บทที่ 419 เขาเป็นพี่สะใภ้ของเธอเสมอ
“ตอนนี้เธอเป็นคนของตระกูลหลิน ดูแลตัวเองให้ดีหน่อย ได้ไหม?”หลิงอี้น้ำเสียงดูเบื่อหน่าย
แม้ว่า เวินจิ้งจะถือว่ากลับมาสู่ตระกูลหลิน แต่ชีวิตของเธอ ก็ไม่ได้แตกต่างจากเมื่อก่อนมากเท่าไหร่
“ฉันคุ้นชินกับชีวิตเมื่อก่อนแล้ว และไม่ได้วางแผนที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรด้วย”
“เวินจิ้ง แต่ความคิดของเธอเปลี่ยนได้”
คำพูดนี้ เวินจิ้งยังไม่รู้ แต่มันจะเป็นจริงแน่ในอนาคต
ตระกูลมู่
เมื่อรู้ว่ามู่วี่สิงไม่ได้แต่งงานกับโจวหย่าน มู่เฉิงรู้สึกโกรธมาก
ตอนแรงวางแผนที่จะกลับหนานเฉิง แต่มีหลายสิ่งที่ต้องทำ จึงไม่สามารถเดินทางได้ทันที
ภายในห้องนั่งเล่น มู่วี่สิงและมู่ซือซือ ได้วีดีโอคอลกับมู่เฉิง
“คุณปู่คะ พี่ชายทำเกินไปมากเลยค่ะ เขาไม่ได้บอกพวกเราว่า งานแต่งงานจะไม่ได้ดำเนินต่อไปตั้งแต่แรก ซึ่งทำให้หนูกังวลมาโดยตลอด!”
“หนูมีอะไรให้ต้องกังวลเหรอ ทุกวันยุ่งอยู่กับการเตรียมการสอบก็พอแล้ว เรื่องของพี่ชายให้ตัวเขาจัดการเอง”
“ก็กลัวว่าพี่จะถูกคนของตระกูลโจวหลอกให้แต่งงานน่ะสิคะ!”มู่ซือซือบ่นพึมพำ
เพราะมู่วี่สิงเป็นพี่ชายสุดที่รักของเธอไงล่ะ เขาแต่งงานแล้ว……เธอมีความรู้สึกเหมือนถูกปล้นของรักของเธอไป!
นอกเสียจาก เธอจะถูกใจกับพี่สะใภ้คนนั้นมาก!
“ในสายตาเธอ พี่ดูเหมือนคนโง่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”มู่วี่สิงขมวดคิ้ว
มู่ซือซือไม่ได้พูดอะไรต่อ เมื่อตอนนั้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ที่มู่วี่สิงและเวินจิ้งอยู่ด้วยกัน เธอคิดว่าเขาค่อนข้างสับสน
มู่วี่สิงแค่มองแวบเดียว ก็มองความคิดของมู่ซือซือออก ความคิดของเขาตอนนี้มีเพียงภาพของวันนี้ของผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ดูสงบนิ่ง นั่นทำให้เขาแปลกใจเล็กน้อย
“วี่สิง ถือว่าเป็นคนของตระกูลโจวแล้ว แต่เกรงว่าพวกเขาจะยังไม่ยอมหยุด”มู่เฉิงได้เตือนเขา และรู้ความคิดของมู่วี่สิงตั้งแต่แรก
ประกาศการแต่งงานกับโจวหย่าน กลัวว่าจะมีเพียงแค่มู่วี่สิงเท่านั้น ที่ต้องการจะสำรวจตระกูลโจว
“ได้ครับ แต่อำนาจของตระกูลโจวไม่ได้อยู่ที่หนานเฉิง ผมจะระวังตัวครับ”
หลังจากวีดีโอคอลเสร็จ มู่วี่สิงกำลังจะขึ้นห้อง มู่ซือซือได้เรียกเขาให้หยุดก่อน
“พี่คะ ถ้างั้น พี่ยังคิดถึงเวินจิ้งอยู่ใช่ไหมคะ?”มู่ซือซือถามอย่างรอคำตอบ
“ซือซือ เขาเป็นพี่สะใภ้ของเธอเสมอ จำได้หรือยัง”
มู่ซือซือนิ่งเงียบ ค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น ไม่คิดว่าผลลัพธ์จะยังคงเป็นแบบนั้นเหมือนเดิม
ในขณะนั้น ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไม่คิดว่าจะเป็นโจวหย่านที่หายไปหนึ่งอาทิตย์ จะโทรมาหาเธอ
