่จะรับมือ คุณคิดว่าผมจะต้องช่วยคุณ? ” ฉีเซินพูดอย่างเย็นชา

เขาไม่มีความรู้สึกใดๆกับฉินเฟย ที่ช่วยบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไว้ก็เพราะว่าตอนแรกจะต้องแต่งงานกับฉินเฟยดังนั้นถึงได้ซื้อมา

แต่ตอนนี้สำหรับเขาแล้ว บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไม่มีค่ามาตั้งนานแล้ว

แม้กระทั่งเป็นการดึงบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปให้อยู่มาเรื่อยๆ

เขาพูดเสียงต่ำว่า “บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปหลบหนีการล้มละลายไม่ได้ ”

“ไม่——” สีหน้าของฉินเฟยขาวซีด ไม่มีทาง

“คุณจะทำยังไงถึงจะยอมช่วยบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป? ” ฉีเซินในตอนนี้ เป็นคนเดียวที่สามารถจะช่วยเธอได้

ได้ยินอย่างนั้น ฉีเซินมองที่เธอ ส่ายหัว “คุณเป็นหมากรุกตัวหนึ่งที่ไร้ประโยชน์แล้ว ไสหัวไป ”

ฉินเฟยถูกผลักลงจากรถ รถเก๋งขับผ่านเท้าของเธอไป เธอเจ็บจนเข้าไปในกระดูก

น้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากดวงตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เธอลุกขึ้น ขวางรถแท็กซี่และมุ่งไปที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป

ห้องประชุมของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ในตอนนี้

ในการประชุมผู้ถือหุ้น มู่วี่สิงดำรงตำแหน่งเสนาบดีผู้ควบคุมการบริหารบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปต่ออย่างไม่มีความเป็นห่วงใดๆ มู่เหิงที่เป็นรองเสนาบดีผู้ควบคุมการบริหารไม่เข้าร่วมการประชุม

กลับถึงสำนักงาน เกาเชียนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“ประธานมู่ มหาวิทยาลัยหลินไห่ทางนู้นส่งคำเชิญมา หวังว่าอาทิตย์นี้ท่านจะสามารถจัดกิจกรรมการบรรยายได้ ”

เมื่อได้ยิน มู่วี่สิงก็ขมวดคิ้ว ในหัวสมองคิดถึงสีหน้าท่าทางที่เย็นชาของเวินจิ้งที่ลงจากรถเมื่อวานซืน

เขานวดๆหัวคิ้ว “เอามาให้ผมดูหน่อย ”

เกาเชียนยื่นเอกสารออกไป สิ่งสำคัญของการบรรยายก็คืออาชีพแพทย์ระบบประสาทและสมองของมู่วี่สิงในอดีตและการประสบความสำเร็จในด้านอุตสาหกรรมการแพทย์ และมหาวิทยาลัยหลินไห่ยังอยากจะให้มู่วี่สิงมาเป็นศาสตราจารย์พิเศษของโรงเรียน และมาร่วมสอนหนังสืออีกด้วย

แต่ก่อนก็ไม่ใช่ว่าไม่มีคำเชิญแบบนี้ แต่ว่าเขาเททั้งแรงกายแรงใจให้โรงพยาบาลอย่างเดียว และก็ไม่อยากที่จะแบ่งใจไปทำเรื่องอื่นๆด้วย

แต่ว่าตอนนี้ บริษัทมู่วี่สิงทั้งหมดได้ขึ้นมาในตลาดแล้ว ยาตัวใหม่ยังคงค้นคว้าวิจัยอยู่ แต่ว่าไม่มีอะไรที่จะต้องทำให้เขาเป็นกังวลมากมาย

“หาเวลาให้ผมได้พูดคุยกับคณบดีหน่อย ”

เกาเชียนรับคำสั่ง ตรวจสอบตาราง มีแค่วันนี้ตอนบ่ายเท่านั้นถึงมีเวลา

“งั้นก็วันนี้ ”

ในเวลานี้ เคาน์เตอร์ชั้นล่างรายงานว่า ฉินเฟยมาแล้ว

“ให้เธอขึ้นมา ”

ในห้องทำงาน มู่วี่สิงนั่งบนโซฟาอย่างสง่างาม ออร่าที่แข็งแกร่งแพร่ออกมาทั่วร่างกาย

“ประธานมู่ ” ฉินเฟยมีความกลัวมู่วี่สิงนิดหน่อย

ถึงแม้เขาจะแสดงท่าทางที่สง่างามและอ่อนโยนออกมามากพอสมควร แต่วิธีการของเขานั้นทำให้เธอกลัว

“คุณเอายาที่ขายดีที่สุดของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปขายให้ฉัน เป็นการจงใจที่จะทำลายบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปใช่ไหม? ” ฉินเฟยไม่พูดอ้อม พูดตรงเข้าประเด็น

“ผมจำได้ ตอนนั้นเป็นคุณผู้หญิงฉินเองนะที่บุกมาพูดเรื่องการซื้อขายกับผม ” มู่วี่สิงพูดอย่างนิ่งๆ

“ใช่ แต่ว่าไม่นานบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็วางแผงยาที่มีประเภทคล้ายกัน ยาที่ยาดีที่สุดในตอนนี้ไม่มีวางแผงขายในตลาดตั้งนานแล้ว ”

“ดังนั้น คุณผู้หญิงฉินอยากจะพูดอะไร? ”

“คุณต้องการที่จะทำลายบริษัทฉินซื่อกรุ๊ป ที่คุณทำอย่างนี้……เป็นเพราะเวินจิ้งใช่ไหม? ” ฉินเฟยถาม

“เวินจิ้ง? ผมกับเธอไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันแล้ว คุณฉิน อย่ามาพูดมั่ว ” มู่วี่สิงขมวดคิ้วและพูดอย่างไม่พอใจ

สีหน้าของฉินเฟยค่อยๆซีดลงมา เธอไม่เชื่อว่าสองคนนี้จะไม่มีความสัมพันธ์ต่อกัน!

