บทที่ 41: อย่าไป
อวี๋เว่ยยื่นเอกสารไปให้ ฉินเฟยกวาดสายตาอ่านอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เธอไม่เพียงแต่กุมอำนาจบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปไว้ในมือ เธอยังเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลฉิงอีกด้วย การตัดสินใจใดๆ ขึ้นอยู่กับประโยคเดียวของเธอเท่านั้น
“เป็นอย่างนี้นี่เอง เวินจิ้ง พวกเราขึ้นไปคุยกันหน่อย” ฉินเฟยกอดแขนไว้ด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง
นี่เป็นตัวตนที่แท้จริงเมื่อฉืออี้เหิงไม่อยู่ข้างกาย
เวินจิ้งรู้สึกชินแล้ว แต่เมื่อตอนนี้ยังอยู่ที่บริษัทฉินซื่อกรุ๊ป เวินจิ้งไม่ได้ปฏิเสธ
อั้ยเถียนดึงเธอไว้ด้วยความกังวล “จิ้งจิ้ง อย่าไปสนใจนางบ้านั่น”
“ไม่มีอะไรหรอก ตอนนี้ทำความสัมพันธ์ระหว่างสองบริษัทพังไม่ได้ แกไม่ต้องห่วงนะ” เวินจิ้งพูดด้วยเสียงเข้ม
เห็นเวินจิ้งเข้าไป อั้ยเถียนคิดไปคิดมา ตัดสินใจบอกข่าวให้มู่วี่สิงทราบ ฉินเฟยไม่ใช่แม่ชีนะ ถ้าเวินจิ้งโดนกลั่นแกล้งหละก็…
ณ ออฟฟิศชั้นบนสุด
วันนี้ฉืออี้เหิงไปทำงานนอกสถานที่ ฉินเฟยเดินเข้าไปในออฟฟิศเขา
เมื่อประตูปิดลง ฉินเฟยง้างมือตบลงที่หน้าเวินจิ้ง แล้วจ้องเธอด้วยความขุ่นเคือง “เวินจิ้งแกช่างกล้าจริงๆ เพื่อจะเข้าใกล้ อาเหิงอะไรก็ทำได้หมด”
“ฉันไม่รู้ว่าแกพูดอะไรอยู่” เวินจิ้งพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ถอยหลังไปครึ่งก้าว ความเจ็บปวดบนใบหน้าทำให้สีหน้าเธอดูแข็งเกร็ง
“งั้นเหรอ ฉันจำได้ว่าตอนแกอยู่เทียนอีเป็นได้แค่พนักงานทั่วไป เป็นไปได้ไงจะมารับผิดชอบโครงการวิจัยยา เทียนอีให้แกมาติดตามโครงการนี้ฉันคงจะไว้วางใจไม่ได้หรอกนะ”
เวินจิ้งขมวดคิ้ว คงจะโยงเรื่องส่วนตัวมาบนเรื่องงานแล้วสินะ เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “บริษัทวางมาแบบนี้ค่ะ ถ้าคุณสงสัยเทียนอี งั้นฉันคิดว่าคุณควรพิจารณาดูอีกครั้งว่าจะร่วมงานกับเทียนอีหรือไม่ เพราะในที่สุดฉันจะร่วมงานในโครงการนี้ด้วย”
“เวินจิ้ง ตอนนี้แกสะใจมากใช่ไหมหละ” ฉินเฟยยีตา
“คุณฉินคะ ฉันสะใจเรื่องอะไรหรอ? เพราะสำหรับทุกคนแล้ว คุณดีกว่าฉันเยอะ แต่ตอนนี้คุณเหมือนจะ…อิจฉาฉันเหรอคะ” เวินจิ้งแสยะยิ้มด้วยสีหน้ากวนๆ
“ฉันอิจฉาแกตั้งแต่เมื่อไหร! เวินจิ้ง ฉันจะบอกให้นะ หนึ่งวันที่แกยังเข้าร่วมโครงการนี้ ฉันก็จะไม่ตกลงร่วมงานกับเทียนอี” ฉินเฟยหัวเราะอย่างยะเยือก
เธอให้เวินจิ้งเอ้อระเหยลอยนวลไม่ได้หรอกนะ
“ข่มขู่ฉันงั้นหรือ? ฉินเฟย แกยังคงงี่เง่าเหมือนเดิมเลยนะ”
ฉินเฟยชะงัก กำมือไว้ จ้องไปที่แผ่นหลังของเวินจิ้ง ดวงตาเริ่มเห่อแดง
เรื่องที่คาใจเธอโดนเวินจิ้งสะกิดโดน รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างยิ่ง
เธออิจฉานางเวินจิ้งจริงๆ อิจฉาที่เธอทำให้ฉืออี้เหิงจำได้อย่างขึ้นใจเสมอมา
ขณะที่เดินเข้าไปในห้องน้ำ เวินจิ้งหน้าบวมขึ้นเป็นแพ จับแล้วรู้สึกเจ็บชาๆ
นางนั่นทุ่มแรงสุดตัวจริงๆ
อั้ยเถียนเจอเธอแล้วอารมณ์ระเบิดออกมาทันที ดึงเวินจิ้งไว้แล้วจะไปทวงคืนความยุติธรรม
เวินจิ้งห้ามเธอไว้ “ตอนนี้มีการร่วมมือระหว่างบริษัทฉินซื่อกรุ๊ปและเทียนอี ถ้าแกไปโวยวาย เทียนอีจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ฟังฉันนะ ลองดูว่าเดี๋ยวฉินเฟยจะทำอะไรต่อ”
“แต่ว่า….”
“ตบนี้ฉันจะคืนกลับไปแน่นอน” เวินจิ้งแสยะยิ้มขึ้น
ณ โรงพยาบาลเหรินหมิน
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงมู่วี่สิงได้รับข้อความจากอั้ยเถียน เขาเพิ่งทำการผ่าตัดเสร็จ
หลี่ซานรายงานอาการเย่กวนกวนให้เขาฟังตามปกติ เขาเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วย
เมื่อเห็นมู่วี่สิงเดินเข้ามา ขนมที่เย่กวนกวนกำลังกินอยู่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ทันที
“คุณหมอมู่!” เย่กวนกวนเอนตัวนอนอย่างเก้อๆ กังๆ
มู่วี่สิงชินกับพฤติกรรมของเธอนานแล้ว ตรวจจังหวะหัวใจและชีพจรแล้วเซ็นต์ชื่อในรายงานประวัติคนไข้
“พรุ่งนี้ก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว ร่างกายคุณฟื้นฟูได้ดีมาก” มู่วี่สิงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
เย่กวนกวนมองสีหน้าเย็นชาของเขา น้ำตาเอ่อทะลักขึ้นมาแล้วหยุดลงมาเป็นสาย
“อย่าไป” เธอใช้แรงทั้งหมดที่ตัวเองมีดึงมู่วี่สิงเอาไว้