ตอนนี้เธออยู่ต่างประเทศ หลังจากออกจากหนานเฉิง เธอก็ถูกยึดโทรศัพท์ไป จนถึงวันนี้ ถึงได้โทรศัพท์คืนมา
“ซือซือ ตอนนี้มีแค่เธอคนเดียว ที่ฉันกล้าโทรมา……วี่สิง เขาสบายดีไหม?”โจวหย่านตื่นเต้นเมื่อถามออกไป
สิ่งที่เกินขึ้นในงานแต่งงาน ไม่เพียงแต่ทำให้คนของตระกูลโจวขายหน้า ยังมีตระกูลมู่ที่ทำให้ขายหน้าไปด้วย
“เขา……เขาสบายดี”มู่ซือซืออึดอัดที่จะตอบเล็กน้อย
เมื่อก่อนโจวหย่านชอบเอาแต่ใจ โดยที่ไม่สนใจอะไร และเธอยังควบคุมเรื่องต่างๆ ของตระกูลโจว,ดังนั้นมิตรภาพก็ยังคงดีต่อไป
“ซือซือ ฉันไม่รู้ว่ามันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันขอโทษจริงๆ นะ”โจวหย่านขอโทษออกมาจากใจจริง
เธอรู้ว่า แม่ของเธอไม่เห็นด้วย ที่เธอกับมู่วี่สิงจะอยู่ด้วยกัน ดังนั้นเรื่องงานแต่งงาน จึงต้องถูกปกปิดจากเธอ
แต่ไม่รู้ว่าทำไม,แม่ที่อยู่ต่างประเทศที่แสนไกล ถึงทราบเรื่องได้
“ไม่เป็นไรนะ มันผ่านไปแล้วล่ะ เป็นเพราะตระกูลโจวไม่เห็นด้วย ถ้างั้นเธอก็อยู่บ้านให้สบายใจนะ”มู่ซือซือตอบ
“ไม่ ฉันจะหนีออกไป ฉันอยากแต่งงานกับมู่วี่สิง!”ความมั่นใจของโจวหย่าน ไม่เคยคิดจะยอมแพ้
มู่ซือซือนิ่งเงียบไปสักพัก,เธอรับรู้ได้ถึงความมุ่งมั่นของโจวหย่าน
แต่ความรักที่เธอมีต่อพี่ชายนั้น เป็นเรื่องจริง
เธอเข้าใจความรู้สึกนี้ดีมาก
ในเวลานี้มันค่อนข้างจะทนไม่ไหว
“ซือซือ,วี่สิงเขายังโกรธฉันอยู่ใช่ไหม?”
“โจวหย่าน ฉันคิดว่านะ เธอยอมแพ้ซะเถอะ เรื่องในครั้งนี้ก็กระทบกับตระกูลมู่ไม่น้อย พี่ชายจะแต่งงานกับคุณ ผู้อาวุโสของตระกูลมู่ก็ไม่เห็นด้วย”มู่ซือซือเตือนสติเธอ
เมื่อได้ยิน,โจวหย่านเงียบลงทันที
ในขณะเดียวกัน ก็มีเสียงหนึ่งดังมาจากทางประตู โจวหย่านไม่ทันได้วางสาย รีบซ่อนโทรศัพท์มือถือไว้ทันที
เห็นว่าเป็นพี่ชาย ก็รู้สึกโล่งใจ
“พี่ พี่มาแล้ว”
“ฉันจะหาโอกาสพาเธอออกไปเอง”โจวเซินพูดเสียงต่ำ
โจวหย่านยิ้ม คิดถึงคำพูดของมู่ซือซือเมื่อสักครู่ หรือว่า มู่วี่สิงไม่ต้องการที่จะแต่งงานกับเธออีกต่อไปแล้ว
เธอขู่เขา เขาถึงให้โอกาสเธอแค่เพียงหนึ่งครั้ง แต่ว่าตอนนี้ ไม่มีโอกาสนั้นอีกแล้ว
เธออยากจะร้องไห้
“โจวหย่าน เชื่อพี่นะ”โจวเซินดังขึ้นมา
โจวหย่านเงยหน้าขึ้น และนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง โดยไม่พูดอะไร
“พี่ให้ฉันใกล้ชิดกับมู่วี่สิง พี่ต้องการจะทำอะไร?”
เมื่อเขาได้ยิน โจวเซินสายตาของเขาก็เย็นชาขึ้น“พี่แค่ทำตามความต้องการของเธอ ไม่มีเรื่องอื่นเลย เธอไม่ต้องกังวล”
“ฉันแค่อยากรู้”โจวหย่านกระตุกไปที่ชายเสื้อของพี่ชาย
แต่โจวเซินไม่ได้พูดอะไรมาก
มู่ซือซือ ได้ฟังบทสนทนาผ่านทางโทรศัพท์ คำพูดของโจวหย่านที่พูดออกมา มันชัดเจนทุกคำ
โจวเซิน……เขาต้องการจะทำอะไรพี่ชาย?
……
เช้าวันรุ่งขึ้น เวินจิ้งตื่นสายนิดหน่อย
เพราะคำร้องขอของมู่วี่สิง แผนของงานวิจัยและการพัฒนาต้องเร่งทำให้เร็วขึ้น เมื่อคืนทั้งฝ่ายได้ทำการประชุมหารือกัน เพื่อพูดถึงเรื่องกลยุทธ์ต่างๆ เวินจิ้งเพิ่งจะได้นอนในตอนเช้านี้เอง
ในตอนเช้าเธอกินอาหารเช้าอย่างเร่งรีบ รถของหลิงอี้รออยู่ด้านนอกแล้ว
“ถ้าไม่ขึ้นรถ ผมจะขวางคุณไว้แบบนี้แหละ”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว มองไปทางไหนก็ไม่มีช่องว่างให้เธอหนีออกไปได้เลย ใบหน้าแสดงความกระวนกระวายใจ
ดึงที่เปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับ เธอก็รีบขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
หลิงอี้ยกริมฝีปากด้วยความพอใจ
“หลิงอี้ ครั้งหน้าไม่ต้องทำแบบนี้อีกนะ”เวินจิ้งไม่พอใจ
“ถ้าคุณยอมที่จะขับรถไปทำงานด้วยตัวเอง ผมถึงจะไม่ไปส่งคุณ”หลิงอี้ตอบ
เวินจิ้งเม้มริมฝีปาก หลิงอี้รู้ว่า เธอไม่ยอมขับรถหรูเหล่านั้นของตระกูลหลินอย่างแน่นอน
เมื่อถึงบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เวินจิ้งให้หลิงอี้จอดรถที่มุมถนน ที่ไกลจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป หลิงอี้ไม่ยอมฟัง แล้วขับมาจอดที่หน้าประตูใหญ่ของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
เวินจิ้งไม่ขยับตัวไปไหน ไม่ยอมลงรถ
รถของมู่วี่สิงจอดอยู่คันข้างหน้า ภายในสายตา มีเพียงชายที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว และกางเกงสีดำ ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยคณะผู้บริหาร กำลังเดินเข้าไปในบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
เพียงไม่นาน ก็มีผู้สื่อข่าวจำนวนมาก หลั่งไหลจากทุกทิศทางเข้ามาล้อมรอบ บอดี้การ์ดมาป้องกันไม่ทัน มู่วี่สิงก็ถูกรายล้อมไปด้วยผู้สื่อข่าวเรียบร้อย
เวินจิ้งเป็นกังวลขึ้นมาทันที
หลิงอี้เลื่อนหน้าต่างรถลง คำถามต่างๆ ของนักข่าวก็ดังเข้ามา
“ประธานมู่ วันนี้ที่บริษัทฉีซื่อกรุ๊ป มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับยาตัวใหม่ ยาตัวใหม่ของบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป ได้เลียนแบบโครงการการพัฒนายาของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป อยากทราบว่าคุณได้ทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ไหมครับ?”
“บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป จะฟ้องบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปไหมครับ?”
“ประธานมู่,ไม่ทราบว่าเรื่องนี้บริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป ทราบมาก่อนไหมคะ……”
“……”
เวินจิ้ง หลังจากได้ยินคำถามพวกนี้ ก็รีบเปิดดูข่าวในโทรศัพท์มือถือทันที และก็เป็นจริงอย่างที่คิด ข่าวที่เกิดขึ้นกับบริษัทฉีซื่อกรุ๊ป ตอนนี้ได้รับการพาดหัวข่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพิ่งเกิดขึ้นวันนี้ บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปถูกยึด และฉีเซินก็เพิ่งจะถูกจับ!
ช่วงที่ผ่านมา บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปกำลังเป็นที่นิยม เจริญรุ่งเรือง ออกตัวยาใหม่มาสู้กับตลาดของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปก็มากมาย,แต่ตอนนี้ก็ถูกเปิดเผยว่า เป็นยาที่เลียนแบบมาจากบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป,แค่เพียงข้อกล่าวหานี้เพียงข้อเดียว ก็สามารถทำลายบริษัทฉีซื่อกรุ๊ปได้แล้ว!
เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เวินจิ้งได้เคยคาดเดาไว้ และตอนนี้บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปก็เกิดเรื่องขึ้นจริงๆ ไม่น่าแปลกใจเลย
วิธีของฉีเซิน เป็นอย่างนี้นี่เอง