“ถ้าคุณจะมาตำหนิต่อว่าผมล่ะก็ ก็เชิญกลับไปได้แล้ว ” สีหน้าของมู่วี่สิงปรากฏขึ้นมา

ฉินเฟยกัดริมฝีปากไว้แน่น สายตาท่าทางไม่พอใจ อาฆาตพยาบาท

“บริษัทฉินซื่อกรุ๊ปจะไม่มีทางล้มเพราะเรื่องนี้แน่นอน! ”

มู่วี่สิงสั่งให้เกาเขียนส่งแขก ให้ออกไปจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปแล้ว ฉินเฟยเพิ่งพบว่าโทรศัพท์มีหลายสายที่ไม่ได้รับ

“พ่อ? ”

“สวัสดีค่ะ ขอถามหน่อยค่ะ ใช่คนในครอบครัวของฉินเจิ้งไหมคะ? คุณฉินโรคหัวใจกำเริบ ตอนนี้อยู่ในห้องฉุกเฉิน……”

“อะไรนะ? ฉันจะไปเดี๋ยวนี้……”

……

เวินจิ้งเรียนตอนบ่ายเสร็จ ว่าจะกลับไปที่หอพัก

หลิงเหยาโทรหาเธอ ให้เธอไปโรงยิมทันที

“ไปที่นั่นทำไม? ”

“ไม่ต้องถามเยอะ ยังไงซะมันเป็นเรื่องที่ดี เร็วๆ! ”

เวินจิ้งขมวดคิ้ว ยังไม่ทันได้ถึงโรงยิม ที่นั่นก็มีเสียงผู้คนมากมาย

หลิงเหยาแหวกกลุ่มผู้คนออกมา ดึงเวินจิ้ง “คุณรู้ไหมว่าวันนี้ใครมามหาวิทยาลัยหลินไห่แล้ว? ”

“ใคร? ” เวินจิ้งไม่มีความสนใจใดๆ

“มู่วี่สิงอา! สุดสัปดาห์นี้เขาจะมาทำการบรรยายนะ ตอนบ่ายมาพบคณบดีแล้ว! ”

เวินจิ้ง : ……

เธอรีบออกไป

“เหยาเหยา ฉันกลับแล้วนะ ”

“รอแป๊บหนึ่งมู่วี่สิงก็ออกมาแล้ว คุณไม่รอมาเจอเขาสักหน่อยเหรอ? ”

“ฉันไม่อยากเจอเขา ”

หลิงเหยาขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าเวินจิ้งจะเด็ดเดี่ยวกับการตัดความสัมพันธ์กับมู่วี่สิงให้ชัดเจนจริงๆ

เดิมทีเธอยังไม่เชื่อ……

อีกอย่างมู่วี่สิงฉลาดและหล่อเหลาอย่างนั้น มีผู้หญิงคนไหนบ้างที่ไม่ชอบ……

“โอเคโอเค งั้นก็ไม่เจอ แต่ว่าฉันได้ยินข่าวมาว่าคณบดีอยากจะให้เขามาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยหลินไห่นะ คุณก็รู้ว่าเขาเป็นหมอประสาทและสมอง ถ้าได้สอนล่ะก็ ไม่แน่ว่าก็จะเป็นอาจารย์ของคุณแล้ว……”

ได้ยินคำพูดนั้น สีหน้าที่เย็นชาของเวินจิ้งก็มีอารมณ์ขึ้นมา

มู่วี่สิงมาสอน?

บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปน่าจะยุ่งมากๆนะ เขาคงหาเวลาออกมาไม่ได้ เวินจิ้งปลอบตัวเองอย่างนี้ ยังไงซะมู่วี่สิงก็ไม่มีทางมาแน่นอน!

แต่ว่า สัปดาห์นี้เขามาบรรยายที่โรงเรียน ก็เป็นเรื่องที่ตอกตะปูไว้บนกระดานแล้วเปลี่ยนแปลงไม่ได้

เรื่องนี้ถูกแพร่หลายในโรงเรียน นักเรียนทุกคนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ตอนกลางคืน หลิงเหยาได้รับสายโทรศัพท์จากพี่ชาย

“ช่วงนี้เวินจิ้งสบายดีไหม? ”

หลิงเหยาพูดเสียงต่ำ เงยหน้ามองเวินจิ้งที่ตั้งใจอ่านหนังสืออยู่ฝั่งตรงข้าม

ก็เหมือนจะดีอยู่นะ……

ก็ไม่มีอะไรผิดปกติไป……

“แล้วทำไมพี่ไม่โทรไปหาเธอเอง ”

“พี่ไม่มีเบอร์ของเธอ ”

หลิงเหยา : ……

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset