บทที่ 33 เรื่องหัวใจถูกคุ้ยเขี่ย
“เธอคงไม่ได้ตั้งใจจะแต่งงานกับเขาแบบหลอกๆอย่างนั้นจริงๆใช่มั้ย?” อั้ยเถียนคิดแล้วก็ถามออกมา
เวินจิ้งย่นคิ้ว “ฉันก็ไม่ได้วางแผนจะว่าจะทำจริงตามละครที่กำลังเล่นอยู่จริงๆนั้นแหล่ะ”
“ยัยโง่เอ้ย” อั้ยเถียนแสดงสีหน้าประหนึ่งหมดทางรักษา
เวินจิ้งหัวเราะ แต่ว่าก็ไม่ได้เอาของในรถกลับไปเก็บบนชั้นตามเดิม รอจนแฟนคลับคนอื่นๆเข้าไปแล้วค่อยส่งเข้าไปก็พอแล้ว
รู้ว่าเวินจิ้งกำลังคิดอะไรอยู่ อั้ยเถียนก็ไม่ได้บังคับให้เธอพาไปเยี่ยมเขาที่ทำงานอีก ทว่าเวินจิ้งกลับดึงเธอไว้ “เธอรู้เบอร์โทรของมู่วี่สิงมั้ย?”
“เธอไม่รู้เรอะ?” อั้ยเถียนประหลาดใจอีกครั้ง
เวินจิ้งสั่นหน้า เธอก็ไม่ได้อย่างเป็นแบบนี้สักหน่อย…
นามบัตรที่มู่วี่สิงให้เธอในตอนแรกก็ไม่มีเบอร์ของเขาเขียนเอาไว้
“ฉันก็ไม่รู้ นี่เป็นเรื่องส่วนตัวของคุณหมอมู่” อั้ยเถียนชอบใจที่ช่วยอะไรไม่ได้
เวินจิ้งผิดหวังเล็กน้อย พอกลับมาที่คฤหาสน์ ห้องนอนนั้นว่างเปล่า หลายวันมานี้เธอคุ้นชินกับการอาศัยอยู่ที่บ้านของมู่วี่สิงแล้ว ทว่าตอนนี้เธอกลับไม่เป็นอย่างนั้น
พลิกไปหันมา เวินจิ้งกลับนอนไม่หลับ
พอลุกขึ้นนั่ง ตรงหน้าก็ปรากฏเงาร่างสูงอยู่ต่อหน้าเธอ เวินจิ้งตกใจจนสะดุ้ง
ในห้องนอนไม่ได้เปิดไป เห็นใบหน้าหล่อเหลาของมู่วี่สิงไม่ชัด ทว่าอำนาจยิ่งใหญ่กลับแผ่ซ่าน
“คุณทำอะไรน่ะ…” เวินจิ้งประหม่าอยู่สักหน่อย ผู้ชายคนนี้เข้ามาไม่ยักจะส่งเสียงร้องสักแอะ…
“ผมไม่อยู่คุณนอนหลับเหรอ? หืม?” เสียงของมู่วี่สิงทุ้มต่ำ แหบห้าว และเซ็กซี่
หัวใจที่แต่เดิมก็ไม่สงบของเวินจิ้งยิ่งเต้นผิดจังหวะเข้าไปใหญ่
เรื่องหัวใจถูกคุยเขี่ยขึ้นมา เวินจิ้งก้มหัวลง แอบยอมรับกับตัวเองเงียบๆ
ทว่าอยู่ ๆนั้นปลายคางก็ถูกเชิดขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาของมู่วี่สิงขยับเข้ามาใกล้ กลิ่นฮอโมนของชายหนุ่มแผ่กำยานไปทั่ว
ในความมืด เธอมองไม่เห็นอวัยวะทั้งหน้าของมู่วี่สิง แต่ลูกตาดำขลับราบผืนทะเลมืดมิดกว้างใหญ่ของเขากลับทำให้รู้สึกอ่อนแรงอย่างไม่อาจควบคุม
“ฉันตกใจคุณ” เวินจิ้งสั่นหน้าไม่ยอมรับ
“ขอโทษที่ปลุกคุณ” มู่วี่สิงหลุดไปครู่หนึ่งแล้วก็ลูบหัวของเธอ น้ำเสียงติดออกจะเสียใจหลายส่วน
“ฉันนึกว่าคืนนี้คุณจะไม่กลับบ้านแล้ว” เวินจิ้งพูดอย่างไม่ค่อยสบพอใจนัก
หัวของเธอแนบกับอกของมู่วี่สิง เธอฟังเสียงหัวใจที่เต้นอย่างหนักแน่นของเขา ชั่วนาทีนี้ทุกอย่างสงบลง
“ถ้าหากเป็นความต้องการของคุณนายมู่ คราวหน้าผมก็จะไม่เข้าเวร” หลุบตาลง น้ำเสียงมีแววเอ็นดูรักใคร่
มาตอนนี้ถึงค่อยสังเกตว่าเวินจิ้งหลับตา ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ ใกล้จะหลับอยู่แล้ว
เขาปลดมือเธอออกอย่างเบามือ ทว่าพอเวินจิ้งนอนลงก็คิดว่าตัวเองคว้าตุ๊กตาหัวเตียงได้ มู่วี่สิงถูกเธอดึงไว้ในที่สุด
ชั่วเวลานั้น ลมหายใจของชายหนุ่มก็ลงหนัก เปลวไฟในดวงตาดำมืดเปลี่ยนเป็นลุกโชนยิ่งขึ้น
“พ่อ อย่าไป…” เวินจิ้งเกาะเสื้อเชิ้ตของมู่วี่สิงแน่น ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่
เพราะไม่อยากทับเวินจิ้ง มู่วี่สิงจิ้งประคองไหล่ไว้ ดวงตายิ่งนานยิ่งแผดเผารุ่มร้อน
ในอ้อมกอดได้กลิ่นหอมของข้าวโพด มู่วี่สิงกดหว่างคิ้ว ในที่สุดก็ดึงมือน้อยของเธอออกแล้วเข้าไปในห้องน้ำ
เช้าวันต่อมาเวินจิ้งถูกเสียงจากมือถือปลุกจนตื่น
“โอ ใครคะ?” เวินจิ้งคว้ามือถือแนบไว้ข้างหู
เย่กวนกวนได้ยินเสียงผู้หญิงลอดมาตามสายใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นดุร้าย “เธอเป็นใคร!”
เวินจิ้งย่นคิ้ว มาตอนนี้ถึงค่อยสังเกตว่านี่ไม่ใช่มือถือของเธอ หันไปมองด้านข้างอย่างเหยเก วันนี้มู่วี่สิงตื่นสายกว่าเธออีกเหรอนี่?
แถมตอนนี้เขายังหลับตา สีหน้าที่เคร่งเครียดในยามปกติตอนนี้อ่อนโยนลง ใบหน้าหล่อเหลาอบอุ่นชวนลุ่มหลง
เขาตื่นหรือยัง?
เวินจิ้งใช้นิ้วจิ้มไปที่อกของชายหนุ่มเบาผ่านผ้าห่ม
เขาไม่มีปฏิกิริยา