บทที่405 ตราบใดที่คุณชอบ ฉันก็จะให้ความร่วมมือ
เมื่อเวินจิ้งตื่นมาก็เป็นตอนเที่ยงวันรุ่งขึ้นแล้ว วันนี้ไม่มีเรียน เธอจึงกล้าปล่อยให้ตัวเองทำแบบเมื่อคืน
แต่ตื่นขึ้นมาหลังจากเมาค้างก็ปวดหัวมาก
เปิดตาขึ้นมา ก็เห็นสภาพแวดล้อมที่แปลกหน้ามาก
เวินจิ้งอึ้งไป เธออยู่กับหลิงเหยาไม่ใช่เหรอ
นี่คือที่ไหน…
เมื่อเวินจิ้งกำลังคิดอะไรอยู่ ก็เสียงเดินดังขึ้นที่ประตู หลิงอี้เคาะประตูและเข้ามา
เวิรจิ้งมองผู้ชายคนที่ใส่ชุดกางเกงสีดำ หลิงอี้
“เมื่อคืนคุณเมา”หลิงอี้พูดว่า
“ฉันรู้ … แต่ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่ … “เวินจิ้งเกาผมอย่างรำคาญ
ก้มลงมองเสื้อผ้าในตัวเธอ เธอค่อยโล่งใจหน่อย
หลิงอี้ขมวดคิ้วและเดินเข้ามา”คุณเมา ฉันก็เลยต้องพาคุณมาที่อพาร์ตเมนต์ของฉัน”
เขาเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ และก้มลงมา พร้อมด้วยรัศมีที่น่าทึ่งรอบตัวเขา
เวินจิ้งแข็งไปทั้งตัวทันที
“ขอโทษค่ะ เมื่อคืนต้องขอบคุณคุณมาก”พูดเสร็จ เธอก็จะลุกจากเตียง
แต่หลิงอี้ได้ก้มตัวลงก่อน ช่วยเธอใส่รองเท้าแตะ
ปลายนิ้วที่เย็นๆสัมผัสผิวหนังของเธอ เวินจิ้งสั่นเล็กน้อยแล้วถอยออกไปทันที
“ฉันใส่เองได้ค่ะ”พูดเสร็จก็หยิบรองเท้าแตะจากมือของหลิงอี้มาแล้ว
มือของหลิงอี้แข็งไปสักพัก ดูเหมือนจะไม่พอใจนิดหน่อย และทันใดนั้นก็จับข้อมือของเวินจิ้งทันที ผลักเบาๆ เวินจิ้งก็ถอยหลังนอนลง แล้วตัวเขาก็จะทับลงมา
รัศมีแห่งน่ากลัวอยู่รอบๆ ใบหน้าของเวินจิ้งซีดมาก
เธอมองเห็นความอันตรายในสายตาของหลิงอี้ออย่างชัดเจน
“หลิงอี้”ใบหน้าของเธอมีความโกรธ
หลิงอี้ไม่ได้ใจอ่อน บีบคางของเธอ เสียงของเขาเย็นชาเบาๆ”เวินจิ้ง คุณจะรังเกียจฉันขนาดนี้เหรอ”
เวินจิ้งกัดริมปาก หลังอี้ในขณะนี้ทำให้เธอรู้สึกกลัวเหลือเกิน
เธอแค่อยากจะอยู่ห่างจากเขา
เธอผลักเขาอย่างแรงและพูดด้วยน้ำเสียงอย่างโกรธว่า”ใช่ ฉันรังเกียจคุณมาก อย่าเข้ามาอีก”
ความตื่นตระหนกและความกลัวในสายตาของเวินจิ้งทำให้หลิงอี้ค่อยๆฟื้นสติ
ปิดตา เขาหายใจลึกๆและควบคุมอารมณ์ของเขา
ความเสียใจภายหลังอยู่ในดวงตาของเขาแป็บก็หาย เขาทำอะไรลงไป…
ยืนตรงขึ้นมา เขาพูดเบาๆว่า”ฉันขอโทษ”
“ฉันจะไปแล้ว” เวินจิ้งมีความกลัวต่อเขาอย่างลึกซึ้งแล้ว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว
หลิงอี้รีบตามเวินจิ้งออกมา เมื่อเห็นเธอจะออกไป เขาก็พูดอยู่ข้างหลังเธอว่า”ฉันส่งคุณกลับไป”
“ไม่ต้องรบกวนคุณหลิงค่ะ”พูดเสร็จเธอก็จะออกไปทันที
แต่นี่คือล็อคลายนิ้วมือ เปิดประตูต้องใช้ลายนิ้วมือเพื่อยืนยัน
เวินจิ้งลองใช้นิ้วของตัวเธอเอง แต่ไม่ได้ผลเลย
ดังนั้นเธอก็ต้องมองหาหลิงอี้
“รบกวนคุณหลิงเปิดประตูให้หน่อยค่ะ”
“ให้ฉันส่งคุณกลับมาและฉันจะเปิดให้”
เวินจิ้งกัดริมปาก เห็นได้ชัดว่าเธอไม่พอใจอย่างหนัก
แต่ก็ไม่มีทางอื่น
เธอพูดอย่างโกรธว่า”ได้ค่ะ”
หลิงอี้ค่อยยิ้มขึ้นเบาๆ เมื่อประตูก็เปิด เวินจิงเกือบจะวิ่งออกไปทันนี หลิงอี้อยู่ข้างๆ เธออยู่ห่างกับเขาหนึ่งเมตรตลอดเวลา
เมื่อมาถึงข้างล่างของหอพัก ดวงตาของหลิงอี้มองเธออย่างจริงจัง
เวินจิ้งผลักประตูจะลงจากรถ แต่ประตูยังล็อคอยู่
เธอมองหลิงอี้ที่อยู่ข้างๆอย่างไม่พอใจ ริมฝีปากบางๆของเขาก็ยกขึ้นมาเบาๆ”มู่วี่สิงกำลังจะแต่งงานแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อคืนถึงเมาค้างเหรอ”
ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เวินจิ้งตัวแข็งไปสักพัก
เมื่อได้ยินชื่อของมู่วี่สิง ยังไงเธอก็สงบนิ่งไม่ได้
ผ่านไปสักพัก เธอค่อยพูดเบาๆ”ใครบอกว่าเป็นเพราะเขาล่ะ”
“ฉันคิดว่าพวกคุณอยู่ด้วยกันแล้ว”หลิงอี้พูดว่า
ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ หลิงเหยาบอกเขาแบบนี้ เวินจิ้งและมู่วี่สิงอยู่ด้วยกันอีกแล้ว
เขายอมรับความจริงนี้แล้วด้วยซ้ำ
แต่ไม่คิดว่าตอนนี้มีข่าวออกมาว่ามู่วี่สิงกำลังจะแต่งงานกับโจวหย่าน
“ฉันถูกทิ้ง” เวินจิงพูดเบาๆว่า
น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความผิดหวังและเสียใจ แต่ใบหน้าของเธอค่อนข้างสงบ
“เวินจิ้ง”.
“ฉันลงรถได้หรือยัง”เวินจิ้งปรับอารมณ์ของเธอเรียบร้อย
อารมณ์ความเศร้าที่เมื่อกี้แสดงออกมา เหมือนแค่เป็นภาพลวงตา
หลิงอี้ลดสายตาลงและเปิดประตู
เมื่อมองเวินจิ้งจากไป เขาก็ถือพวงมาลัยและความร้อนในดวงตาของเขาก็ค่อยๆกระจายไป
กลับมาถึงหอพัก หลิงเหยากำลังทำการบ้านอยู่ เมื่อเธอเห็นเวินจิ้ง เธอไม่รู้จะพูดอะไรเลย
สีหน้าของเธอไม่ค่อยดี เวลาที่เธอมองหลิงเหยามีความโกรธเบาๆด้วยซ้ำ
เมื่อคืน … เธอปล่อยให้หลิงอี้พาเธอไป
“เวินจิ้ง คุณโกรธแล้วเหรอ”หลิงเหยาเดินมาอย่างกังวล
“ค่ะ”เวินจิ้งตอบไป และนั่งลงไปที่นั่งของเธอ
“พี่ชายของฉันชอบคุณจริงๆ คุณให้โอกาสเขาหน่อยนะ… “เสียงของหลิงเหยาเบามาก
“หลิงอี้และฉันเป็นไปไม่ได้ หลิงเหยา วันหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ”
หลิงเหยาขมวดคิ้ว อยากพูดอะไร แต่ในที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไร
…
บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
มู่วี่สิงเพิ่งเข้า โจวหย่านก็รอเขาอยู่ตั้งแต่เช้าแล้ว
สายตาตกลงที่เกาเชียน เขาน่าสงสารมาก
ช่วงนี้ข่าวที่มู่วี่สิงกำลังจะแต่งงานกับโจวหย่านกระจายไปทั่วเมืองแล้ว คงเป็นเพราะว่าฝ่ายต้อนรับไม่กล้าขัดขวางว่าที่คุณหญิงมู่ ก็เลยปล่อยให้โจวหย่านขึ้นมา
“วี่สิง ฉันอยากขอเวลาคุณสักครึ่งชั่วโมง”โจวหย่านเดินหน้ามา
“อื่ม”มู่วี่สิงตอบไป และนั่งลงบนโซฟา
โจวหย่านหยิบเอกสารออกจากกระเป๋า”ฉันกับคุณแม่คุยกันแล้ว งานแต่งงานของเราจัดในวันที่เจ็ดของเดือนหน้าเป็นยังไง”
“อื่ม ได้”มู่วี่สิงพูดอย่างเย็นเฉย ไม่ได้อ่านเอกสารแม่แค่สักนิดเลย
สายตาของโจวหย่านเต็มไปด้วยความผิดหวัง ถึงแม้ว่าจะนึกออกทัศนคติของมู่วี่สิงจะเย็นชาขนาดนี้ แต่เมื่อเห็นกับตา ก็รู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
เขาไม่ได้ใส่ใจสักนิดเลย
“สำหรับงานแต่งงาน คุณมีความคิดเห็นอะไรไหม ฉันคิดว่าคุณคงไม่มีเวลาเตรียมงาน ให้ฉันจัดการคนเดียวก็ได้ค่ะ ”
“คุณตัดสินใจเองก็พอ”
“นี่เป็นโรงแรมและคฤหาสน์หลายแห่งที่ฉันเลือกมา คุณดูหน่อยสิ”
ได้ยินที่เธอพูด มู่วี่สิงค่อยงเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร”โจวหย่าน แค่คุณชอบ ฉันจะให้ความร่วมมือ”
“คุณให้ความคิดเห็นหน่อยไม่ได้เหรอคะ” โจวหย่านกัดริมปาก
นี่เป็นงานแต่งของพวกเขาสองคน ตอนนี้เธอทำทุกอย่างด้วยเธอคนเดียว รู้สึกว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับตัวเธอเอง
“ฉันไม่มีความคิดเห็น”
“ฉันจะไปประชุม คุณจะรออยู่ที่นี่ หรือฉันจะให้คนขับส่งคุณกลับไป”มู่วี่สิงปิดเอกสารไว้ และใบหน้าของเขาเย็นชามาก
รัศมีที่อยู่ในตัวเขาน่ากลัวมาก โจวหย่านไม่รู้จะพูดอะไรซักพัก
มู่วี่สิงเดินผ่านไปต่อหน้าเธอแล้ว ห้องทำงานที่ขนาดใหญ่ เหลือเธอเพียงคนเดียว
ผ่านไปสามชั่วโมง เมื่อมู่วี่สิงกลับมา โจวหย่านก็เพิ่งขึ้นมาพอดี
เกาเชียนกำลังรายงานอยู่ และหยุดพูดทันที
“ฉันออกไปก่อนครับ”
“ไม่ต้อง”มู่วี่สิงขมวดคิ้วและมองโจวหย่าน”คุณโจว ฉันยุ่งมาก”
“ฉันรู้ค่ะ ฉันกลัวว่าคุณจะลืมกินข้าว ก็เลยเอาอาหารกลางวันมาให้คุณ ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
โจวหย่านวางข้าวกล่องลง และหันเดินเข้าไปในลิฟต์ทันที
ที่ข้างๆกล่องข้าว มีแผนจัดงานแต่งงานวานอยู่นั้น
ออกจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป โจวหย่านดูเวลา ผ่านการฝึกอบรมที่โรงพยาบาลยิ่งเร็ว เธอจะได้ทำงานอย่างทางการยิ่งเร็ว
แล้วอาจจะได้ทำงานกับมู่วี่สิงก็ได้ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ความผิดหวังของเมื่อกี้ก็หายไปอย่างรอดเร็ว