บทที่ 448 ใจก็ยังคงอยู่ที่การรักษาและช่วยคน
วันถัดมา โจวหย่านได้มาถึงโรงพยาบาลแต่เช้า มีพยาบาลไม่น้อยที่คอยแอบเฝ้า
เธอโดนมอบหมายไปสาขาของมู่วี่สิง เป็นพี่ขายที่จัดการให้เธอเอง
แต่แค่ เธอรู้ว่า มู่วี่สิงตอนนี้เกลียดเธอมากแค่ไหน เธอยืนอยู่หลังอย่างไม่สบายใจ
จนในที่สุด ร่างที่สวมเสื้อขาวกางเกงดำเดินออกมาจากลิฟต์
สายตาโจวหย่านเหมือนเปล่งประกายขึ้นมาทันที มองร่างที่คุ้นชินนั้นอย่างไม่กระพริบตา
เธอยืนอยู่หน้าประตูห้องตรวจของมู่วี่สิง มู่วี่สิงเดินผ่านเธอโดยตรง ไม่มองเธอแม้แต่น้อย
ในใจโจวหย่านเสียใจเป็นแถวเป็นแนว
ปรับอารมณ์แล้ว เธอไปห้องชา ไปชงกาแฟให้มู่วี่สิง แต่แค่ตอนกลับมาห้องตรวจ กลับเห็นว่ามีพยาบาลไม่น้อยที่ได้ชงชา ชงกาแฟให้เขาเรียบร้อยแล้ว
ด้านข้างเขา มีเวินจิ้งที่เป็นแพทย์ฝึกหัดนั่งอยู่ ทั้งสองสนทนากันอย่างจริงจัง คนไข้ก็มากันแล้ว
พยาบาลต่างก็โดนไล่ออกมาหมด โจวหย่านเป็นพยาบาลผู้ช่วยของมู่วี่สิง จึงอยู่ต่อได้
แต่เห็นเวินจิ้งก็อยู่ ใจเธอไม่สบายอย่างมาก
พอเจอโจวหย่าน เวินจิ้งก็คิดไม่ถึง
แต่ช่วงนี้โจวหย่านก็กลับมาหนานเฉิงแล้ว เธอเคยมานานแล้ว ส่วนที่เธอโดนมอบหมายให้อยู่ข้างมู่วี่สิง คิดแล้วก็ต้องเป็นคนที่มีอำนาจบ้างวางแผนให้เธอ
เวินจิ้งจะหลีกเลี่ยงโจวหย่านไม่ได้ ตอนตรวจคนไข้ก็ต้องการให้โจวหย่านร่วมมือด้วย
แต่แค่ใจเธออยู่ที่มู่วี่สิงอย่างเดียว แล้วทำผิดพลาดเรื่อยเรื่อย เวินจิ้งเริ่มอารมณ์เสียเล็กน้อย
คนไข้ของมู่วี่สิงก็เยอะอยู่แล้ว มาเสียเวลาแบบนี้ คนไข้ก็อาจจะร้องเรียนได้
“โจวหย่าน ฉันไม่ได้ให้เธอหยิบสำลีก้อน ให้หยิบผ้าก๊อซ! “ เวินจิ้งพูดอย่างโกรธ
แม้ปกติอารมณ์เธอจะอ่อนโยน แต่ตอนนี้โกรธแล้ว ก็ดูน่ากลัวมากเหมือนกัน
มู่วี่สิงได้ยินแล้ว ขายาวเดินมา พูด “โจวหย่าน เธอออกไปก่อน “
เขาต้องรู้อยู่ว่าแล้วว่าโจวหย่านไม่ปกติ
โจวหย่านทำตัวน่าสงสาร มองมู่วี่สิง พูดเสียงต่ำ “ คุณหมอมู่ ฉันไม่ออกไป ฉันเป็นพยาบาลผู้ช่วยของคุณ “
“เธออยู่ตรงนี้แล้ว รบกวนการทำงานของฉันเป็นอย่างมาก ออกไป “ น้ำเสียงมู่วี่สิงเย็นชามากขึ้น
โจวหย่านรู้สึกเสียใจ ขอบตาก็เริ่มแดงขี้น
ส่วนมู่วี่สิงก็หันหลังแล้วนั่งลง ตรวจคนไข้สักพัก เวินจิ้งก็ไม่ได้สนใจเธอ ต่อมาโจวหย่านก็เป็นแค่เครื่องตกแต่งจริงแล้ว
จนถึงตอนเย็น มู่วี่สิงตรวจหมดแล้ว โจวหย่านก็มาจัดการการบันทึกของคนไข้เอง
เวินจิ้งตามเธอด้วยความสงสัย
“ฉันทำเอง พยาบาลโจว “ เวินจิ้งพูด
เวินจิ้งมองมู่วี่สิงด้วยตาโตอย่างอารมณ์เสียเล็กน้อย เป็นเพราะเสน่ห์ของเขาก่อเรื่อง!
โจวหย่านวิ่งออกจากห้องตรวจด้วยความโกรธเล็กน้อย คาดหวังกับการทำงานวันแรก คิดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้!
ตอนนี้ ในห้องทำงาน
เวินจิ้งเขียนรายงานวันนี้เสร็จหมดแล้ว ยื่นให้มู่วี่สิง
สีหน้ายังคงไม่มีความสุข
“แม้โจวหย่านจะเป็นคนที่ประธานมอบหมายมา แต่ฉันจะย้ายเธอออกเอง “ มู่วี่สิงยกใบหน้าเล็กของเธอขึ้น
“ยุ่งยากใช่ไหม “ เวินจิ้งพูด
“ยุ่งยากฉันก็จะทำแบบนี้ เพราะเธอทำให้แฟนฉันไม่ดีใจแล้ว “ มู่วี่สิงย่อเอวลง
สีหน้าตึงเครียดของเวินจิ้งก็คลายลงมา แต่โจวหย่านได้มาอยู่ข้างมู่วี่สิงโดยตรง ก็เก่งจริง
“ฉันไม่ได้ไม่ดีใจ “
“หื้ม เธอหึงเป็น “ มู่วี่สิงพูด
เวินจิ้งแก้มแดงขึ้น ทุบหน้าอกมู่วี่สิงไปมา “ พูดไปมั่ว ! “
“ฉันจะกลับตระกูลหลินแล้ว “ เวินจิ้งหยิบกระเป๋าขึ้น
“ไม่ทานข้าวกับฉันหรอ ? “ มู่วี่สิงทำสีหน้าไม่พอใจ
“ยังไม่ถึงเวลา ….”
“ไปบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปกับฉันก่อน “
พูดจบ แล้วจับมือเล็กของเวินจิ้งไว้ ที่นี่เป็นโรงพยาบาล เธอรู้ว่าเขาเป็นผู้ชายในฝันของหมอผู้หญิงและพยาบาลสาวมากมายของที่นี่ ตอนนี้เขาจับมือเธอเดินออกไปอย่างเปิดเผยแบบนี้ สายตาที่ได้รับล้วนมีแต่ความอิจฉา
เวินจิ้งก้มหัวลง รู้สึกไม่ชิน
เดินออกจากโรงพยาบาลสักที เวินจิ้งยังรู้สึกว่าตัวเองยังถูกมอง
“ยังมีอีกอาทิตย์ก็จะเปิดเรียนแล้ว “ นั่งเข้าไปในรถ เวินจิ้งพูด
พอถึงเวลาตอนนั้น มู่วี่สิงก็ต้องไปทั้งบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป โรงเรียน โรงพยาบาล เธอเป็นห่วงเขาเหลือเกิน
แต่กระบวนการทำงานของมู่วี่สิงก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว เธอก็ต้องตั้งใจทำงาน ไม่เป็นตัวถ่วงให้เขา
มาถึงบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป เวินจิ้งเสนอช่วยงานเอง
เกาเชียนก็ต้องสบายใจขึ้นมาบ้าง เพราะยังไงbossทำงานขึ้นมา ก็บ้าคลั่งมาก เขาในฐานะเลขาก็ไม่ได้พักผ่อน
แต่ตอนนี้เวินจิ้งมาแล้ว ทุกอย่างก็ดีขึ้นบ้างแล้ว
ช่วงนี้บริษัทฉีซื่อกรุ๊ปล้มละลายแล้ว ส่วนการตลาดของบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ปอยู่ในอันดับที่หนึ่งในประเทศ ในปัจจุบันไม่มี บริษัท อื่นใดที่สามารถก้าวข้ามขีดนี้ได้
ส่วนบริษัทใหม่ของมู่เหิงบริษัทผลิตยายูเหิง ช่วงนี้มีการนำเข้ายาที่ดีและเป็นที่รู้จักกันดีในหลายรายการ และได้เริ่มมีชื่อเสียงในตลาด
เวินจิ้งมองมู่วี่สิงอย่างเป็นห่วง มู่เหิงทำแบบนี้ ก็ชัดเจนแล้วว่าจะแข่งการตลาดกับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป
แม้เธอจะเชื่อว่ามู่วี่สิงมีความสามารถพอ แต่ก็กลัวว่ามู่เหิงจะเป็นฉีเซินคนที่สอง ที่ใช้วิธีสกปรก
เพื่อขยายบริษัท เพื่อสู้กับบริษัทมู่ซื่อกรุ๊ป มู่เหิงจำเป็นจะต้องใช้ทุกวิถีทาง
“คิดอะไรอยู่ ? “ เห็นเวินจิ้งเหม่อลอย มู่วี่สิงเดินมา หยิบเอกสารบนมือเธอมา แล้วเซ็นชื่อ
เวินจิ้งส่ายหัว “ บริษัทของมู่เหิง คุณจะเมินเฉย? “
“คุณปู่ยังไม่ออกตัว ฉันก็จะไม่ทำ “ มู่วี่สิงพูดสั้นๆ
มู่เหิงอยากพิสูจน์ตัวเอง ก็ต้องดูว่าเขาจะทำอะไรออกมาได้บ้าง
แต่แค่ เขาคงยังไม่รู้ว่าตัวเองโดนใช้ให้เป็นแค่ตัวสำรอง มู่วี่สิงค่อยๆยิ้มออกมา
“ยังไงก็เป็นคนในครอบครัวตระกูลมู่ กลับมาทำแบบนี้ “
เวินจิ้งอยู่กับเจี่ยนอีมาแต่เด็ก ครอบครัวธรรมดาจะไม่มีการทำเรื่องสกปรกแบบนี้
แต่มู่วี่สิง….. กลับผ่านมากับพวกคนใจโหดแบบนี้นานแล้ว
เวินจิ้งกอดมู่วี่สิงอย่างแน่น ถ้าเป็นเธอ คงจะใช้ชีวิตในครอบครัวแบบนี้ต่อไปไม่ได้
มู่วี่สิงผ่านมาได้ยังไง
“ตำแหน่งของตระกูลมู่ ใหญ่และหนานัก ใครก็อยากมีอำนาจ ทุกคนก็โลภกันหมด เพื่ออำนาจทำได้ทุกอย่าง” มู่วี่สิงกอดเวินจิ้งอย่างอ่อนโยน
คำพูดที่พูดออกมา ดูเย็นชานัก
“แล้วคุณหล่ะ” เวินจิ้งถาม
เริ่มแรกที่เธอรู้จักมู่วี่สิง เขาเป็นแค่คุณหมอคนหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนที่ต้องสู้กับวงการอำนาจในธุรกิจ
แม้ตอนนี้มู่วี่สิงจะนั่งตำแหน่งของประธานแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึก ว่ามู่วี่สิงไม่ใช่คนแบบนั้น
ใจของเขายังอยู่กับการช่วยคน รักษาคน
“คนไม่ทำอะไรฉัน ฉันก็ไม่ทำอะไรคน “ มู่วี่สิงขมวดคิ้ว พูดกับเวินจิ้ง เขาเป็นคนอ่อนโยนมาตลอด
“อืม หวังว่าการต่อสู้ของคุณกับมู่เหิงจะจบลงได้เร็ว “ เวินจิ้งพูด
จนถึงกลางดึก สองคนที่นัดกันแล้ว ว่าจะไปทานข้าวด้วยกัน แต่กลับเป็นเพราะการยุ่งอยู่กับงาน ไม่ได้พักผ่อนสักที
กี่วันกี่คืน ที่มู่วี่สิงต้องผ่านแบบนี้มา
เซ็นจนถึงเอกสารใบสุดท้าย เป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี