บทที่427 เขาเป็นคนที่เธอเป็นห่วงมากที่สุด
ณ ห้องทำงานของคุณหมอ
เกาเชียนเคาะประตูและรีบเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ประธานมู่ แพทย์ด้านระบบประสาทและสมองที่จะเข้าร่วมการผ่าตัดในครั้งนี้ด้วยเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ”
ได้ยินอย่างนั้น ใบหน้าที่เคร่งเครียดของมู่วี่สิงก็เคร่งขรึมขึ้นไปอีก
“สถานการณ์เป็นยังไง? ”
“ตอนนี้ส่งตัวไปช่วยชีวิตที่โรงพยาบาล แต่ว่าไม่มีทางที่จะมาทำการผ่าตัดได้แน่นอน ”
ที่เข้าร่วมการผ่าตัดครั้งนี้พร้อมมู่วี่สิงเป็นแพทย์ระบบประสาทและสมองอันดับtopของหนานเฉิง เดิมทีการผ่าตัดครั้งนี้ก็มีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว จำเป็นต้องมีแพทย์ที่เก่งมากๆถึงจะสามารถทำการผ่าตัดได้ แต่ตอนนี้กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันอย่างนี้เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะหาแพทย์อีกก็ไม่ง่าย การผ่าตัดก็จำเป็นต้องเลื่อนออกไป
มู่วี่สิงพิงกำแพง ดวงตาและคิ้วที่ดุร้ายนั้นค่อยๆแพร่ออกมา
แพทย์ระบบประสาทและสมองที่ยอดเยี่ยมนั้น มีน้อยเหลือเกิน
และยอมที่จะเสี่ยงอันตรายทำการผ่าตัดให้เวินจิ้งนั้น ยิ่งน้อยเข้าไปอีก
และอีกอย่างอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ต้องมีคนจงใจที่จะทำแน่นอน
พยาบาลด้านนอกเร่งให้ดำเนินการแล้ว มู่วี่สิงอยู่ในห้องทำงาน ไม่ยอมออกไป
จนผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ถึงจะออกไปจากห้องทำงาน
หลิงอี้มาหาเขาตั้งนานแล้ว เห็นใบหน้าเคร่งขรึมของมู่วี่สิง ก็ถามออกมา “เป็นอะไร? ”
ตามแผนการที่วางไว้ ตอนนี้ก็ควรจะทำการผ่าตัดแล้ว
“หมออีกคนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุแล้ว ” มู่วี่สิงพูดอย่างง่ายๆ
พูดเสร็จ เขาก็ไปที่ห้องผู้ป่วยของเวินจิ้ง
เธอยืนอยู่ที่ระเบียง แสงพระอาทิตย์สาดส่องลงมา สะท้อนกับผิวสีขาวที่เปล่งประกายของเธอ
ได้ยินเสียงฝีเท้า เธอหมุนตัวกลับมา ปะทะกับสีหน้าที่เป็นกังวลของมู่วี่สิง ใบหน้าของเธอก็ค่อยๆนิ่งลง
การผ่าตัดไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ เธอเดาไม่ผิด น่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“เวินจิ้ง การผ่าตัดเลื่อนออกไปหนึ่งวัน ” น้ำเสียงของมู่วี่สิงไม่เยือกเย็นเหมือนแต่ก่อน
“หนึ่งวัน ได้เหรอ? ” เธอถาม
“เชื่อผม ไหม? ” เขาจูบลงที่หน้าผากของเธออย่างทะนุถนอม
อ่อนโยนเป็นอย่างมาก
เวินจิ้งได้ยินเสียงหัวใจที่มีความเต้นเร็วนิดหน่อยของเขา หลับตาลง ค่อยๆพยักหน้า
ไม่ได้ถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่เธอเชื่อว่ามู่วี่สิงจะต้องจัดการได้แน่นอน
มหาวิทยาลัยหลินไห่
ห้องทำงานศาสตราจารย์ เย่เฉียวมองดูมู่วี่สิง ในตาลึกเผยให้เห็นความเย็นชาที่เยาะเย้ยออกมา
“ลมอะไรพัดพาเอาศาสตราจารย์มู่มาที่นี่ได้ ”
“เย่เฉียว ผมต้องการให้คุณช่วย ” น้ำเสียงของมู่วี่สิงเคร่งขรึม
เย่เฉียวขมวดคิ้ว “ช่วย? คุณคิดว่าผมทำได้ไหม? ”
มู่วี่สิงกำหมัดแน่น
“การผ่าตัดภรรยาของผม ตอนนี้มีแค่คุณที่สามารถร่วมมือกับผมทำให้มันประสบผลสำเร็จได้ ”
นอกจากศาสตราจารย์ระบบประสาทและสมองที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเมื่อกี้แล้วนั้น ตอนนี้ที่มีคุณสมบัติและประสบการณ์ ก็มีแค่เย่เฉียว
“มู่วี่สิง คุณขอร้องผม? ” เย่เฉียวนั่งไขว่ห้าง ท่าทางไม่สนใจ
ได้ยินอย่างนั้น มู่วี่สิงหัวเราะเยาะขึ้น ปรายตาแล้วพูดนิ่งๆว่า “คุณอยากแข่งขันชิงตำแหน่งรองอธิการบดี ผมจำได้ว่าคะแนนบัตรของคุณยังไม่พอ ถ้าคุณช่วยผมครั้งนี้ บัตรที่อยู่ในมือผมสามใบก็จะเป็นของคุณ ”
ได้ยิน สายตาของเย่เฉียวเปล่งประกาย เขากลัดกลุ้มเรื่องนี้มาตลอด!
