บทที่ 467 ไม่มีทางที่กลับตัว
บริษัทมู่ซือกรุ๊ป
ตั้งแต่เช้าถึงบ่าย ผู้บริหารอยู่ในตำแหน่งชั้นสูงที่เข้าไปห้องทำงาน ไม่มีคนออกมาโดยไม่ต้องถูกด่าอย่างหนัก
ข่าวที่มู่เฉิงป่วยหนักได้แพร่กระจายไปทั้งเมืองแล้วในช่วงนี้ และทายาทที่รับมือบริษัทมู่ซือกรุ๊ปคนต่อไปยังไม่ได้กำนวดเลย ทุกคนก็หวาดกลัว
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในมือของมู่วี่สิง แต่ผู้บริหารอยู่ในตำแหน่งชั้นสูงส่วนใหญ่ก็รู้ว่า ตามกฎของการสืบทอดมรดกของตระกูลมู่ มีแต่มู่เหิงเท่านั้นที่จะเป็นทายาทที่เหมาะสม
แต่เมื่อเร็จๆนี้มู่เหิงได้ไปตั้งบริษัทของตัวเองแล้ว
ในตอนเย็น ผู้บริหารอยู่ในตำแหน่งชั้นสูงต้องขึ้นมาอีกครั้ง ถ้าสัญญาไม่ผ่าน พวกเขาจะเลิกงานไม่ได้
เกาเชียนมีแต่รับไปทักชุด และเข้าไปในห้องทำงานด้วยความกล้าหาญ
หากยังไม่ผ่านอีก เกาเชียนตัดสินใจที่จะเรียกเวินจิ้งมา
แต่ตอนนี้สัน้าของเจ้านายดูเหมือนจะอ่อนลง เกาเชียนก็ยื่นเอกสารทุกชุดไปให้
แม้ว่าจะยังมีบ้างอันที่ไม่ผ่าน แต่อย่างน้อยก็ผ่านไปครึ่งหนึ่งแล้ว
ผู้บริหารออกไปด้วยถอนหายใจอย่างโล่งอกสักที ในเวลานี้ ลี่หนานเฉิงและเสี้ยงหงก็มาถึง
“คุณปู่ไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหม”เสี้ยงหงเดินไปที่บาร์อย่างคุ้นเคยและเปิดไวน์ไว้หนึ่งขวด
มู่วี่สิงขมวดคิ้วและอารมณ์ตึงเครียดทั้งวันก็อ่อนลงบ้าง “อื่ม ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว”
“ข้อมูลทั้งหมดของบริษัทใหม่ของมู่เหิงอยู่ในนี่ บริษัทเหิงอวี่กรุ๊ปพัฒนาได้เร็วขนาดนี้ เป็นเพราะว่าได้รับผลจากโรงพยาบาลเอกชนที่เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ฉันเช็กมาแล้ว โรงพยาบาลเหล่านี้มีปัญหาด้านอุปกรณ์ใหญ่มาก และคุณภาพของทีมแพทย์ก็ไม่สูงด้วย”
โรงพยาบาลเอกชนเหล่านี้พัฒนาเร็วเกินไป และได้ดึงดูดผู้ป่วยจำนวนมากในระยะเวลาแรก ตามความพัฒนาก็เจอปัญหามาเรื่อยๆ ได้รับข้อร้องเรียนไม่น้อยแล้ว
เพียงแค่ว่ามีบางส่วนถูกระงับ
“ฉันมีสายเลือดอยู่ในสถานีตำรวจ ฉันมีข้อมูลเกี่ยวกับข้อพิพาทเหล่านี้อยู่แล้ว สามารถเปิดเผยได้ตลอดเวลาเลย”ลี่หนานเฉิงกล่าวอย่างมั่นใจ
มู่วี่สิงถือแก้วไวน์ไว้ ดวงตาสีเข้มของเขาสะท้อนอยู่ในไวน์สีแดง และออร่าในร่างตัวเขาน่ากลัวมาก
“ดี ค่อยๆกระจายออกไป ไม่จำเป็นต้องเปิดเผยเยอะไปในระยะแรก”
“ฉันจะรับผิดชอบเอง ไม่ต้องเป็นห่วง บริษัทเล็กๆอย่างเหิงอวี่กรุ๊ป ไม่ได้อยู่ในสายตาของฉันสักหน่อย” ลี่หนานเฉิงพูดอย่างดูถูก
เสี้ยงหงขมวดคิ้ว น้ำเสียงของเขาต่ำเบาๆ”เหิงอวี่กรุ๊ปได้รับการลงทุนของตระกูลโจวอยู่ข้างหลัง คุณอยากถอนมันออกมาจากราก มันไม่ง่ายหรอก”
“ตระกูลโจวเหรอ ทำไมฉันไม่รู้ล่ะ”
“มันอยู่ลึกมาก แม้กระทั่งวี่สิงก็ไม่สามารถหาข้อมูลของตระกูลโจวได้อย่างเต็มที่เลย คุณคิดล่ะ” เสี้ยงหงพูดเบาๆ
ยิ่งพลังลึกลับ ยิ่งต้องระวังมากขึ้น
“ฉันไม่เชื่อว่าฉันจะสืบไม่ได้”
“ให้หนานเฉิงสืบเลย อำนาจหลักๆตั้งอยู่ในประเทศ B”
มู่วี่สิงให้เบาะแส ลี่หนานเฉิงมีเรื่องทำ ก็เลยรีบไปทำทันที
ห้องทำงานสงบลง เสี้ยงหงมองมู่วี่สิงและก็ขมวดคิ้ว”คุณปู่คงเหลือเวลาอีกไม่เยอะแล้วเหรอ”
“ยังไม่รู้”.
“ทางบริษัทมู่ซือกรุ๊ป ถ้าคุณจะปล่อยมือ ฉันสามารถแนะนำผู้จัดการตัวแทนให้คุณได้ ไม่งั้นถ้าคุณปู่ของคุณเป็นอะไรไป บริษัทก็จะตกอยู่ในมือของมู่เหิงเลย”
“เสี้ยงหง ถ้าฉันบอกว่า ฉันจะไม่ปล่อยแล้ว”เสียงของมู่วี่สิงนั้นต่ำและลึกมาก
เสี้ยงหงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย มู่วี่สิงที่เขารู้จัก ถืออาชีพคุณหมอที่ยิ่งใหญ่เป็นเป้าหมายของชีวิต
แต่ตอนนี้ ถ้ามู่วี่สิงจะรควบคุมบริษัทมู่ซือกรุ๊ป จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆเลย
โดยเฉพาะหลังจากได้รับสิทธิในการสืบทอด
“คุณจะเข้ายึดครองบริษัทมู่ซือกรุ๊ปอย่างเป็นทางการเหรอ”เสียงของเสี้ยงหงเต็มไปด้วยความตกใจ
“อื่ม ต้องได้สืบทอดบริษัทมู่ซือกรุ๊ป และได้ครองอำนาจด้วย”ดวงตาของมู่วี่สิงเต็มไปด้วยความเย็นชา
“ถ้าเป็นอย่างนี้ จะไม่มีทางที่กลับตัวแล้วนะ คุณต้องคิดดีๆ”เสี้ยงหงชวนเขา
ตอนแรกมู่วี่สิงคิดว่า แค่สืบทอดบริษัทมู่ซือกรุ๊ปเท่านั้น แต่ไม่ครองอำนาจ จึงยังมีทางที่จะกลัวได้
แต่เมื่อจะครองอำนาจแล้ว มันไม่ง่ายเลยที่จะถอดตัวออกได้
เสี้ยงหงได้วิเคราะห์แผนนี้กับเขาตั้งนานแล้ว
“ครับ”
..
บ้านตระกูลมู่
มู่ซือซืออยู่กินข้าวเย็นกับคุณปู่ คืนนี้ส้งวี่ไม่มีเวลามาติวหนังสือให้เธอ เธอจึงไปเดินเล่นกับคุณปู่ในสวน
“คุณปู่คะ ช่วงนี้คุณรู้สึกไม่สบายหรือเปล่า ต้องบอกหนูนะ”มู่ซือซือเป็นห่วงตลอด
“ปู้รู้ร่างกายของตัวเองเป็นยังไง ถ้ามีอะไรจริงๆ ก็แสดงว่ามันถึงเวลาแล้ว”มู่เฉิงพูดอย่างถอนหายใจ
มู่ซือซือรีบปิดปากคุณปู่ทันที”อย่าพูดแบบนี้ คุณปู่ยังมีเวลาอีกเยอะเลย”
“คุณนายน้อย คุณเข้าไปไม่ได้ครับ”เสียงของพ่อบ้านดังขึ้นอยู่ไม่ไกล มู่ซือซือและมู่เฉิงมองไปพร้อมกัน แต่เห็นมู่เฉิงพุ้งเข้ามา
มู่ซือซือปกป้งอยู่ข้างหน้าของคุณปู่อย่างโกรธทันที
“มู่เหิง คุณยังมีหน้ากลับมาอีก”มู่ซือซือนั่งอยู่ในรถเข็น แต่ตอนนี้เธอดูมีพลังมาก
“คุณปู่ครับ ฉันเป็นห่วงร่างกายของท่าน”
“เจ้าเล่ห์”มู่ซือซือด่าว่า
มู่เฉิงนั่งอยู่ในศาลา มองมู่เหิงด้วยสายตาที่เย็นชา”พูดมาเลย มาหาฉันมีอะไร”
คนอย่างมู่เหิง ถ้าไม่มีอะไรต้องให้ช่วยต้องไม่มาอยู่แล้ว
“คุณปู่ครับ บริษัทใหม่ของฉันถูกรีพอร์ท เลยเกิดปัญหา … ”
“สมน้ำหน้า”เขายังพูดไม่เสร็จ มู่ซือซือก็ขัดจังหวะเขาอย่างเย็นชา
