flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน – ตอนที่ 344 ไม่ต้องกลัว ผมอยู่นี่

บทที่344 ไม่ต้องกลัว ผมอยู่นี่

ในเวลานั้น พื้นที่ที่มืดดำไปทั้งหมด เวินจิ้งพิงอยู่ที่กำแพง หลับตาอยู่ เธอรู้สึกเหนื่อยมากๆ ร่างกายไม่มีแรงไปทั้งตัว……

เหมือนกับได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เธอพยายามใช่แรงที่จะลืมตา แต่ว่าหนังตาของเธอนั้นหนักมาก……

“เวินจิ้ง! เวินจิ้ง! ”

น้ำเสียงที่เข้ามาในหูนั้นยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น เป็นใครกัน?

ใช้แรงพยายามลืมตา เวินจิ้งร้องเสียงแหลมเรียก เพื่อจะบอกว่าที่นี่คือที่ไหน……

ภาพในดวงตาดำมืดสนิทไปทั้งหมด ยืนมือออกไปไม่เห็นแม้แต่นิ้วทั้งห้า

อยากที่จะลุกยืน แต่ว่าไม่มีแรงที่จะยืนขึ้นได้แม้แต่นิดเดียว

เสียงที่คุ้นเคยเมื่อกี้นี้……

“เวินจิ้ง! เปิดประตู! ”

ในที่สุด ครั้งนี้ก็ได้ยินเสียงที่ชัดเจนของมู่วี่สิง เธอรีบเปิดปากพูด “มู่วี่สิง ฉันอยู่ที่นี่! ”

แต่ว่าที่นี่ อยู่ที่ไหน……

ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เธอยังไม่ได้จากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไป

เธอจำได้เมื่อกี้เธอยังอยู่อยู่ที่ห้องทดลอง หลังจากนั้นก็ได้รับประกาศให้ไปของเอาอีกห้องทดลองหนึ่ง หลังจากนั้น……ก็จำไม่ได้แล้ว

เธอหมดสติไปแล้ว?

ในหัวสมองนั้นเวียนหัวมาก และไม่สบายไปทั้งตัว……

“เวินจิ้ง! เดินมาเปิดประตู! ”

เสียงของมู่วี่สิงได้ดังขึ้นอีกครั้ง เวินจิ้งคลำๆจนเดินมาถึงที่ประตู แต่ว่าระบบลายนิ้วมือนี้ไม่มีการตอบสนองสักนิด

“เปิดประตูไม่ได้ ” เธอพูด

น่าจะตัดไฟแล้ว

จมูกของเธอนั้นมีความรู้สึกไวเป็นอย่างมาก ตอนนี้ได้กลิ่นแก๊สพิษกำมะถันได้อย่างชัดเจน

ลายตา เวินจิ้งใช้แรงทุบไปที่ประตู “มู่วี่สิง ที่นี่มีแก๊สพิษ ”

เธอทำไงเพียงอุดจมูก แต่ว่าเมื่อกี้นี้ เธอไม่รู้ว่าเธอสูดดมเข้าไปมากน้อยเท่าไรแล้ว

สีหน้ามู่วี่สิงเปลี่ยน เขาหาปุ่มเปิดปิดฉุกเฉิน ของประตูเหล็กนั้น

ได้ยินเสียงที่แปลกไปของเวินจิ้ง น้ำเสียงตึงเครียดของเขาเก็บซ่อนไว้ไม่อยู่ “ไม่สบายใช่ไหม? ”

เวินจิ้งสูดหายใจเข้าลึกๆ พิงอยู่ที่กำแพง ร่างกายของเธออ่อนแอไปทั้งตัว อยากที่จะพูด แต่ลำคอก็เหมือนมีอะไรดึงไว้อยู่

ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงพยายามพูดออกมาได้ “อืม……ทรมาน……”

มู่วี่สิง

อยากที่จะเรียกเขา แต่ว่าเธอทนไว้ไม่ไหว หลับตาหนักๆนั้นอีกครั้ง

ไม่ได้ยินเสียงของเธอ สีหน้าของมู่วี่สิงก็ยิ่งเคร่งขรึมเข้าไปอีก เม้มริมฝีปากบางไว้แน่น ในที่สุดนิ้วมือก็ไปจับตำแหน่งที่ถูกต้องพอดี กดลงไป ประตูเปิดออกแล้ว

ร่างกายของเวินจิ้งล้มลงมาที่เท้าของเขาพอดี

มู่วี่สิงรีบนั่งยองๆลงไป เอาเธออุ้มขึ้นมาในอ้อมกอด

“เวินจิ้ง ตื่นตื่น……”

มู่วี่สิงเงยหน้าเล็กๆของเธอขึ้นมา สีหน้าขาวซีดของเธอทำให้คนตกใจเป็นอย่างมาก

อุณหภูมิร่างกายของเธอก็เย็นอย่างน่าตกใจ

ผู้ชายขมวดคิ้วหนักขึ้น อุ้มเธอเดินลงไปด้านล่าง ลมหายใจนั้นทำให้เขาได้กลิ่นแล้วหยุดชะงักย่างก้าวไปชั่วขณะ พูดเสียงนิ่งว่า “ดูซิว่าด้านในนี้มีแก๊สอะไร ”

โรงพยาบาล

เวินจิ้งถูกส่งเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ร่างสูงยาวของมู่วี่สิงยืนอยู่ที่ระเบียงทางเดิน

เกาเชียนยืนรายงานอยู่ข้างเขา “ในห้องทดลองเต็มไปด้วยแก๊สพิษ รายละเอียดต่างๆยังอยู่ในการตรวจสอบทางเคมี ที่นั่นไม่ได้เปิดมานานแล้ว เกรงว่าน่าจะเป็นความจงใจของใครบางคน ”

ชั้นหนึ่งของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปไฟตัดไปประมาณหนึ่งชั่วโมงแต่กับไม่มีใครค้นพบ คนที่อยู่เบื้องหลังนี้ มีความฉลาดมาก

เป้าหมายครั้งนี้ชี้เป้ามาที่เวินจิ้งอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้ง ก็มีแต่คนในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปเท่านั้นที่จะเรื่องแบบนี้ได้

“มู่เหิงล่ะ? ” มู่วี่สิงถาม

“มู่เหิงวันนี้กลับไม่ได้อยู่ที่บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ” เกาเชียนพูด

“เรื่องในคืนนี้จำเป็นต้องตรวจสอบออกมาให้ชัดเจน ”

“ครับ ”

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเวินจิ้งถึงได้ถูกผลักออกมาจากห้องฉุกเฉิน คุณหมอถอดหน้ากากอนามัยลง มู่วี่สิงรีบเดินขึ้นไปด้านหน้า

“วางใจเถอะ โชคดีที่ส่งมารักษาทัน คนไข้สูดดมแก๊สพิษเข้าไปไม่เยอะ ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว ”

ได้ยินแบบนั้น สีหน้าที่ตึงเครียดของมู่วี่สิงก็ผ่อนคลายลงมาในที่สุด

ขึ้นไปห้องผู้ป่วย มู่วี่สิงยืนอยู่ตรงประตู ในมือถือโทรศัพท์ของเวินจิ้งที่ดังตลอดเวลา

เป็นสายของหลิงเหยา

“เวินจิ้งอยู่ที่โรงพยาบาล ”

“เฮ้ย คุณเป็นมู่วี่สิงอา? ทำไมเธอถึงไปอยู่ที่โรงพยาบาลได้ล่ะ? ” หลิงเหยาถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว พรุ่งนี้เธอก็กลับไปได้แล้ว วางใจเถอะ ”

พูดจบ ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก รีบวางสายโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว

เขายืนอยู่ด้านนอก มองดูเวินจิ้งผ่านทางหน้าต่าง

ปลายนิ้วคีบบุหรี่ที่ยังไม่ได้จุดไว้ สีหน้าขาวซีดของเวินจิ้งที่อยู่ในหัวสมองของเขาไม่จางหายไปไหน

ผ่านไปสามชั่วโมง เวินจิ้งเพิ่งได้ตื่นขึ้นมา

และในตอนเอว หลิงอี้ก็มาถึงแล้ว

หลิงเหยาบอกเขาว่าเวินจิ้งอยู่ที่โรงพยาบาล ในฐานะหลิงอี้นั้น แป๊บเดียวก็หาเจอว่าเธออยู่ที่ไหน

มู่วี่สิงยืนอยู่หน้าประตู หลิงอี้ก็ไม่ได้มองเขา เดินเข้าไปในห้องโดยตรง

เวินจิ้งลืมตาขึ้น ม่านตาถูกเปิดออกเป็นใบหน้าที่หล่อเหลาของหลิงอี้

เป็นเขา

สายตาผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด เธอมองสภาพแวดล้อมรอบข้างที่แตกต่างไป ค่อยๆนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้

แต่ตอนนี้ มีชีวิตชีวามากขึ้นแล้ว

เป็นใครที่ส่งเธอมาโรงพยาบาล

เป็นมู่วี่สิงเหรอ?

แต่ว่าตอนนี้ ไม่เห็นเขา

สายตาของเวินจิ้งมองไปทุกทิศทาง แต่กลับไม่ได้หยุดสายตาอยู่ที่หลิงอี้เลย

เขาขัดขวางสายตาของเธอ “ร่างกายของคุณยังอ่อนแออยู่ อย่าเพิ่งลุกขึ้นมานั่ง ”

เมื่อกี้เขาดูประวัติคนไข้ของเธอแล้ว เป็นแก๊สพิษ

“ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่? ” น้ำเสียงของเวินจิ้งนิ่งเงียบ

“หลิงเหยาบอกผมว่าคุณอยู่โรงพยาบาล”

แต่เป็นเพราะว่าดึกมากแล้ว เขาไม่ยอมให้หลิงเหยามา

ในตอนนั้น มู่วี่สิงเดินเข้ามา

เวินจิ้งมองเขาอย่างไม่กะพริบตา ผู้ชายที่สวมใส่ชุดสีขาวกางเกงสีดำ เมื่อไม่นานมานี้เธอได้ยินเสียงที่เขาเรียกชื่อเธออย่างบ้าคลั่ง แต่มันกลับประทับใจอยู่ในสมองของเธอ

“มู่วี่สิง ฉัน……” เธอรู้สึกตื่นเต้น และเคอะเขินนิดหน่อย

เธอพอจะรู้ว่าตัวเองหลับอยู่ในห้องทดลอง แต่หลังจากนั้นก็เจอการตัดไฟอีก

นึกว่าเป็นเรื่องที่บังเอิญ แต่คิดไปคิดมา ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่

“ไม่ต้องพูด ผมรู้หมดแล้ว ” เขาเดินมาข้างเธอ ก้มลงไปเอาเธอมากอดไว้ในอ้อมกอดไว้แน่น

ในตอนนั้น เหมือนกันว่าในห้องผู้ป่วยมีพวกเขาอยู่กับแค่สองคน

สีหน้าของหลิงอี้เปลี่ยน ยังรู้สึกถึงความสัมพันธ์ของเวินจิ้งและมู่วี่สิงได้อย่างชัดเจน

แต่เขากลับเดินเข้าไปในโลกของพวกเขาไม่ได้

กำหมัดแน่น สีหน้าของเขาตึงเครียด

“เรื่องที่เกิดขึ้น คุณค่อยๆนึกย้อนความทรงจำแล้วบอกผม ” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

เวินจิ้งสูดลมหายใจเข้างึกๆ ลุกขึ้นมานั่ง หลับตาแล้วนึกย้อนกลับไป

“เวลาน่าจะประมาณตอนเลิกงานแล้ว ฉันกำลังเก็บของอยู่ ผู้รับผิดชอบAmyให้ฉันเข้าไปหยิบยาในห้องทดลอง หลังจากนั้นฉันก็เข้าไปในห้องทดลองในสุด หลังจากนั้น……”

เธอนึกไม่ออกแล้ว

ก็อาจจะเป็นในตอนนั้น ที่เธอเริ่มสูดแก๊สพิษเข้าไปแล้วสลบไป

“อืม ผมรู้แล้ว คืนนี้นอนพักผ่อนดีๆนะ ”

พูดเสร็จ มู่วี่สิงก็ลุกขึ้นมา

เวินจิ้งคิดว่าเขาจะจากไป รีบดึงข้อมือของเขาเอาไว้

ในสายตาของเธอนั้นชัดเจนมาก

เธอกลัว

น้ำตาค่อยๆล้มออกมาเต็มเบ้าตา

มู่วี่สิงมองลงมา ทำเหมือนแต่ก่อน ลูบศีรษะด้านหลังของเวินจิ้งอย่างอ่อนโยน

“ไม่ต้องกลัว ผมอยู่นี่ ”

เวินจิ้งกอดเขา ความอ่อนแอในตอนนี้ของเธอนั้น ไม่มีทางที่จะเก็บซ่อนได้

หลิงอี้ก้าวเท้าออกไปทีละก้าว มองดูเวินจิ้ง เขาเชื่อว่า มีแค่มู่วี่สิงมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

ถึงแม้ว่าทั้งสองคนนี้จะหย่ากันแล้ว เธอก็ไม่อาจหยุดเพิ่งพามู่วี่สิงได้

สายตาที่เจ็บปวดของเขาค่อยๆลอยขึ้นมา

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

flash marriage เธอต้องแต่งงานกับฉัน

เดิมทีคิดว่ามู่วี่สิงเป็นคนธรรมดา หลังแต่งงานจึงรู้ได้ว่า เมื่อก่อนเธอไม่รู้จักผู้ชายคนนี้อย่างรอบคอบสามีของตัวเองไม่เพียงแต่เป็นหมอ ยังมีฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญของสถาบันวิจัยทางการแพทย์ และทายาทของตระกูลใหญ่

Options

not work with dark mode
Reset