สามบัตร……ถ้าได้คะแนนสามบัตรนี้มาอยู่ในมือ เขาก็จะได้นั่งตำแหน่งรองอธิการบดีได้อย่างมั่นคงแน่นอน!
แต่ว่า เขายังโกรธแค้นมู่วี่สิงอยู่
“ในเมื่อศาสตราจารย์เย่ไม่พิจารณา ผมก็ขอตัวก่อน ” มู่วี่สิงไม่เสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์อีกต่อไป
แค่เพิ่งจะหมุนตัวกลับ เย่เฉียวก็เรียกเขาเอาไว้
“ผมรับปากคุณ! ”
ถึงยังไงรอเขาได้ตำแหน่งรองอธิการบดีแล้ว ตอนนั้นก็จะถีบส่งมู่วี่สิงอย่างแน่นอน!
น้ำเสียงของมู่วี่สิงอ่อนโยนขึ้นมานิดหน่อย “เย่เฉียว ขอบคุณคุณ ”
“ไม่ต้องรีบขอบคุณเร็วขนาดนั้น ผมขอไปดูอาการของคนไข้ก่อน ” เย่เฉียวระมัดระวังอยู่เสมอ เมื่อช่วยชีวิตคน
ทั้งสองคนมาที่โรงพยาบาล เย่เฉียวดูประวัติการรักษาและการรายงานอาการของเวินจิ้ง มิน่าล่ะมู่วี่สิงจำเป็นต้องมาหาเขา
เขาเคยทำการผ่าตัดแบบประมาณนี้มาก่อน แต่ว่าตำแหน่งเนื้องอกนี้ค่อนข้างจัดการยาก เขาไม่รับประกันว่าการผ่าตัดนี้จะราบรื่นร้อยเปอร์เซ็นต์
“มู่วี่สิง คิดไม่ถึงว่าคุณจะมีวันนี้ ” เย่เฉียวพูดเยาะเย้ยถากถาง
ในสมัยนั้นพี่สาวของเขาก็ตายจากการผ่าตัดนี้ วันนี้ เป็นภรรยาของมู่วี่สิงที่ประสบปัญหาแบบเดียวกันแบบนี้
“เย่เฉียว กรุณาทำท่าทางให้ดีหน่อย ” มู่วี่สิงพูดอย่างเข้มงวด
“วางใจเถอะ ในเมื่อรับปากคุณแล้ว ผมก็จะทำสุดความสามารถ ผมไม่ชอบให้ฉากการผ่าตัดมีความโศกเศร้า ” เย่เฉียวขยิบตา
แค่นึกถึงพี่สาวที่เสียชีวิตไปแล้ว ในใจก็รู้สึกเจ็บปวดทรมาน
ทั้งสองคนวิเคราะห์สถานการณ์ของเวินจิ้ง จนถึงตอนดึกถึงจะวางแผนรูปแบบการผ่าตัดออกมาได้
เย่เฉียวมองดูเวลา “การผ่าตัดวันพรุ่งนี้ ผมกลับไปนอนก่อนแล้วกัน ”
“ที่นี่มีห้องพักผ่อน ” มู่วี่สิงพูดขึ้น
“เป็นอะไร ยังไม่อนุญาตให้ผมกลับบ้าน? ” เย่เฉียวขมวดคิ้ว
“ใช่ เพื่อความปลอดภัยของคุณ ”มู่วี่สิงพูดเสียงเข้ม
เย่เฉียวไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูด แต่ว่าโรงพยาบาลนี่สามารถเทียบได้เท่าๆกับระดับโรงแรม เขาไม่ว่าอะไร
หลังจากที่เย่เฉียวจากไป มู่วี่สิงสั่งเกาเชียน “ส่งคนไปเฝ้าไว้ ”
ดูแลความเรียบร้อยให้เย่เฉียวดีๆ เกาเชียนรับคำสั่งไป มู่วี่สิงยังไม่พักผ่อน
“ประธานมู่ นี่เป็นสถานการณ์ของเหตุผลอุบัติเหตุของรถศาสตราจารย์หลิน ตอนนี้ทางฝั่งตำรวจให้สันนิษฐานว่าเป็นอุบัติเหตุ ”
มู่วี่สิงหยิบรายงานมาดู นวดๆหัวคิ้ว เขายื่นไปให้เกาเชียน
“ตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป ไม่ใช่แค่อุบัติเหตุ ”
“รับทราบครับ ”
“อาการของศาสตราจารย์หลินเป็นยังไงบ้าง? ”
“ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ตอนนี้ยังไม่ได้สติ ”
สีหน้าของมู่วี่สิงเคร่งขรึมขึ้นไปอีก กำแก้วน้ำไว้แน่น แววตาที่เย็นชาถึงที่สุดแพร่ออกมา
ห้องผู้ป่วย
หลิงอี้อยู่เป็นเพื่อนเธอตลอด เวินจิ้งเพิ่งวิดีโอคอลกับแม่เสร็จ ก็ได้เวลาที่จะเข้านอนแล้ว
เมื่อกี้พยาบาลเพิ่งจะมาแจ้ง เวลาการผ่าตัดเป็นพรุ่งนี้เช้า
มู่วี่สิงล่ะ?
ไม่ได้เห็นเขามาทั้งวันแล้ว เขายุ่งอะไรอยู่……
เวินจิ้งคิดไปเรื่อย ก็ตัดสินใจไม่คิดแล้ว ยังไงการผ่าตัดพรุ่งนี้ก็ได้เจอเขาแน่นอน
“หลิงอี้ ฉันนอนก่อนนะ คุณกลับไปเถอะ ” เวินจิ้งพูด
หลิงอี้เฝ้าอยู่ที่นี่มาทั้งวันทั้งคืนแล้ว……
เธอรู้สึกผิดในใจ……
“อืม ฝันดี ” หลิงอี้ขมวดคิ้ว ช่วยเธอปิดไฟแล้วเดินออกมาจากห้องผู้ป่วย
ในเวลานี้ มู่วี่สิงเดินมาทางนี่พอดี
“พรุ่งนี้แน่ใจว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ” หลิงอี้ถาม
“ผมวางแผนอย่างดีแล้ว ” มู่วี่สิงพูดเสียงเข้ม
“งั้นก็ดี ” หลิงอี้รับคำ “คืนนี้ผมก็ยังคงเฝ้าอยู่ที่นี่ ”
เสียงฝีเท้าของมู่วี่สิงหยุดอยู่ที่ประตูห้องผู้ป่วย มองผ่านช่องประตูที่เปิดครึ่งหนึ่ง สามารถมองเห็นเวินจิ้งที่เอนนอนลงแล้ว
ในเวลานั้น โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงสั่นขึ้น เขาหยิบขึ้นมา
เป็นเวินจิ้งที่ส่งข้อความหาเขา
“มู่วี่สิง ฉันคิดถึงคุณมาก ”
เธอซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มแล้วส่งข้อความหาเขา
คลุมเครือคลุมเครือ มู่วี่สิงเห็นแสงคลุมเครือนั้น
ฉีกยิ้มมุมปากเบาๆนั้น เขาผลักประตูเข้าไป
ในความมืดนั้น เธอสามารถร่างรูปร่างที่หล่อเหลาของมู่วี่สิงได้อย่างชัดเจน
จ้องมองเงาที่เดินเข้ามาใกล้นั้นอย่างไม่กะพริบตา หัวใจของเวินจิ้งยิ่งเต้นแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ในที่สุด ย่างก้าวของเขาก็หยุดอยู่ด้านหน้าของเธอ
เธอยังคงอยู่ในผ้าห่ม มองผ่านช่องรอยเย็บเล็กๆ แต่กลับมองเห็นสายตาที่ลึกซึ้งของมู่วี่สิง
เขาเปิดไฟ มือเปิดผ้าห่มออก
ใบหน้าขาวบริสุทธิ์ของเวินจิ้งกระทบเข้ามาในดวงตา
เธอกลับรีบพุ่งเข้าไปกอดที่คอของเขาไว้แน่น ศีรษะแนบอิงไปในอ้อมกอดของเขา พูดเสียงต่ำว่า “คุณมาแล้ว ”