มู่เหิงโกรธมาก หันมาเขาผลักมู่ซือซือเข้าไปในอาคารหลักก่อน แต่มู่ซือซือต่อต้านอย่างแรง หันกลับมากัดมือของมู่เหิง
มู่เหิงเจ็บจนกัดฟัน เมื่อเขาดึงมือออกมาก็ผลักอย่างหนักโดยไม่รู้ตัว และรถเข็นของมู่ซือซือรีบกลิ้งไปที่สระว่ายน้ำที่อยู่ไม่ไกล -—
“ซือซือ”มู่เฉิงรีบเข้าไปอย่างตื่นเต้น แต่ก็ไม่ทันแล้ว
โชคดีที่มู่ซือซือตกลงมาจากรถเข็นคนพิการทันเวลา แต่ยังเคาะขาของเธอได้รับความเจ็บป่วย และรถเข็นก็ตกลงไปในสระว่ายน้ำแล้ว
มู่ซือซือล้มลงกับพื้น และหัวเข่าและน่องของเธอถูกถนนข่วนจนเขียวม่วงไปหมดเลย
มู่เหิงอึ้งอยู่กับที่ สักพักสติค่อยกลับมา”ไม่เกี่ยวกับฉัน เมื่อกี้ซือซือกัดฉันก่อน”
พ่อบ้านและบอดี้การ์ดมาถึงอย่างรอดเร็ว มู่เฉิงก็ไม่ได้มองมู่เหิงอีกเลย รีบช่วยจับมู่ซือซือไว้”แจ้งวี่สิง ส่ง ซือซือไปโรงพยาบาล”
มู่เฉิงมองมู่เหิงอย่างเย็นชา”บริษัทใหม่ของคุณ ฉันอยากให้มันล้มละลายด้วยซ้ำ ยังจะมาขอฉันอีก ยังเห็นหัวฉันไหม”
พูดเสร็จ ก็สั่งให้บอดี้การ์ดไล่คนออกไป
มู่วี่สิงรู้ข่าวที่มู่ซือซือล้ม ก็รีบไปโรงพยาบาลทันที
ส้งวี่ต้องรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เขาไปที่พาร์ตเมนต์ที่มู่เหิงพักอยู่โดยตรง
เขาเพิ่งกลับมาจากบ้านหลังเก่าของตระกูลมู่ ไม่คิดว่าจะได้พบส้งวี่ที่เต็มไปด้วยโมโห
เขาตกลงมากและถอยหลังไปเรื่อยๆ
แต่ส้งวี่ไม่ได้ให้โอกาสเขาหนีเลย เขาหยิบไม้ที่เขาเอามาและทุบขาของมู่เหิงอย่างหนัก ทุกครั้งก็อยากจะตีเขาให้ตาย
จนกว่ามู่เหิงล้มหมดสติไป ส้งวี่ถึงขว้างไม้เท้าออกไป
“มู่เหิง กล้าแตะต้องคนของฉัน คุณอยากตายหรือไง”
แต่วินาทีต่อมา มีเสียงรถตำรวจดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา คนขับรถของมู่เหิวแจ้งความไว้
ส้งวี่สืมดวงตาของเขาอย่างแคบ เยาะเย้ย และยกสองมือขึ้น ให้ความร่วมมืออย่างมาก
“มูเหิง อย่าไปแตะต้องซือซือ”
พูดเสร็จ ส้งวี้ก็ถูกตำรวจนำตัวไป
โรงพยาบาล
มู่วี่สิงใส่เสื้อคลุมสีขาวเดินเข้ามาในห้องรักษา และทายาให้มู่ซือซือด้วยตัวเอง
เธอแค่เป็นบาดเจ็บที่ผิวหนัง แต่เขารู้ว่ามู่ซือซือพยายามฟื้นฟูตัวเองเพื่อจะลุกขึ้นยืนได้ในช่วงนี้ แต่ตอนนี้เธอได้รับบาดเจ็บ ความพยายามที่ทำไว้ก่อนหน้าอาจไม่ได้ผลสักนิดเลย
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ดวงตาของมู่วี่สิงก็เต็มไปด้วยความสงสาร