บทที่ 447 ทำทุกอย่างเพื่อเธอ ฉันยอม
เปิดประตูออก เวินจิ้งยืนอยู่ข้างนอกตลอด เห็นมู่วี่สิง แล้วรีบขึ้นหน้า “เป็นยังไงบ้าง ? “
แต่ในตอนที่สายตาไปหยุดอยู่ที่สภาพ ที่เต็มไปด้วยเลือดในห้อง เธอนิ่งไปทั้งตัว
ผู้หญิงคนหนึ่งคุกเข่าอยู่ข้างเฉินยุ่ยเซิง สะบัดตัวเขาตลอดเวลา แต่เขาก็ยังคงไม่มีอะไรตอบรับ
เวินจิ้งเห็นภาพแบบนี้ครั้งแรก ตกใจจนสีหน้าขาวซีดไปหมด
“เขา….” ฝีเท้าของเวินจิ้งนิ่งไปหมด
“ตายแล้ว “ ฝ่ามือของมู่วี่สิงปิดตาของเวินจิ้งไว้
แต่ภาพที่เห็นในไม่นานที่ผ่านมานี้ ก็ยังคงน่าขยะแขยง
“เป็นแบบนี้ได้ยังไง “ เธอพูดพึมพำ
มู่วี่สิงพาเธอออกจากทางเดินฉนวน มู่วี่สิงผลักประตูเข้าไป
“ถามอะไรได้บ้าง ? “ เสี้ยงหงเงยสายตาขึ้น
“ไม่มีชิป “ เขาทิ้งเครื่องดักฟังไปทางเขา “ดูสิว่า จะตรวจสอบอะไรออกมาได้ไหม “
“อะไรนะ ? เขาอาจจะพูดโกหก “ เสี้ยงหงรับมา มีความแปลกใจเล็กน้อย
มู่วี่สิงขมวดคิ้ว พูดเสียงต่ำ “ ห้าปีก่อน ฉันเคยผ่าตัดให้ลูกชายเขา ฉันคิดว่า นี่เป็นเหตุผลที่เขาไม่ทำแบบนี้”
เวินจิ้งสับสน เรื่องมาถึงขั้นที่เธอคิดไม่ถึง
เธอกังวลมานานแบบนี้ …. หรือว่าจะกังวลเสียเปล่าแล้ว ?
แต่ตอนนี้เรื่องยังไม่แน่ใจ ใจเธอก็ยังรู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมาก
“ฉันจำได้ว่าก่อนที่คุณจะเปลี่ยนยาให้ฉัน ในตอนที่ฉันทำการผ่าตัดเสร็จ ความจำก็แย่ลงตลอด หรือว่ามันไม่ได้เป็นเพราะชิปนั้น ? “ เวินจิ้งคิดแล้วพูด
“นี่เป็นหนึ่งในอาการที่จะมีหลังการผ่าตัด แต่แค่คนไข้หลายคนไม่มีอาการแบบนี้ “ มู่วี่สิงพูด
“รีบไปบ้านของเฉินยุ่ยเซิง “ นิ่งสักพัก มู่วี่สิงสั่ง “ ให้คนมาจัดการเรื่องของเขา “
มู่วี่สิงยืนยันที่จะให้เวินจิ้งอยู่ในห้อง แต่เวินจิ้งจะยอมทนนั่งรอได้อย่างไร ดึงดันที่จะตามมู่วี่สิง
“เสี้ยงหง ดูเธอไว้ “ มู่วี่สิงขมวดคิ้ว พูดด้วยเสียงหนักแน่น
เวินจิ้งก็ดึงดันเป็นอย่างมาก จับแขนของมู่วี่สิงไว้ ไม่ยอมปล่อย
แม้แรงจะสู้มู่วี่สิงไม่ได้ แต่ก็ไม่ยอมถอย มู่วี่สิงจึงต้องยอมอย่างทำอะไรไม่ได้
เสี้ยงหงอยู่ต่อเพื่อต้องจัดการเรื่องให้เรียบร้อย มู่วี่สิงไปกับเวินจิ้งแล้ว
ระหว่างทาง ใบหน้าหล่อของมู่วี่สิงอย่างคงหนักแน่น
แม้เฉินยุ่ยเซิงจะบอกว่าไม่มีชิปอะไร แต่ในหัวสมองเวินจิ้ง เหมือนสงสัยว่ามีส่วนใดส่วนหนึ่งที่เหมือนจะมี
ถ้าไม่ใช่ชิปจริง งั้นก็หมายความว่าเฉินยุ่ยเซิงตั้งใจทำให้คนรอบข้างในเวลานั้นดู เพื่อความปลอดภัยของลูกชาย
รถยนต์ขับไปอย่างเร็ว จอดอยู่หน้าตึกคอนโดหนึ่ง
ที่นี่มีคนของมู่วี่สิงคอยเฝ้าตลอด มาถึงคอนโด ชายก็เดินเข้าห้องสมุดโดยตรง
หยิบเอกสารบางอย่างออกจากลิ้นชัก มู่วี่สิงไม่ได้อยู่ต่อ
“คุณมู่ ยังต้องการเฝ้าอีกไหม ? “
“เฝ้าในที่ลับ “ มู่วี่สิงสั่ง
สิ่งที่มู่วี่สิงหยิบมา คือพวกเวชระเบียนหมด เปิดถึงหน้าสุดท้าย สุดท้ายก็เจอข้อมูลบางอย่างของเวินจิ้ง
เวินจิ้งขยับไป แล้วตั้งใจดู
เฉินยุ่ยเซิงเขียนอาการหลังจากผ่าตัดจากอุบัติเหตุของเวินจิ้ง ไม่มีการบันทึกเกี่ยวกับชิปอะไรทั้งนั้น แต่ในระหว่างการผ่าตัด มีการเจาะรอยอย่างหนึ่ง ไม่มีผลข้างเคียงอะไร เป็นบริเวณที่มู่วี่สิงแน่ใจว่ามีแผ่นชิป
เฉินยุ่ยเซิงเป็นคนทำการบันทึกลงมาเอง มีลายเซ็นของเขา
ในที่สุด เวินจิ้งก็สบายใจลงสักที มองมู่วี่สิง มือของเขาสั่นเรื่อยเรื่อย
สีหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อ สายตาที่มืดหมอง สุดท้ายก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที
มู่วี่สิงหลับตาลง แม้จะรู้ความจริงแบบนี้แล้ว แต่ความระมัดระวังและความระแวงของเขา ก็ยังไม่คลายลงมา
เวินจิ้งมองมู่วี่สิง อารมณ์สีหน้าของเขาตอนนี้ซับซ้อนเป็นอย่างมาก แต่เธอรับรู้ได้อย่างชัดเจน เขากำลังกลัว
เขากลัวมากกว่าเธอ
เธอกอดมู่วี่สิงไว้แน่น เธอพูดเสียงเบา “ ไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้น มู่วี่สิง ”
ในตอนที่มือของมู่วี่สิงยกขึ้น แล้วกอดเวินจิ้งตอบ เขาถึงค่อยๆลืมตาขึ้น
“อืม ไม่เป็นไร “
“แต่ว่า เฉินยุ่ยเซิงเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”เวินจิ้งถามอย่างสงสัย
“ฉีเซิน วางยาพิษให้เขานานแล้ว เขาอยู่ได้ไม่นาน “
“ฉีเซิน ฉีเซินอีกแล้ว ! ไอ้เลวนี้ ! “ เวินจิ้งพูดอย่างโกรธ
เขาทำร้ายมู่ซือซือ ทำร้ายคนมากมายขนาดนั้น โชคดีที่ตอนนี้เชาโดนถูกตัดสินจำคุก ออกมาไม่ได้ตลอดกาล
แต่ยังคงลืมความเกลียดชังไม่ลง
“ในคุกจะมีคนจัดการเขาเอง แต่เบื้องหลังเขา ยังมีคน “ มู่วี่สิงคิดอย่างละเอียดแล้วพูด
คงจะเป็นคนคนนั้น ที่เราจะต่อต้านได้ยาก
“คนคนนั้น ใช่ไม่ใช่จะพยายามหาเรื่องให้ฉัน ฉันอยู่ที่มหาวิทยาลัยหลินไห่ก็มีเรื่องตลอด มักจะรู้สึกมีอะไรแปลก”
“อืม “ มู่วี่สิงพยักหน้า
“ เรื่องของมหาวิทยาลัยหลินไห่ ฉันได้จัดการแล้ว ตอนนี้ไม่มีคนกล้าทำอะไรเธอแล้ว “ มู่วี่สิงพูดอย่างอ่อนโยน
จะปกป้องเวินจิ้ง เขาก็จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีในโลกของธุรกิจ ยืนอยู่บนตำแหน่งที่สูงพอ รวมอำนาจกับการเมือง
เวินจิ้งนิ่งแล้วก็นิ่ง คิดไม่ถึงว่ามู่วี่สิงยังมีวิธีแบบนี้
เขาก็เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ดี
เวินจิ้งรู้สึกผิดเล็กน้อย “ฉันเป็นผียุ่งยากใช่ไหม “
“ห้ามว่าตัวเองแบบนี้ ทำทุกอย่างเพื่อเธอ ฉันก็ยอม “ มู่วี่สิงมองเธออย่างลึกซึ้ง
เขาจะช่วยเธอกวาดความขัดขวางทุกอย่างออก ไม่ว่าจะวิธีแบบไหน
“มู่วี่สิง …..” ขอบตาเวินจิ้งเริ่มแดงขึ้น ยกหัวขึ้นแล้วใช้ริมฝีปากบางที่เขาชอบจูบลงไป
ผู้ชายคนนี้ ยังทำอะไรให้เธอเยอะแค่ไหนบ้าง
“หลังจากกลับไป ฉันจะทำการตรวจสมองให้เธออีกรอบ หื้ม ? “ มู่วี่สิงถามอย่างอ่อนโยน
เวินจิ้งพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
คิดถึงการจบของเฉินยุ่ยเซิง เวินจิ้งมีความเสียใจเล็กน้อย
รู้ว่าเขาไม่ได้แอบทำอะไรกับผ่าตัดแล้ว แต่สุดท้ายก็จบด้วยไม่ดี ยังคงเป็นเธอที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้
“ครอบครัวเฉินยุ่ยเซิง ฉันอยากชดใช้พวกเขา “
ตอนคุณตาจากไป ก็มีกองทุนการกุศล เธอสามารถขอให้พวกเขาได้
ที่ทำได้ ก็มีเพียงแค่นี้แล้ว
“อืม ฉันก็ว่าจะทำแบบนี้ “ มู่วี่สิงพยักหน้า
……
เมืองหนานเฉิง
โจวเซินฟังรายงานจากลูกน้อง มุมปากค่อยๆเผยรอยยิ้มมืดมนขึ้นมา
“ไอคนหักหลัง ควรตาย “
“ครอบครัวของเฉินยุ่ยเซิง มู่วี่สิงกำลังสั่งคนปกป้องไว้ ต้องการลงมือไหม ? “ ลูกน้องถาม
โจวเซินส่ายหัว “มู่วี่สิงจะปกป้อง ก็ให้เขาปกป้องไป จะปกป้องทั้งชีวิตก็ไม่ได้ ลงมือช้าหน่อยก็ไม่สายไป “
“รับทราบ “
ข้างนอก โจวหย่านฟังการสนทนาในห้อง รู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที
เธอไม่อยากอยู่ในหนานเฉิงต่อไปแล้ว
แต่มู่วี่สิงอยู่ที่นี่ เธอก็ไม่อยากจากไป
“โจวหย่าน เข้ามา “
รู้ว่าข้างนอกมีคน โจวเซินพูดอย่างเย็นชา
โจวหย่านกัดปากไปมา มีความอารมณ์เสียเล็กน้อย
ที่ผ่านมาเธอรู้ความระมัดระวังของพี่ชาย
“พี่ “
“มานี่” โจวเซินให้ลูกน้องออกไป โบกมือไปทางโจวหย่าน
ฝีเท้าของโจวหย่านไม่ได้ขยับมาก เว้นระยะห่างที่เธอคิดว่าปลอดภัย
“ยังอยากจะทำงานที่โรงพยาบาลไหม ? “ โจวเซินก็ไม่ได้อารมณ์เสีย แต่ถามเธอ
ได้ยินแบบนี้ สายตาโจวหย่านมีความเปล่งประกายขึ้นมา “ ยังได้หรอ ? “
“ช่วงนี้แม่อยู่ที่ยุโรป ไม่มีเวลาสนใจเธอ ท่านยุ่งมาก “
โจวหย่านขมวดคิ้ว รู้ว่าจะต้องเป็นพี่ชายที่หาเรื่องยุ่งยากให้แม่จัดการ
“ฉันสามารถเข้าใกล้มู่วี่สิงได้อีก ? “ โจวหย่านถาม
“แค่เธออยาก “ โจวเซินหัวเราะอย่างมืดมน
“ฉันต้องอยากอยู่แล้ว “
“งั้นก็ดีแล้ว พรุ่งนี้ไปรายงานที่มหาวิทยาลัยหลินไห่ “